คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 [แก้ไขสีตัวหนังสือแล้วจ้า]
ตาคู่ใสเหลือบมองจอเนวิเกเตอร์ที่บอกว่าความสูงกำลังค่อยๆลดระดับลงเรื่อยๆและใกล้จะแตะลงสู่พื้นดินเต็มที ผู้โดยสารอื่นๆค่อยๆทยอยปลดเข็มขัดนิรภัยออกโดยไม่สนใจจะฟังคำเตือนของแอร์โฮสเตสสาวสวยซึ่งแตกต่างกับร่างบางที่ไม่มีทีท่าว่าจะแตะต้องเข็มขัดนิรภัยนั่นเลยสักนิด สองมือเรียวสวยทำเพียงแค่เกาะกุมร่างน้อยในอ้อมกอดเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้ลูกน้อยในอ้อมกอดไปกระทบกระเทือนสิ่งใดเข้าจนได้รับอันตราย
ในสนามบินคนยังคงพลุกพล่านเหมือนเช่นเคยถึงแม้ว่านี่จะเป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้วก็ตามที ข่าวที่ได้ยินมาหนาหูว่ามีแท็กซี่ปล้นผู้โดยสารทำให้จางอี้ชิงไม่กล้าที่จะออกไปเรียกรถแท็กซี่สุดท้ายหลังจากนั่งขบคิดอยู่นานจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหา”คุณนายอู๋ลี่เหวิน” ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่
คุณนายอู๋ทั้งตื่นเต้นทั้งตกใจที่ได้รับโทรศัพท์จากว่าที่ลูกสะใภ้ว่าเดินทางกลับมาแล้ว เธอต่อว่าต่อขานว่าทำไมถึงไม่บอกเธอว่าจะกลับมาทำให้จางอี้ชิงต้องขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่จนสุดท้ายคุณนายก็ยอมเข้าจพร้อมกับรับปากว่าจะให้คนไปรับให้เร็วที่สุด
ร่างบางที่นั่งรอคนรถมารับถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วก้มลงจูบหน้าผากลูกน้อยที่ยังคงหลับปุ๋ยอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเตรียมคำอธิบายเกี่ยวกับลูกน้อยสำหรับคุณนายอู๋ว่าอย่างไรดี
RRRRR
เพิ่งเปลี่ยนซิมเก่าได้ไม่ทันไรเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น เดิมทีจางอี้ชิงคิดว่าจะเป็นคุณนายอู๋ที่โทรกลับเข้ามาแต่กลับกลายเป็นเบอร์ของรุ่นน้องคนสนิท น่าแปลกใจที่พอเปลี่ยนเบอร์ปุ๊ปหวงจื่อเทาก็โทรเข้ามาราวกับรู้..
“ฮัลโหล”
“ใช่นายจริงๆด้วยสินะ”
“หือ?”
“วันนี้ฉันมาทำงานที่จีนกำลังจะกลับไปเกาหลีไม่คิดเลยว่าจะเจอนาย”
“นายอยู่ไหนน่ะจื่อเทา?”
“อยู่ในที่ๆมองเห็นนาย ไม่ต้องมองหาหรอกเดี๋ยวฉันลงไปหา”
สายตัดไปทันทีเมื่ออีกฝ่ายบอกความประสงค์ ไม่รู้ว่านี่จะเรียกว่าความบังเอิญได้หรือเปล่า? ไม่เจอกันตั้งสองปีแต่วันที่เขากลับมารุ่นน้องที่ทำงานอยู่ที่เกาหลีก็กลับมาที่นี่เช่นกัน ในสนามบินที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ดวงตากลมใสได้แต่ชะเง้อมองว่าคนที่บอกให้รอนั้นอยู่ที่ไหน บางทีอาจจะหาเขาไม่เจอ?
