กราฟฟิตี้ grafiti

เนื้อเรื่อง

กราฟฟิตี้ สังคมอาจไม่ชอบใจเลยที่วัยรุ่นชอบละเลงความสะใจ และความเก็บกดลงบน
พื้นกำแพงที่แสดงออกมาในรูปแบบของศิลปะที่ป่าเถื่อน แต่แน่นอนวัยรุ่นเหล่านั้นก็ต้อง
การที่จะปลดปล่อยจินตนาการให้สาธารณะรับรู้ แต่ความคิดของใครล่ะ จะฟังดูมีน้ำหนัก
มากกว่ากัน ฟังจากชื่อแล้ว บางคนยังไม่รู้จัก คงต้องกล่าวถึงความหมาย และที่มากันก่อน

กราฟฟิตี้ คือ การทำ bombing หรือการพ่น เซ็นชื่อ หรือเป็นการเซ็นลายเซ็น จุดเริ่มต้น
ของกราฟฟิตี้นี้มาจาก เมือง Philadelphia และ Pennsylvania ในประเทศอเมริกา
เมื่อปลายปี 60 หลังจากนั้นได้แพร่หลายไปถึง New York และเป็นที่นิยมของจิ๊กโก๋เทศจึง
ทำให้ กราฟฟิตี้ กลายเป็นวัฒนธรรมแฟชั่นยุคใหม่ไป และ writer หรือผู้เขียนส่วนใหญ่ ต้องการสร้างอาณาเขตและกำหนดพื้นที่
ของแก๊ง ตนต้องการโชว์ฝีไม้ลายมือให้ผู้คนได้เห็นอีกด้วย

กราฟฟิตี้แบ่งเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1.tag คือการเซ็นลายเซ็นหรือนามแฝงของแต่ละคน อย่างรวดเร็วโดยสเปรย์กระป๋อง
2.bubble จะมีสไตล์คล้ายๆ กับ tag แต่ bubble จะมีมิติมากกว่า
3.piece คือการพ่นทั่วไป โดยฝีมือคนเดียวในชิ้นนั้น
4.character คือการพ่นเป็นรูปคนเสมือนจริง และแบบที่
5. production คือการรวบรวมงานทั้ง 4 ประเภทไว้ด้วยกันและทำหลายๆ คน

1.tag คือการเซ็นลายเซ็นหรือนามแฝงของแต่ละคน อย่างรวดเร็วโดยสเปรย์กระป๋อง
2.bubble จะมีสไตล์คล้ายๆ กับ tag แต่ bubble จะมีมิติมากกว่า
3.piece คือการพ่นทั่วไป โดยฝีมือคนเดียวในชิ้นนั้น
4.character คือการพ่นเป็นรูปคนเสมือนจริง และแบบที่
5. production คือการรวบรวมงานทั้ง 4 ประเภทไว้ด้วยกันและทำหลายๆ คน

ในประเทศไทยนั้น นิยมทำกันในหมู่วัยรุ่นพวก Hiphop
ซึ่งการทำกราฟฟิตี้ นี้ถือเป็น 1 ใน 5 ภารกิจหลักของพวก
hiphop เลยที่เดียว นอกเหนือจากการเต้น breakdance,
mc (หรือการร้อง rap สดๆ) ,beat box คือการเป่าปาก
สร้างจังหวะ dj และพวก hiphop ให้ความสำคัญกับการ
ทำกราฟฟิตี้มาก เพราะดูเหมือนจะเป็น 1 ใน 5 ภารกิจหลัก
ที่ทำง่ายมากที่สุด

แค่มีสีสเปรย์กับนิสัยชอบละเลงเท่านี้ก็ทำให้กำแพงอันว่าง
เปล่า ประจักษ์ภาพ อันเป็นมลภาวะทางสายตาให้แก่ผู้พบ
เห็นได้ไม่ยาก

ดูเหมือนวัฒนธรรมเหล่านี้ที่วัยรุ่นไทยกำลังตามก้นจิ๊กโก๋ฝรั่งนั้น
ถ้ามองดีๆเหมือนกับพฤติกรรมของเด็กช่างกลที่ชอบประกาศชาติตระกูลบนพื้นที่กำแพง อันว่างเปล่าเพียงแต่เหล่า hiphop ทั้งหลาย
ต่างอวดอ้างว่าตนเหนือชั้นกว่า แต่ที่จริงจะแตกต่างอะไรจากการเป็นโมเดิร์นกุ๋ยนั้นเอง และยังเป็นการตามพวกที่ไม่มีวัฒนธรรม
เสียด้วย นอกจากจะทำให้ตำรวจและผู้ถูกล่วงล้ำอาณาเขตไม่พอใจแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าประเทศของเราเริ่มเสื่อมโทรมเหมือน
New York แล้วหรือ แถมยังสร้างมลภาวะ ทางสายตาและความเลอะเทอะที่หาระเบียบไม่ได้ให้กับผู้เห็นอีกด้วย

