ตอนที่ 2 : Story : I ก้าวแรก
"..." คนร่างเล็กหลับตาลงทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงแสงสว่าง...
---------------------------------------------
My Talk
สวัสดีครับ.. ผมมีชื่อว่า 'เทนชิรินะ' เป็นนักฆ่าคนหนึ่ง.. ไร้สังกัด แต่แน่นอนว่าผมมีฝีมือ.. เพียงแต่การมีสังกัดทำให้ในบางทีผมก็รู้สึกถูกบังคับมากเกินไปหน่อยก็เท่านั้นเอง..
อ้อ.. ชื่อของผม เทนชิรินะ แปลว่า เทพธิดาของครอบครัวที่อบอุ่นล่ะมั้ง.. ถ้าผมจำความหมายของเธอคนนั้นไม่ผิดน่ะนะ.... เรื่องนั้นก็นานมาแล้ว แต่เอาเป็นว่าในระหว่างที่ผมทำภารกิจลอบสังหารคนๆหนึ่งซึ่งผมไม่รู้จักเขาหรอกนะ.. ความแค้นก็ไม่มีเช่นกัน แต่ที่ผมทำ..
ฮ่ะๆ.. ก็แค่สนุกเท่านั้นแหละ....
แต่ตอนแรกว่าจะไม่ทำหรอกนะ.. ไม่ใช่ว่าสงสาร ก็แค่กำลังติดดูการ์ตูนเรื่องหนึ่งอยู่ก็เท่านั้น.. ฮะๆ.... เรื่องนี้ก็เคยดูเมื่อนานมาแล้ว จนกระทั่งมาเสพติดการฆ่าและทำร้ายคนอื่นนี่แหละถึงเลิกไป.. แต่ทำไงได้... ถึงเพื่อความสนุกก็เถอะ แต่ไม่มีคนจ้างวานบางทีก็รู้สึกขี้เกียจเช่นกัน.. ปรกติเวลาผมขี้เกียจก็นอนน่ะนะ.. แต่คราวนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้ค้นหาการ์ตูนเรื่องหนึ่งลงไปในgoogle.. แต่ความขี้เกียจผมก็ชนะทุกอย่างอยู่ดี สุดท้ายต่อให้เริ่มรู้สึกอยากดูขึ้นมาบ้าง แต่ก็เลือกดูแค่ตอนเดอะมูฟวี่.. ซึ่งเป็นเดอะมูฟวี่ตอนที่ยังไม่เคยดูในสมัยก่อนอ่ะนะ..
"อ่า.." จะว่าไปผมมาอยู่ที่ไหนกันนะ หลังจากที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแบบนี้ให้พวกคุณฟัง.. อ้อ..แล้วก็หลังจากที่ผมโดนอะไรก็ไม่รู้ดูดเข้ามาในที่มืดมิดยาวนานประมาณหนึ่ง ผมก็ได้พบกับแสงสว่างอีกครั้ง วินาทีแรกที่ดวงตาของผมได้พบกับแสงสว่างนั้นอีกครั้งหนึ่ง..
ผมก็หลับตาลงทันที.. ช่วยไม่ได้ แสงน่ะ.. มันสว่างเกินไป.. แตกต่างจากผมที่ดำลงไปกับความมืดมิด...
ฮะๆ.. ก็ก่อนหน้านี้มันมืดนี่หน่า พอจู่ๆตามาเจอแสงมันก็ไม่ชินเป็นธรรมดา.. ผมค่อยๆลืมตามามองรอบๆพบเจอกับสถานที่ที่จะว่าคุ้นเคยก็คุ้นเคย..
ก็มันเป็นเพียงแค่ตามตรอกตามซอยนี่หน่า จะไม่คุ้นก็ไม่ใช่ซะหน่อย แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่สถานที่ที่ผมอยู่ก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน.. ก็ก่อนหน้านี้ผมอยู่บนตึกร้างสำหรับลอบสังหารนี่หน่า.. แน่นอน สำหรับผม ขอแค่ได้ฆ่า.. ไม่สนหรอกว่าจะเป็นการกรีดร่างให้เละหรือฆ่าอย่างนุ่มนวล มันก็น่าตื่นเต้นแล้วก็สนุกไปหมดไม่ใช่หรือ ฮึๆ..
