ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ความฝัน กับความชั่วร้ายของโลก
ณ โลกความฝัน ในบ้านคฤหาสน์ตระกูลมาโต้
ร่างเด็กหนุ่มที่หนุนตักของหญิงสาวผมยาวสีม่วงลูบหัวไปมาอย่างเอ็นดูก่อนหนังตาของเด็กจะค่อยๆลืมตาเผยนัยน์ตาสีน้ำเงินออกมา
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านพี่ "
" สนุกมากใช่มั้ย ที่เล่นกับจิตใจคนอื่นเนี่ย " ชินจิรู้ได้ทันทีเลยว่าคนตรงหน้าคือใคร
" หึๆๆ ก็นายเล่นแล้วไม่เบื่อนี่นา " อังราที่อยู่ในร่างซากุระยิ้มอย่างเพลิดเพลินกับสีหน้าของเด็กหนุ่ม
" ไหนบอกว่า จะมาเจอกันอีกทีหลังจากที่จอกออกมาแล้วไง " ชินจิเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
" อย่ามาคาดหวังคำพูดของความชั่วร้ายอย่างฉันเลยดีกว่า "
" น่าสงสารนะ " ชินจิยิ้มออกมาอย่างเห็นใจ
" จะมีแค่นายล่ะมั้งที่พูดแบบนั้นกับฉันน่ะ " อังราเลิกคิ้วอย่างสนใจ
การกระทำของชินจิมันไม่ได้มีความเกลียดชังต่อตัวของความชั่วร้ายเลยสักนิด ราวกับว่าเป็นเรื่องปกติของคนเรา มันอดไม่ได้เลยที่ทำให้อังราสนใจ
" แล้ว ตกลงมีธุระอะไรล่ะ " ชินจิยอมนอนหนุนตักต่อไป
อังราอมยิ้มกับท่าทีไม่ขัดขืนอะไรของเด็กหนุ่ม
" งั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ เมื่อวานนี้มีเรื่องบางเกิดขึ้น "
ชินจิทำสีหน้าจริงจังขึ้นมา
" มีเซอร์แวนต์ตนที่ 8 ปรากฏขึ้นมาในสงครามครั้งนี้ ที่มาจากโลกคู่ขนาน " อังรา
" เซอร์แวนต์จากโลกคู่ขนานเหรอ....ได้ไง แค่เซอร์แวนต์เองเหรอ? "
" ถูกต้อง เพราะมันแปลกมากเลย ที่เซอร์แวนต์ที่ไม่ใช่รูลเลอร์ กลับยังสามารถดำรงอยู่ได้ บางทีอาจเป็นผลข้างเคียงของพลังจอกศักดิ์สิทธิ์จากที่เขามาก็ได้ "
" ถ้างั้นก็เรียกรูลเลอร์มาซะสิ จะได้จบปัญหา " ชินจิ
" หึๆๆๆ ชินจิ เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องทำแบบนั้นด้วยกัน การที่อัญเชิญรูลเลอร์มามันก็เพิ่มโอกาสทำลายฉันไม่ใช่หรือไงกัน ฉันได้ปิดกันใช้ระบบอัญเชิญรูลเลอร์ไปตั้งแต่สงครามจอกจะเริ่มแล้ว " อังรายิ้มอย่างซุกซน
ชินจิทำหน้าเหยเกออกมา แต่ก็เข้าใจได้แหละ สงครามครั้งนี้มันแปลกตั้งแต่ที่จิลเดอเรย์ถูกอัญเชิญมาแล้ว แถมสงครามยังคงดำเนินทิศทางเดิมอยู่ แต่ว่าการแทรกแซงของเซอร์แวนต์ตนที่ 8 นี่มันเหนือความคาดหมายอย่างมาก มันทำให้สงครามจอกเกิดแปรเปลี่ยนขึ้นมา แต่ยังอยู่ในเงื่อนไขของสงครามที่พอที่รับได้อยู่
