คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : งานเลี้ยงราชา ดิ้นร้น
ไม่ว่าที่มาของสิ่งของเหล่านี้จะดูไร้คำพูดขนาดไหนแต่สุดท้ายพวกเธอสองคนก็ยังช่วยชินจิขนของไปวางไว้ในลานหลังปราสาทก่อนที่ชินจิจะลงมือกางโต็ะและเก้าอี้พับ จากนั้นจึงวางอาหารทั้งหลายเอาไว้บนโต๊ะ โดยให้เวเวอร์และไอริสฟิลนั่งกินร่วมกันด้วยในฐานะบริวาร ส่วนชินจิอยู่ในฐานะคนกลางเป็นพยานตัดสินใจว่าใครคู่ควรจอกศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งบอกเลยว่าตอนที่ได้ยินถึงกับแทบจะสะดุดล้มให้เห็น แต่ถูกสายตาคาดหวัง จิกกัด และกดดันของราชาทั้งสามจนเด็กหนุ่มไม่อาจปฏิเสธได้ลง
แน่นอนมีกันเหนียวไว้ก่อน จึงทำการสร้างอาณาเขตด้วยดาบอัญมณีเซลเรทช์เพื่อกันไม่ให้แอสซาสซินบุกเข้ามา ง่ายๆก็ปิดกั้นไม่ใหัใครออกด้วยเป็นอาณาเขตปิดกั้นโดยสมบูรณ์ ต้องใช้โฮกุระดับกองทัพหรือป้อมปราการก็พังแล้วล่ะ
แต่ก็นะเซอร์แวนต์ที่ทำได้มีเพียงดาร์นิกที่สิงร่างวลาดที่ 3 และเดียร์มุดที่หอกสลายเวทมนต์ได้อยู้ นอกนั้นก็อยู่ในงานเลี้ยงราชากันหมดตั้ง 4 ตน คงไม่มีใครโง่พอให้บุกโดยมีเซอร์แวนต์อยู่กันเยอะขนาดนี้
แล้วอาหารเหล่านี้ก็เป็นอาหารเป็นอาหารของญี่ปุ่นที่มาจากร้านชั้นนำที่หามาได้ รวมถึงอาหารของว่างของหวาน เครื่องดื่มพวกไวน์ที่หมักมาอย่างดีกว่าที่ตัวของอิสกันดาร์หามาเสียอีก
เช่นมี ข้าวหน้าหมูทอด ทงคัทสึ , อาหารชูชิ , มิน่ามิ โอยามะ อิจิตะ , ข้าวหน้าปลาไหล่ เป็นต้น
แล้วมีอาหารขยะ อย่างเช่น พิซซ่า แฮมเบอเกอร์ เฟรนฟรานส์ ไก่ทอด
เครื่องดื่มก็มี น้ำอัดลม แต่ไปเน้นทางด้านไวน์เสียมากกว่า เช่น Montes , Chateau Clerc Milob , Beaulieu Vibeyard , Penfolds , Robert Mondavi
แล้วของหวาน แก้วไอศครีม ขนมขบเคี้ยว ลูกอมต่างๆนาาๆ
เรียกว่าทั้งหมดนี้ถึงหรือเลยร้อยล้านเยนเลยก็ว่าได้
ขนาดเวเวอร์และไอริสฟิลที่ไม่เคยได้กินอะไรของหรูๆแบบนี้มาก่อนยังต้องอึ้ง คาดไม่ถึงว่าชินจิจะเอาของกินระดับเศรษฐีขโมยมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ดูสิ ลงทุนอย่างมากเลย
กิลกาเมชที่ทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยกับอาหารระดับต่ำบางจาน แต่เนื่องด้วยฝีปากที่พัฒนาขึ้นของชินจิกล่อมให้ราชาโคมไฟยอมรับ เนื่องด้วยเอาไวน์มาด้วย แถมเอาจำนวนมากกว่าอาหารของว่างเล็กน้อย