"อย่าเข้ามานะ!" เสียงของผู้หญิงดังขึ้นจนผมอดหันไปมองตามเสียงไม่ได้ตามประสาคนระวังตัวพอสมควร.. ไม่แปลกที่ผมจะไม่รู้สึกตัวเกี่ยวกับเจ้าของเสียงนั่น ก็..น่าจะอยู่ไกลพอสมควร เท้าของผมค่อยๆขยับไปยังที่หมายก่อนพบเจอกับทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ของนางเอกเรื่องหนึ่งที่ผมพอจะรู้สึกคุ้นเคย.. ข้างๆกันนั้นก็มีหญิงสาวที่หลายคนเรียกนักเรียกหนาว่าเถิก.. ขอโทษจริงๆนะที่ผมไม่ค่อยเข้าใจอะไรแบบนี้เท่าไหร่..
ฆ่าทิ้งได้กับไม่ได้ รู้แค่นี้ก็พอแล้วนี่.. จริงไหมครับ? :)
แต่ดูเหมือนการมาของผมจะถูกพบเห็นเข้าโดยผู้หญิงนามว่าเถิก.. ขอโทษครับ.. จำชื่อเจ้าตัวไม่ได้จริงๆ.. อา.. ในเดอะมูฟวี่ล่าสุดที่ผมดูเรื่องโคนัน มียัยเถิกนั่นอยู่รึเปล่านะ.. ไม่ได้ตั้งใจบูลลี่อะไรหรอก.. ก็นึกชื่อไม่ได้จริงๆ
"นายคนนั้นน่ะ! มาช่วยกันหน่อยสิ!!" เป็นเสียงตะโกนที่น่าตัดเส้นเสียงทิ้งดีนะ.. เลาะลำคอทิ้งซะ..
อืม.. ช่วยก็ได้.. ไม่ได้ใจดีหรอกนะ.. ก็แค่ว่าในนั้นมีรัน.. คนที่เป็นนางเอก.. น่าจะแหละนะ นางเอกแหละ อยู่ในนั้นก็เลยคิดว่าช่วยไปหน่อยน่าจะดี.. รึว่าผมเป็นพวกใจดีกับเฉพาะตัวเอก? ไม่หรอกนะ ช่างเถอะ อ้อ.. ภาพตรงหน้าเป็นรันกับยัยเถิกโดนพวกผู้ชายตัวใหญ่..กว่าผมรุมน่ะนะ
"ปัง!" พริบตาเดียวผมก็ควักปืนออกมาพร้อมด้วยกระบอกเก็บเสียงที่ใส่กับตัวปืนพกไปอย่างรวดเร็วตามประสานักฆ่าที่เวลาวินาทีเดียวก็ตัดสินชีวิต.. แน่นอนว่าทุกจุดที่ผมยิงไปล้วนเป็นจุดตาย แหม่.. ความสามารถของดวงตาที่สามารถมองทะลุจนเห็นเส้นเลือดขนาดนี้ไม่ใช้ก็น่าฆ่าทิ้งไปหน่อยนะ ฮ่ะๆ
"น่ะ...นาย..." ผู้หญิงผมสั้น.. ก็ยัยเถิกคนนั้นแหละส่งเสียงออกมาพร้อมด้วยแววตาสั่นระริกอย่างหวาดกลัว..
