คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตัวแทนของโลก อารยา&ไกอา
ชินจิที่ได้สลบไปผลจากการใช้พลังวีรชนมากเกินไปก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวยามราตรีในสถานที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำที่กว้างใหญ่แต่แตะแล้วไม่รู้สึกเปียกแฉะเลยแม้แต่น้อย
" นี่เราเข้าในความฝันของใครอีกล่ะเนี่ย? " ชินจิเอ่ยอย่างงุนงง เพราะหากเป็นฝีมือของอังราก็น่าจะเป็นบ้านตระกูลมาโต้ที่คุ้นเคยสิ แต่กลับไม่ใช่
" ขอโทษที่มาเรียกตัวในระหว่างสงครามจอกอยู่....มาคิริ ชินจิ " จู่ๆเสียงของหญิงสาวเอ่ยขึ้นทำให้เขาหันมามอง
หญิงสาวสองคนได้ปรากฏต้อหน้าเด็กหนุ่ม คนนึ่งหญิงสาวปล่อยผมยาวสีน้ำตาลเข้มนัยน์ตาสีน้ำเงินในชุดเดรสไปรเวทสีแดง ส่วนอีกคนก็คือหญิงสาวผมสั้นสีบลอนเข้มกว่าของอาเธอเรียนัยน์ตาสีแดงใส่เชื้อลำลองยางสีขาวชายประโปรงสีม่วงถุงน่องสีดำสวมรองเท้าส้นสูงสีดำ
อาโอาซากิ อาโอโกะ
อัลเคสด บรูนสตัด
ถ้าจำไม่ผิดจะนางเอกจากเรื่อง Mahoutsukai no yoru และ Tsukihime
อาโอซากิ อาโอโกะ กับ อัลเควด บรูนสตัด
แต่..........คงไม่ใช่ตัวจริงสินะ
ชินจิที่เจอมุกอังราจนจับไต๋ได้ แถมสองคนนี้ก็ไม่ได้มีความสามารถเข้าฝันคนอื่นได้หรอก
ถ้าไม่ใช่ทักษะของอินคิวบัสหรือซัคคิวบัสก็ไม่มีทางเข้าความฝันได้หรอก
แถมยิ่งคนธรรมดาอย่างเขาด้วย ยิ่งแล้วใหญ่ที่จะมีคนมาติดต่อหาเขา
" อารยากับไกอาเหรอ? " ชินจิถามแบบเล่นๆดู เพราะเขาเองก็นึกไม่ออกแล้วว่าเป็นใครกัน
" โห...นึกไม่ถึงว่ามองแวบเดียวก็รู้ว่าเราคือใครงั้นเหรอ? " อารยาในร่างของอาโอโกะเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ
" เพราะการมีตัวตนแบบนี้เข้าฝันเป็นใครบ้างล่ะ ที่ไม่ฉุกคิดกันน่ะ "
" ดูท่าจะเป็นมนุษย์ที่ใช้งานได้นะ " ไกอาในร่างของอัลเควดนั่งข้างๆกอดอกที่มีท่าหยิ่งๆ
" นี่ๆอย่าพูดแบบนั้นสิ เรามาขอร้องเด็กคนนี้อยู่นะ " อารยายิ้มตำหนิใส่ไกอาที่มีท่าทีไม่เป็นมิตร
" นี่เล่นกระทั้งสวมบุคลิกนิสัยเจ้าของร่างได้เลยเหรอเนี่ย " ชินจิเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ
ว่าด้วยตัวตนนามธรรมอย่างอารยาและไกอาไม่มีรูปร่างที่แท้จริง และไม่อาจพูดคุยสื่อสารได้ เท่าที่นึกได้เลยคือการสร้างร่างจำลองมนุษย์เพื่อมาพูดคุยกับบุคคลสื่อสารได้ง่ายกว่า
แต่ไม่นึกว่าจะเข้าถึงบุคลิกนิสัยร่างที่ยืมมาใช้ชั่วคราวเลยแหะ
เพราะนิสัยจริงๆของอาโอโกะไปทิศทางชอบเด็ก ส่วนอัลเควดเป็นบุคลิกที่ยังไม่ได้รับรู้อารยธรรมปัจจุบัน เป็นบุคลิกในอดีตที่มีท่าเย่อหยิ่งสไตล์เจ้าหญิง
