NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Fate ] พระเอกเหรอ เหอะ! ของแบบนั้นใครจะอยากได้กัน!!

    ลำดับตอนที่ #12 : คืนที่ 3 แวมไพร์

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 66


    ไมยะพยายามที่จะหยิบปืนขึ้นมาฆ่าชินจิ

    " ไมยะ อย่านะ เขามาช่วยพวกเรานะ " ไอริสฟิลรีบมาห้าม

    " ไม่ได้ค่ะ...ถึงจะบอกว่ามาช่วย แต่ไม่ว่ายังไง แผนของเบอเซิกเกอร์ต้องมาชิงมาดามอย่างแน่นอน อย่างไปหลงกลมันเชียวนะคะ " ไมยะที่ได้รับการรักษาไอริสฟิลิพอขยับตัวเองได้บ้าง

    " ถ้าทำล่ะก็ป่านนี้เธอคงไม่มีชีวิตตรงนี้แล้วมั้ง? " ชินจิแสยะยิ้มออกมา ตอนนี้เขามีพลังของวีรชนอยู่ในตัว การที่จะฆ่าคนที่อ่อนแอกว่านั้นมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากเลย

    ที่ไม่ทำก็เพราะไม่อยากจะทำเฉยๆเท่านั้น หากยิงใส่เข้ามาโดนเขาก็จะเปลี่ยนใจฆ่าทันทีเลย

    เพราะยังไงสังคมจอมเวทการฆ่าคน ถือว่ากลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

    " สำหรับชั้นแล้วไม่ได้สนใจเธอมากเท่าไหร่ ถ้าให้สนใจจริงๆคงเป็นพี่สาวคนสวยคนนี้มากกว่าล่ะนะ "

    " แกเล็งมาดามจริงๆด้วย! " ไมยะ

    " ต่ำช้าที่สุด เบอเซิกเกอร์!! " ไอริสฟิล

    " ไอ้วิญญาณของคนบาป พระเจ้าจะต้องลงทัณฑ์แกแน่!! " คิเรย์

    " ไหง เข้าไปทางนั้นอีกล่ะเนี่ย " ชินจิชักรู้สึกว่าบทสนทนาของตัวเองไปทิศทางแปลกๆ เขาแค่ชื่นชมไอริสฟิลที่ดิ้นร้นการเอาตัวรอดทั้งๆที่มีอายุเพียง 8 ปีเองนะ

    " เอาเถอะ อยู่ต่อไปก็ไม่อะไรดี " พูดจบคิเรย์ยอมถอนตัวไปในที่สุดพร้อมกับแอสซาสซิน

    ชินจิที่เห็นว่าตัวของคิเรย์ได้ถอนตัวพร้อมกับหัวหน้าฮัสซันที่ยังเป็นก้อนมานาอยู่ก็ได้หันมามองสองสาวที่ยังคงจ้องเขาในร่างนาตาเลีย

    ไอริสฟิลที่ยังคงระแวงตัวของชินจิอยู่นั้นก็ตกใจแล้วเอ่ยเตือน

    " ระวังข้างหลัง! "

    เขาก็ได้ยินเสียงจากด้านหลังของตัวเองอยู่แล้วจึงหยิบปืนขึ้นหันมาจ่อหน้าแล้วยิงหัวจนเละ

    แต่ช่วงพริบตาที่เขาเห็นนั้น คือร่างกายมนุษย์ที่ถูกกลายพันธุ์มีคมเขี้ยว สีผิวไปสีม่วงโทนดำนัยน์ตสีแดง

    ชินจิได้กวาดตามองด้านหลังพบว่า มีฝูงคนที่กลายเป็นแวมไพร์ที่ดูคล้ายคลึงสภาพซอมบี้ซะกว่าที่มีจำนวนมากขนาดนี้

    ชินจิพอรับรู้ข่าวสารมาบ้างว่า มีเหตุการณ์ผู้คนหายสาปสูญไป ผสมกับมีคนเสียชีวิตด้วย แต่นึกไม่ว่าจะโผล่มาในสภาพนี้