“เลย์.. ”
เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกทำให้ร่างบางหลุดออกมาจากความคิดแล้วหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนเผยรอยยิ้มใสออกมาแตกต่างกับสีหน้าของใครอีกคนที่ค่อนไปทางฉงนสนเท่ห์เมื่อเห็นว่าร่างบางไม่ได้มาคนเดียว
“จื่อเทา! ดูหล่อขึ้นมากเลยนะ!”
รูปหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยตามกาลเวลากลับเพิ่มความคมเข้มให้กับคนตรงหน้าอีกทั้งยังรูปร่างที่สง่าได้สัดส่วนทำให้สามารถเป็นนายแบบได้สบายๆ สิ่งเดียวที่ยังคงเหมือนเดิมคือสายตาที่เฉียบคมเหมือนดังพญาเหยี่ยวสายตาที่อาจจะหลอมละลายหัวใจของใครหลายคนให้พังทะลายลงมาได้แต่นั่นไม่ใช่กับเลย์..
ร่างสูงตรงหน้ายิ้มรับคำชมก่อนค่อยๆหุบยิ้มลงเมื่อเห็นชัดเจนว่าสิ่งที่ร่างบางโอบอุ้มเอาไว้นั้นคือเด็กทารกอายุไม่น่าจะเกินขวบกว่าๆ
“เลย์..นี่..”
จางอี้ชิงก้มมองตามนิ้วมือเรียวที่ชี้มาของอีกฝ่ายแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยนกับสิ่งที่รัดรึงอยู่ภายในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไร้ที่ติ
“อี้หวา.. ลูกสาวฉันเอง”
****************************************
คริสยืนคว้างอยู่กลางสนามบินเขา กำลังหัวเสียเมื่อเดินไปยังสถานที่ที่มารดาบอกแล้วไม่เจอคนที่รอให้มารับ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง เขาเลื่อนนิ้วปัดผ่านหน้าจอแล้วยกโทรศัพท์แนบหูสิ่งที่ได้ยินจากมารดาว่าอี้ ชิงกลับไปแล้วทำให้เขาถึงกับต้องกำโทรศัพท์แน่นแล้วโมโหเป็นทวีคูณ
"จาง อี้ชิง!! นายนี่มันเก่งจริงๆ ไม่ทันเจอกันก็ทำให้ฉันหงุดหงิดได้นะ!!!"
คริสขบฟันแน่นแล้วเดินดุ่มกลับไปที่รถอย่างโมโหก่อนขับออกไปด้วยความเร็วสูง มุ่งไปยังคฤหาสถ์ตระกูลอู๋ทันที
รถหรูแล่นเข้ามาจอดทิ้งไว้หน้าตัวบ้านแล้วโยนกุญแจให้คนขับรถ เรียวขายาวย่างกรายเข้าไปในบ้านพบแต่เพียงมารดานั่งดูละครทีวีหลังข่าวอยู่ในห้องนั่งเล่นเท่านั้น
"อ้าว อี้ฝาน มาแล้วเหรอลูก"
"จางอี้ชิงอยู่ ไหนครับ?" คริสไม่ตอบคำถามผู้เป็นแม่แต่กลับย้อนถาม คุณนายอู๋ถอนหายใจทันทีที่ได้ยินคำถามพร้อมกับรอยน้ำเสียงฉุนเฉียวที่ปิดไม่มิดถึงแม้จะพยายามเก็บไว้แค่ไหนก็ตามแต่คิ้วเรียวที่ขมวดจนแทบติดกันทำให้ เธอนึกรู้ได้ทันทีว่าลูกชายตัวดีกำลังร้อน คริสเป็นคนใจเย็นแต่ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับจางอี้ชิงไม่ว่าจะเรื่องไหนลูกชายของเธอกลับร้อนเป็นไฟ ..สองปีก็แล้ว
"น้องมาเหนื่อยๆ แม่ให้น้องขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนแล้ว"
"แล้วผมล่ะ!"
"เอ้า เราจะไปไหนก็ไปสิ ม๊าไม่ได้ห้ามนี่"
"ม๊า! ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมหมายถึงว่าแล้วผมล่ะ! ผมอุตส่าห์ขับไปรับแต่กลับกลับมาเอง เขาไม่คิดจะลงมาขอโทษหรือขอบคุณผมบ้างสักคำหรือไงครับ!?"