" เหอะ...สมเป็นวิธีคิดของความชั่วร้ายของโลกดีนะ "
" ขอบคุณนะ "
" ไม่ได้ชมเฟ้ย! "
" ว่าแต่ฉันสงสัยมาสักพักแล้วล่ะ " อังรายิ้มอย่างซุกซนกอดร่างของเด็กหนุ่ม
" อะไรอีกล่ะ? "
" ทำไมนายถึงไม่ใช้พลังจากรากสักทีเลยล่ะ "
ชินจิที่ได้ยินก็เงียบไปก่อนแสยะยิ้มออกมา
" ให้เปิดใช้ตอนนี้มันจะไปสนุกอะไรเล่า ไว้สถานการณ์เหมาะสม ค่อยใช้สิ อีกอย่างชั้นไม่อยากจะอายุขัยสั้นนะ "
" ไหนบอกว่า ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ไง " อังราเข้าใจว่าตัวของชินจิพยายามที่จะเอาตัวรอดสงคราม การใช้พลังของรากก็คิดว่ามันทำให้เด็กคนนี้เอาตัวรอดได้สบายๆเลย
" มันก็ถูก แต่หลักๆแล้วชั้นไม่อยากโดนเจ้าสีแดงนั้นมาฆ่ามากกว่าล่ะนะ " ชินจิยิ้มเศร้าออกมา
การใช้พลังของรากเหง้าแห่งทุกสรรพสิ่งหรือรากฐานวิญญาณน่ะมีเรื่องปวดหัวตามมาทีหลัง
จริงอยู่มันจะมอบพลังมานามหาศาลที่เท่าเทียบกับเวทมนนต์ยุคทวยเทพในอดีต แต่ว่านั่นเป็นสิ่งที่ผิดเหนือธรรมชาติของคนในสมัยปัจจุบันที่ผู้คนไม่ได้เชื่อเรื่องเวทมนต์ แต่เชื่อหลักการวิทยาศาสตร์ เพราะงั้นหากมีใครเข้าถึงมันได้ แล้วใช้มหาเวทมนต์ขึ้นมาก็จะถูกเคาเตอร์การ์เดี้ยนของอารยาสั่งมาเก็บทันที เนื่องจากเป็นพลังมากเกินไปที่มนุษย์ในยุคนี้จะครอบครองได้ ไม่งั้นนางเอกคนแรกของนาสุอย่าง อาโอซากิ อาโอโกะจะโดนเล่นในเรื่องMahoutsukai no yoru เหรอ
ถึงแม้ว่าเรียวกิ ชิกิจะเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากนางเข้าถึงรากฐานวิญญาณในเส้นระหว่างความเป็นความตายตลอดมา 2 ปีแล้วเป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้นอยู่แล้ว เธอจึงเป็นข้อยกเว้นที่อารยายอมรับได้นั่นเอง เพราะมันดึงตัวมาเป็นเคาร์เตอร์การ์เดี้ยนอยู่แล้ว
ตอนนี้ชินจิไม่รู้ว่าตัวของโลกมันตัดสินใจเขาไปทิศทางไหน หากเข้าถึงรากฐานวิญญาณแล้วใช้มหาเวทมนต์ได้ขึ้นมาจะโดนเล่นตอนไหน
เขาก็ต้องมีปัจจัยบางอย่างที่เข้าเงื่อนไขได้โดยไม่ต้องเสี่ยงโดนเส้นแดงความตายมาเล่นงานเขา
ถึงจะเรียกมา หากเขาสามารถเอาชนะเส้นแดงความตายลงได้ เขาก็จะสามารถใช้ทรูเมจิคได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้ว มันเหมือนเป็นบททดสอบของผู้ถือครองพลังเกินกว่ายุคสมัยว่าจะเป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติหรือไม่
จะมีเพียงข้อยกเว้นที่เส้นแดงแห่งความตายไม่โจมตีอยู่สองคน นั่นคือ