พอทำแววตาแบบนี้ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อยซะแล้วสิโซโนโกะจัง.. อา.. จำชื่อได้แล้วแฮะ.. ส่วนอีกคนเห็นชื่อแล้วคิดถึงรันม่าที่เป็นการ์ตูนอีกเรื่องชะมัด
"นายทำอะไรน่ะ!!!?" คราวนี้เป็นสาวนางเอกประจำเรื่องแฮะที่พูดขึ้นมาบ้าง ก็นึกว่าเป็นใบ้ไปแล้วซะสนิทน่ะเนี่ย
"หื้ม.. ผมก็ช่วยพวกคุณไง.. พวกคุณเป็นคนบอก.. ให้ผมช่วยไม่ใช่หรือ?" พูดพร้อมแสยะยิ้มร้ายออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ช่างเถอะ กลัวไปซะ ยิ่งกลัวเยอะๆยิ่งดี น่าสนุกจะตายไป
"ตะ..แต่.." โซโนะโกะส่งเสียงออกมา อื้มมม.. ก็ไม่ได้รังเกียจเสียงแบบนี้หรอกนะ ผมเอียงคอมองพร้อมเสแสร้งทำสีหน้าไร้เดียงสาใส่ไป.. แต่ดวงตาของผมก็ไม่ได้ไร้เดียงสาแบบนั้นหรอกนะ ฮ่ะๆ ก็เห็นไปขนาดนั้นแล้วยังไงก็ไม่มีใครโง่เชื่ออยู่แล้วล่ะ
"วิธีอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่เห็นต้องฆ่าพวกเขาเลยนี่!" ยัยรันส่งเสียงออกมาอย่างโกรธๆ
"ไม่มีเหตุผลที่ต้องใช้วิธีอื่นนี่ แถมพวกเขาจะทำร้ายพวกเธอก่อนไม่ใช่หรือ..?" ผมขยับเดินไปหาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับร่างทั้งสองที่ยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้าผมที่ขยับเท้าถอยหลังไปเรื่อยๆ
เก่งแต่ปากเหรอ?.. อ้อ.. ผมมีปืนนี่ :)
เกมนี้ไม่ยุติธรรมสินะ? ก็ไม่มีอะไรยุติธรรมมาแต่แรกอยู่แล้วนี่ อีกอย่างต่อให้อีกฝ่ายมีปืนก็ยิงไม่เข้าอยู่ดี.. มือของผมค่อยๆจับลงบนใบหน้าข้างขวาใต้ตาที่มีตัวเลข918สักไว้อยู่ด้วยหมึกสีดำ
เป็นตราบาปที่ติดตัวผมไปตลอดชีวิต.. แม้จิตใจผมจะมืดมนและเสพติดการสังหารก็อาจชำระและเลิกมันไปได้ในที่สุด.. แต่..การทดลองนี่.. ผลและผลข้างเคียงของมันไม่เคยหายไปจากตัวผมเลย..
ไม่ต้องกลัวหรอกนะ.. ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาซะหน่อย เป้าหมายที่ผมเข้ามาใกล้น่ะ ผมไม่ได้จะยุ่งกับนางเอกของนายแน่ๆชินอิจิ...
ผมค่อยๆก้มตัวลงจับไปตามศพที่เกิดจากฝีมือผม.. อา.. ถึงเป้าหมายจะอยู่ใกล้ก็เถอะ แต่การยิงก็ถือว่าแม่นดี อื้มมมม.. ยิงลงตรงนี้ร่างกายมันจะเละไปหน่อยแฮะ
ผมยกยิ้มแล้วมองยังร่างกายอันไร้วิญญาณแล้วพิจารณาอย่างเงียบเชียบในใจ ถามว่าผมไม่กลัวสองคนนั้นจะเล่นตุกติกอะไรหรือ? อา.. ถือปืนจ่อไว้อยู่น่ะ แต่แน่นอนว่าเป้าหมายหลักๆที่ผมขยับตัวมาหาเจ้าเหยื่อพวกนี้ย่อมไม่ใช่แค่การดูหรอกนะ เป้าหมายหลักของผมคือแยกชิ้นส่วนเอาพวกเขาไปเป็นอาหารต่างหากล่ะ