"เอ๊ะ! เรานี่ยังไงนะ ม๊าก็บอกแล้วไงว่าน้องมาเหนื่อยๆแล้วจะเอาอะไรกับน้องนักหนา"
"ม๊าเข้าข้างเขาอีกแล้วนะครับ ผมรีบไปรับแทบตายนะ! ถ้าผมรถชนขึ้นมาจะว่าไงล่ะ"
"เราก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนี่! ก็น้องเจอเพื่อนพอดีเลยกลับมาด้วยกันแต่ถ้าเรามีปัญหานักพรุ่งนี้เช้าแม่จะ ให้น้องลงมาขอโทษมาขอบคุณแล้วกัน วันนี้ก็ให้น้องพักไปก่อนเถอะนะ"
"เพื่อน? เพื่อนคนไหนครับ!?"
หางตากระตุกทันทีเมื่อได้ยินคำว่าเพื่อนของน้อง จางอี้ชิงจะมีเพื่อนสักกี่คนกัน? หวังว่าคงไม่ใช่คนที่เขาคิดหรอกนะ
"ก็จื่อเทาเพื่อนเก่ารุ่นน้องของอี้ชิงสมัยเรียนไง จำได้ไหม?"
คริสกำหมัดแน่น นั่นปะไรล่ะผิดจากที่คิดซะเมื่อไหร่ ไอ้รุ่นน้องคนนั้นที่มักจะมองมาที่"คู่หมั้นของเขา"ด้วยแววตาหวานฉ่ำอยู่เสมอน่ะ ทำไมเขาจะจำมันไม่ได้!
"จำได้สิครับ.. จำได้ขึ้นใจเลยล่ะ"
หวงจื่อเทา จางอี้ชิง พวกนายทำฉันแสบมาก!!!
****************************************
“อี้ฝานจะไปไหนลูก” ร้องถามเมื่อเห็นพ่อลูกชายตัวดีแต่งตัวเดินลงมาจากชั้นบนทั้งๆที่นี่ก็เป็นเวลาที่ดึกไม่ใช่น้อยๆแล้วถึงแม้เธอจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วก็เถอะนะ..
“ผมก็จะออกไปเที่ยวสิครับนัดกับเพื่อนเอาไว้” นั่นปะไรล่ะ ผิดจากที่คาดเอาไว้เมื่อไหร่กัน? คริสมักจะออกไปงานสังสรรค์แล้วก็กลับค่ำมืดดึกดื่นแทบจะทุกคืนแต่เพราะลูกชายของเธอโตแล้ว
“ขับรถดีๆก็แล้วกัน”
“ครับม๊า ผมจะขับชนิดที่ไม่ให้ใครหน้าไหนแซงได้เลย!” ว่าแล้วก็รีบเอี้ยวตัวหลบฝ่ามือมารดาก่อนที่จะกระทบลงบนแผ่นหลังให้เจ็บแสบ คริสยิ้มทะเล้นก่อนควงกุญเดินออกจากประตูบ้านไป คุณนายอู๋ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความกะล่อนของลูกชายอย่างเหนื่อยใจ
****************************************
ภาพชายหญิงสองคนที่กำลังแสดงบทรักบทเตียงกันอย่างเร่าร้อนพร้อมกับเสียงครวญครางที่แสดงถึงความสุขสันต์ทำให้ร่างบางที่เปิดประตูเข้ามาเบิกตากว้างอย่างตกใจ
อี้ชิงตัวชาวาบยกฝ่ามือขึ้นมาปิดปากเอาไว้แน่นเพื่อกันไม่ให้เสียงร้องสะอื้นนั้นดังออกไปจนขัดขวางความสุขของคนทั้งคู่นั้นเข้า จางอี้ชิงดึงบานประตูให้ปิดลงช้าๆด้วยมือที่สั่นระริกและหัวใจที่ปวดร้าวจนเกินจะทนสองปีที่จากไปดูเหมือนแทบจะไม่ช่วยอะไรเลยสักนิดเดียว..