" ถูกต้องแล้วล่ะ เพื่อที่จะได้คุยกับเธอโดยตรง เลยเอาร่างที่เธอเข้าใจโดยง่ายที่สุดออกมา ซึ่งเป็นร่างของผู้หญิงคนนี้ " อารยาเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนนั่งข้างๆร่างเด็กหนุ่มท่าทีเหมือนพี่สาวใจดี
" ก็นะ เข้าใจเลือกร่างตัวแทนได้ดีเลยล่ะนะ " ชินจิก็ไม่ปฏิเสธเลือกได้เข้าใจง่ายสำหรับเขามากเลย
อารยา คือตัวแทนของมวลมนุษยชาติ ซึ่งเป็นอาโอโกะที่ถือครองทรูเมจิค โดยต้นกำเนิดเป็นมนุษย์
ไกอา คือตัวแทนของโลก ซึ่งเป็นอัลเควดที่ถูกสร้างขึ้นจากดวงดาว โดยต้นกำเนิดเป็นแวมไพร์ที่แท้จริง
เป็นแบบที่เข้าใจได้ง่าย หากแฟนคลับจักรวาลนาสุรู้จักกันดี
" ขอบอกไว้ก่อนนะว่า ไม่อยากจะเป็นการ์เดี้ยนนะ " ชินจิเอ่ยดักขึ้นมาก่อน
" อ้าว ทำไมล่ะ? " อารยาเอ่ยด้วยท่าทีสงสัย
" ไม่ต้องทำไมเลย เพราะไอ้งานที่ให้ทำมันไม่ต่างกับการเป็นทาสของเธอเลยสักนิด ชั้นไม่อยากเป็นแรงงานทาสไปตลอดกาลหรอก " ชินจิเข้าใจได้ดีเลยว่าการเป็นการ์เดี้ยนแทบไม่ต่างกับการอยู่นรกทั้งเป็นต่อให้ตายไปแล้วก็ตาม
ถ้าหากว่า อดีตวิญญาณวีรชนในตำนานที่ผู้คนรู้จัก เสมือนเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติแล้วล่ะก็....
เคาน์เตอร์การ์เดี้ยน วีรชนที่มาจากอนาคตไม่มีตำนานของตัวเอง ก็เสมือนเป็นความสิ้นหวังของมวลมนุษยชาติ
สิ่งที่มาทดแทนตำนานวีรชนในอดีตได้เลยก็คือ การทำงานไปกวาดล้างกำจัดภัยต่างๆที่มีผลต่อมวลมนุษยชาติในยุคสมัยต่างๆที่เกิดเรื่องขึ้น เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อให้เท่าเทียมกับวีรชนในอดีต
เช่น เอมิยะ อาเชอร์ที่รู้จักกันอย่างดีก็หนึ่งในนั้น แล้วมีเป้าหมายที่จะกำจัดตัวเองในอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลงผลของตัวเองก่อนกลายมาเป็นเคาน์เตอร์การ์เดี้ยน
รวมไปถึงเอมิยะ อัลเตอร์ด้วยเช่นกันที่สูญเสียความทรงจำของตัวเองแล้วไปเส้นทางอื่นที่ต่างจากอุดมคติออกไป
เอมิยะ แอสซาสซิน หรือที่รู้จักกันคือเอมิยะ คิริสึงุ ก็เป็นได้เช่นกัน
ตัวตนเหล่านี้นั้นค่อนข้างพิเศษกว่าวีรชนในอดีตตรงที่ว่าจะมีความทรงจำในสงครามที่ตัวเองเคยประสบเจอมานับไม่ถ้วนและตลอดกาล แต่หากเคยไปโลกอดีตของตัวเอง เพื่อความยุติธรรมของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์จึงทำการผนึกความทรงจำพวกเขาชั่วคราวจนเวลาสงครามผ่านพ้นไปสักพักก็จะนึกออกเองว่าตัวเองเป็นใครแล้วสงครามที่เคยเจอในรูปแบบไหน
กรณีของเอมิยะอาเชอร์ เดิมทีถูกส่งมาเพื่อกำจัดภัยต่อมวลมนุษย์นั้นก็คือการฆ่าซากุระที่มีจอกดำอยู่นั่นเอง ต่อให้ตัวของรินไม่ได้อัญเชิญมาซะก่อน บางทีเอาอาจถูกอัญเชิญในฐานะเคาน์เตอร์การ์เดี้ยนที่ไม่จำเป็นต้องมีมาสเตอร์ก็ได้
