คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตัวการจอมจุ้น & ฆาตกรโรคจิต เพิ่มเติมคือของตกยุคที่หนังเหนียว
ชินจิตอนนี้ไปเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่นเพื่อแกะรอยไม่ได้แล้วกลับมายังฐานที่มั่นของตัวเองที่วัดริวโด แน่นอนว่าใช้เส้นทางอ้อมรอบคอบเอาไว้ก่อน โดยตอนนี้ตัวของเขาอยู่ที่แทบบริเวณสะพานระหว่างไปยังภูเขาเอนโซนั่นเอง
เจ้าตัวหยิบสิ่งๆหนึ่งออกมานั่นคือโน๊ตบุ๊กเพื่อเก็บข้อมูลข่าวสารนั่นเอง พบว่าหน้าข่าวมีการประกาศเรื่องตึกแห่งนึงถูกวางระเบิดทั้งตึกหลังจากที่สู้กันที่ท่าเรือแทบไม่นานนัก
ชินจิรู้เลยว่าเป็นฝีมือของคิริสึงุที่จะพยายามฆ่าเคย์เนธด้วยคาร์บอมทั้งตึก
สำหรับนักฆ่าจอมเวทเป็นการกระทำที่บ้าระห่ำและมีหลักการที่ไร้ขีดจำกัดล่างที่น่าประหลาดใจไม่น้อยเลย เพราะมันไม่สนใจว่าเลยว่าจะให้ศัตรูมาเข้าแต่ทำลายที่มั่นของศัตรู แต่แค่นั้นน่าจะทำอะไรแลนเซอร์และเคย์เนธไม่ได้อยู่แล้ว
บางทีตอนนี้ตัวของไอริสฟิลคงถือวิสาสะขับรถเที่ยวออกมาข้างนอกแน่ๆ
" แล้วมีธุระอะไร แอสซาสซิน " ชินจิพูดจบก็เก็บของในกระเป๋าแล้วใช้เวทเสริมความแข็งไปที่วัตถุ
" โห...รู้ตัวด้วยงั้นเหรอ " หนึ่งในฮัสซันสองตนที่ปรากฏขึ้นมาเอ่ยขึ้นมาบนเหนือสะพาน
" เพื่อรวบรวมข้อมูลของเหล่ามาสเตอร์จากเงามืด มันก็หลักการวิถีของแอสซาสซิน ไม่ใช่หรอ? " ชินจิที่รู้สึกจิตสังหารนับตั้งแต่ที่เขามาถึงสะพานแล้ว
" พวกนายแค่สองคนมาตรวจสอบงั้นสินะ มาสเตอร์พวกนายที่จอมยุ่งเรื่องของชาวบ้านงั้นสินะ " ชินจิพอรู้ว่าคิเรย์ใช้ฮัสซันร้อยหน้ามาตรวจสอบ ก็สมเป็นนักปราบของศาสนจักรที่จัดการโดยเฉพาะ
" หน่อยแก~~"
" จะสู้ก็นะ ถ้าหากพวกแกกันแค่สอง ถ้าสัก 100 คนล่ะก็พอจะวัดพอวาได้อยู่ละนะ "
" อย่าบอกนะว่า มันรู้นามที่แท้ของพวกเราน่ะ "
" เช่นนั้นก็ต้องกำจัด " พูดจบพวกมันพุ่งโจมตีใส่ชินจิ
เขาแสยะยิ้มออกมาก่อนที่มีกลุ่มก้อนน้ำขนาดใหญ่มาจากบ่อแม่น้ำใต้สะพานแปรรูปพุ่งโจมตีใส่จนฮัสซันทั้งสองได้รับบาดเจ็บแล้วถึงถูกตรึงเอาไว้ แล้วตายไปคนนึงที่โดนก้อนน้ำแปรสภาพเป็นแท่งแหลมคมจนทะลุหัวใจของมัน แต่ก็เหลือตนหนึ่ง