ร่างบางก้าวเดินกลับห้องช้าๆด้วยหัวใจที่ร้าวราน ทรุดนั่งลงบนเตียง เรี่ยวแรงที่มีอยู่พลันหมดไปซะดื้อๆก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น นี่เขาไม่ได้ 'รัก' อู๋อี้ฟานน้อยลงเลยงั้นเหรอ?
น่าสมเพช .. น่าสมเพชจริงๆจางอี้ชิง
นัยน์ตาที่ยังคลอหยาดน้ำหันไปมองเด็กน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงที่คงจะนอนดิ้นจนผ้าห่มร่นลงไปกองอยู่ที่เอว ใช้มือเรียวหยิบผ้าห่มขยับขึ้นมาคลุมลูกน้อยไว้จนถึงอกใช้หลังมือปาดน้ำตาออกแล้วก้มลงประทับสัมผัสอบอุ่นลงบนหน้าผากลูกน้อยอย่างอ่อนโยนแล้วค่อยๆผละออกอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้การเคลื่อนไหวของตนไปรบกวนหนูน้อยเข้า
ทุกๆครั้งที่ท้อใจอี้ชิงจะบอกตัวเองเสมอว่าไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆก็จะต้องทนให้ได้เพื่อเด็กคนนี้ ลูกที่เป็นเหมือนแรงพลังมหาศาลคอยผลักดันให้หัวใจที่ท้อแท้และบอบช้ำกลับมา เข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง..
"ดวงใจของม๊า.. ไม่ว่าจะต้องเจออะไรที่เลวร้ายสักแค่ไหนม๊าก็จะผ่านมันไปให้ได้เพื่ออนาคต ที่สดใสของหนูนะลูก.. อี้หวาของม๊าจะต้องเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุด ไม่มีทาง..ม๊าไม่มีทางให้หนูเจออะไรที่โหดร้ายแบบที่ม๊าเจอไม่ว่าใครจะทอะไรก็ตามม๊าจะปกป้องหนูด้วยชีวิต.." กระซิบข้างหูยัยหนูตัวน้อยเบาๆด้วยคำมั่นสัญญาของความรักที่แม่คนหนึ่งมีให้ลูก
หนูน้อยแย้มยิ้มออกมาทั้งๆที่ดวงตากลมหลับพริ้มราวกับรับรู้ถึงความอบอุ่นปลอดภัยที่มีอยู่ข้างกาย อี้ชิงพลิกกายนอนข้างๆลูกน้อยมือบางเอื้อมไปโอบกระชับเอาไว้แผ่วเบาน้ำตายังเอ่อไหลไม่ขาดสายเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งได้เจอมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า
ภาพที่ติดตายิ่งมองเห็นยิ่งไม่อาจลบเลือน..
..................................................................