    " แวมไพร์งั้นเหรอ? " ชินจิเอ่ยขึ้นมาก่อนหันไปมองที่ไอริสฟิล " นี่พี่สาว ถ้าจะหนีก็รีบพาผู้หญิงคนนั้นหนีให้ไวเลย เพราะให้สู้ไปปกป้องไปด้วยมันลำบาก "

    พูดจบชินจิได้เผยร่างชุดอัศวินแลนสล็อตอีกครั้ง จากนั้นเจ้าตัวหยิบดาบคาตานะขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มปะทะฝูงแวมไพร์ โดยเชื่อมโยงเรื่องที่ตัวเองเจอกับอังรามาในความฝัน

    เหตุการณ์ที่มีแวมไพร์กลายพันธุ์จำนวนมากมาบุกฐานตระกูลไอน์เบิร์น เซอร์แวนต์ตนที่ 8 เข้าร่วมศึกโดยเหตุผลบางอย่างที่เดิมมาจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์โลกคู่ขนาน

    แวมไพร์ เซอร์แวนต์ จากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์โลกคู่ขนาน

    ที่เขานึกได้มีเพียงตนเดียว

    อดีตแลนเซอร์ ปัจจุบันกลายเป็นเบอเซิกเกอร์ กษัตริย์แห่งโรมาเนีย ราชาจอมเสียบ วลาด เทเปส หรือ วลาด ที่ 3

    แต่ว่าการใช้วิธีเพิ่มจำนวนแวมไพร์แบบนี้ดูไม่ใช่ฝีมือวลาดที่ 3 ตามที่ตัวเองต้องการแน่ เพราะเจ้าตัวเกลียดการใช้โฮกุแวมไพร์เป็นอย่างมากเลย ถึงขนาดที่หากใช้โฮกุนี้ขึ้นมาก็จะฆ่ามาสเตอร์อย่างไม่ลังเลเลย เพราะเกลียดชังตำนานแวมไพร์เป็นอย่างมาก ถ้าจะแพ้ก็อยากจะแพ้ในฐานะวีรชน ราชาจอมเสียบที่ไม่ใช่ต้นกำเนิดแดล็กคูล่า

    แต่ปัญหาคือพละกำลังที่มาพอๆกับเซอร์แวนต์ 6 ตน ความเร็วเทียบเท่าจะข้ามมิติ และการรักษาจะอยู่ในระดับที่เหนือกว่าปลอกดาบอวาลอนเสียอีก

    ถ้างั้นคนที่เขากำลังเผชิญอยู่ก็...

    ชินจิที่สู้กับฝูงแวมไพร์ไปเรื่อยๆโดยไม่ปล่อยให้เหลือรอดสักตัว ฝืนให้เจ้าพวกนี้ไปยังเมืองดูสิ รับรองเกิดได้กลายเป็นหนังวันสิ้นโลกจากแวมไพร์แน่ๆ

    จากนั้นไม่นานก็เขาได้เห็นฝูงค้างคาวจำนวนมากมารวมตัวกันเผยร่างสูงที่เสื้อคลุมธีมผีดูดเลือด

    " อย่ามาขวางฉัน เบอเซิกเกอร์ " วลาดที่3? เอ่ยขึ้น

    " เกรงว่าไม่ได้ล่ะนะ ราชาจอมเสียบ...ไม่สิ ตอนนี้คงเป็น ดาร์นิก เพรสโตน ยุคด์มิเลเนีย คงจะถูกกว่าสินะ " ชินจิเอ่ยขึ้นก่อนเรียกดาบขึ้นแทนที่จะใช้ปืน ซึ่งเป็นดาบของศาสนจักร แบล็กคีย์ที่คิเรย์ใช้นั่นเอง

    ถ้าหากอีกฝ่ายอยู่สภาพแวมไพร์สิ่งที่ไว้ต่อกรได้มีเพียวดวงอาทิตย์ และ ดาบที่มีพลังชำระล้างที่สูง เช่นดาบศักดิ์สิทธิ์

    " โห...รู้จักฉันคนนี้ด้วยเหรอ "

    " ได้ยินว่ามาเป็นผู้ก่อตั้งสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองขึ้นมาที่โรมาเนีย แล้วเป็นคนที่ขโมยจอกมาจากเมืองฟุยุกิในสงครามครั้งที่ 3 ใช่หรือเปล่า "

