ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : งานเลี้ยงราชา ปฐมบท
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้แยกย้ายใช้ชีวืตตามปกติในช่วงพักรบสงคราม แล้วถึงตกกลางคืนก็ถึงเวลานัดเริ่มงานเลี้ยง อิสกันดาร์ที่ว่างนัดจนนั่งเล่นเกมกับเวเวอร์แบบข้ามวันย้ามคืนในช่วงไม่กี่วีนที่ผ่านมารีบออกนากที่พักและมุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดหมายอย่างอดานทนไม่ไหวสองวันเต็ม ขัวรถศึกของตัวเองไปยังปราสาทตระกูลไอน์เบิร์น ชนต้นไม้ในป่าหักโค่นเป็นทาง
" เซเบอร์เอ๋ย!! มีศัตรูบุกฝ่าป่าเข้ามาแล้ว " อิสกันดาร์ไม่ปิดบัง และไม่คิดจะปิดบังการมาของตัวเองและทำให้ไอริสฟิลสัมผัสถึงผู้บุกรุกได้อย่างชัดเจน
" ระหว่างด้วย ไอริฟิล ระหว่างที่สู้ข้าอาจจะดูแลลเจ้าได้ไม่ดีเท่าไหร่เหมือนกัน " อาเธอเรียพูดด้วยสีหน้าจริงจังในขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่าง จากตรงนี้เธอมองเห็นสายฟ้าที่แล่นแปลบปลายออกมาจากที่ไกลๆ บ่งบอกตัวตรของผู้บุกรุกได้ทันทีในศึกนี้
ไรเดอร์คือคลาสที่ขับภาหนะที่เร็วที่สุดในหมู่เซอร์แวนต์ เธอกับไอริสฟิลจึงไม่มีทางหนีเร็วกว่าอีกฝ่ายได้ ดังนั่นปักหลักสู้ที่นี่ล่ะดีสุดแล้ว
อาเธอเรียที่มีท่าเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยไ จนเมื่อประตูได้ถูกชนจนแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้ย เธอก็เงื้อดาบขึ้นเตรียมเข้าไปฟาดฟันกับศัตรู ทว่าเธอก็ต้องชะงักไกเมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่ายที่มาในชุดลำลองที่ไม่ใช่ชุดของเซอร์แวนต์แบบปกติ พร้อมกับนางสนม แค่กๆๆ มาสเตอร์ที่ดีและยืนอยู่ด้านหลังไม่ต่างจากเดิม ดูแล้วน่าจะมาเดินเล่นมากกว่าสู้แบบเป็นตายกับเซอร์แวนต์
" เจ้ามีธุระอะไร ไรเดอร์? " เนื่องจากอิสกันดาร์เป็นวีรชนที่น่าเชื่อถือได้ในระดับนึงเธอจึงลดดาบเล็กน้อย
" ฮ่าๆ ไม่ต้องตื่นตัวไปหรอก เซเบอร์ คราวนี้ข้าไม่ได้มาเพื่อสู้หรอก " อิสกันดาร์หัวเราะ จากนั้นยกถังไวน์ที่ได้จากข้อมูลของชินจิไปซื้อมาเอาไว้บนไหล่บ่า " สนใจดื่มกันหน่อยมั้ย? และจะคุยเกี่ยวกับจอกศักดิ์สิทธิ์ด้วย "
" เซเบอร์ เอายังไงดี? " ไอริสฟิลกระซิบหญิงสาวผมบลอนทองเบาๆ เธอไม่สามารถเข้าใจอินกันดาร์ด้วยความคิดปกติได้
เอาจริงๆไม่ว่าใครก็คาดเดาเฮียแกไม่ได้อยู่แล้วก็เถอะ
" ไอริสฟิล นี่ไม่ใช่การพูดคุยปกติ แต่เป็นการเจราจกันระหว่างราชา เป็นสงครามทางคำพูด ถ้าหากว่าไม่ระวังพวกเราอาจจะตกเป็นผ่ายพ่ายแพ้ได้ "
ณ ภายในสวนใจกลางปราสาท