เพราะงั้นการเป็นการ์เดี้ยนนั้น เป็นสิ่งที่ตัวของชินจิเกลียดมันเข้าไส้เลยก็ว่าได้ เพราะมันไม่ได้คำนึงถึงคนเป็นวิญญาณเหล่านั้นเลย แล้วทำทุกวิถีทางในการกำจัดภัยที่แทบไม่ต่างกับไกอาเลยสักนิด
ถึงต่อมาให้อยู่ในร่างนางเอกจักรวาลนาสุเขาก็จะไม่อ่อนข้อให้เด็ดขาด
" วางใจเถอะ การจะมาเป็นการ์เดี้ยนได้นั้นมันขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าตัว "
" แต่กลับคิริสึงุดูไม่ใช่แบบนั้นนะ " ชินจิ
" กรณีของเขาน่ะ...เขาทำเพื่ออุดมคติของเขาอยู่แล้ว ฉันถึงได้เลือกเขามาเป็นการ์เดี้ยนโดยไม่รู้สึกผิด แต่สำหรับเธอ ถึงอยากจะทำก็ทำไม่ได้ล่ะนะ " อารยายิ้มอย่างเสียดาย
" แล้วไม่ทราบว่าคุณตัวแทนของโลกทั้งสองมีธุระอะไรกับคนธรรมดาอย่างชั้นเหรอ? " ชินจิกอดอกมองสองสาวที่เสมือนผู้คุมกฏของโลกตอนนี้
" เรื่องของวลาดที่ 3 ที่มีวิญญาณของดาร์นิก เพรสโตน ยุคด์มิเลเนียสถิตอยู่ คงรู้เรื่องแล้วสินะ ก็เจอตัวต่อตัวมาแล้วหนิ " ไกอา
" แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ ทำไมถึงมาโผล่โลกนี้โดยไม่มีแกรนเซอร์แวนต์ได้ไง? " ชินจิที่มาประเด็นนี้ก็ไม่เกรงใจที่จะถาม เพราะเขาเองก็สงสัยการมาของมันเหมือนกัน
" อย่างที่เธอรู้ว่าโลกคนเรามีอยู่ด้วยกันหลายจักรวาลคู่ขนาน ดาร์นิกคนนั้นก็เช่นกันที่ได้มีชะตากรรมที่เปลี่ยนไปจนได้รับเป็นผู้ชนะ "
" แล้ว? "
" อย่างที่นายรู้ว่าการที่มีคนเข้าถึงรากฐานวิญญาณมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ แลัวต้องกำจัดทันทีหากเป็นภัยต่อโลกและมวลมนุษย์ " ไกอา
" พวกเราในโลกคู่ขนานจะทำการส่งแกรนเซอร์แวนต์มาจัดการเรื่องนี้เหมือนกัน " อารยา
" แต่ว่าจู่ๆก็มีปรากฏการณ์แปรผันของมิติเกิดขึ้นทำให้ไม่มีการอัญเชิญแกรนออกมาปราบได้ในทันที มันเป็นปรากฏการณ์ของจำนวนจินตภาพที่คล้ายคลึงกับการเรย์ชิฟต์ของคาร์เดีย แต่เป็นปัจจัยภายนอกมากกว่า "
" ที่รู้ๆเลยคือมันจะมาจากโลกที่มีความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุด เช่นเดียวกับสงครามที่นายอยู่ แปลว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ " ไกอา
" แล้ว....." ชินจิ
" เราอยากให้เธอเป็นคนกำจัดมันยังไงล่ะ " อารยาฉีกยิ้ม
" จะบ้าเหรอ!!! "
ชินจิโวยวายทันที " จะให้คนธรรมดาอย่างชั้นเนี่ยนะ ไปปราบเซอร์แวนต์แวมไพร์ที่มีพลังมานาของเซอร์แวนต์ในศึกนั้นตั้ง 16 ตนนะ สติดีเปล่าเนี่ย!! "