ฮ่ะๆ.. แนะนำตัวอีกครั้งนะครับ ผมเทนชิรินะ เด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งเพราะดวงตาอันน่ากลัวสำหรับใครหลายๆคน แต่ก็มีคนใจดีอย่างเธอคนนั้นที่รับผมไปเลี้ยงดู
เมื่อผมจัดการเก็บอาหารเรียบร้อยแล้วผมก็สาวเท้ากลับทันที.. อา.. เวลาฆ่าเหยื่อด้วยมีดแล้วเก็บเป็นอาหารดีกว่าไหนๆ
ไว้คราวหน้าถ้ามีใครให้ผมฆ่าแบบนี้..ถ้าไม่ลืมจะใช้มีดแล้วกันนะ ฮึๆ
เมื่อผมเดินออกไปได้ไกลประมาณหนึ่งแล้ว หูที่ดีด้วยการทดลองในฐานะตัวทดลองที่918ของผมก็ได้ยินเสียงคล้ายคนทรุดตัวนั่งลงกับพื้นและเสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ผมคาดว่าเป็นคุโด้ ชินอิจิคนนั้นรีบวิ่งมาหารันอย่างเป็นห่วง
อา.. ผมรู้สึกเหมือนจะเดาอนาคตได้เลยล่ะครับทุกคน :)
---------------------------------------------
Talk's Mori Run
สวัสดีค่ะ ฉันโมริ รัน วันนี้ฉันกับโซโนโกะและชินอิจิมีนัดไปเที่ยวกัน แต่เจ้าบ้าชินอิจิน่ะสิ จู่ๆหมอนั้นก็บอกติดธุระด่วนเลยให้ฉันไปเที่ยวกับโซโนโกะไปก่อน เอาเป็นว่าฉันกับโซโนโกะก็ไปเที่ยวกันนั้นแหละค่ะ แต่ระหว่างทางมัวแต่เผลอคุยกันมากไปหน่อยเลยเข้าไปผิดทาง ตอนแรกฉันกับโซโนโกะจะเข้าอีกซอยหนึ่งซึ่งเป็นทางลัดกลับบ้านน่ะ
"น้องสาวจะไปไหนจ๊ะ?" แล้วเมื่อพวกฉันรู้ตัวก็ตอนเดินหลงเข้ามาสักพักแล้วนี่แหละค่ะ ฉันดันโซโนโกะไปอยู่ข้างหลังเพื่อที่จะปกป้องเธอพร้อมกับรีบหยิบโทรศัพท์เพื่อเมลล์ไปหาชินอิจิ
..ขอร้องแหละ ชินอิจิ..
"อย่าเข้ามานะ!!!!" ฉันคิดเรื่องของชินอิจิได้ไม่นานนักก็รีบตะโกนขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับตั้งท่าเตรียมพร้อมถ้าพวกผู้ชายพวกนี้เข้ามาใกล้แม้แต่นิดเดียวได้เจอคาราเต้ของฉันแน่!
"นายคนนั้นน่ะ มาช่วยกันหน่อยสิ!!" ฉันได้ยินเสียงโซโนโกะร้องเรียกความช่วยเหลือจากผู้ชายคนหนึ่งจนอดหันมองไปด้วยไม่ได้ ถึงแม้ฉันจะเป็นคาราเต้ก็เถอะ แต่คนเยอะขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการไหวไหม..
ฉันมองหาคนที่โซโนโกะขอความช่วยเหลือ เขาเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วอายุน่าจะไม่ต่างจากพวกเรามากนัก แต่ยังดีที่เขาดูเหมือนเป็นเด็กผู้ชายที่ค่อนข้างออกกำลังกายเป็นประจำ.. หวังว่าเขาจะช่วยได้นะ..
แต่..เขาก็ตัวเล็กกว่าพวกนี้ตั้งเยอะเลยนี่.. ฉันอดมองอย่างเป็นกังวลไม่ได้เลย
"ปัง!" เสียงของปืน เพียงฉันละสายตาจากเขาไปสนใจพวกผู้ชายอันตรายเหล่านี้เพียงแปปเดียว..
แปปเดียวเท่านั้น เขาก็หยิบปืนออกมาพร้อมยิงร่างของผู้ชายเหล่านั้นจนล้มลง หูของฉันรู้สึกมันอืออึ้งที่ได้ยินเสียงแบบนี้ใกล้ๆต่อให้อีกฝ่ายคล้ายจะใส่กระบอกเก็บเสียงแล้วก็ตาม..