แล้วบ่นว่าเอามาเยอะขนาดนี้ใครจะไปกินหมดกัน
ชินจิก็ได้ยื่นมือไปทางอาเธอเรียที่เห็นอาหารจำนวนมากแววตาเป็นประกายยิ่งกว่าราชาอีกสองตนเสียอีก ถ้าหากกินไม่ไหวก็ให้ราชาอัศวินจัดการไป เพราะเนื่องด้วยกระเพาะของเธอทำมาจากหลุมดำกินยังไงไม่รู้จักอิ่ม
อาเธอเรียน้ำเริ่มไหลออกจากปากเล็กน้อยเป็นปฏิกิริยาที่ห้ามใจไว้ไม่อยู่
ชินจิเลยให้ทุกคนในงานเริ่มกินได้ เท่านั้นแหละอาเธอเรียกินเร็วกว่าชาวบ้านราวกับเครื่องดูดฝุ่นแต่ไม่ได้กินเร็วเกินไป เธอค่อยๆลิ้มลองรสชาติอย่างมีความสุข
โมคคิวๆๆๆๆๆ~~~~~เสียงเคี้ยวอาหารของอาเธอเรียกับท่าทีมีความสุขแบบนั้นมันทำเอาตัวของชินจิและไอริสฟิลหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู
อิสกันดาร์เองก็หยิบพิซซ่ามากินอย่างเอร็ดอร่อย มันทำให้เหลือเพียงกิลกาเมชที่ทำหน้าไม่อยากจะกินเลยต้องกินอย่างช่วยไม่ได้
" หืม~~~อาหารของยุคสมันนี้ถือว่าแปลกใหม่ดี "
" หากพวกท่านพอใจ ผมก็โล่งใจครับ " ชินจิถอนหายใจอย่างโล่งอก ถือว่ารับประกันได้ว่าจะถูกเฮียแกฆ่าที่นี่แล้วล่ะ
" แต่ว่าถ้าเกิดของแบบนี้เยอะๆก็ไม่ดีร่อร่างกายเท่าไหร่นะ " อาเธอเรียกล่าวในขณะที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆที่มือถือแฮมเบอเกอร์ราวกับน้องกระรอกน้อย
แต่ดูคุณเธอพอใจมากกว่าใครๆในงานเลี้ยงนี้เสียอีกนะ ชินจิบ่นอย่างเอ็นดูอาเธอเรีย
อีกอย่างร่างเจ๊อัลเตอร์กินของแบบนี้โครตประจำ เขาว่าเจ๊น่ะไม่มีสิทธิ์บ่นอะไรแบบนั้นหรอก แต่คงไม่ได้ล่ะนะ
" จริงอยู่อยู่ว่าอาหารบางอันที่มีไขมันสูงกินมากๆไม่ดีต่อร่างกาย แต่ผมว่ามันไม่มีปัญหากับเซอร์แวนต์อย่างพวกคุณหรอกจริงมั้ย? " พูดจบชินจิกินข้าวหน้าหมูทอดไป
ในระหว่างที่กินอาหารอยู่ ราชาทั้งสามไม่ได้พูดอะไรอีก ส่วนคนที่เหลือทั้งสามนั่งกิน ช่วยกินอาหารหลักให้หมด แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นอาเธอเรียเสียมากกว่าที่กินเยอะที่สุด ทำให้หลังจากราวๆ 10 นาที บนโต๊ะก็เหลิอเพียงขนมขบเขี้ยว ของหวานและไวน์ที่เตรียมมาเท่านั้น
" เอิ้ก~~" อิสกันดาร์เรอออกมาเนื่องจากกินน้ำอัดลมเยอะเกินไปหน่อย " ข้าไม่นึกเลยว่าอาหารในยุคนี้จะอร่อยขนาดนี้นะเนี่ย มาสเตอร์ คราวหลังพวกเราไปกินที่ร้านกันเลยไหม? "