ถึงจิตใจจะผสมปนเปจนมัว แต่เขายังเป็นเพียงเด็กอายุ 7 ขวบนะ นี่มันข้ามขั้นไปเยอะมากกว่าภาคสาวน้อยเวทมนต์เสียอีก
" เราไม่มาขอร้องโดยไม่มีแผนหรอกน่า....เรารู้ด้วยว่านายเข้าถึงรากฐานวิญญาณโดยใช้อังรา เมนยุเป็นสื่อกลางน่ะ " ไกอาส่งสายตาจิกตามองชินจิอย่างไม่พอใจ
ชินจิได้ยินถึงกับเงียบไปทันที ก็สมแล้วล่ะนะที่เป็นตัวแทนของโลกที่รู้เรื่องทุกอย่างจริงๆ แล้วปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ตัวเองเข้ารากฐานวิญญาณโดยอยู่สภาพกึ่งเป็นกึ่งตายแล้วให้อังราเป็นตัวเร่งให้เกิดเร็วขึ้นเท่านั้น
" ว่าด้วยศึกครั้งนี้เราไม่อาจจำเป็นต้องส่งรูลเลอร์หรือแกรนเซอร์แวนต์ไปได้ นั่นเพราะว่ามีเธออยู่ยังไงล่ะ มาคิริ ชินจิ " อารยายิ้ม
" หากมีเธออยู่ล่ะก็ ก็ไม่ต้องจำเป็นต้องเรียกแกรนเซอร์แวนต์หรือเคาน์เตอร์การ์เดี้ยนเลยก็ได้ "
" รู้ใช่มั้ยว่า สภาพของชั้นที่จะใกล้จะตายอยู่แล้วน่ะ " ชินจิบ่นออกมา
การใช้พลังวีรชนอายุเพียง 7 ขวบเอง มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นได้เลย ขนาดไม่ได้ใช้โฮกุของจริงอย่างอารอนไดร์ยังโทรมจวนจะแย่ทุกครั้งหลังใช้ ต่อให้มีปลอกดาบช่วย แต่มันไม่อาจช่วยรักษาวิญญาณที่จะพังได้ไม่แปลกใจได้เลย เขาจะตายตอนไหนมันขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว
" นั่นน่ะเพียงแค่เธอยังไม่ใช้ทรูเมจิกเท่านั้น ไม่ใช่เหรอ? " อารยารู้ดีว่าสภาพของเด็กหนุ่มใกล้กลับสู่รากฐานวิญญาณไปทุกทีล่ะ
" จริงอยู่ว่าการใช้พลังทรูเมจิคได้ตามปกติ ก็ต้องถูกจำกัดทิ้งไม่ว่าจะคนดีหรือคนชั่วก็ตาม นั่นเป็นเรื่องที่เธอเข้าใจถูกแล้วล่ะ "
" เพราะงั้นรางวัลค่าตอบแทนสำหรับการกำจัดสิ่งแปลกปลอมนั่นก็คือ เราอนุมัติให้นายใช้ทรูเมจิกได้ไม่มีเงื่อนไข " ไกอา
" ให้อิสระดีจังนะ "
" ก็ยังดีกว่าอาโอซากิ อาโอโกะที่ใช้มันไม่รู้จักคิดล่ะนะ " ไกอาออกความเห็นว่าตัวของชินจิมีความคิดเป็นแบบผู้ใหญ่และมีความคิดระดับเดียวกับเซลเรทช์ที่รู้จักใช้พลังเป็น อะไรที่เป็นถูกเป็นควร " รายนั้นใช้พลังไม่ยั้งและสร้างความเสียหายต่อมิติของโลกตั้งหลายหนจนส่งสีแดงแห่งจุดจบแล้วไม่ราบจำเลย "
" นี่ส่งไปฆ่าหลายหนจริงดิ... " ชินจิถึงกับอึ้งเลย
" ของแถมของงานนี้ก็คือ ตัวของวลาดที่สะสมพลังมานาของเซอร์แวนต์นั้นแหละ ที่มีพลังของจอกตั้ง 3 เท่า โดยรวมครั้งนี้ด้วยนะ " อารยา
" แปลว่าความชั่วร้ายของโลกอันตรายกว่าเดิม 3 เท่าสินะ " ชินจิถึงกับกุมขมับเลย นี่มันโยนระเบิดก้อนใหญ่นิวเคลียร์ชัดๆ
แค่พลังมานาสะสมมาตั้ง 60 ปี ในต้นฉบับเล่นทั้งเมืองฟุยุกิพังราบเป็นหน้ากองแม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด 7 ตนก็ตาม พลังของมันเพียง 5 ใน 7