คริสเดินหาววอดๆลงมาข้างล่างหลังจากอาบน้ำแต่งตัวพร้อมกับ'ชำระ'ค่าตัวของนางแบบสาวคนหนึ่งที่หิ้วกลับมาตอนเจอกันในผับเมื่อคืนและส่งหล่อนกลับไปเรียบร้อย จุดมุ่งหมายปลายทางคือห้องสมุดในตัวบ้านสถานที่ซึ่งมารดาชอบไปนั่งอยู่เป็นประจำ เด็กรับใช้วิ่งมารายงานว่าคุณนายใหญ่เรียกพบตัวคุณชาย
ฝ่ามือหนาทาบลงบนลูกบิดประตูแล้วผลักมันเข้าไปด้านในพบมารดากำลังนั่งอ่านหนังสือ พิมพ์ของเช้าวันนี้อยู่และปิดหนังสือพิมพ์ลงทันทีที่เห็นร่างสูงของบุตรชาย
"ตื่นแล้วเหรอพ่อตัวดี"
"ตื่นแล้วสิครับม๊า ผมจะนอนเดินลงมาได้ยังไงล่ะ โอ้ย! เจ็บนะครับ" คุณนายอู๋วาดมือตีแขนลูกชายดังเพี๊ยะข้อหาต่อปากต่อคำ
"ดี ก็ตีให้เจ็บ เราน่ะมีเรื่องจะต้องคุยกันนะอี้ฝาน"
"เรื่องอะไรล่ะครับม๊า" พูดเสียงอ้อนๆมือลูบท่อนแขนบริเวณที่ถูกตีป้อยๆราวกับเจ็บซะเต็มประดา
"ก็เรื่องผู้หญิงที่เราพามานอนที่บ้านนั่นแหละ เราจะออกไปสังสรรค์กับใครดึกดื่นแค่ไหนแม่ไม่ว่าหรอกนะอี้ฝานแต่ม๊าขอว่าอย่าพาผู้หญิงแบบนั้นเข้ามาที่บ้านอีก"
"ที่เมื่อก่อนผมทำออกบ่อยม๊าไม่เห็นว่า โอ๊ย!!!"
"ยังจะเถียงอีกนะ เมื่อก่อนกับตอนนี้มันเหมือนกันซะที่ไหน? เมื่อก่อนม๊าก็ไม่ชอบแต่ไม่เคยพูดแต่ตอนนี้ไม่พูดเห็นจะไม่ได้เสียล่ะ" ยกมือขึ้นกอดอกหลังจากทำโทษลูกชายที่แสนยอกย้อนไปอีกครั้งอย่างไม่เบานัก
"แล้วเมื่อก่อนกับตอนนี้มันไม่เหมือนกันยังไงล่ะครับ"
คุณนายอู๋ถอนหายใจมองหน้าลูกชายคนเดียวของเธอให้เต็มตาก่อนเริ่มพูดจุดประสงค์ของการเรียกมาคุยในครั้งนี้
"อย่าลืมสิอู๋อี้ฝานว่าคู่หมั้นของเราน่ะกลับมาแล้วนะ"
คิ้วดกหนาขมวดเข้าหากันอย่างนึกขึ้นได้ จริงสิ..จางอี้ชิงกลับมาแล้วหลัง 'คู่หมั้น'ของเขากลับมาตั้งแต่เมื่อคืนโดยมีผู้ชายคนอื่นไปรับมาส่งที่บ้าน คิดแล้วก็เจ็บใจที่สองคนนั่นกล้าทำแบบนี้กับคนอย่างเขา
"ครับ แล้วยังไงเหรอครับ?" เป็นอีกครั้งที่คุณนายอู๋ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
นี่เธอเลี้ยงลูกชายด้วยหญ้าหรือเปล่านะ?
"ฟังม๊านะอี้ฝาน ลูกมีคู่หมั้นแล้วนะอย่าลืมสิ เมื่อก่อนม๊ายอมให้ลูกพาใครๆเข้ามาในบ้านได้เพราะน้องไม่อยู่แต่ตอนนี้น้องกลับมาแล้วถึงจะไม่ชอบน้องขนาดไหนเราก็ควรจะให้เกียรติน้องบ้าง
"ที่เค้าล่ะครับยังไม่เห็นให้เกียรติคู่หมั้นอย่างผมเลยนะครับ หายไปสองปีแต่กลับมาวันแรกก็ให้ผู้ชายคนอื่นไปรับแล้วพายังผู้ชายคนนั้นเข้าบ้านอีก!"
"อี้ฝาน! เราจะดื้อมากเกินไปแล้วนะ ก็รู้ๆอยู่ว่ามันคนละแบบกัน"
"คนละแบบยังไง ผมพาผู้หญิงเขาบ้านม๊าดุผมแต่พอจางอี้ชิงพาผู้ชายเข้าบ้านม๊ากลับปกป้อง!"
"แล้วน้องได้พาจื่อเทาขึ้นเตียงเหมือนที่เราพาผู้หญิงคนนั้นขึ้นเตียงไหมล่ะอู๋อี้ฝาน?!!"