" ได้ยินมาว่า จอกศักดิ์สิทธิ์ถูกกำหนดให้ตกอยู่ในมือของผู้ที่เหมาะสม และพิธีกรรมที่จะคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกับมัน ก็คือการต่อสู้ที่เมืองฟุยุกิแห่งนี้ " พูดจบอิสกันดาร์ก็ดื่มเหล้าที่เอามา
" แต่ถ้าแค่เลือกตามคุณสมบัติกัน ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กันถึงตาย ตราบใดที่วีรชนเห็นด้วยกับคุณสมบัติของแต่ละคน ก็ต้องได้คำตอบอย่างแน่นอน "
พูดจบอิสกันดาร์ตักเหล้าให้แก่อาเธอเรียในชุดสูทในยุคสมัยนี้โดยไม่ได้มีอาการเมาเลยแม้แต่น้อย แถมการที่ได้รับดื่มเหล้าของอีกฝ่ายถือว่าเป็นการรับคำท้าของราขาด้วยกัน
" ก็แปลว่าข้าต้องมาเปรียบเทียบด้วยสินะ ว่าใครมีคุณสมบันิมากกว่ากันไรเดอร์? " อาเธอเรีย
" ถูกต้อง ถ้าหากต่างฝ่ายต่างเรียกตัวเองว่า 'ราชา' ก็ไม่มีเหตุผลที่นะประนีประนอม มันจะกลายเป็นว่าไม่ใช่ สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นสงครามวาทะคำถามศักดิ์สิทธิ์ ว่าใครกันที่จะเหมาะสมกับราชาแห่งจอกศักดิ์สิทธิ์มากกว่ากัน " อิสกันดาร์
" ซี่งมันจะเห็นความแตกต่างได้ชัด เวลาถามตอบในวงเหล้า "
" เลิกเล่นสนุกแค่นั้นแหละ...พวกพันธุ์ทาง " กิลกาเมชที่โผล่มาในชุดลำลองของยุคสมันนี้เช่นกันเป็นเสื้อเชิ้ตสีกรมท่ากางเกงสแล็คสีขาวที่มีกำไรข้อมือสมัยอุรุคใส่กันอยู่
" อาเชอร์ ทำไมถึงมาที่นี่กัน? "
" ก็นะ แบบว่าไปเจอหมอนี่อยู่ในเมืองพอดีเลยชวนมาน่ะสิ จริงๆว่าจะชวนราชาจอมเสียบอยู่หรอก แต่จากที่ได้เห็นเมื่อวานคงอยู่สภาพที่มาคุยไม่ได้ล่ะนะ " อิสกันดาร์ตอบคำถามให้ก่อนหันมามองที่กิลกาเมช " มาช้าจังเลยนะ เจ้าเกราะเงาวับ ก็นะเจ้าต้องเดินมาก็คงช่วยไม่ได้"
" ไม่คิดเลยว่าจะเลือกสถานที่ธรรมดาๆ แบบนี้มาเป็นที่คุยของราชา มันเสียมารยาทกับข้ามากนะที่อุตสาห์ลงทุนมาที่แห่งนี้ด้วยฝีเท้าของข้ากัน พวกพันธุ์ทาง " กิลกาเมชจ้องมองที่เวเวอร์และไอริสฟิลด้วยสีหน้าไม่พอใจ
" อย่าพูดแบบนี้สิ เอ้า! ดื่มให้เต็มที่ "
" เจ้าโง่ ไม่คิดจะรอเจ้าตัวตลกก่อนหรือไง ถึงจะเป็นพันธุ์ทางก็ควรรู้จักมารยาทพื้นฐานบ้างสิ เจ้าพันธุ์ทาง " กิลกาเมชรับเหล้ามาแล้วดื่มด้วยสีหน้าไม่พอใจกับเหล้าที่อิสกันดาร์เตรียมมาก่อนนั่งข้างๆ
" โอ้จริงด้วย ข้าให้เจ้านั้นเตรียมมานี่นา " อิสกันดาร์เอ่ยขึ้นอย่างนึกขึ้น " ข้าว่าจะให้มาสเตอร์ของเบอเซิกเกอร์เป็นคนตัดสินพอดีเลย ว่าใครเป็นคนที่ควรต่อจอกศักดิ์สิทธิ์ มีปัญหาอะไรมั้ย? "
" ไม่มีปัญหา แถมเลือกได้ถูกคนดีหนิ เจ้าพันธุ์ทาง " กิลกาเมชมองตัวของชายหนุ่มร่างใหญ่อย่างไม่พอใจที่มาใช้งานบริวารของเขาตามใจชอบ แต่ถึงอีกฝ่ายไม่บอก เขาก็คงไปหาชินจิแล้วบอกด้วยตัวเองอยู่ดี
" ข้าเองก็ไม่มีปัญหาหรอก " อาเธอเรีย