" วะ เวทมนต์เหรอ! " ฮัสซันหนึ่งคนที่รอดอยู่ถึงกับสำลักเลือดออกมา " เบอเซิกเกอร์เนี่ยนะ!! '
" ก็นะ ไม่ใช่พวกแกรู้ตั้งแต่ที่ท่าเรือแล้วหรอกเหรอ " ชินจิพูดแล้วเดินมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาออกมา " แต่ช่างเถอะ ต่อให้นายตายไปก็ทำให้ทางศาสนจักรหันมาสนใจแทนเท่านั้นล่ะนะ ถ้ามีเวลาว่างขนาดนั้นล่ะนะ "
" ชั้นจะปล่อยแกไป แต่โดนแลกกับทำอะไรให้อย่างนึง "
" ช่างโง่เขลายิ่งนัก คิดเหรอว่าข้าจะฟังคำสั่งของเจ้าน่ะ! "
" ก็จริงอยู่ชั้นไม่มีสิทธิ์อะไรมาสั่งแกได้ " พูดจบก็เร่งการโจมตีจนทำให้ฮัสซันถึงกับกรีดร้องออกมา " ช่างเถอะ สุดท้ายพวกนายก็แค่กลุ่มตัวแทนที่ติดตามมัจจุราชแห่งความตายเท่านั้น "
พูดจบก็ดีดนิ้วจนน้ำเหล่านั้นทะลุร่างกายของฮัสซันแล้วหลอมรวมกลายก้อนทรงกลมที่สีกลายเป็นสีเลือดของเซอร์แวนต์แล้วหดลงเหลือเพียงน้ำหยดเดียว
ชินจิหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม กับร่างกายที่ยังไม่ได้คลายสภาพร่างเซอร์แวนต์ในการใช้ตราบัญชา
สิ่งที่ตัวขอเขานั้นค้างคาใจมาตลอดเลยคือ ใครเป็นคนแจ้งเบาะแสการกระทำของตระกูลมาโต้ให้โทคิโอมิรับรู้กัน
เพราะตามหลักแล้วทางนั้นแทบไม่รู้ด้วยซ้ำเลยว่า ตระกูลมาโต้เป็นยังไงเลยด้วย เห็นว่าเป็นตระกูลที่อยู่มาเนินหลังก่อตั้งสงคราม แต่กลับถึงขั้นใช้หนอนแมลงดัดแปลงวงจรเวท แล้วช่วยซากุระออกไปโดยให้กิลกาเมชจัดการคนของตระกูลมาโต้ทั้งหมด แม้กระทั้งตัวของเขาด้วย
การที่มาเจาะจงบ้านตระกูลมาโต้เป็นวันแรกเลยมันผิดจากที่เขาจำได้ด้วยซ้ำ
ถึงจะเป็นจอมเวทยังไง ก็ไม่น่าจะล้างบางทั้งตระกูลได้หรอก เพราะสองตระกูลโทซากะและมาโต้เป็นพันธมิตรที่ส่งตัวของซากุระมายังตระกูลนี้ เพื่อสืบทอดสายเลือดจอมเวทในตระกูลมาโต้นั้นเอง
การที่โทคิโอมิได้ข้อมูลนี้มา แปลว่าเป็นฝีมือใครสักคนที่รู้ความเป็นอยู่ของตระกูลมาโต้พอสมควร
คิริสึงุ ตัดทิ้งไปได้เลย รายนั้นยังไม่มาวันแรกของสงครามด้วยซ้ำ
เวเวอร์และเคย์เนธตัดด้วยเช่นกัน สองคนนี้เป็นคนนอกโดยสมบูรณ์
คิเรย์คงเป็นคนส่งฮัสซันมาตรวจสอบแล้วให้โทคิโอมิลงมืออีกทีงั้นสินะ รายนี้น่าจะตัดไปได้ เพราะศาสนจักรไม่เคลื่อนไหวอะไรแบบนี้หรอก