    " แกรู้เรื่องของโลกของฉันด้วยงั้นเหรอ " ดาร์นิกแสยะยิ้มอย่างสนใจ

    " เห...รู้ตัวด้วยสินะว่าตัวเองไม่ได้อยู่โลกของตัวเอง ก็ไม่รู้หรอกว่ามาได้ยังไง แล้วสงครามจอกของทางนั้นเป็นยังไง พอสัมผัสพลังมานาของแกก็พอจะเดาได้อยู่ล่ะนะ " ชินจิมองดาร์นิกด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นภายใต้หมวกอัศวิน

    พลังมานาของดาร์นิกในร่างวลาดที่ 3 ได้ปล่อยออกมานั้นมีมากกว่าเซอร์แวนต์ประมาณ 10 ตนขึ้นไปโดยซ้ำ แสดงว่าบางทีตัวของดาร์นิกจะเป็นผู้ชนะมหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ที่มีเซอร์แวนต์ในศึก 16 ตน

    แถมเซอร์แวนต์แต่ละคนที่ถูกอัญเชิญล้วนส่วนใหญ่มาจากตำนานกรีกด้วย แถมบวกกับโฮกุของตัวเองที่มีพลังเซอร์แวนต์ของตังเองที่เท่าเทียมกับ 6 ตนในร่างเดียว

    15 + 6 = 21 พลังมานาของเซอร์แวนต์ในมหาจอกศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ได้ใช้มาตั้งแต่สงครามจอกครั้งที่ 6 ด้วย พลังของมันพอที่จะอัญเชิญ 16 ตนในศึกนั้นได้

    แบบนี้ตัวของไอริสฟิลที่ทำหน้าที่เป็นภาชนะจอกอาจทนไม่ไหวก็ได้แน่ กับจำนวนปริมาณมานาเยอะขนาดนี้ เพราะหล่อนสามารถรองรับได้สูงสุดคือ 7 ตน แต่นี่เล่น 16 ตนในร่างเดียวเหรอ

    " หึๆๆๆ ใช่แล้ว ฉันคนนี้ได้กำจัดเซอร์แวนต์ทั้งหมดในศึกที่โรมาเนีย แล้วอีกก้าวเดียวที่จะได้สัมผัสจอกศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว แต่ดันกลับมาอยู่ที่นี่ซะได้ มันหมายความว่าไงกันแน่ " ดาร์นิกยิ้มอย่างภูมิใจใบหน้าของมันบิดเบี้ยวด้วยความโกรธที่มันไม่ได้เป็นตัวเองคิด แถมบวกสภาพคลาสเบอเซิกเกอร์เลยยิ่งคลุ้มคลั่งได้ง่ายกว่าปกติ

    ให้เดาเลยว่าฝีมือ อารยาไม่ก็ไกอาชัวร์ คนที่สามารถลากอัญเชิญเซอร์แวนต์ไปต่างโลกได้ แทนที่จะอัญเชิญแกรนเซอร์แวนต์มาปราบในโลกนั้นเลย เหตุผลการมายังไงนั้นไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญเลยคือฝืนให้เจ้านี้อาละวาดไปยังตัวเมืองแล้วชิงไอริสฟิลไปล่ะก็ งานนี้ได้เละเทะกว่าเดิมแน่

    แค่จิลเดอเรย์ก็น่ารำคาญอยู่แล้ว ยังจะมีดาร์นิกในร่างวลาดที่ 3 อีก เผลอๆสองคนนี้จะร่วมมือกัน เพราะดูแล้วเป็นแผนของดาร์นิกที่ต้องการจอกศักดิ์สิทธิ์เป็นทุนเดิม ไหนจะจิลเดอเรย์ที่ต้องการได้อาเธอเรียนที่คิดว่าเป็นโจน

    หากการที่ดาร์นิกอยู่ได้จนถึงตอนนี้คงเหมือนตัวของเขาที่มีตราบัญชาอยู่ในตัวล่ะก็ การคงอยู่ในร่างเซอร์แวนต์ในสภาพนั้นได้ จะไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยสักนิด จะต่างกันตรงที่ว่า ดาร์นิกสิงร่างวลาด ส่วนชินจิให้แลนสล็อตสิงร่างแทน