" จะบ้าหรือไงกันเล่า อาหารพวกนี้แพงเกินไปที่ฉันจะจ่ายไหวนะ! " เวเวอร์โวยวายแม้ว่าจะดีใจที่ได้กินของหรูอะไรแบบนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก แต่หากนับราคาที่แต่ละจานมานี้คือต้องถอนหายใจออกมาเบย
" หยาบคายเสียจริง " กิลกาเมชขมวดคิ้ว หากเป็นคนทั่วไปป่านนี้คงเปิดคลังสมบัติแล้วยิงใส่อีกฝ่ายไปแล้ว แต่ว่าเนื่องด้วยอิสกันดาร์คือชายที่เขายอมรับในระดับหนึ่งหลังจากเจอกันสองสามครั้งที่ผ่านมาแล้วรู้ถึงตำนานของเขาด้วย เลยจึงมีความอดทาให้กับคนประเภทนี้เป็นพิเศษ " แต่ก็จริงตามที่เจ้าพันธุ์ทางนี่ว่ามา อาหารในคราวนี้ที่เจ้าเตรียมมาทำให้ข้าพึงพอใจอย่างมาก เจ้าตัวตลก ทีนี้ข้าก็สมตสรแก่ให้รางวัลแด่เจ้าเสียหน่อย "
หลังจากนั้นอากาศด้านหลังของกิลกาเมชก็เปร่งแสงสีทองออกมาพร้อมกับกระเพื่อมน้อยไ ซึ่งทำให้เมื่อทุกคนเห็นแบบนี้ก็อดเกร็งร่างกายไม่ได้ เพราะนี่คือวิธีโนมตีของกิลกาเมชชัดๆ
ทว่าสิ่งที่ออกมาจากประตูคลังสมบัติไม่ใช่อาวุธแบบปกติ ทว่าเป็นหมวกสีดำใบหนึ่งและขวดยาที่ภายน้ำเป็นสีฟ้าเปร่งประกายออกมา
" จงรับไปซะ เจ้าตัวตลกถือว่าเป็นของรางวังสำหรับความบันเทิงในช่วงเวลาที่ผ่านมาและก็สำหรับอาหารในงานเลี้ยงครั้งนี้ "
" ขะ ขอบคุณมากครับ " ชินจิรับหมวกและขวดยาด้วนสีหน้าคาดไม่ถึงปนยินดี ของจากคลังสมบัติของกิลกาเมชไม่ว่ายังไงก็ต้องเป็นโฮกุหรือสมบัติจากในเทพนิยาย ได้มาตั้งสองชิ้นเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขาเป็นอย่างมาก
แต่ว่ามีอันนึงที่เขาตกตะลึงยิ่งกว่าคือ ยาที่กิลกาเมชให้มาก็คือยาย้อนเยาว์วัยในตำนานสมัยของเฮียแกเลยไม่ใช่เหรอ?
" เออ...ฝ่าบาทให้ผิดอันหรือเปล่าครับ? " ชินจิเอ่ยขึ้นเพื่อชูสิ่งที่เขาไม่แน่ใจว่าควรได้รับมั้ย นั้นคือขวดยาย้อนเยาว์วัย
" ไม่ผิดหรอก เพราะว่าข้าเกิดสนใจขึ้นมาน่ะ ตัวของเจ้านำสิ่งที่ต่างๆที่น่าสนใจเข้ามาตลอดเวลา มันทำให้ข้าเพลิดเพลินกับกระทำที่มีเจ้าเป็นศูนย์กลางของมัน อีกอย่างข้ารู้ด้วยว่าสถานะของเจ้าในตอนนี้ใกล้จะตายเต็มที่แล้วไม่ใช่เหรอ? " กิลกาเมชแสยะยิ้มออกมากับท่าทีของชินจิ
ทุกคนที่ได้ยินก็พากันมีสีหน้าตกตะลึงกัน
" รู้ด้วยสินะครับ ร่างกายของผมน่ะ..."