ถ้ารวมของดาร์นิกมาด้วย นึกภาพไม่ออกเลยว่า จะเลวร้ายได้ขนาดไหนกันล่ะเนี่ย เผลอๆกลายเป็นทั้งญี่ปุ่นล้มสลายเลยก็ได้
เพราะว่ามันเท่ากับเป็นการรวบมานาตั้ง 180 ปีในครั้งเดียวที่หาไม่ได้เลยในประวัติศาสตร์ของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์เลย
ส่วนไอ้เหตุการณ์ที่จะมีเซอร์แวนต์หลุดเข้ามาสงครามด้วย มันชวนคิดถึงเกมsd gundam ขึ้นมาเลยแหะ ยังกับว่าอยากให้สงครามจอกมันวุ่นวานยิ่งกว่าเดิม ( ซึ่งไรท์อยากให้เป็นแบบนั้น )
" อ่อ บอกไว้ก่อนนะว่าหลังจากที่ตัวตนแปลกปลอมได้ตายลงไปจะไม่ได้ตกอยู่ที่โฮมุนครุสสาวนะ มันจะเชื่อมต่อหลังจากจอกปรากฏขึ้นบนโลกเท่านั้นนะ " อารยาพูดอย่างนึกขึ้นมาได้
" เพราะโฮมุนครุสที่ไอน์เบิร์นเตรียมมารองรับได้สูงสุดคือ 7 ตนเท่านั้น แล้วเพื่อความแฟร์ของสงครามจอกที่ควรดำเนินไปทางที่ควรจะเป็น "
" ขอบคุณมากเลยที่ทำแบบนั้น " ชินจิ
ถ้าเกิดว่าไปอยู่ในร่างของไอริสฟิลทันทีสงครามอาจจบเร็วและทวีคูณความรุนแรงกว่าเดิม
" ถือว่าเป็นการจ่ายค่าตอนแทนล่วงหน้าให้อนุญาตใช้ความสามารถนั้นได้เลย หลังจากจบการบทสนทนาเหล่านี้ " ไกอาพูดจบ " มีคำถามอะไรอีกมั้ย? "
" มันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้หรือเปล่า? " ชินจิถามขึ้นด้วยความกังวลออกมา เพราะหากให้เจอสิ่งที่เหนือความคาดหมายตลอดสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์นี่ก็ไม่ไหวนะ
" หมายถึงจะเกิดขึ้นหลังจากจบเรื่องนี้น่ะเหรอ? " อารยา
" วางใจเถอะ มันจะมีแค่เฉพาะระดับสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น " ไกอา " ส่วนที่เหลือหากมีพลังถึงยุคทวยเทพก็มีสิทธิ์จะปรากฏขึ้นได้เช่นกัน "
" สำหรับตัวแทนของโลกแล้ว เป็นคำตอบที่ไม่ชวนให้รู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด " ชินจิถึงกับคอตกเลย นี่แปลว่าเขาต้องรับมือสิ่งที่คาดไม่ถึงในสงครามอื่นด้วยงั้นสิ
" ก็ยังดีกว่าที่ให้ฉันส่งสีแดงแห่งจุดจบก็ดีแค่ไหนแล้ว " อารยา
" ไม่ปฏิเสธเลยครับ " ถ้าหากให้เทียบปัญหาที่เจอขึ้นต่อจากนี้หลังหลุดพ้นสงครามจอกไป ต้องมารับมือสีแดงมรณะก็ไม่ให้ตายอีกมันน่ารำคาญกว่าอีก
" ส่วนเรื่องราวหลังจากนั่นฉันจะให้ตัวของเซลเรทช์เป็นชี้นำทางให้เธอแทนเองแล้วกัน " อารยาพูดจบก็ลูบหัวของเด็กหนุ่ม
" อ่อ จริงด้วย ฝากจัดการอาคิไทป์เอิร์ธด้วยล่ะ "
" อันแรกพอว่า แต่อันหลังหมายความว่าไงกันล่ะนั้น รู้สึกว่ารายนั้นนอนอยู่บนดวงจันทร์ไม่ใช่หรอ? " ชินจิ