หากให้เทียบกับคนอื่นๆแล้ว ชินจิดูเป็นคนที่ตัดสินด้วยเหตุและผลแล้วรู้จักเหล่าวีรชนมากที่สุดในศึกครั้งนี้ด้วย แถมมีแลนสล็อตอยู่ในตัวด้วย จึงไม่คัดค้านอะไร
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเครื่องยนต์ที่ใกล้เข้ามา ทำให้ชายหนุ่มผมบลอนทองยิ้มด้วยความพอใจ " ดูสิ พูดไม่ทันขาดคำก็มาแล้ว "
ในฐานะเจ้าบ้านที่ถูกมองข้าม ไอริสฟิลกับอาเธอเรียหันไปมองหน้ากันเอง พวกเธอควรจะออกไปต้อนรับมาสเตอร์เบอเซิกเกอร์ด้วยตัวเองเพื่อแสดงความใจกว้างและป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเล่นตุกติก เมื่อมาถึงหน้าปราสาทก็ร่างหญิงสาวผมสั้นสีเงินนัยน์ตาสีน้ำเงินในชุดเดิมที่เคยเจอกันในศึกคราวก่อนขับรถกระบะมา
ไอริสฟิลที่เห็นร่างนั้นมาก่อนแล้วก็จำได้เป็นอย่างดี แถมได้ข้อมูลจากสามีของเธอว่า อีกฝ่ายเป็นเบอเซิกเกอร์ที่ปลอมตัวเป็นคนอื่นได้ และดันมาปลอมเป็นแม่บุญธรรมของเขาสมัยที่พึ่งเข้าวงการนักฆ่าจอมเวทนั่นเอง
ด้านหลังบรรทุกไปด้วยของต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นอาหารหรืออุปกรณ์ปิคนิก
" ไงครับราชาอัศวินและพี่สาว พวกคุณช่วยช่วยผมขนของหน่อยสิ " ชินจิในร่างนาตาเลียเอ่ยขึ้น
" เออ....เข้าใจแล้วจ้ะ " ไอริสฟิลพยักหน้าแข็งๆ ถ้าเป็นเวลาปกติเธอจะหัวเสียกับคำพูดของชินจิ ทว่าภาพตรงหน้าดูแปลกใจเสียตนสมองของเธอทำงานไม่เต็มที่และเดินช่วยขนของแต่โดยดี ตามมาด้วยเซเบอร์ที่มีสีหน้าที่ปั้นยาก
" ....เจ้าไม่อยู่ร่างเซอร์แลนสล็อตเหรอ? " อาเธอเรียถามอย่างอดไม่ได้ขึ้นมา
" ผมไม่ใช่เขาสักหน่อย...อีกอย่างการแปลงร่างวีรชนมันไม่ได้ใช้งานแบบฟรีสักหน่อยหนิ " ชินจิเองก็ใช่ว่าไม่อยากนะ แต่ว่าตอนนี้ร่างกายของเขายังฟื้นตัวไม่เต็มที่เลย แล้วต้องมาเสียเวลาจัดเตรียมอาหารให้พวกนี้ตั้ง 2 วันเต็มทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องทำแท้ๆ
แถมตอนนี้ชินจิใช้โฮกุFor Someone's Glory จนชำนาญแล้วจึงไม่จำเป็นต้องใช้ตราบัญชาในการแปลงร่างบ่อยๆ แค่สองครั้งก็เล่นร่างกายของเขาซะโทรมเลย
" มาสเตอร์ของเบอเซิกเกอร์ รถของเธอดูใหม่มากเลย เหมือนกับว่าเพิ่งซิ้อมาวันนี้เอง " ไอริสฟิลที่เสพรถแข่งหลังจากคิริสึงุสอนขับมองรถด้วยความสนใจ
" แหงล่ะ ผมเพิ่งไปขโมยมาเมื่อ 4 ชั่วโมงก่อนเอง ไม่งั้นจะขนของพวกนี้มาได้เหรอครับ " ชินจิตอบออกมาไร้ความรู้สึกผิดแต่อย่างใด
" งั้นของพวกนี้ก็..." ไอริสฟิลรู้สึกว่าของต่างๆที่เธอถืออยู่นั้นดูหนักอึ้งมาในทันที
" ครับ คิดว่าผมมีปัญญาไปซื้อของทั้งหมดภายในสองวันนี้ในระหว่างสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ? "
คนๆนี้มันพวกนอกกฏหมายชัดๆ!