    ง่ายๆคือเหรียญคนละด้านนั่นเอง

    แค่ว่าตัวของชินจิจะมีความเสี่ยงที่มากกว่าของดาร์นิกตรงที่ว่าเขาจะตายเพราะพลังวิญญาณที่มาสิง แค่การให้แลนสล็อตมาสิงร่างตั้ง 2 ครั้งแล้วเป็นเวลานานมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

    ราคาของปาฏิหาริย์มันไม่ได้มาถูกๆ

    เทียบกับดาร์นิกแล้วข้อเสียเลยคือมันจะกลายเป็นวีนชนที่ถูกวิญญาณมาสิงร่างแล้วยึดครองร่าง

    " จะไปรู้เหรอ แต่ที่แน่ๆคือตัวตนของแกที่มาเยือนโลกนี้ก็เป็นสิ่งแปลกปลอมที่ควรจำกัดให้ไวอยู่แล้ว "

    " เหอะ....อย่างแกจะทำอะไรได้ "

    " หึ....งั้นมาทดลองพิสูจน์ดูสิ แบล็กเบอเซิกเกอร์ " พูดจบชินจิก็เร่งมานาแล้วใช้โฮกุออริจินอล ปาแบล็กคีย์ใส่ 6 เล่ม

    Overlord ฉบับปามีด!!! x6

    ตัวของดาร์นิกที่เคยโดนแบล็กคีย์โดยอามาคุสะ ชิโร่อยู่แล้วจึงรู้ดี แล้วรีบกลายสภาพเป็นฝูงค้างคาวเพื่อหลบ แล้วดาบที่อัดพลังมานาอันบริสุทธิ์ก็ระเบิดพอๆกับ แฟนตาซีเบรคเกอร์ เนื่องจากว่าแบล็กคีย์ที่สร้างขึ้นด้วยเวทเทรซจึงพอสัมผัสกับเป้าหมาย อาวุธที่ทนพลังมานาไม่ได้ก็ระเบิดสลายไปในที่สุด พลังทำลายของมันเพียงพอที่จะจัดการเซอร์แวนต์ได้

    ดาร์นิกที่อ้อมมาด้านหลังของชินจิใช้ฝ่ามือที่จะกระสวกทะลุร่างของเขา แต่ชินจิตอบสนองได้ทวงทีหยิบดาบขึ้นมาปกป้องได้แต่ว่า เนื่องจากเป็นดาบที่คุณภาพต่ำที่ผสมกับโฮกุ Knight of Owner ก็ตามก็ทนไม่ได้

    แล้วใช้เวลาต่อสู้นั้นประเมินสเตตัสของอีกฝ่าย

    [ เบอเซิกเกอร์ วลาด เทเปส
    ความแข็งแกร่ง ระดับ Ex
    ความทนทาน ระดับ Ex
    ความว่องไว ระดับ Ex
    พลังเวท ระดับ A
    โชค ระดับ D

    สกิลประจำคลาส
    การต่อต้านเวทมนต์ ระดับ B (สถานะผนึก)
    ความบ้าคลั่งขาดสติ ระดับ Ex

    สกิลประจำตัว
    ผู้ปกครองที่โหดร้าย Demonic Defender of the State ระดับ EX ( สถานะผนึก )
    การดูดเลือดต่อเนื่อง Blood Sucking ระดับ A
    การต่อสู้ต่อเนื่อง Battle Continuation ระดับ A
    เปลี่ยนร่าง Shapesgift ระดับ C


    สมบัติวีรชน
    กษัตริย์ผู้แปดเปื้อน Kazikli Bey ( สถานะผนึก )
    ประเภท : ต่อต้านกองทัพ ระดับ B

    ตำนานผีดูดเลือด Lebgebd of Dracula
    ประเภท : ต่อต้านบุคคล ระดับ A ]

    " สัตว์ประหลาดชัดๆ!!" ชินจิที่พยายามดันดาบตัวเองที่ถูกแรงมหาศาลของดาร์นิกถูกดันกลับเล็กน้อย ก่อนเปลี่ยนทิศทางของมันโจมตีที่พื้นแทนแล้วใช้จังหวะนั้น แต่มันก็แปรสภาพเป็นมานาค้างคาวไปมาการโจมตี

    ทั้งความแข็งแกร่ง ความทนทาน ความว่องไว อยู่ระดับ Ex หมดเลยเหรอ แกบ้าเปล่าเนี่ย!