คิสชัวร์ เซลเรทช์ ชไวนอร์ค และ อาคิไทป์เอิร์ธ ออริจินอลวัน อัลเควด บรูนสตัด
สองรายนี้พิเศษกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา
ปู่เซลเรทช์เป็นจอมเวทยุคแรกที่ก่อตั้งหอนาฬิกา เป็นตัวแทนของอารยาเพื่อต่อกรกับตัวแทนของไกอาให้ใครเป็นคนปกครองโลก เห็นแบบนั้นเขาเป็นลูกศิษย์แกรนเซอร์แวนต์แคสเตอร์อย่าง โซโลม่อนมาก่อนเลยนะ แถมถือครองมหาเวทมนต์ลำดับที่ 2 ด้วย โลกใช้ตัวของเขาเป็นมาตรฐานรับมือสิ่งที่เป็นภัยต่อโลกที่มาจากโลกอื่นเข้ามายังโลกของตัวเอง
อัคเควด บรูนสตัด นางเอกจากเรื่องTsukihime เป็นแวมไพร์ต้นกำเนิดที่สร้างขึ้นจากดวงดาวของโลก ซึ่งเป็นตัวตนที่มีไว้สำหรับการปกป้องดวงดาวโดยเฉพาะ สเกลของนางจัดว่าเป็น นางเอกที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลนาสุก็ไม่เกินจริงนะ หากเธอไม่เนิฟพลังมาตั้ง 70 เปอร์เซ็นเพื่อไม่ให้มวลมนุษย์ตายไปเสียก่อน เธอสามารถฆ่าคนได้ทั้งเมืองในโจมตีครั้งเดียวยังได้เลย ถ้าเธอใช้พลังเต็มที่
หน่ำซ้ำสองคนนี้ก็เป็นผู้ถือครองทรูเมจิคทั้งคู่ด้วย
" อะไรกันนี่นายกังวลเรื่องนั้นเองเหรอ " อังราทำหน้าประหลาดใจ " มนุษย์เนี่ยกลัวไปซะทุกเรื่องซะจริง
" ผิดด้วยหรือไงเล่า "
" ฉันนึกว่านายจะไม่กลัวอะไรเลยซะอีกนะ นายมีพลังที่พอกำจัดอยู่ไม่ใช่เหรอ ถึงไม่มี ฉันว่าโลกคงให้นายได้ใช้ล่ะนะ "
" ก็หวังว่าอย่างงั้นล่ะนะ แล้วมีเรื่องอะไรอีกมั้ย? " ชินจิ
" อ้าว ไม่อยากรู้เหรอว่าเซอร์แวนต์ที่อัญเชิญเป็นใครเหรอ? " อังราทำหน้าประหลาดใจที่ชินจิดูไม่ได้สนใจเลย
" ของแบบนั้นจะช้าหรือเร็ว ผลก็เท่ากันนั่นแหละ รีบๆส่งชั้นกลับไปได้แล้ว ก่อนชั้นจะเปลี่ยนใจเป่านายทิ้ง "
" จ้าๆ งั้นฉันจะต้องตารอดูนะ ชินจิ " พูดจบอังราในร่างยื่นหน้าที่จะมาจุมพิตก็ถูกมือเล็กมาปิดเอาไว้ " ชั้นไม่มีรสนิยมกินกันเองนะ "
" แต่ฉันคือความชั่วร้ายของโลกนะ "
" แต่ตำนานของแกเป็นผู้ชายไม่ใช่หรอ? "
" ช่างไม่เข้าใจอะไรเลยนะ ชินจิ ฉันน่ะคือตัวตนความชั่วร้ายของโลก ไม่สำคัญหรอกว่าฉันจะอยู่เพศอะไร ฉันก็สามารถเป็นได้ทุกอย่างและให้นายได้ทุกอย่าง ขอเพียงนายได้ขอพรก็พอ "
" อ่อเหรอ แล้วที่มาเกาะแกะชั้นตลอดนี่เพราะไม่อยากให้ซ้ำรอยเหมือนโลกอื่นล่ะสิ " ชินจิเข้าใจเป้าหมายอีกฝ่ายได้ล่ะ เพราะมันได้อ่านความทรงจำของเขาไม่รู้มากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆอังราอ่านความทรงจำสองสงครามในครั้งนี้ และครั้งหน้าเอาไว้แล้ว