หากชินจิได้ยินสิ่งที่พวกเธอคิดอยู่ล่ะก็ คงตอบว่า ถ้าบ่นมากก็ไม่ต้องกินก็ได้นะ
" เซเบอร์เอ๋ย!! มีศัตรูบุกฝ่าป่าเข้ามาแล้ว " อิสกันดาร์ไม่ปิดบัง และไม่คิดจะปิดบังการมาของตัวเองและทำให้ไอริสฟิลสัมผัสถึงผู้บุกรุกได้อย่างชัดเจน
" ระหว่างด้วย ไอริฟิล ระหว่างที่สู้ข้าอาจจะดูแลลเจ้าได้ไม่ดีเท่าไหร่เหมือนกัน " อาเธอเรียพูดด้วยสีหน้าจริงจังในขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่าง จากตรงนี้เธอมองเห็นสายฟ้าที่แล่นแปลบปลายออกมาจากที่ไกลๆ บ่งบอกตัวตรของผู้บุกรุกได้ทันทีในศึกนี้
ไรเดอร์คือคลาสที่ขับภาหนะที่เร็วที่สุดในหมู่เซอร์แวนต์ เธอกับไอริสฟิลจึงไม่มีทางหนีเร็วกว่าอีกฝ่ายได้ ดังนั่นปักหลักสู้ที่นี่ล่ะดีสุดแล้ว
อาเธอเรียที่มีท่าเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยไ จนเมื่อประตูได้ถูกชนจนแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้ย เธอก็เงื้อดาบขึ้นเตรียมเข้าไปฟาดฟันกับศัตรู ทว่าเธอก็ต้องชะงักไกเมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่ายที่มาในชุดลำลองที่ไม่ใช่ชุดของเซอร์แวนต์แบบปกติ พร้อมกับนางสนม แค่กๆๆ มาสเตอร์ที่ดีและยืนอยู่ด้านหลังไม่ต่างจากเดิม ดูแล้วน่าจะมาเดินเล่นมากกว่าสู้แบบเป็นตายกับเซอร์แวนต์
" เจ้ามีธุระอะไร ไรเดอร์? " เนื่องจากอิสกันดาร์เป็นวีรชนที่น่าเชื่อถือได้ในระดับนึงเธอจึงลดดาบเล็กน้อย
" ฮ่าๆ ไม่ต้องตื่นตัวไปหรอก เซเบอร์ คราวนี้ข้าไม่ได้มาเพื่อสู้หรอก " อิสกันดาร์หัวเราะ จากนั้นยกถังไวน์ที่ได้จากข้อมูลของชินจิไปซื้อมาเอาไว้บนไหล่บ่า " สนใจดื่มกันหน่อยมั้ย? และจะคุยเกี่ยวกับจอกศักดิ์สิทธิ์ด้วย "
" เซเบอร์ เอายังไงดี? " ไอริสฟิลกระซิบหญิงสาวผมบลอนทองเบาๆ เธอไม่สามารถเข้าใจอินกันดาร์ด้วยความคิดปกติได้
เอาจริงๆไม่ว่าใครก็คาดเดาเฮียแกไม่ได้อยู่แล้วก็เถอะ
" ไอริสฟิล นี่ไม่ใช่การพูดคุยปกติ แต่เป็นการเจราจกันระหว่างราชา เป็นสงครามทางคำพูด ถ้าหากว่าไม่ระวังพวกเราอาจจะตกเป็นผ่ายพ่ายแพ้ได้ "
ณ ภายในสวนใจกลางปราสาท
" ได้ยินมาว่า จอกศักดิ์สิทธิ์ถูกกำหนดให้ตกอยู่ในมือของผู้ที่เหมาะสม และพิธีกรรมที่จะคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกับมัน ก็คือการต่อสู้ที่เมืองฟุยุกิแห่งนี้ " พูดจบอิสกันดาร์ก็ดื่มเหล้าที่เอามา
" แต่ถ้าแค่เลือกตามคุณสมบัติกัน ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กันถึงตาย ตราบใดที่วีรชนเห็นด้วยกับคุณสมบัติของแต่ละคน ก็ต้องได้คำตอบอย่างแน่นอน "