    ถึงเขาจะไม่มีสิทธิ์บ่นว่าตัวเองก็มี ค่าสเตตัสเดิม 3 ค่าอยู่ในระดับ A ก็เถอะ

    แถมท่าทางของดาร์นิกในการต่อสู้ มันเชี่ยวชาญในการใช้พลังวลาดที่ 3 ได้อย่างชำนาญมาก แบบนี้ต่อให้มีความเร็วโจมตีมากแค่ไหน ก็โจมตีไม่โดนเลย

    ชินจิได้ใช้เวทเสริมความแข็งแกร่งและความเร็วของต้วเองให้สูงขึ้นแล้วโจมตีใส่ดาร์นิกในฉบับที่ว่าคนทั่วไปมองเริ่มมองไม่ทัน โดยต่างคนต่างถูกโจมตี

    เนื่องด้วยรู้ว่าฟันยังไงก็ไม่มีทางโดน อาศัยการโดนโจมตีให้น้อยที่สุดแล้วโจมตีสวนกลับ ตัวของเขามีปลอกดาบอวลอนอยู่ในตัวจึงรักษาบาดแผลได้ ส่วนดาร์นิกก็เช่นกันแต่มีพลังรักษาที่เหนือกว่า

    แถมบริเวณโดยรอบของเขาเต็มไปด้วยฝูงแวมไพร์ มันทำให้ตัวของชินจิเสียเปรียบเป็นอย่างมาก ถ้าสู้ตัวสัตว์ประหลาด

    แล้วในจังหวะที่เขาจะฟันอยู่นั้นก็ถูกฝูงแวมไพร์จำนวนมากมาล้อมแล้วเกาะตัวของเขาเอาไว้ทั้งตัวจนขยับตัวไหนไม่ได้

    " เวรแล้วไง!!! "

    " เสร็จฉันล่ะ เบอเซิกเกอร์!!!! " ดาร์นิกที่เห็นช่องโหว่แล้วพุ่งโจมตีใส่ตัวของด้วยความเร็วสูง

    ในจังหวะที่ดาร์นิกมือที่พุ่งทะลวงร่างของอัศวินสีขาวนั้น สถานการณ์ที่ชวนให้สิ้นหวังก็ได้มีเสียงหญิงสาวดังขึ้น

    " Strike Air!!!! "

    สิ้นสุดวาจาก็ได้มีสายลมแห่งราชันได้พันจนร่างของดาร์นิกกระเด็น พร้อมจังหวะที่หละหลวมชินจิไม่ปล่อยโอกาสได้ใช้กำลังของเบอเซิกเกอร์กระชากพวกแวมไพร์ แล้วหลบท่าสายลมนั้นทันทีเฉียดฉิว

    จากนั้นไม่นานก็มีกระแสสายฟ้าสีฟ้าและประกายอาวุธมานาสีทองได้พุ่งโจมตีใส่ฝูงแวมไพร์ตายไปภายในพริบตาเดียว

    ชินจิค่อยๆลุกพร้อมกับหอยหายใจเล็กน้อยที่ตัวเองใช้พลังมานาเร่งต่อสู้ติดต่อกัน ถึงจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่การเร่งมานาถึงระดับ A แล้วแลกหมัดกันไปมาก็สร้างภาระ การต่อสู้ไม่น้อยเลย ถึงจะยืมพลังมาใช้ แต่หากใช้โฮกุอารอนไดร์ไปด้วยล่ะก็ ไม่รู้เลยว่าจะภาระที่ได้รับจะขนาดไหน