ฆาตกรโรคจิตอย่างเรียวโนะสึเกะตัดทิ้งไปได้เลยก่อนชาวบ้าน รายนี้เป๊นคนธรรมดาที่มายุ่งเกี่ยวสงครามด้วยเหตุสุดวิสัยเท่านั้น
แถมที่สืบมาก็มีเหตุการณ์ลักพาตัวเด็กจำนวนมากที่หายสาปสูญไปในช่วงสองวันมานี้ด้วย บางทีแคสเตอร์คงเป็นจิลเดอเรย์ พ่อมดนอกรีตไม่ผิดแน่
" อืม...ถ้างั้นเป็นคนที่เหมือนกับเราที่มีความทรงจำในอนาคตเหรอ? " ชินจิคิดได้หลังจากประติดประต่อเรื่องราวได้ ก่อนนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีคนนึงที่เป็นไปได้จะรู้เรื่องนี้และให้โทคิโอมิทำด้วย
ถ้าจำไม่ผิดว่า ยัยนั่นน่าจะเกี่ยวข้องศึกนี้ด้วยหนิ
" ....อืม ควรไปตรวจดูทางนั้นหน่อย ท่าจะดีแหะ " ชินจิเอ่ยขึ้นเหมือนจะรู้ว่าเป็นฝีมือของใครออกก่อนเช็คสถานที่ที่นึงก่อน
_______________
ณ ใต้ดินเมืองฟุยุกิ
ได้มีร่างเด็กจำนวนมากที่ถูกแขวนบนเสาด้วยตะปูที่ตอกที่ข้อมือจนไม่อาจขยับตัวไปไหนได้ ราวกับเป็นศิลปะที่นอกรีตและไร้มนุษยธรรม
ชายหนุ่มผมสั้นสีส้มได้วางร่างเด็กสาวผมยาวสีดำทรงทวิลเทลที่ถูกมัดตัวอยู่
บ้าเอ้ย ดันประมาทไปเพราะมันเป็นแค่คนธรรมดา!
เด็กสาวโวยวายในใจพยายามดิ้นร้นจากหลบหนี แต่การกระทำแบบนี้มันยิ่งทำให้ ฆาตกรอย่างเรียวโนะสึเกะยิ่งปลื้มเข้าไปใหญ่
โดยที่ตัวของเขานั้นเป็นฆาตกรโรคจิตธรรมดาที่บังเอิญฆ่าจอมเวทหอนาฬิกา แล้วได้สมุดวิธีอัญเชิญวีรชนออกมา
ตามหลักแล้ว สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์จะไม่อนุญาตคนที่มีจิตใจดำมืดมิดและชั่วร้ายในการอัญเชิญวีรชนออกมา แต่ทว่ามันไม่ใช่กับสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ที่ถูกวิญญาณวีนชนที่เป็นตัวแทนความชั่วร้ายของโลกมวลมนุษยชาติ อังรา เมนยู ซึ่งสามารถดึงคนที่มีจิตใจชั่วร้ายให้เข้าร่วมสงครามจอกได้ ไม่ว่าจะเป็น โคโตมิเนะ คิเรย์ และ เรียวโนะสึเกะ
เพราะงั้นจึงมีต้นตนความชั่วร้ายในประวัติศาสตร์อย่าง จิลเดอเรย์ออกมาในศึกครั้งนี้ได้นั่นเอง
แล้วเด็กสาวที่ถูกลักพาตัว ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
หนึ่งในนางเอกในรูทUBW หญิงสาวที่มักจะพลาดท่าในเวลาสำคัญๆอยู่เรื่อย จอมเวทที่ถือครองธาตุทั้ง 5 ที่พันปีจะมีสักคน ที่เข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5