พูดจบอิสกันดาร์ตักเหล้าให้แก่อาเธอเรียในชุดสูทในยุคสมัยนี้โดยไม่ได้มีอาการเมาเลยแม้แต่น้อย แถมการที่ได้รับดื่มเหล้าของอีกฝ่ายถือว่าเป็นการรับคำท้าของราขาด้วยกัน
" ก็แปลว่าข้าต้องมาเปรียบเทียบด้วยสินะ ว่าใครมีคุณสมบันิมากกว่ากันไรเดอร์? " อาเธอเรีย
" ถูกต้อง ถ้าหากต่างฝ่ายต่างเรียกตัวเองว่า 'ราชา' ก็ไม่มีเหตุผลที่นะประนีประนอม มันจะกลายเป็นว่าไม่ใช่ สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นสงครามวาทะคำถามศักดิ์สิทธิ์ ว่าใครกันที่จะเหมาะสมกับราชาแห่งจอกศักดิ์สิทธิ์มากกว่ากัน " อิสกันดาร์
" ซี่งมันจะเห็นความแตกต่างได้ชัด เวลาถามตอบในวงเหล้า "
" เลิกเล่นสนุกแค่นั้นแหละ...พวกพันธุ์ทาง " กิลกาเมชที่โผล่มาในชุดลำลองของยุคสมันนี้เช่นกันเป็นเสื้อเชิ้ตสีกรมท่ากางเกงสแล็คสีขาวที่มีกำไรข้อมือสมัยอุรุคใส่กันอยู่
" อาเชอร์ ทำไมถึงมาที่นี่กัน? "
" ก็นะ แบบว่าไปเจอหมอนี่อยู่ในเมืองพอดีเลยชวนมาน่ะสิ จริงๆว่าจะชวนราชาจอมเสียบอยู่หรอก แต่จากที่ได้เห็นเมื่อวานคงอยู่สภาพที่มาคุยไม่ได้ล่ะนะ " อิสกันดาร์ตอบคำถามให้ก่อนหันมามองที่กิลกาเมช " มาช้าจังเลยนะ เจ้าเกราะเงาวับ ก็นะเจ้าต้องเดินมาก็คงช่วยไม่ได้"
" ไม่คิดเลยว่าจะเลือกสถานที่ธรรมดาๆ แบบนี้มาเป็นที่คุยของราชา มันเสียมารยาทกับข้ามากนะที่อุตสาห์ลงทุนมาที่แห่งนี้ด้วยฝีเท้าของข้ากัน พวกพันธุ์ทาง " กิลกาเมชจ้องมองที่เวเวอร์และไอริสฟิลด้วยสีหน้าไม่พอใจ
" อย่าพูดแบบนี้สิ เอ้า! ดื่มให้เต็มที่ "
" เจ้าโง่ ไม่คิดจะรอเจ้าตัวตลกก่อนหรือไง ถึงจะเป็นพันธุ์ทางก็ควรรู้จักมารยาทพื้นฐานบ้างสิ เจ้าพันธุ์ทาง " กิลกาเมชรับเหล้ามาแล้วดื่มด้วยสีหน้าไม่พอใจกับเหล้าที่อิสกันดาร์เตรียมมาก่อนนั่งข้างๆ
" โอ้จริงด้วย ข้าให้เจ้านั้นเตรียมมานี่นา " อิสกันดาร์เอ่ยขึ้นอย่างนึกขึ้น " ข้าว่าจะให้มาสเตอร์ของเบอเซิกเกอร์เป็นคนตัดสินพอดีเลย ว่าใครเป็นคนที่ควรต่อจอกศักดิ์สิทธิ์ มีปัญหาอะไรมั้ย? "
" ไม่มีปัญหา แถมเลือกได้ถูกคนดีหนิ เจ้าพันธุ์ทาง " กิลกาเมชมองตัวของชายหนุ่มร่างใหญ่อย่างไม่พอใจที่มาใช้งานบริวารของเขาตามใจชอบ แต่ถึงอีกฝ่ายไม่บอก เขาก็คงไปหาชินจิแล้วบอกด้วยตัวเองอยู่ดี
" ข้าเองก็ไม่มีปัญหาหรอก " อาเธอเรีย
หากให้เทียบกับคนอื่นๆแล้ว ชินจิดูเป็นคนที่ตัดสินด้วยเหตุและผลแล้วรู้จักเหล่าวีรชนมากที่สุดในศึกครั้งนี้ด้วย แถมมีแลนสล็อตอยู่ในตัวด้วย จึงไม่คัดค้านอะไร
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเครื่องยนต์ที่ใกล้เข้ามา ทำให้ชายหนุ่มผมบลอนทองยิ้มด้วยความพอใจ " ดูสิ พูดไม่ทันขาดคำก็มาแล้ว "