    ชินจิสำลักเลือดเล็กน้อยๆ ก่อนมีร่างหญิงสาวได้เดินมาป้องกัน

    " ลุกขึ้นสิ อัศวินไร้นามเอ๋ย เจ้าจะมัวแต่นอนถึงไหนกัน " อาเธอเรียขึ้นโดยสายตาไม่ได้ปล่อยวางที่ดาร์นิก " ข้าพอจะดูสถานการณ์คร่าวๆแล้วล่ะ "

    " แต่ว่านะ ขนาดเบอเซิกเกอร์ยังหืดขึ้นคอขนาดนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งไม่ใช่เล่นเลย " อิสกันดาร์ที่ขยับขบวนกระทิงศึกมาพร้อมวิเคราะห์ เพราะสัมผัสพลังมานามหาศาลเลยแวะมาดู

    " มีหมาบ้าอีกตัวทำลายสวนหลังบ้านของข้างั้นเหรอ ช่างอวดดีเสียจริง " กิลกาเมช


    พบว่าชินจิกำลังสู้กับแวมไพร์จำนวนมากเพียงลำพัง เพื่อเก็บข้อมูล แต่การต่อสู้ของวลาดนั้นไม่ได้ให้เกียรติอะไร ใช้กำลังหมาหมู่โจมตี แถมมีพลังมานาที่เป็นเกินกว่าเซอร์แวนต์ปกติที่จะมีได้เลย แถมจำนวนพวกมันก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ เป็นเขาเองก็ลำบากไม่ต่างกัน

    ว่าด้วยวันที่สองนั้นเกิดมีการหายสาปสูญของผู้คนจำนวนมากในเมืองฟุยุกิ ตัวของอิสกันดาร์และมาสเตอร์อย่างเวเวอร์ได้ตรวจสอบพบว่ากลายเป็นศพที่เหยื่อของแวมไพร์แล้วพุ่งโจมตีไม่เลือกหน้า

    " วันนี้อะไรพัดมาถึงให้คุณมาด้วยล่ะครับ " ชินจิค่อยๆลุกขึ้นโดยมีหน้าประหลาดใจ

    " ก็ตอนแรกว่าจะตามล่าหาเบาะแสแคสเตอร์อยู่หรอก แต่ดันเจอพวกฝูงผีดูดเลือดแบบนี้มันไม่น่าใช้ฝีมือของมนุษย์และแคสเตอร์ด้วย เลยมาหาต้นตอจนมาอยู่ที่นี่ล่ะ วางใจเถอะศึกในครั้งนี้ข้ามาแบบสันติเพื่อเจรจากับมัน "

    " ยังจะคิดให้มันคุยได้อีกเหรอ เจ้าพันธุ์ทาง " กิลกาเมชที่เดินลงมาว่าไรเดอร์ที่ไม่รู้จักคิด " คราวนี้ยังจะมีหมาบ้าเพิ่มมาอีกตัว เจ้าตัวตลกอธิบายสิ "

    ชินจิที่กำลังงุนงงกับสถานการณ์ที่ราชาทั้งสามของศึกสงครามจอกครั้งที่ 4 มารวมตัวโดยไม่ใช่การมานัดวาจางานเลี้ยงราชา หรือจิลเดอเรย์ใช้โฮกุอาละวาดในเมืองฟุยุกิ

    กับอาเธอเรีย และอิสกันดาร์ ยังเข้าใจได้ แต่ที่ชินจิคาดไม่ถึงเลยว่ากิลกาเมชจะออกมาปรากฏตัวด้วยเนี่ยสิ

    " ถ้าให้เข้าง่ายๆเลยคือ เจ้านั้นคือเซอร์แวนต์ที่ถูกอัญเชิญสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ในโลกคู่ขนานครับ " ชินจิอธิบายสั้นๆได้ใจความให้สามราชาได้รับรู้

    " วีรชนที่มาจากอีกโลกเหรอ? " อาเธอเรีย

    " ครับ อดีตแลนเซอร์ ราชาจอมเสียบ วลาดที่ 3 ครับ " ชินจิ

    " โห...ราชาแห่งโรมาเนียงั้นเหรอ ช่างน่าตกใจจริงๆที่มีราชาคนที่ 4 เข้าร่วมด้วยแบบนี้ " อิสกันดาร์ประหลาดใจ