" ย่อมรู้อยู่แล้วสิ เจ้าที่ใช้พลังของเซอร์แวนต์ตลอดมา 2 วันในสงคราม ยิ่งใช้พลังของหมาบ้านั้นมากเท่าไหร่ ร่างกายของเจ้าก็ยิ่งตายไวขึ้นเท่านั้น " กิลกาเมชรู้สถานะของชินจิที่ใช้พลังของวีรชนอยู่แล้วรู้ด้วยว่าคงอยู่ได้ไม่ถึงจบสงครามจอกแน่นอน
" งั้นที่ให้สิ่งนี้มาเพื่อให้ผมรอดไปอีกนิดและกลายเป็นสื่อนำอัญเชิญของท่านในอนาคตสินะครับ " ชินจิเอ่ยยิ้มเศร้าออกมา
การได้รับสิ่งที่เป็นตัวแทนของกิลกาเมชอย่างน้ำยาที่มาจากน้ำพุอมตะในตำนานของเขา หากเทียบกับหมวกฮาเดสแล้ว สิ่งนี้คือสื่อนำอัญเชิญในระดับเดียวซากศพงูที่กินยาเยาว์วัยไว้สำหรับอัญเชิญกิลกาเมชในครั้งนี้เลย
ข้อดีคือมันมีพลังในการฟื้นฟูร่างกายที่เสียหายจากการใช้พลังของแลนสล็อตให้หายดี ตัวของเขาจะได้กลายเป็นตัวตนที่ไม่มีวันแก่ชราตามกาลเวลา แต่ในทางกลับกันเขาก็จะกลายเป็นโชตะอายุ 7 ขวบไปตลอดชาตินั้นเอง
ข้อเสียใหญ่หลวงคงเป็นเรื่องอยู่ในร่างวัยเยาว์ไปตลอดชาติ แล้วไม่ได้เป็นอมตะซะทีเดียว หากโดนโฮกุของคิงฮัสซันก็คือตายได้เหมือนกันนะ และไม่อาจต้านพลังระดับต่อต้านป้อมปราการและโลกได้หรอก ถึงจะไม่ตายทันที แต่ความเสียหายที่ได้รับก็ไม่อยากจะจินตนาการเลยสักนิด
ที่ร้ายแรงสุดเลยคือจะโดนยมทูตสีแดงฆ่าเนี่ยล่ะ!!
แต่ชินจิก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดแล้ว ถึงพักไปสองวันอาการยังไม่ดีขึ้นตามที่ควรเลย
อีกอย่างมันจุดอ่อนใหญ่หลวงเลยก็คือมันไม่ได้ช่วยรักษาต้นเหตุอย่างดวงวิญญาณวีรชนที่กำลังผสมกับวิญญาณของเขาที่จะแตกพังเมื่อไหร่ไม่รู้
หมายความว่าต่อให้รักษาแผลได้แต่รักษาต้นกำเนิดวิญญาณของเขาได้นั่นเอง
" ข้าไม่ได้บอกแบบนั้น อย่างที่เจ้ารู้นั่นแหละ ยานั่นน่ะรักษาแค่เฉพาะร่างกายที่เสียหายจากพลังของหมาบ้าเท่านั้น แต่ไม่อาจลบล้างต้นเหตุอย่างวิญญาณวีรชนได้หรอก จะมีก็เพียงแค่ผลข้างเคียงนอกจากเป็นเด็กไปตลอดกาล ก็คือเจ้าต้องรับความเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมที่ใช้พลังนั้น จนคิดว่าตายไปซะยังดีซะกว่าเลย " กิลกาเมชนั้นยังประหลาดใจเลยว่าชินจิยังมีอาการที่เฉยๆอยู่เลยได้อีก เห็นได้ชัดในดวงวิญญาณเลยว่ามันกำลังกรีดร้องจนเขาต้องชมเชยเลย
แถมยังเป็นเด็กอายุเพียง 7 ขวบ มันทำให้เขาเกิดสนใจขึ้นมาว่าชินจิจะแสดงอะไรให้เขาได้เห็นอีก
" ดูเล็กน้อยจังนะครับ " ชินจิยิ้มขมขื่น
" ฮ่าๆๆๆๆ เล็กน้อยอย่างงั้นเหรอ เจ้าเนี่ยมันช่างน่าสนใจจริงๆ เจ้าตัวตลก " กิลกาเมชถึงกับหัวเราะชอบใจกับท่าทีของชินจิตอบออกมาได้เหมือนเป็นเรื่องปกติ ผิดกับคนอื่นที่หน้าซีดเลยอย่างไอริสฟิลกับเวเวอร์