คริสเงียบหมดคำต่อปากไปในบันดลเมื่อเจอคำย้อนของมารดาเข้าให้
"ม๊าขอล่ะนะอี้ฝานเราจะไปสังสรรค์ที่ไหนก็ได้แต่อย่าพาผู้หญิงแบบนั้นเข้ามาเหยียบที่บ้านอีก บ้านเราไม่ใช่สถานที่เสพสุขนะลูก ถ้าไม่เห็นแก่น้องก็เห็นแก่ม๊าบ้างใครเขาจะว่าเอาได้ว่าม๊าเลี้ยงคู่หมั้นเอาไว้ให้ลูกชายหยามเล่นถ้าคุณตาของอี้ชิงยังอยู่ม๊าจะเอาหน้าที่ไหนไปมองท่านที่ลูกชายหลู่เกียรติของคนในตระกูลเขาขนาดนั้น"
มารดาขอร้องลูกชายเสียงอ่อนใจ คริสเริ่มทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นว่าน้ำเสียงผู้เป็นแม่เริ่มสั่นเครือกับดวงตาสวยที่จ้องมายังเขาอย่างขอร้องก็เริ่มมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอ
ถึงคริสจะไม่ชอบคู่หมั้นตัวเองขนาดไหนแต่มารดาก็ยังเป็นคนที่เขารักและเคารพสุดหัวใจ ร่างสูงพยักหน้าให้อย่างยอมจำนนเอ่ยปากขอโทษมารดาก่อนเดินเข้าไปกอดอย่างสำนึกที่ทำให้มารดาต้องมีน้ำตากับความดื้อรั้นของเขา คนเป็นแม่ไม่เคยคิดจะโกรธลูกคุณนายอู๋พยักหน้ารับคำขอโทษแล้วเอ่ยปากถามด้วยความห่วงใยว่าทานอะไรหรือยังเมื่อได้รับคำปฏิเสธจึงไล่ลูกชายไปหาอะไรกินซะ
ลับหลังเมื่อร่างสูงสง่าเดินออกจากห้องไปแล้วหญิงชราเริ่มคิดอย่างสับสนว่าจะทำอย่างไรอี้ฝานถึงจะเลิกเกลียดว่าที่ลูกสะใภ้สักทีเพราะถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปดูท่าสัญญาที่ให้กันไว้ของทั้งสองตระกูลคงไม่มีทางสำเร็จแน่ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
แต่แล้วใบหน้าที่เหี่ยวย่นลงตามวัยแต่ความสวยยังคงไม่สร่างหายกลับแย้มยิ้มออกมา เธอลืมไปซะสนิทเลยว่าอี้ชิงกลับมาครั้งนี้ได้พกไม้ตายท่อนใหญ่กลับมาให้เธอตีหลังลูกชายให้ยินยอมด้วย นึกแล้วก็ยิ้มก่อนจิบชาอุ่นๆแล้วนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ค้างเอาไว้ต่ออย่างสบายอารมณ์
..................................................................
แทนที่คริสจะเดินไปห้องครัวอย่างที่มารดาบอกร่างสูงกลับเปลี่ยนทิศทางมุ่งตรงไปยังห้องของ'คู่หมั้น'อย่างรวดเร็วเพื่อชำระความที่กล้าหนีเขาไปเฉยๆถึงสองปี
แล้วไหนยังจะเรื่องเมื่อคืนอีกถ้าไม่เคลียร์ก็ไม่ใช่คริสแล้วล่ะ!