ตาของฉันเหมือนจะพร่ามัวไปดื้อๆตอนเห็นคนตายต่อหน้าต่อตา ถ้าไม่เพราะสายตาดุดันและดวงตาที่แดงเหมือนกับเลือดที่ไหลไปทั่วนี้จ้องมองมาทางฉัน ฉันก็คงหลุดกรี๊ดไปแล้วแน่ๆ.. แต่ฉันกลับส่งเสียงไม่ออกเลยพอสบกับสายตาที่คล้ายกับบ้าคลั่งแบบนั้น.. ...มันน่ากลัว..
เสียงของฉันมันคล้ายหายไปไหนก็ไม่รู้.. เหมือนถูกดูดหายไปในคอเลย
"น่ะ...นาย..." ฉันนับถือโซโนโกะที่กล้าส่งเสียงพูดออกมาต่อให้มันจะติดขัดขนาดไหน มือของเธอขยับมากุมมือของฉันไว้แน่น ฉันสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นบ่งบอกว่าเธอกลัวมากขนาดไหน ทั้งการที่เห็นคนตายครั้งแรกและการที่มีคนถือปืนพร้อมฆ่าพวกเราไปด้วยแบบนี้
โซโนโกะ!!..
ฉันบีบมือเธอกลับแน่น เมื่อเห็นสายตาน่าขนลุกนั่นละความสนใจไปจากฉันแล้วหันเหความสนใจไปทางโซโนโกะแทนพร้อมกับปลายกระบอกปืนในมืออีกฝ่ายที่ยังไม่ยอมลดมันลงเลยแม้แต่น้อย.. ไม่รู้ว่าเขาจะตัดสินใจลั่นไกปืนมันอีกรอบหรือเปล่า
"นายทำอะไรน่ะ...!?" ฉันส่งเสียงดังออกไปอีกครั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้านั้นมาที่ฉัน เมื่อเขาหันมาสนใจฉันอีกครั้ง ฉันแทบจะเข่าทรุดลงไปตรงนั้น.. ทำไมดวงตานั่นถึงน่ากลัวได้ขนาดนั้นกัน...
ดวงตาที่พร้อมจะสังหารคนอย่างไม่ลังเลนั่นน่ะ.. ทำไมกัน..
"หื้ม.. ผมก็ช่วยพวกคุณไง.. พวกคุณเป็นคนบอก.. ให้ผมช่วยไม่ใช่หรือ?" ฉันเห็นเขายกยิ้มขึ้นมา มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ฉันอยากจะส่งสัญญาณบอกกับโซโนโกะให้หนีไป..
"ตะ..แต่.." โซโนโกะพูดขึ้นคล้ายจะเถียงเขาอย่างที่ชอบทำ แต่เสียงโซโนโกะก็เบาและสั่นเอาซะมากๆ.. ฉันเม้มปากแน่น ถึงจะตายแต่ฉันจะต้องปกป้องโซโนโกะให้ได้!
แล้วอีกอย่าง...
"วิธีอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่เห็นต้องฆ่าพวกเขาเลยนี่!.." ฉันพูดขึ้นเสียงดังเพื่อกลบเสียงของโซโนโกะ อย่างน้อยถ้าจะฆ่า..ก็ฆ่าฉันก่อน โซโนโกะจะได้หนีไป.. แล้วอีกอย่างมันก็จริงนี่หน่า.. ฉันไม่เห็นเข้าใจเหตุผลที่คนต้องฆ่ากันเลย
"ไม่มีเหตุผลที่ต้องใช้วิธีอื่นนี่ แถมพวกเขาจะทำร้ายพวกเธอก่อนไม่ใช่หรือ..?" เขาพูดขึ้น.. แต่พวกเขายังไม่ทันจะทำร้ายอะไรพวกฉันเลยนะ.. อีกอย่างทำแบบนี้มัน.. ฉันคิดจะพูดออกไปแต่ก็พูดไม่ออกเมื่ออีกฝ่ายขยับตัวเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที โซโนโกะเองก็ถอยหลังไปพร้อมดึงมือฉันให้วิ่งตามเธอ.. แต่ว่า.. เขาถือปืนอยู่.. ยังไงก็วิ่งไม่ทันหรอก เมื่อกี้เองตอนเขาจัดการเจ้าพวกนั้นก็เร็วเอามากๆ.. หรือถ้าฉันหนีรึเข้าไปสู้..โซโนโกะก็อาจโดนลูกหลงอีก...