ราชาทั้งสามนับว่าแปลกแล้ว แต่ชินจิแปลกยิ่งกว่าอีก คนปกติไม่มีทางทนพลังของวีรชนได้ไหว แต่ชินจิกลับบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย บ่งบอกได้เลยว่าจิตใจของชินจิไม่ปกติ
ชินจิที่เห็นว่ากิลกาเมชเห็นชอบแล้วก็ดื่มเข้าไป แต่ทว่ากลับมีอาการทันทีที่ดื่มเข้าไป จนร่างจำแลงของนาตาเลียสั่นคลอนแปรเปลี่ยนคนอื่นไปมาแล้วถึงกับทรุดกับพื้นจนไม่อาจประคองพลังโฮกุของแลนสล็อตได้เลย จนได้เผยร่างที่แท้จริงของตัวเองที่เป็นเพียงร่างเด็กชายอายุ 7 ขวบ ที่โผล่วงจรเวทตามตัวไปสีฟ้าทั่วตัว
ถ้าหากร่างกายที่ยังคงสมบูรณ์ล่ะก็คงไม่มีอาการเช่นนี้หรอก แต่ทว่ากับร่างกายของชินจินี้มันไม่ใช่แบบนั้น 70 เปอร์เซ็นร่างกายของชินจิตอนนี้แทบจะกลายเป็นเซอร์แวนต์ไม่สมบูรณ์ไปกว่าครึ่งแล้ว อาเธอเรียที่เป็นคนห่วงใยชินจิที่สุดจึงรีบมาดูอาการพร้อมกับไอริสฟิล แม้ว่าจะตกใจร่างจริงจะเป็นแค่เด็ก แต่ว่าหากเขาจะตายเพราะพลังรักษามันยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม
" เจ้าเกราะเงาวับ นี่เจ้าให้ยาพิษไปเหรอ? " อิสกันดาร์เหลือบมองที่กิลกาเมช
" ที่เห็นว่าข้าเป็นคนเช่นนั้นเหรอ เจ้าพันธุ์ทาง ที่เจ้าตัวตลกเป็นได้ขนาดนั้นก็แปลว่าพลังของหมาบ้ามันลามไปทั้งตัวแบบนั้น หากเป็นคนที่สภาพสมบูรณ์ไม่มีทางแสดงท่าทีแบบนี้หรอก " กิลกาเมชเองก็ประหลาดใจไม่น้อย ที่ผลยารักษาอมตะจะเล่นกับคนสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายกับชินจิได้ขนาดนี้ " มิน่าล่ะถึงได้ต้องการปลอกดาบของเซเบอร์ "
ที่ชินจิอยู่ได้จนถึงตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ตราบัญชากำกับเอาไว้เท่านั้น แต่ปลอกดาบที่ช่วยรักษาร่างกายที่กำลังจะพังทลายลงช้าๆของเด็กหนุ่มให้ปรับตัวกับพลังของแลนสล็อต
ชินจิกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานราวกับกำลังฉีกเนื้อหนังของตัวเองทั้งเป็น ก่อนที่เขาจะเริ่มทนไม่ไหวเขาได้ใช้เวทบางอย่างทำให้อาการของเขาค่อยๆบรรเทาลงจนเริ่มอยู่กับที่ หลังจากดิ้นตัวไปมากอย่างทรมาน
" เจ้าเป็นอะไรมั้ย?! " อาเธอเรียขยับหน้าให้เห็นใบหน้าจริงของเด็กหนุ่มยังต้องเบิกตากว้าง
เนื่องจากดวงตาสีน้ำเงินได้แปรเปลี่ยนไปจากเดิม ที่นัยน์ตาการมองเห็นมีประกายสีขาวในนัยน์ตาราวกับอัญมณีอยู่ภายใน
ส่วนทางด้านชินจิเองก็เห็นเส้นสีแดงตามตัวของอาเธอเรียและไอริสฟิลในช่วงเวลานึงก่อนนัยน์ตานั้นจะหายไปทำให้การมองเห็นของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม
"...เปลี่ยนใจจะตายตอนนี้ จะทันมั้ยครับ? " ชินจิเอ่ยขึ้นด้วยความอ่อนเพลียอย่างมากและติดตลก
" แน่นอนว่า ข้าไม่อนุญาตให้ตายโง่ๆๆเช่นนั้นหรอก เจ้าตัวตลก " กิลกาเมชแสยะยิ้มอย่างประทับใจมากที่เด็กคนนี้ทนความเจ็บปวดจนไม่ขาดสติและตายลงไป นับว่าเกินคาดสำหรับเขามากแล้ว