    " ไอ้พันธุ์ทาง แกมองยังไง สภาพแบบนั้นมันไม่ได้เรียกว่าราชาได้แล้ว มันก็แค่พวกที่แอบอ้างเท่านั้น แล้วมีพวกหนอนแมลงรกตาซะเยอะมาอยู่สวนหลังบ้านแบบนี้ นับว่าใจกล้ามากน่าดูเลยหนิ เจ้าหมาบ้า" กิลกาเมชหัวเสียกับอิสกันดาร์ก่อนส่งสายตาคมกริบที่ดาร์นิก

    " แต่หากนับเรื่องความสามารถของมันแล้วล่ะก็น่ายกย่องไม่น้อย แต่มีไอ้พันธุ์ทางหน้าโง่ที่ไหนไม่รู้ยึดร่างได้อยู่ เพราะงั้นมันไม่น่าใช้วิญญาณวีรชนแล้ว "

    โกรธเรื่องแวมไพร์บุกเมืองหรอกเหรอ? ชินจิในใจ

    " วิญญาณแปลกปลอมยึดร่างราชาตนนั้นงั้นเหรอ หายากนะเนี่ย " อิสกันดาร์ประหลาดใจกับคนที่มาสิงร่างของเซอร์แวนต์แบบนี้ " แถมรูปทรงคงมีพลังมานาเยอะขนาดนี้อยู่สภาพปลดปล่อยโฮกุตลอดเวลางั้นสินะ "

    " ถึงกระนั้นมันแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม แต่จุดอ่อนของมันคืออ่อนต่อแสงอาทิตย์ และดาบศักดิ์สิทธิ์น่ะครับ " ชินจิที่ได้รับการรักษาปลอกดาบอวาลอนรักษาบาดแผลพอสมควรก็ลุกขึ้นยืน

    อาเธอเรียมีสีหน้าที่จริงจังขึ้นตั้งดาบเอ็กส์คาลิเบอร์ที่อยู่สถานะล่องหนอยู่ แปลว่าโฮกุของเธอเพียงพอในการปราบแวมไพร์ตนนี้ได้

    " ข้าพอเข้าใจสถานการณ์แล้วล่ะ แต่ว่าอาเชอร์เจ้ามาทำอะไรกัน? " อาเธอเรียได้หันมามองที่กิลกาเมช

    " ข้าก็แค่ออกมาเดินเล่นเท่านั้น แล้วเกิดสนใจเจ้านี้ขึ้นมาเท่านั้นแหละ " ในขณะที่กิลกาเมชพูดอยู่นั้นก็ฝูงแวมไพร์พุ่งเข้ามา จนเขาเกิดรำคาญขึ้นมาเปิดเกตหลานบานออกยิงใส่ฝูงแวมไพร์ตายเรียบในการโจมตีเพียงครั้งเดียวกันหลายชิ้น

    " บังอาจมากเลยที่กล้าเล่นในระหว่างที่ข้าสนทนาอยู่ นับว่าแกใจกล้ามากเลยนะ ไอ้หมาบ้า!! " กิลกาเมชพูดในน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก

    ชินจิรู้ได้ทันทีเลยว่า ตอนนี้กิลกาเมชเกิดฉุนขึ้นมาแล้ว

    " น่าๆ เจ้าเกราะเงาวับ อุตสาห์ได้เจอราชาจอมเสียบทั้งทีก็เปิดอกคุยกันในการต่อสู้ก็ได้ เช่นนั้นแล้วข้าขอสู้ก่อนล่ะนะ " อิสกันดาร์

    " นี่เจ้าจะหาเรื่องข้างั้นเหรอ ไอ้พันธุ์ทาง ไอ้หมาบ้านั้นเป็นเหยื่อของข้า ต่อให้เป็นแก ข้าคงต้องเก็บเจ้าก่อนเสียกระมั้ง " กิลกาเมชเอ่ยน้ำเสียงไม่พอใจ

    " ทำงั้นได้ไงเล่า อุตสาห์มีคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อทั้งทีจะปล่อยได้ยังไงกันเล่า " อิสกันดาร์ก็อยากจะดวลตัวต่อตัวกับแวมไพร์อยู่สักครั้งเหมือนกัน