โทซากะ รินนั่นเอง
เธอนั้นได้ความทรงจำของตัวเองในอนาคตซึ่งเป็นความทรงจำที่รู้ความจริงเกี่ยวกับตระกูลมาโต้ที่เล่นเอาหนอนแมลงมายัดใส่ร่างของน้องสาวของเธอมาตลอด 10 ปี แล้วจะกลายเป็นภาชนะของจอกศักดิ์สิทธิ์มาตลอดหลังสงครามจอกครั้งที่ 4 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ตัวของเธอนั้นหาทางช่วยน้องสาวของเธอ โดยการทำการปลิ้นเอกสารบอกข้อมูลเกี่ยวข้องให้กับพ่อของตัวเองได้รับรู้
รินจำได้ว่าพ่อของเธอเข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ให้ไปจัดการบ้านตระกูลมาโต้
แต่ก็คาดไม่ถึงว่าพ่อของเธอจะเล่นล้างบางทั้งตระกูลเลย มันทำให้เธอรู้สึกผิดกับชินจิที่เกิดมายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ว่าเท่านี้มันก็ทำให้เธอหายห่วงเรื่องซากุระแล้วเอามาอยู่กับเธอและแม่อาโออิ
ที่เธอมาอยู่นี่ก็เพราะเพื่อนของเธอที่เรียนด้วยกันหายสาปสูญไปทีละคน เธอจึงมายังเมืองฟุยุกิเพื่อสืบเรื่องราวนั้น
ให้ว่ากันตามตรงแล้วเธอนั้นแทบไม่รู้รายละเอียดกับสงครามครั้งที่ 4 เลย รู้แค่ว่า ลุงคาริยะ พ่อโทคิโอมิ และแม่อาโออิตายในศึกนี้ แล้วมีเพียงคิเรย์รอดพ้นกับจอมเวทหอนาฬิกาเพียงแค่สองคนเท่านั้น
แต่กับฆาตกรคนนี้เหมือนเธอจะจำได้ แต่ไม่คิดว่าเกี่ยวข้องกับสงครามจอกครั้งนี้ด้วย ยิ่งดูร่างของเด็กที่แขวนบนเสาใหญ่แล้วก็ยิ่งหน้าซีด เพราะตอนนี้เธอจะใช้เวทมนต์ ก็ยังทำไม่ได้ เพราะถูกสวมกำไรสลักในการใช้วงจรเวทอยู่
" ไง หนูริน ไม่รู้หรอกนะว่าเธอทำอะไรที่เมืองนี้ในช่วงนี้นะ แต่การที่เจอเธอตอนนี้ถือว่าย่นเวลาการหาเลยล่ะ " เรียวโนะสึเกะเอ่ยขึ้นพลางลูบเส้นผมของเด็กสาว
รินถึงกับเบิกตากว้างตกใจ เธอกับชายคนนี้ไม่รู้จักกันเสียหน่อย แถมเจ้านี้มันรู้ชื่อได้ไงกัน
" อ่อจริงสิ เพราะอยู่ในร่างเด็กนี้เลยทำให้เธอนึกไม่ออกสินะ งั้นใช้สิ่งนี้ล่ะจะนึกออกมั้ย? " พูดจบเจ้าตัวเรียกฝูงแมลงออกมาแล้วกัดกินเหล่าเด็กๆที่ถูกแขวนจนกลายเป็นภาพสลดสยองจนตัวของรินหน้าซีดออกมา
ถ้าใช้แมลงได้ตามใจนึกขนาดนี้ มีคนเดียวที่เธอนึกออก
มาคิริ โซเคน!!!!