ไม่มีการเคาะประตูห้องใดๆทั้งสิ้น มือหนาผลักประตูก่อนก้าวพรวดเข้าไปเพื่อหวังจะได้เจอคนที่ไม่ได้เห็นมานานถึงสองปีแต่สิ่งที่เห็นกลับไม่เป็นดังหวังแต่ถึงกระนั้นก็ยังสร้างความประ หลดใจให้กับร่างสูงไม่น้อย
หนูน้อยตัวขาววัยประมาณไม่น่าจะเกินขวบเศษกำลังนั่งอยู่บนเบาะสีขาวนุ่มท่ามกลางของเล่นสามสี่ชิ้นกับตุ๊กตาหมีตัวขนาดย่อมหนึ่งตัว มือขาวอวบถือแทมเบอร์ลีนชิ้นเล็กๆสำหรับเด็กเล่นเขย่าไปมาจนเกิดเสียงดังกังวานก่อนที่ดวงตาใสจะเงยหน้าขึ้นมามองคล้ายกับรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังจ้องมองตนอยู่
คริสชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้สบตากับดวงตาคู่นั้นดวงตาที่ดูใสซื่อและบริสุทธิ์ไร้พิษภัยมันเหมือนกับ..ดวงตาของจางอี้ชิงตอนที่เขาได้เจอเป็นครั้งแรกไม่มีผิด
หนูน้อยกระพริบตาปริบๆแล้วฉีกยิ้มเริงร่าให้กับคนแปลกหน้าจนเผยให้เห็นรอยบุ๋มสองข้างแก้มก่อนที่มือเล็กนั้นจะยื่นแทมเบอร์ลีนในมือให้กับผู้ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
คริสยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นกริยาท่าทางที่แสนน่ารักของหนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ ร่างสูงย่อตัวลงช้าๆมือหนาค่อยๆยื่นออกไปรับแทมเบอร์ลีนที่กำลังแกว่งไปมาตรงหน้าพร้อมกับจับยึดมือน้อยๆนั่นเอาไว้ด้วย
เพียงเสี้ยววินาทีที่ฝ่ามือใหญ่กอบกุมมือน้อยนั่นเอาไว้จู่ๆคริสก็รู้สึกราวกับว่ามีความรู้สึกอบอุ่นบางอย่างแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายและหัวใจ มือเล็กนั่นกำกระชับไว้ได้เพียงนิ้วมือนิ้วเดียวของเขาแล้วเขย่าเล่นไปมาพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะสดใสอย่างชอบใจ
น่าแปลกที่เขากลับไม่รู้สึกรำคาญกับการกระทำไร้เดียงสานั่นเลยสักนิดแต่คริสกลับรู้สึกอิ่มเอมและตื้นตันใจ อย่างบอกไม่ถูกว่าทำไมถึงได้เกิดความรู้สึกนี่ขึ้นมาทั้งๆที่เพิ่งเห็นหน้ากันครั้งแรกแต่ คริสกลับรู้สึกผูกพันธ์กับเด็กคนนี้อย่างแปลกประหลาดจนเกิดความสงสัยขึ้นในใจ
เด็กคนนี้เป็นใคร..?
เพล้ง!!
เสียงถ้วยชามตกแตกทำให้ใบหน้าคมหุบยิ้มหันขวับไปมองตามต้นเสียงก่อนจะนิ่งไปอย่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นผู้ที่เป็นต้นเหตุของเสียงนั้น
ดวงตาที่กำลังเบิกกว้างกับสีหน้าตกใจไม่ได้ทำให้ใบหน้าขาวใสนั้นหวานน้อยลงแม้แต่น้อยทั้งรูปร่างที่ดูโตเต็มวัยขึ้น ริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มขึ้นและโครงหน้าที่ดูเรียวสวยขึ้น..
สองปีที่ผ่านมาทำให้อีกคนดูงดงามขึ้นได้ขนาดนี้เชียวหรือ?
"จางอี้ชิง"
"อี้ฝานเกอะ.." เสียงเล็กหลุดรอดออกมาจากลำคอแห้งผากอย่างแผ่วเบาต่างกับเสียงทุ้มกดต่ำที่เอ่ยเรียกชื่อเขาออกมาเต็มยศเสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานานแสนนาน..
100% ชอบก็เม้นก็โหวต ไม่ชอบไม่เม้นไม่โหวตไม่ว่าแต่อย่ามาขอNCเค้าแล้วกัน -^-!!!
ความคิดเห็น