ไม่ว่าจะครั้งไหนตัวของอังราจะไม่มีทางได้รับขอพรอย่างตามที่หวังเอาไว้ ต่อให้หลอกลวงอิลิยา และซากุระ สุดสูงทำให้จอกมีรูปร่างได้ แต่ไม่อาจได้ขอพรสำเร็จ
พูดง่ายๆเลยคือเจ้าตัวอยากลองวัดดวงกับเขาดูว่าจะจบสงครามมารูปแบบไหน
" ใช่ ฉันเลยให้นายเป็นคนเลือกว่า นายปรารถนาอะไรจากจอก ได้สร้างผลงานอะไรในศึกครั้งนี้ นายจะมีชีวิตถึงตอนไหน สีหน้าของนายที่รู้ความจริงของโลก อนาคตของนาย ความชั่วร้ายในจิตใจของนายที่อยากทำลายทุกอย่าง ความปรารถนาที่อยากยึดครองทุกสรรพสิ่ง ฉันอยากจะเห็นมันจริงๆ " ดวงตาของอังราแสดงถึงจิตใจที่ไม่ปกติออกมาเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวจนคนทั่วไปยังขนลุก บ่งบอกความอันตรายในหลายๆความหมาย
" อ่า....ตั้งตารอไปเถอะ " พูดจบเจ้าตัวก็หลับตาลงพร้อมกับสติที่เริ่มดับลงพร้อมมีสัมผัสอันนุ่มนวลที่หน้าผากของเขาเป็นการทิ้งท้าย
ใครจะไปคิดว่าเขาจะเนื้อหอมกระทั้งความชั่วร้ายของโลกกัน
นี่เขาตกต่ำขนาดไหนกันให้ความชั่วร้ายมาสนใจได้กันล่ะเนี่ย
ทั้งๆที่เขาก็ไม่ใช่เอมิยะ ชิโร่สักหน่อย
ร่างเด็กหนุ่มที่หนุนตักของหญิงสาวผมยาวสีม่วงลูบหัวไปมาอย่างเอ็นดูก่อนหนังตาของเด็กจะค่อยๆลืมตาเผยนัยน์ตาสีน้ำเงินออกมา
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านพี่ "
" สนุกมากใช่มั้ย ที่เล่นกับจิตใจคนอื่นเนี่ย " ชินจิรู้ได้ทันทีเลยว่าคนตรงหน้าคือใคร
" หึๆๆ ก็นายเล่นแล้วไม่เบื่อนี่นา " อังราที่อยู่ในร่างซากุระยิ้มอย่างเพลิดเพลินกับสีหน้าของเด็กหนุ่ม
" ไหนบอกว่า จะมาเจอกันอีกทีหลังจากที่จอกออกมาแล้วไง " ชินจิเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
" อย่ามาคาดหวังคำพูดของความชั่วร้ายอย่างฉันเลยดีกว่า "
" น่าสงสารนะ " ชินจิยิ้มออกมาอย่างเห็นใจ
" จะมีแค่นายล่ะมั้งที่พูดแบบนั้นกับฉันน่ะ " อังราเลิกคิ้วอย่างสนใจ
การกระทำของชินจิมันไม่ได้มีความเกลียดชังต่อตัวของความชั่วร้ายเลยสักนิด ราวกับว่าเป็นเรื่องปกติของคนเรา มันอดไม่ได้เลยที่ทำให้อังราสนใจ
" แล้ว ตกลงมีธุระอะไรล่ะ " ชินจิยอมนอนหนุนตักต่อไป
อังราอมยิ้มกับท่าทีไม่ขัดขืนอะไรของเด็กหนุ่ม
" งั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ เมื่อวานนี้มีเรื่องบางเกิดขึ้น "
ชินจิทำสีหน้าจริงจังขึ้นมา
" มีเซอร์แวนต์ตนที่ 8 ปรากฏขึ้นมาในสงครามครั้งนี้ ที่มาจากโลกคู่ขนาน " อังรา
" เซอร์แวนต์จากโลกคู่ขนานเหรอ....ได้ไง แค่เซอร์แวนต์เองเหรอ? "
" ถูกต้อง เพราะมันแปลกมากเลย ที่เซอร์แวนต์ที่ไม่ใช่รูลเลอร์ กลับยังสามารถดำรงอยู่ได้ บางทีอาจเป็นผลข้างเคียงของพลังจอกศักดิ์สิทธิ์จากที่เขามาก็ได้ "
" ถ้างั้นก็เรียกรูลเลอร์มาซะสิ จะได้จบปัญหา " ชินจิ
" หึๆๆๆ ชินจิ เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องทำแบบนั้นด้วยกัน การที่อัญเชิญรูลเลอร์มามันก็เพิ่มโอกาสทำลายฉันไม่ใช่หรือไงกัน ฉันได้ปิดกันใช้ระบบอัญเชิญรูลเลอร์ไปตั้งแต่สงครามจอกจะเริ่มแล้ว " อังรายิ้มอย่างซุกซน
ชินจิทำหน้าเหยเกออกมา แต่ก็เข้าใจได้แหละ สงครามครั้งนี้มันแปลกตั้งแต่ที่จิลเดอเรย์ถูกอัญเชิญมาแล้ว แถมสงครามยังคงดำเนินทิศทางเดิมอยู่ แต่ว่าการแทรกแซงของเซอร์แวนต์ตนที่ 8 นี่มันเหนือความคาดหมายอย่างมาก มันทำให้สงครามจอกเกิดแปรเปลี่ยนขึ้นมา แต่ยังอยู่ในเงื่อนไขของสงครามที่พอที่รับได้อยู่
" เหอะ...สมเป็นวิธีคิดของความชั่วร้ายของโลกดีนะ "
" ขอบคุณนะ "
" ไม่ได้ชมเฟ้ย! "
" ว่าแต่ฉันสงสัยมาสักพักแล้วล่ะ " อังรายิ้มอย่างซุกซนกอดร่างของเด็กหนุ่ม
" อะไรอีกล่ะ? "
" ทำไมนายถึงไม่ใช้พลังจากรากสักทีเลยล่ะ "
ชินจิที่ได้ยินก็เงียบไปก่อนแสยะยิ้มออกมา
" ให้เปิดใช้ตอนนี้มันจะไปสนุกอะไรเล่า ไว้สถานการณ์เหมาะสม ค่อยใช้สิ อีกอย่างชั้นไม่อยากจะอายุขัยสั้นนะ "
" ไหนบอกว่า ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ไง " อังราเข้าใจว่าตัวของชินจิพยายามที่จะเอาตัวรอดสงคราม การใช้พลังของรากก็คิดว่ามันทำให้เด็กคนนี้เอาตัวรอดได้สบายๆเลย
" มันก็ถูก แต่หลักๆแล้วชั้นไม่อยากโดนเจ้าสีแดงนั้นมาฆ่ามากกว่าล่ะนะ " ชินจิยิ้มเศร้าออกมา
การใช้พลังของรากเหง้าแห่งทุกสรรพสิ่งหรือรากฐานวิญญาณน่ะมีเรื่องปวดหัวตามมาทีหลัง
จริงอยู่มันจะมอบพลังมานามหาศาลที่เท่าเทียบกับเวทมนนต์ยุคทวยเทพในอดีต แต่ว่านั่นเป็นสิ่งที่ผิดเหนือธรรมชาติของคนในสมัยปัจจุบันที่ผู้คนไม่ได้เชื่อเรื่องเวทมนต์ แต่เชื่อหลักการวิทยาศาสตร์ เพราะงั้นหากมีใครเข้าถึงมันได้ แล้วใช้มหาเวทมนต์ขึ้นมาก็จะถูกเคาเตอร์การ์เดี้ยนของอารยาสั่งมาเก็บทันที เนื่องจากเป็นพลังมากเกินไปที่มนุษย์ในยุคนี้จะครอบครองได้ ไม่งั้นนางเอกคนแรกของนาสุอย่าง อาโอซากิ อาโอโกะจะโดนเล่นในเรื่องMahoutsukai no yoru เหรอ
ถึงแม้ว่าเรียวกิ ชิกิจะเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากนางเข้าถึงรากฐานวิญญาณในเส้นระหว่างความเป็นความตายตลอดมา 2 ปีแล้วเป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้นอยู่แล้ว เธอจึงเป็นข้อยกเว้นที่อารยายอมรับได้นั่นเอง เพราะมันดึงตัวมาเป็นเคาร์เตอร์การ์เดี้ยนอยู่แล้ว
ตอนนี้ชินจิไม่รู้ว่าตัวของโลกมันตัดสินใจเขาไปทิศทางไหน หากเข้าถึงรากฐานวิญญาณแล้วใช้มหาเวทมนต์ได้ขึ้นมาจะโดนเล่นตอนไหน
เขาก็ต้องมีปัจจัยบางอย่างที่เข้าเงื่อนไขได้โดยไม่ต้องเสี่ยงโดนเส้นแดงความตายมาเล่นงานเขา
ถึงจะเรียกมา หากเขาสามารถเอาชนะเส้นแดงความตายลงได้ เขาก็จะสามารถใช้ทรูเมจิคได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้ว มันเหมือนเป็นบททดสอบของผู้ถือครองพลังเกินกว่ายุคสมัยว่าจะเป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติหรือไม่
จะมีเพียงข้อยกเว้นที่เส้นแดงแห่งความตายไม่โจมตีอยู่สองคน นั่นคือ
คิสชัวร์ เซลเรทช์ ชไวนอร์ค และ อาคิไทป์เอิร์ธ ออริจินอลวัน อัลเควด บรูนสตัด
สองรายนี้พิเศษกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา
ปู่เซลเรทช์เป็นจอมเวทยุคแรกที่ก่อตั้งหอนาฬิกา เป็นตัวแทนของอารยาเพื่อต่อกรกับตัวแทนของไกอาให้ใครเป็นคนปกครองโลก เห็นแบบนั้นเขาเป็นลูกศิษย์แกรนเซอร์แวนต์แคสเตอร์อย่าง โซโลม่อนมาก่อนเลยนะ แถมถือครองมหาเวทมนต์ลำดับที่ 2 ด้วย โลกใช้ตัวของเขาเป็นมาตรฐานรับมือสิ่งที่เป็นภัยต่อโลกที่มาจากโลกอื่นเข้ามายังโลกของตัวเอง
อัคเควด บรูนสตัด นางเอกจากเรื่องTsukihime เป็นแวมไพร์ต้นกำเนิดที่สร้างขึ้นจากดวงดาวของโลก ซึ่งเป็นตัวตนที่มีไว้สำหรับการปกป้องดวงดาวโดยเฉพาะ สเกลของนางจัดว่าเป็น นางเอกที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลนาสุก็ไม่เกินจริงนะ หากเธอไม่เนิฟพลังมาตั้ง 70 เปอร์เซ็นเพื่อไม่ให้มวลมนุษย์ตายไปเสียก่อน เธอสามารถฆ่าคนได้ทั้งเมืองในโจมตีครั้งเดียวยังได้เลย ถ้าเธอใช้พลังเต็มที่
หน่ำซ้ำสองคนนี้ก็เป็นผู้ถือครองทรูเมจิคทั้งคู่ด้วย
" อะไรกันนี่นายกังวลเรื่องนั้นเองเหรอ " อังราทำหน้าประหลาดใจ " มนุษย์เนี่ยกลัวไปซะทุกเรื่องซะจริง
" ผิดด้วยหรือไงเล่า "
" ฉันนึกว่านายจะไม่กลัวอะไรเลยซะอีกนะ นายมีพลังที่พอกำจัดอยู่ไม่ใช่เหรอ ถึงไม่มี ฉันว่าโลกคงให้นายได้ใช้ล่ะนะ "
" ก็หวังว่าอย่างงั้นล่ะนะ แล้วมีเรื่องอะไรอีกมั้ย? " ชินจิ
" อ้าว ไม่อยากรู้เหรอว่าเซอร์แวนต์ที่อัญเชิญเป็นใครเหรอ? " อังราทำหน้าประหลาดใจที่ชินจิดูไม่ได้สนใจเลย
" ของแบบนั้นจะช้าหรือเร็ว ผลก็เท่ากันนั่นแหละ รีบๆส่งชั้นกลับไปได้แล้ว ก่อนชั้นจะเปลี่ยนใจเป่านายทิ้ง "
" จ้าๆ งั้นฉันจะต้องตารอดูนะ ชินจิ " พูดจบอังราในร่างยื่นหน้าที่จะมาจุมพิตก็ถูกมือเล็กมาปิดเอาไว้ " ชั้นไม่มีรสนิยมกินกันเองนะ "
" แต่ฉันคือความชั่วร้ายของโลกนะ "
" แต่ตำนานของแกเป็นผู้ชายไม่ใช่หรอ? "
" ช่างไม่เข้าใจอะไรเลยนะ ชินจิ ฉันน่ะคือตัวตนความชั่วร้ายของโลก ไม่สำคัญหรอกว่าฉันจะอยู่เพศอะไร ฉันก็สามารถเป็นได้ทุกอย่างและให้นายได้ทุกอย่าง ขอเพียงนายได้ขอพรก็พอ "
" อ่อเหรอ แล้วที่มาเกาะแกะชั้นตลอดนี่เพราะไม่อยากให้ซ้ำรอยเหมือนโลกอื่นล่ะสิ " ชินจิเข้าใจเป้าหมายอีกฝ่ายได้ล่ะ เพราะมันได้อ่านความทรงจำของเขาไม่รู้มากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆอังราอ่านความทรงจำสองสงครามในครั้งนี้ และครั้งหน้าเอาไว้แล้ว
ไม่ว่าจะครั้งไหนตัวของอังราจะไม่มีทางได้รับขอพรอย่างตามที่หวังเอาไว้ ต่อให้หลอกลวงอิลิยา และซากุระ สุดสูงทำให้จอกมีรูปร่างได้ แต่ไม่อาจได้ขอพรสำเร็จ
พูดง่ายๆเลยคือเจ้าตัวอยากลองวัดดวงกับเขาดูว่าจะจบสงครามมารูปแบบไหน
" ใช่ ฉันเลยให้นายเป็นคนเลือกว่า นายปรารถนาอะไรจากจอก ได้สร้างผลงานอะไรในศึกครั้งนี้ นายจะมีชีวิตถึงตอนไหน สีหน้าของนายที่รู้ความจริงของโลก อนาคตของนาย ความชั่วร้ายในจิตใจของนายที่อยากทำลายทุกอย่าง ความปรารถนาที่อยากยึดครองทุกสรรพสิ่ง ฉันอยากจะเห็นมันจริงๆ " ดวงตาของอังราแสดงถึงจิตใจที่ไม่ปกติออกมาเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวจนคนทั่วไปยังขนลุก บ่งบอกความอันตรายในหลายๆความหมาย
" อ่า....ตั้งตารอไปเถอะ " พูดจบเจ้าตัวก็หลับตาลงพร้อมกับสติที่เริ่มดับลงพร้อมมีสัมผัสอันนุ่มนวลที่หน้าผากของเขาเป็นการทิ้งท้าย
ใครจะไปคิดว่าเขาจะเนื้อหอมกระทั้งความชั่วร้ายของโลกกัน
นี่เขาตกต่ำขนาดไหนกันให้ความชั่วร้ายมาสนใจได้กันล่ะเนี่ย
ทั้งๆที่เขาก็ไม่ใช่เอมิยะ ชิโร่สักหน่อย
______
เนื่องจากความคึก เลยแต่งเสร็จเร็วกว่ากำหนด ถือว่าลงมาเป็นกรณีพิเศษ 3 ตอนให้เลยนะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น