เอ๊ะ.. ฉันมองเขาอย่างสงสัยหน่อยๆ ชั่วขณะหนึ่งความรู้สึกกดดันที่คล้ายตอนแรกแผ่ออกมาจากตัวอีกฝ่ายตลอดก็หายไป แถมอีกฝ่ายยังจับใบหน้าของตัวเองอีกด้วย..
นั่นมันอะไรน่ะ.. 918?
ทำไม.. ตอนเขาจับต้องมีใบหน้าที่เศร้าขนาดนั้นกันนะ.... หรือว่านั้นจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาฆ่าคนได้อย่างไม่ลังเลกัน..
แต่ถึงมีเหตุผลอะไรการฆ่าคนก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูก!!
เขาไม่ได้มองฉันแล้ว ไม่ได้มองโซโนโกะด้วย ตอนนี้พวกฉันกับเขาก็รักษาระยะห่างกันอยู่ เขาค่อยๆก้มลงไปคล้ายจะพิจารณาศพที่เกิดจากฝีมือตัวเอง ดีล่ะ.. แบบนั้นลายนิ้วมือก็ต้องติดแน่ๆ
ฉันใช้ตัวของฉันค่อยยืนบังโซโนโกะเอาไว้ โซโนโกะเกาะฉันแน่น เธอคงกลัวมากๆแน่ๆ ยังดีที่เธอไม่วิ่งหนี เพราะเขาหันปืนมาทางเราไว้อยู่ ฉันกลัวว่าถ้าเราขยับวิ่งหนีแม้แต่ก้าวเดียว เขาคงฆ่าเราทิ้ง..
ฉันกัดปากแน่น เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่ฉันไม่ยอมให้เขาแตะต้องโซโนโกะแน่! ฉันจ้องมองเขาอยู่ตลอด และนั่นทำให้ฉันเห็นภาพที่ทำให้ฉันแทบอ้วกพุ่งออกมา
เขาชำแหละศพ!!.. เขาทำมัน..
ฉันมองภาพอันสยดสยองนั้น แม้เวลาจะผ่านไปไม่นานที่เขาใช้มีดแยกชิ้นส่วนศพผู้ชายเหล่านั้นออกจากกัน แต่สำหรับฉัน... มันช่างยาวนาน
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ทำอะไรพวกฉันแล้วเดินไปไกลพอสมควร ฉันก็คล้ายกลับมาหายใจได้ดั่งเดิมจึงอดถอนหายใจออกมาด้วยความอึดอัดไม่ได้ ตัวของฉันทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรงพร้อมด้วยค่อยๆอาเจียนอาหารที่กินไปออกมากับภาพที่พึ่งเห็นเมื่อสักครู่มันโหดร้ายเกินไป..
โซโนโกะเองที่ก่อนหน้านี้เหมือนเธอจะหลับตาไว้พอรู้สึกว่าเขาไปแล้วและฉันทรุดลงก็รีบลืมตามองฉันอย่างเป็นห่วง
"ระ..รัน ..ก..กรี๊ดดดดดด" แล้วเธอก็กรีดร้องออกมาเมื่อหันไปเห็นภาพของศพที่ถูกตัดแขนบ้างผ่าหน้าท้องจนเห็นลำไส้ออกมาบ้าง
"รัน!!.." ฉันได้ยินเสียงชินอิจิก่อนตามมาด้วยตัวของเขาที่รีบวิ่งเข้ามาประคองฉัน
---------------------------------------------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

"ผมเป็นผู้ชาย" พูดเสียงติดหงุดหงิดหน่อยๆในขณะที่มือทั้งสองยังคงกอดอกแล้วมองด้วยสายตาที่ไม่ได้แสดงถึงความต้องการชีวิตอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก