NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Fate ] พระเอกเหรอ เหอะ! ของแบบนั้นใครจะอยากได้กัน!!

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้นของสีน้ำเงิน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.28K
      513
      3 มิ.ย. 66

    ที่นี่.....

    นี่ไหน....

    บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมืดมิดโคลนสีดำที่บริเวณเหนือร่างของเด็กหนุ่มผมสั้นสีน้ำเงินที่หัวใจตอนนี้กลายเป็นรูด้วยแทงของมีคม ที่มุมปากมีเลือดติดอยู่

    แล้วบนท้องฟ้ามีลักษณะราวกับรากต้มไม้ขนาดใหญ่สีแดงดูอลังการ

    " คิๆๆ ยังไม่ตายหรอกค่ะ ท่านพี่ " เสียงหญิงสาวที่คุ้นหูเอ่ยขึ้นมาทำให้เด็กหนุ่มหันมามองพร้อมเบิกตากว้างด้วยสีหน้าตกตะลึง

    หญิงสาวผมยาวสีม่วงผูกโบร์สีชมพูด้านข้างที่อยู่ในชุดนักเรียนฟุยุกิ

    น้องสาวบุญธรรมของเขา มาโต้ ซากุระ

    "...อังรา เมนยุ เหรอ " ชินจิรู้ตัวได้ทันว่าคนตรงหน้าไมใช่น้องสาวบุญธรรมของตัวเองที่โตเป็นสาวได้ขนาดนี้ได้หรอก

    " อ้าว รู้ตัวด้วยเหรอคะ? " ซากุระ?ยิ้มอย่างซุกซนก่อนเดินมาหาเด็กหนุ่มผมน้ำเงิน

    " ปกติหล่อนควรต้องอยู่ห้องใต้ดินเพื่อนอนกับพวกแมลงอยู่น่ะสิ "



    " อุ้ย~~พูดได้น่ากลัวจัง ช่างเย็นชาจังเลยนะคะ ท่านพี่ "

    " เลิกเล่นบทซากุระจะได้มั้ย มีธุระอะไรถึงยังดึงชั้นกลับมากัน? "

    " นายเนี่ยไม่เล่นเอาซะเลยนะ แต่เอาเถอะ ตามประวัติศาสตร์ของโลกแล้วนายจะตายในอีก 10 ปี "

    " แล้วยังไง อนาคตมันเปลี่ยนกันได้หนิ "

    " อยากจะมีชีวิตต่อไปมั้ย? "

    " อยากให้ชั้นทำอะไร? " ชินจิที่พอมองออกว่าคนตรงหน้าจะช่วยเขาเอาไว้

    คนอย่างอังรา เมนยุไม่มีทางยอมช่วยเขาแบบฟรีๆหรอก 

    " เอาจริงๆนายจะตายไป ชั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ แต่ที่สนใจจริงๆน่ะคือความทรงจำอีกอันของนายมากกว่า "

    " ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นไงมาไงในสภาพนี้ แต่เป็นบุคลิกภาพซ้อนหรือจะเป็นสามวิญญาณที่รวมเป็นดวงเดียว จะยังไงก็เถอะอยากใช้ชั้นขอพรงั้นเหรอ? " ชินจิที่ยังสับสนกับความทรงจำของตัวเองอยู่จึงประติดประต่อไม่ได้

    " ค่ะ ถูกต้องค่ะ " อังรายิ้มร่าเริง " ไม่ว่าจะเป็นความปราถนาจะทำให้เธอสมหวังได้ "

    " แต่แลกกับแกที่จะถูกปลดปล่อยจากจอกแล้วทำลายเมืองฟุยุกิสินะ เกลียดแค้นมนุษย์เหรอ? "

    " ไม่อยู่แล้ว แต่ชั้นต้องการให้เหล่ามนุษย์ได้สัมผัสรสชาติของความสิ้นหวังบ้างก็เท่านั้นเอง "

    " เป็นความแค้นจากสงครามครั้งก่อนเหรอ? "

    " จะว่าแบบนั้นก็ถูกล่ะนะ ฉันได้ฟื้นฟูวงจรเวทและกลืนกินหนอนแมลงที่อยู่ในตัวนายแล้วนะ ที่เหลือเพียงแค่ให้เจ้าเข้าถึงตัวของชั้นได้ เธอจะได้รับอิสระ "

    " จะให้สู้คนเดียวเนี่ยนะ? " ชินจิเอ่ยหน้าตายออกมา

    อังราในร่างซากุระได้ร่ายบางอย่างทำให้มือขวาของเด็กหนุ่มผมน้ำเงินร้อนขึ้นมาเป็นตราบัญชาสีแดง 3 เส้น

    " เอาล่ะงั้น..." " ก่อนจะไปช่วยอะไรอย่างหนึ่งก่อนสิ "

    " อะไรเหรอ? "

    ชินได้ยื่นนิ้วไปทีรากบนท้องฟ้าขนาดใหญ่

    " ส่วนส่งชั้นไปสัมผัสสิ่งนั้นให้หน่อยสิ "

    " หืม~~~หัวไวนะเนี่ย แต่จะดีแน่เหรอ? " อังรารู้ว่าสิ่งที่ตัวของชินต้องการทำอะไรยิ้มอย่างสนใจ

    " ตอนนี้ชั้นเป็นเพียงแค่ว่าวิญญาณ ชั้นขอแค่เรื่องนี้กับตราบัญชา "

    " งั้นก็แล้วเจอกันนะ ท่านพี่!!!! " พูดจบอังราร่างซากุระอุ้มเสร็จก็เหวี่ยงสุดแรงเกิดจนร่างของเด็กหนุ่มลอยบนอากาศไปยังรากสีแดง

    เด็กหนุ่มเอื้อมมือมาแตะสัมผัสรากสีแดงจนแปรเปลี่ยนเป็นประกายสีฟ้าในพริบตา

    ในจังหวะที่ตัวของเด็กหนุ่มรู้สึกบางอย่าง จิตของเขาก็ถูกข้อมูลจำนวนมหาศาลหลั่งใหลเข้ามา และราวกับดวงวิญญาณของเขาได้สู่มิติไม่รู้จักนับไม่ถ้วน จนกระทั้งไดเเห็นร่างหญิงสาววัยรุ่นชุดเครื่องแบบนักเรียนหญิงผมยาวสีน้ำตาลนัยน์ตาสีฟ้า

    ทั้งคู่ได้สบตากันด้วยสีหน้าตกตะลึง

    " เธอคือ....." หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าตกตะลึงในสภาพของร่างเด็กหนุ่มที่ไม่ต่างจากศพ

    เด็กหนุ่มผมสั้นสีน้ำเงินก็ได้เผยรอยยิ้มออกมา

    "...แล้วเจอกันในอนาคตนะครับ คุณ#*+[฿×/] "

    สิ้นสุดประโยคสติของเขาก็ได้กลับมาอีกครั้งทันที แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ผมสีของเขาตอนนี้เป็นสีพุดดิ้งต้นบนเส้นผมกลายเป็นสีมิดไนท์ปลายผมยังเป็นสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยกองเลือด จากนั้นเด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ สัมผัสหัวใจที่กำลังเต้นอยู่พร้อมเผยวงจรเวทเป็นสีน้ำเงิน พร้อมกับตราบัญชาที่ข้อมือของตัวเองที่เป็นสีดำ และพลังมานาที่เออล้นออกมาราวกับว่าไม่ใช่พลังของตัวเองยังไงอย่างงั้น ถ้าหากใช้ไม่ระวังร่างกายอาจพังได้เลย

    เด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นเดินสำรวจซึ่งเจ้าตัวอยู่ในชั้นใต้ดินที่ของบ้านตระกูลมาโต้ก่อนหันมามองพบร่างสองชายหนุ่มตายอยู่บนพื้น

    ชินจิก็เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วก่อนอุ้มร่างขอเธอแล้วหาผ้ามาคลุมร่างเอาไว้จากนั้นรีบพาร่างของเด็กสาวไปใส่เสื้อผ้าตามเดิม

    ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เหมือนว่าตัวของโซเคนไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้ไม่เหลือกลิ่นอายอะไรภายในราวกับว่าตายแล้วยังไงอย่างงั้น และมีนอกเหนือจากนั้นเลยก็คือได้พบร่างของคาริยะและเบียคุยะที่ตายในบ้าน

    ทั้งคู่ตายด้วยสาเหตุเดียวกันเลยคือถูกของมีคมแท่งทะลุร่างไปหลายส่วน แถมมีร่องรอยการปะทะที่รุนแรงซะจนบ้านเสียหายไม่ใช่น้อย

    พลังทำลายเป็นวงกว้างขนาดนี้ และอยู่ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 4 มีคนเดียวที่ทำแบบนี้ได้

    อาเชอร์ ราชาวีรชน กิลกาเมช

    " โห....นึกไม่ถึงว่าจะยังไม่ตายอีก ถือว่าเป็นเรื่องเกินคาดเลยนะเนี่ย " จู่ๆก็มีเสียงชายหนุ่มดังขึ้นหลังจากเด็กหนุ่มเดินออกมาสำรวจข้างนอก

    ชายหนุ่มผมบลอนทองผมตั้งนัยน์ตาสีแดงในชุดเกราะเงาวับสีทองยืนอยู่บนโคมไฟ

    " นี่คือเป็นครั้งที่สองที่ได้พบสินะครับ ท่านกิลกาเมช " พูดจบชินจิได้รีบคุกเข่า

    " โห...รู้จักข้าด้วยเหรองั้นเหรอ ไอ้พันธุ์ทาง " กิลกาเมชเอ่ยขึ้นอย่างสนใจ " ไหนลองว่ามาสิ เจ้าที่ไม่ใช่ประชากรของอุรุคแต่จดจำข้าได้เพียงแรกพบเห็น "