    " เช่นนั้นพวกเจ้าเชิญทะเลาะกันต่อไป ส่วนข้าขอกำจัดศัตรูที่ทำให้ประชาชนกลายเป็นแวมไพร์ไม่ได้เด็ดขาด " อาเธอเรียตั้งท่าพร้อมสู้

    " เฮ้ๆ อย่าแย่งกันแบบนี้เซเบอร์ เจ้านั้นมันเหยื่อของข้า " อิสกันดาร์ไม่ยอม

    " ไอ้พวกที่แอบอ้างว่าราชาเชิกเช่นพวกเจ้าน่ะ ถอยไปซะ ข้าจะเป็นคนแรกเอง "

    ชินจิที่ยืนอึ้งกับการโต้เถียงของราชาทั้งสามที่จะพยายามจะแย่งกันจะสู้กับดาร์นิก ไม่สิจริงๆสนใจสู้กับวลาดมากกว่า

    ก็จริงอยู่ว่าหากเทียบกับการต่อกรโฮกุของจิลเดอเรย์แล้ว สถานการณ์ของดาร์นิกที่ก่อขึ้นมายังพออยู่ในสถานการณ์ดวลตัวต่อตัวได้อยู่

    " " " แล้วเจ้าคิดว่ายังไงกัน เบอเซิกเกอร์/เจ้าตัวตลก ใครคู่ควรการเป็นราชาที่จะสู้กับแวมไพร์ตนนี้กัน?! " " " สามราชาเอ่ยถามพร้อมกัน

    " ประเด็นอยู่ตรงนั้นเหรอครับ!! "

    พวกราชาในตำนานเนี่ย บางก็ครั้งมีมุมมองชวนปวดหัวเหมือนกันชะมัดเลย แหะ ถึงอยากจะขอบคุณที่มาช่วยเขาก็เถอะ

    " ก็เจ้าน่ะได้สู้กับมันพอสมควรเลย แถมมีเคลี่อนที่ได้เร็ว ฉะนั้นแล้ว ให้ไรเดอร์ที่รวดเร็วที่สุดอย่างราชาผู้พิชิตเช่นข้าจะจัดการเอง " อิสกันดาร์

    " หามิได้ ราชาผู้พิชิต เจ้าแวมไพร์ตนนั้น จากที่เบอเซิกเกอร์ว่ามา มีเพียงดาบศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่จะปราบมันได้ เซเบอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในคลาสทั้งเจ็ด ต้องเป็นข้าสิ " อาเธอเรีย

    " พวกพันธุ์ทางน่ะหลีกไปซะ อย่าให้ข้าพูดซ้ำซากจะได้มั้ย ข้าเนี่ยจะจัดการมันเอง " กิลกาเมช

    ทั้งสามราชาจ้องเขม็งกันโดยระหว่างที่ฝูงแวมไพร์ชุดใหม่มาก็พุ่งโจมตีใส่พวกเขา

    อาเธอเรียใช้Strike Air เป่าพวกมันกระเด็นขาดเป็นชิ้นๆ

    อิสกันดาร์ใช้ดาบของตัวเองแล้วเรียกสายฟ้าโจมตีใส่เหล่าแวมไพร์ให้ขาดสองท่อน

    แล้วกิลกาเมชยืนอยู่เฉยๆแล้วยิงโฮกุใส่พวกแวมไพร์จนไม่เหลือแม้แต่ซาก

    " " " เอา! ว่าไงล่ะ เบอเซิกเกอร์/เจ้าตัวตลก? " " "

    เฮ้อ.....อยากจะบ้าตาย ราชาทั้งสามมาหาเรื่องเหยื่อเนี่ยนะ บางทีราชาในอดีตก็มีศักดิ์ศรีแบบแปลกๆเหมือนกันนะ

    แต่อย่าเอาคนธรรมดาอย่างเขามาช่วยตัดสินให้สิโว้ย!!!!!

    ___________

    สำหรับสัปดาห์นี้พอล่ะ!!!! ตอนหน้าเป็นตอนจบคืนที่ 3 เจอปืนสัปดาห์หน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×