" มันก็ถูก แต่ว่านางถูกสร้างขึ้นจากดวงดาว ในอนาคตนายอาจจำเป็นต้องพึ่งพลังของเธอในอนาคตก็ได้ ในศึกที่ลำบากต่อจากนี้ "
" เฮ้อ...จะคุยรู้เรื่องหรือเปล่าล่ะเนี่ย " ชินจิเริ่มอยากจะท้อขึ้นมาแล้วสิที่ต้องมารับมืออะไรที่เกินกำลังของตัวเองเข้าทุกที
" นั้นมันก็เรื่องของนายไปสิ ขอแค่ให้โลกปลอดภัยแค่นั้นก็พอแล้ว " ไกอา
" พูดแบบนั้นได้ไงเล่า ชั้นเป็นผู้ดูแลโลกนะ " อารยาโวยวายเล็กน้อยที่ไกอาไม่สนใจมวลมนุษย์เลย ก่อนหันมามองชินจิ
" นี่น่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกับเธอ ถ้าหากไม่มีเหตุผลจริงๆ เราจะไม่เข้ามาแทรกแซงอีก "
" ก็ให้มีชีวิตจนถึงตอนนั้นได้ล่ะนะ " ไกอา
" อย่าพูดเป็นลางสิฟะ!! " ชินจิโวยวายไม่ทันจะว่าน้อสติของเขาก็รู้สึกหนักจนหนังตาไม่อาจลืมตาได้อีกแล้วสติของเด็กหนุ่มได้ดับลงปล่อยให้อยู่ในอ้อมกอดของตัวแทนโลกทั้งสอง
" จริงๆแล้วเธอน่าจะทำได้ไม่ใช่เหรอ? " ไกอาหันมาถาม
" ไม่ดีกว่า ตามหลักเราไม่อาจยุ่งกับสิ่งมีชีวิตมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่มันน่ามองไม่ใช่เหรอ ว่าชายคนนี้จะมอบอนาคตแบบไหนให้เราได้เห็น " อารยาส่ายหน้าเบาแล้วลูบหัวเบาๆของชินจิ
" จากที่ได้ดูข้อมูลของชายคนนี้ก็รู้อนาคตหลายรูปแบบ ในโลกคู่ขนานมามากมาย ทำให้ฉันเกิดสนใจผลลัพธ์ที่คนนๆนี้สร้างขึ้นมา เราแค่ให้ไฟเขียวในการใช้พลังของเขาก็พอ "
" แล้วไอ้พลังนั้นมันจะไม่เป็นภัยกับโลกภายหลังเหรอ? " ไกอา
" ไม่หรอก หากเขาใช้ได้ถูกวิธีก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก แถมเขาเป็นคนที่รู้ว่าใช้ยังไงให้เหมาะสม โดยเราไม่จำเป็นต้องบอก "
" หึ....เอ็นดูเสียจริงนะกับมนุษย์คนนี้น่ะ " ไกอาเท้าคางจิ้มแก้มของเด็กหนุ่มอย่างมือซน
" แล้วทีเธอล่ะ ที่เอ็นดูแวมไพร์ต้นกำเนิดเลยไม่ใช่เหรอ? "
" แน่นอนสิ แวมไพร์ตนนั้นโลกเป็นผู้ให้กำเนิดมากเลย หากกลายเป็นศัตรูกับโลกขึ้นมาก็ไม่มีทางรับมือสิ่งที่เหมือนกันได้หรอก " ไกอาเปลี่ยนจากเล่นแก้มของเด็กหนุ่มไปเป็นขยี้ผมไปมา
" เอาน่า เรามีเวลาเหลือเฟือจนถึงตอนนั้น ไม่ว่าด้วยวิธีไหนหรือเลวร้ายยังไง ขอให้เพียงมวลมนุษย์คงอยู่ต่อไปได้ก็เพียงพอแล้ว "
" หึ...ตามใจเธอเถอะ เพราะโลกใบนี้เธอเป็นผู้นำหนิ " ไกอา
ทั้งสองตัวแทนของโลกได้มองร่างเด็กหนุ่มได้หลับลงไปใบหน้าที่ไร้เดียงสาก่อนทั้งคู่จะสลายหายไป เพราะสิ่งที่อยากจะบอกก็ บอกไปหมดแล้ว
พวกเธอก็ไม่มีเหตุผลในการใช้ร่างจำแลงอีกต่อไปกลับไปสู่รากฐานวิญญาณอีกครั้งเพื่อเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก
ความคิดเห็น