    " ครับ นั่นคือผมมีความทรงจำและความรู้ที่เกี่ยวกับท่านน่ะครับ "

    " ตัวตนแปลกปลอมจากอนาคตงั้นเหรอ มิน่าล่ะ " กิลกาเมชเอ่ยขี้นอย่างสนใจ ตอนนี้มองเห็นดวงวิญญาณของชินจินั้นมีดวงวิญญาณสามดวงที่มารวมตัวกันเป็นก้อนเดียว แต่มีวิญญาณอีกดวงที่ใหญ่กว่าพยายามจะหลอมรวมเป็นหนึ่งกับมันอยู่ โดยมีหัวใจแปลกปลอมนั้นประทังชีวิตชั่วคราว

    " วิญญาณแปลกปลอมกับหัวใจของหมาบ้างั้นเหรอ น่าสนใจจริงๆ " กิลกาเมชที่ได้รับข้อมูลบังลังวีรขนมาอยู่บ้างว่ามนุษย์ธรรมดาไม่มีทางที่จะใช้พลังของวิญญาณวีรชนได้

    สาเหตุที่ร่างกายของเด็กหนุ่มยังไม่เป็นไรนั้นคงเป็นเพราะมีตราบัญชากำกับไว้อยู้ ทำให้ตอนนี้ชินจิรอดพ้นขีดอันตรายได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น

    พูดง่ายๆคือเด็กนี่มันได้รับปาฏิหาริย์ของจอกศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

    มันจึงทำให้กิลกาเมชสนใจตัวของชินจิมากขึ้นไปอีก

    " การที่เจ้าได้ตราบัญชามาพร้อมกับหัวใจของหมาบ้า แปลว่า แกก็เป็นหัวขโมยที่จะเอาสมบัติของข้างั้นสินะ "

    " ไม่เลยครับ สิ่งที่ผมต้องการในสงครามคือการเอาตัวรอดสงครามนี้ครับ ถึงจะมีตราบัญชาอยู่แต่หากมันหายไปผมก็จะวีรชนที่ล้มเหลวและตายลงไปครับ " ชินจิเอ่ยขึ้น เพราะดูแล้วหัวใจของแลนสล็อตนั้นหากใช้ตราบัญชาจนหายไปหมดตัวของเขาก็จะไม่ต่างกับโฮมุนครุสที่ได้รับหัวใจของซีกฟรีดจนกลายเป็นมังกรที่ผิดพลาด " แต่ให้สู้กับท่านตอนนี้ก็คงไม่ชนะอยู่ดี "

    " หึ วางใจเถอะ ข้าไม่ได้คิดจะสู้อยู่แล้ว " กิลกาเมชแม้ว่าจะสนใจสู้กับเบอเซิกเกอร์อยู่ แต่ว่าในเมื่ออยู่ในร่างของเด็กหนุ่มก็เกิดสนใจขึ้นมาว่า ผลลัพธ์ของสงครามจะไปในทิศทางไหนกัน " แต่ในทางกลับกันเจ้าจงทำหน้าที่ของเจ้าเสีย "

    " หน้าที่เหรอครับ? "

    " จงมอบความบันเทิงให้แก่ข้าในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ซะ "

    " ไม่ใช่ว่าท่านมีเนตรที่สามารถมองอนาคตหรอกเหรอครับ? " ชินจิถามด้วยความสงสัย

    " เจ้าโง่ ก็อีแค่เดินสวนหลังบ้าน ทำไมข้าต้องลงทุนใช้มันด้วยแล้วจะไปสนุกอะไรได้กัน ของแบบนั้นข้าผนึกไปตั้งแต่ถูกอัญเชิญมาแล้ว " กิลกาเมชพูดอย่างหัวเสียใจ

    ชินจิถึงจนใจ ดูเหมือนว่าสงครามครั้งนี้คนที่ยอมลดความสามารถของต้วเองตั้งแต่เริ่มจะมีเพียงราชาจอมเผด็จการเลยงั้นสินะ

    " เอาเถอะ ถ้าหากเจ้าทำหน้าที่ให้ข้าพอใจแล้วล่ะก็ ข้าประทานพรให้สมบัติของข้าสักชิ้นให้แล้วกัน หึๆๆฮ่าๆๆ " กิลกาเมชหัวเราะจบก็ได้หายตัวไป

    เด็กหนุ่มที่ถึงกับเงียบไปครู่นึงก่อนถอนหายใจออกมา

    " เฮ้อ....วันแรกคงไม่มีให้ทำน่ะสิ ช่วยไม่ได้ระหว่างนี้เก็บเกี่ยวอะไรที่พอทำได้แล้วกัน " พูดจบตัวของเด็กหนุ่มได้กลับมายังบ้านคฤหาสน์ของตัวเอง โดยหวังว่าคลังหนังสือเวทของตระกูลมาโต้จะยังอยู่ครบนะ


    เพราะไม่งั้นเขาอาจไม่อยู่จนถึงจุดจบของสงครามแน่เลย!!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×