แม้สังคมจะไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ แต่เรื่องของจินตนาการก็ห้ามกันไม่ได้หากผู้กระทำเขาทำอย่างถูกต้องคือ ทำในพื้นที่ได้รับ
อนุญาตจากเจ้าของแล้ว แต่ถ้ามีใจรักที่จะทำจริงๆ ก็ขอให้ถูกต้องและควรใส่ความคิดที่แปลกใหม่บ้างเป็นตัวของตัวเอง
แสดงออกมาในแง่ของศิลปะและความสวยงามที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้ผู้คนได้เสพกับความเป็นศิลป์บ้าง อีกอย่างที่อยากจะ
ฝากบอกคือ อย่าให้กราฟฟิตี้เป็นเพียงการสร้างอาณาเขตเท่านั้น

ควรแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกปรุงแต่งอย่างครบเครื่องที่รอรับการยอมรับจากสังคมด้วย อย่าทำให้เป็นเพียงการ
แบ่งแยกของแก๊งค์ต่างๆ เลย ไม่งั้นกราฟฟิตี้จะแตกต่างอะไรจากพฤติกรรมของสัตว์ชนิดหนึ่งที่ชอบปัสสาวะรดหน้าบ้านใคร
ต่อใคร เพื่ออวดเบ่งว่าเป็นเจ้าของพื้นที่เท่านั้นเอง

ในประเทศไทยนั้น นิยมทำกันในหมู่วัยรุ่นพวก Hiphop
ซึ่งการทำกราฟฟิตี้ นี้ถือเป็น 1 ใน 5 ภารกิจหลักของพวก
hiphop เลยที่เดียว นอกเหนือจากการเต้น breakdance,
mc (หรือการร้อง rap สดๆ) ,beat box คือการเป่าปาก
สร้างจังหวะ dj และพวก hiphop ให้ความสำคัญกับการ
ทำกราฟฟิตี้มาก เพราะดูเหมือนจะเป็น 1 ใน 5 ภารกิจหลัก
ที่ทำง่ายมากที่สุด

แค่มีสีสเปรย์กับนิสัยชอบละเลงเท่านี้ก็ทำให้กำแพงอันว่าง
เปล่า ประจักษ์ภาพ อันเป็นมลภาวะทางสายตาให้แก่ผู้พบ
เห็นได้ไม่ยาก

ดูเหมือนวัฒนธรรมเหล่านี้ที่วัยรุ่นไทยกำลังตามก้นจิ๊กโก๋ฝรั่งนั้น
ถ้ามองดีๆเหมือนกับพฤติกรรมของเด็กช่างกลที่ชอบประกาศชาติตระกูลบนพื้นที่กำแพง อันว่างเปล่าเพียงแต่เหล่า hiphop ทั้งหลาย
ต่างอวดอ้างว่าตนเหนือชั้นกว่า แต่ที่จริงจะแตกต่างอะไรจากการเป็นโมเดิร์นกุ๋ยนั้นเอง และยังเป็นการตามพวกที่ไม่มีวัฒนธรรม
เสียด้วย นอกจากจะทำให้ตำรวจและผู้ถูกล่วงล้ำอาณาเขตไม่พอใจแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าประเทศของเราเริ่มเสื่อมโทรมเหมือน
New York แล้วหรือ แถมยังสร้างมลภาวะ ทางสายตาและความเลอะเทอะที่หาระเบียบไม่ได้ให้กับผู้เห็นอีกด้วย

แม้สังคมจะไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ แต่เรื่องของจินตนาการก็ห้ามกันไม่ได้หากผู้กระทำเขาทำอย่างถูกต้องคือ ทำในพื้นที่ได้รับ
อนุญาตจากเจ้าของแล้ว แต่ถ้ามีใจรักที่จะทำจริงๆ ก็ขอให้ถูกต้องและควรใส่ความคิดที่แปลกใหม่บ้างเป็นตัวของตัวเอง
แสดงออกมาในแง่ของศิลปะและความสวยงามที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้ผู้คนได้เสพกับความเป็นศิลป์บ้าง อีกอย่างที่อยากจะ
ฝากบอกคือ อย่าให้กราฟฟิตี้เป็นเพียงการสร้างอาณาเขตเท่านั้น

ควรแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกปรุงแต่งอย่างครบเครื่องที่รอรับการยอมรับจากสังคมด้วย อย่าทำให้เป็นเพียงการ
แบ่งแยกของแก๊งค์ต่างๆ เลย ไม่งั้นกราฟฟิตี้จะแตกต่างอะไรจากพฤติกรรมของสัตว์ชนิดหนึ่งที่ชอบปัสสาวะรดหน้าบ้านใคร
ต่อใคร เพื่ออวดเบ่งว่าเป็นเจ้าของพื้นที่เท่านั้นเอง