" เพราะพ่อของเธอแท้ๆเลย ทำให้ร่างกายข้าต้องเละเป็นเสี่ยงๆ ถึงจะหัวเสียที่บังอาจล้างบางทายาทของชั้นไม่เหลือสักคนเลย ข้าต้องให้เธอมาภาชนะมานาแทนตัวของซากุระเสียแล้ว "
วันแรกของสงคราม โซเคนที่สัมผัสถึงเซอร์แวนต์ที่มายังคฤหาสน์ของเขา แล้วถูกโฮกุของอาเชอร์หรือกิลกาเมชยิ่งกระหน่ำจนไม่ทันได้ตั้งตัวจนร่างกายที่เปลี่ยนเป็นแมลงก็ไม่เหลือชิ้นดี จนเหลือเพียงร่างต้นแบบของเขาที่หนีพ้นมาได้ คาริยะที่เสียท่าจนไม่อาจใช้งานเบอเซิกเกอร์ได้ทันก็โดนลูกหลงของการโจมตีไปด้วย
แต่มันโชคยังดีที่ตัวของโซเคนนั้นได้เจอร่างของชายฆาตกรที่อัญเชิญเซอร์แวนต์ เจ้าตัวก็ถือโอกาสยึดร่างมาเป็นของตัวเองเองซะเลย แล้วเผลอได้นิสัยการวาดศิลปะบนร่างมนุษย์มาด้วย เลยจึงลักพาตัวเด็กๆมาเพื่อเพิ่มพลังมานาที่ขาดหายไปแล้ว
แล้วโชคของเขายังเข้าข้าง มาเจอรินที่กำลังมาสืบคดีลักพาตัวเด็ก
" ถึงจะตกต่ำในสารรูปแบบนี้ แต่ก็มีประโยชน์อยู่ ต่อให้ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ แล้วยอมรับเลยว่าศิลปะไอ้หนูคนนี้น่าสนใจไม่น้อย ลักพาตัวเด็กเพื่อสร้างศิลปกรรมรูปแบบมนุษย์เป็นๆ ช่างเป็นการกระทำที่ไม่ได้ต่างกับจอมเวทเลยแม้แต่น้อย " โซเคนที่ควบคุมร่างของเรียวโนะสึเกะแสยะยิ้มชั่วร้ายออกมา " ได้เวลาเอาคืนแล้วล่ะ แม่หนูรินเอ๋ย "
รินถึงกับดิ้นร้นหลั่งน้ำตาออกมา ในสถานการณ์ตอนนี้เธอแทบไม่ต่างลูกไก่ในกำมือของชายตรงหน้า
ช่วยฉันด้วย อาเชอร์ เอมิยะคุง!!!
ตุ้ม!!!!!
เสียงระเบิดดังขึ้นจนทำให้ทั้งสองต้องชะงักลง
แล้วก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นจนนับไม่ถ้วนแล้วในที่สุดก็ระเบิดออกมาถึงจุดที่พวกเขาอยู่
แล้วมีลูกกระสุนปืนใหญ่ยิ่งใส่ร่างของชายหนุ่ม แต่เรียวโนะสึเกะใช้ฝูงแมลงมาป้องกันเอาไว้เสริมกับเวทเสริมความแข็งแกร่งของแคสเตอร์เลยไม่ให้มีความเสียหายที่เกิดขึ้นได้
เสียงฝีเท้าที่เดินมาแล้วหยุดลงเผยเห็นร่างหญิงสาวผมยาวถักเปียสีบลอนที่สวมชุดเจ็ตเกตสีดำสวมแว่นกันแดดทิ้งปืนบาซูก้าแล้วหยิบปืนลูกซ่องขึ้นมา แล้วหันมามองที่เด็กสาวที่ถูกมัดตัวอยู่
ภายนอกเหมือนหน้าตาคล้ายคลึงกับอาเธอเรีย เพนดราก้อน 6 ใน 10 แล้วเป็นใบหน้าที่จิลเดอเรย์รู้จักเป็นอย่างดี
ใบหน้าของหญิงสาว นักบุญสาวแห่งออร์เลอ็อง โจน ออฟ อาร์ค
ถ้าเป็นหนังไซไฟในยุคเก่า ที่เป็นเรื่องหุ่นยนต์ไซบอร์กข้ามกาลเวลาล่ะก็ คงใช้ประโยคคลาสสิคว่า
" I'll be back ( เดี๋ยวชั้นกลับมา ) " พูดจบมีเสียงเอฟเฟคเสียงระเบิดทิ้งท้ายจากด้านหลัง
ความคิดเห็น