ในฐานะเจ้าบ้านที่ถูกมองข้าม ไอริสฟิลกับอาเธอเรียหันไปมองหน้ากันเอง พวกเธอควรจะออกไปต้อนรับมาสเตอร์เบอเซิกเกอร์ด้วยตัวเองเพื่อแสดงความใจกว้างและป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเล่นตุกติก เมื่อมาถึงหน้าปราสาทก็ร่างหญิงสาวผมสั้นสีเงินนัยน์ตาสีน้ำเงินในชุดเดิมที่เคยเจอกันในศึกคราวก่อนขับรถกระบะมา
ไอริสฟิลที่เห็นร่างนั้นมาก่อนแล้วก็จำได้เป็นอย่างดี แถมได้ข้อมูลจากสามีของเธอว่า อีกฝ่ายเป็นเบอเซิกเกอร์ที่ปลอมตัวเป็นคนอื่นได้ และดันมาปลอมเป็นแม่บุญธรรมของเขาสมัยที่พึ่งเข้าวงการนักฆ่าจอมเวทนั่นเอง
ด้านหลังบรรทุกไปด้วยของต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นอาหารหรืออุปกรณ์ปิคนิก
" ไงครับราชาอัศวินและพี่สาว พวกคุณช่วยช่วยผมขนของหน่อยสิ " ชินจิในร่างนาตาเลียเอ่ยขึ้น
" เออ....เข้าใจแล้วจ้ะ " ไอริสฟิลพยักหน้าแข็งๆ ถ้าเป็นเวลาปกติเธอจะหัวเสียกับคำพูดของชินจิ ทว่าภาพตรงหน้าดูแปลกใจเสียตนสมองของเธอทำงานไม่เต็มที่และเดินช่วยขนของแต่โดยดี ตามมาด้วยเซเบอร์ที่มีสีหน้าที่ปั้นยาก
" ....เจ้าไม่อยู่ร่างเซอร์แลนสล็อตเหรอ? " อาเธอเรียถามอย่างอดไม่ได้ขึ้นมา
" ผมไม่ใช่เขาสักหน่อย...อีกอย่างการแปลงร่างวีรชนมันไม่ได้ใช้งานแบบฟรีสักหน่อยหนิ " ชินจิเองก็ใช่ว่าไม่อยากนะ แต่ว่าตอนนี้ร่างกายของเขายังฟื้นตัวไม่เต็มที่เลย แล้วต้องมาเสียเวลาจัดเตรียมอาหารให้พวกนี้ตั้ง 2 วันเต็มทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องทำแท้ๆ
แถมตอนนี้ชินจิใช้โฮกุFor Someone's Glory จนชำนาญแล้วจึงไม่จำเป็นต้องใช้ตราบัญชาในการแปลงร่างบ่อยๆ แค่สองครั้งก็เล่นร่างกายของเขาซะโทรมเลย
" มาสเตอร์ของเบอเซิกเกอร์ รถของเธอดูใหม่มากเลย เหมือนกับว่าเพิ่งซิ้อมาวันนี้เอง " ไอริสฟิลที่เสพรถแข่งหลังจากคิริสึงุสอนขับมองรถด้วยความสนใจ
" แหงล่ะ ผมเพิ่งไปขโมยมาเมื่อ 4 ชั่วโมงก่อนเอง ไม่งั้นจะขนของพวกนี้มาได้เหรอครับ " ชินจิตอบออกมาไร้ความรู้สึกผิดแต่อย่างใด
" งั้นของพวกนี้ก็..." ไอริสฟิลรู้สึกว่าของต่างๆที่เธอถืออยู่นั้นดูหนักอึ้งมาในทันที
" ครับ คิดว่าผมมีปัญญาไปซื้อของทั้งหมดภายในสองวันนี้ในระหว่างสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์งั้นเหรอ? "
คนๆนี้มันพวกนอกกฏหมายชัดๆ!
หากชินจิได้ยินสิ่งที่พวกเธอคิดอยู่ล่ะก็ คงตอบว่า ถ้าบ่นมากก็ไม่ต้องกินก็ได้นะ
เพราะยังไงซะเขาก็ขี้เกียจต่อคิวเลยเล่นสะกดจิตพนักงานทุกร้านที่เขาไปขโมยมาหมด
ก็ใครใช้ให้เขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยกันเล่า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น