" ....เฮ้อนึกไม่ถึงว่าจะปลดกระทั้งโฮกุของแลนสล็อตด้วย แล้วความแตกในตอนนี้นะเนี่ย " ชินจิค่อยๆลุกขึ้นแต่ทรุดลงแต่ถูกไอริสฟิลประคองเอาไว้
" ไม่เป็นไรแล้วครับ..." ชินจิยิ้มอ่อนล้าออกมาก่อนร่างกายของเจ้าตัวค่อยๆกลับมาร่างเป็นของนาตาเลียอีกครั้ง " ขอโทษทีที่ต้องให้เสียเวลาเพราะผมน่ะ "
" ข้าไม่ว่าหรอก แต่ไหนๆก็เผยตัวจริงแล้วเปิดอกคุยกันจริงๆเสียทีไงล่ะ ข้าไม่ถือเรื่องที่เจ้าเป็นเด็กหรอก " อิสกันดาร์ได้ยอมรับตัวของชินจิในฐานะนักรบคนนึงแล้ว แม้ว่าร่างกายจะไม่พร้อม แต่จิตใจของเด็กคนนี้ไม่ต่างกับนักรบชั้นยอดที่น้อยครั้งที่มีให้เห็นในยุคสมัสปัจจุบัน
" ไอริสฟิล "
" ได้จ้ะ " ไอริสฟิลยิ้มขึ้นมาอย่างเต็มใจก่อนอุ้มร่างที่ไม่เสถียรของชินจิจนปลดโฮกุไป แล้วอยู่ในอ้อมกอดของเธอแล้วมานั่งบนตักแล้วใช้เวทรักษากับชินจิอย่างเต็มใจโดยไม่ต้องบอกกล่าวอะไรเพิ่มเติม
ชินจิที่ได้รับการรักษามาทำให้สีหน้าของเขาผ่อนคลายลงแล้วนอนพิงหน้าอกของหญิงสาว
ไอริสฟิลที่ค่อนข้างเอ็นดูเด็กรุ่นเดียวกับอิลิยา แม้ว่าจะเป็นศัตรูกัน แต่เด็กคนนี้ไม่ได้หมายชีวิตเธอตอนที่ท่าเรือ แม้จะโกรธเรื่องที่เด็กคนนี้สร้างวีรกรรมให้กับสามีของเธอ
แต่ยังไงชินจิก็ยังเด็กอยู่ แถมรู้ด้วยว่าตระกูลมาโต้ตอนนี้ก็ตายไปจนหมดแล้ว ถึงจะช่วงสั้นๆที่ปลดโฮกุ แต่เธอรู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้คือทายาทคนสุดท้ายในตระกูลมาโต้ที่รอดจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์
ในระหว่างที่ชินจิพักผ่อนอยู่นั้นเขาได้แต่สงสัยจริงๆว่าเมื่อกี้มันคืออะไร แต่ตอนนี้ถามไปก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้เขาล้าเต็มที่แล้วจนเริ่มประคองสติไม่ไหวเผลอหลับไปทั้งๆที่แบบนั้นโดยไม่รู้ตัว
ไอริสฟิลที่รับรู้ลมหายใจของเด็กหนุ่มก็ลูบหัวอย่างเอ็นดูปล่อยเด็กคนนี้พักผ่อนบ้างกับการฟื้นฟูจิตใจบ้างก็ยังดี
" แล้วแบบนี้พยานตัดสินไม่ได้แล้วสิ " อิสกันดาร์ยิ้มอย่างอิจฉาที่ชินจินอนหนุนหน้าอกของสาวสวยอย่างไอริสฟิล
" ไม่ใช่ปัญหา เพราะต่อให้พวกเจ้าพูดจบเจ้าตัวตลกนี้ก็รับรู้เรื่องอยู่ดี " กิลกาเมชที่รู้ว่าชินจิมีความทรงจำอนาคตอยู่ มันน่าจะรวมถึงงานเลี้ยงราชาแน่นอน และเห็นแก่การดิ้นร้นของเด็กหนุ่มเขาจะไม่ถือสาอะไร
" งั้นเหรอ งั้นมาเริ่มเปิดงานเลี้ยงวาจาของราชากันเถอะ "
" ได้ " อาเธอเรียที่ยิ้มโล่งอกที่ชินจิไม่เป็นอะไรมากนักแล้วแล้วกลับมาสีหน้าจริงจังในการงานเลี้ยงราชา
สงครามวาทะคำถามศักดิ์สิทธิ์ เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ความคิดเห็น