คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ข่าวสารและสิ่งที่ได้มา
ณ สนามหญ้าหน้าฐานทัพลับ ที่ติดกับตะเข็บชายแดนทางตอนใต้ของเยอรมัน ชายหนุ่มรูปร่างหล่อเหลาคมคาย ใส่เครื่องแบบประดับยศชั้นสูงที่นายทหารชั้นผู้น้อยทุกคน ต้องกลัวเกรง เดินมายืนจังก้าอยู่ที่หน้าแถวของพวกพลทหารก่อนจะกล่าวประโยคดังกึกก้อง ให้ทุกคนได้ยินกันถ้วนหน้า ซึ่งถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้น จะต้องยืนสู้กับแดดอันร้อนระอุก็ตาม แต่ก็จำเป็นต้องยืนทนต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก
“ทุกคนต้องทำตามคำสั่งฉัน และห้ามใครขัดคำสั่ง หรือทำนอกเหนือกว่าที่ฉันสั่งเด็ดขาด ใครก็ตามที่ทำนอกเหนือจากที่ฉันสั่ง จะต้องได้รับโทษยิงเป้า! หากเลวร้าย พวกนายทั้งกองร้อยจะต้องไปเข้าเวรยามโทษทั้งคืน พวกนายเข้าใจใช่มัย!!”
เสียงตะโกนเชิงออกคำสั่งของจอมพลแพ็คทำให้พลทหารทุกนายยืนตรงชนิดที่โคตรนิ่งแต่มีนายทหารนายหนึ่งยืนสั่นไปสั่นมา โดยเป็นคนรูปร่างค่อนข้างอ้วน ดวงตามีแววความไม่แน่วแน่แฝงเอาไว้เต็มไปหมด ซึ่งต้นเหตุทำให้เขาถูกนายพลคนดังกล่าวหมายหัวเอาไว้ ก็เป็นเพราะความเมื่อยเข้ามาจู่โจมกระทันหัน
“พลทหารบอย! รีบพาร่างอันแสนจะต้วมเตี้ยมของนายมาหาฉันเดี๋ยวนี้ อย่าให้ฉันมีน้ำโหนะเฟ้ย!”
นายพลแพ็คสั่งอย่างเฉียบขาด ตัวคนดวงตกจึงรีบขานรับและปฏิบัติตามทันที
“ครับท่านนายพล”
พลทหารพาร่างอิดโรยมายืนอย่างเข็มแข็งต่อหน้านายพลแพ็ค แต่นั้นก็ไม่ได้จะช่วยให้เขาพ้นจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“ฉันจะขอถามนายเพียงคำถามเดียวว่า..ทำไมเวลาฝึกกับเวลาเข้าแถว นายถึงได้แสดงอาการที่แม่ไม่ปลื้มออกมาแบบนี้ หะ!” นายพลตะแบงเสียงถาม ตามประสาทหารที่ชอบเสียงดัง
รายนั้นจึงตอบทันควันอย่างหน้าไม่อายออกมา
“ผมเมื่อยครับ”
เมื่อนายพลแพ็คได้รับคำตอบมาจากพลทหารบอย ก็ออกอาการฉุนเฉียวไม่พอใจ ถ้าเป็นได้เขาอาจจะอยากสั่งยิงเป้าเจ้าอ้วนนี้ซะเดี๋ยวนี้ แต่ยังโชคดีที่เขาสงบสติอารมณ์ทัน
“แล้วทำไมแก ถึงไม่มีความอดทน!”
พลทหารคนเดิมปากสั่น แต่เขากลับรวบรวมความกล้า แล้วพูดนอกเรื่อง ราวกับไม่เข้าใจว่าตนเองกำลังเป็นผู้ตอบ ไม่ใช่ผู้ถาม
“ขออนุญาตพูดครับ”
นายพลแพ็คกระพริบตาปริบๆ แต่ก็ยังหยักหน้าให้กับผู้ถามอย่างมีมารยาทการผันตัวมาเป็นผู้ฟัง เพราะอีกฝ่ายแทรกกระทันหัน “เชิญ” เขาเอ่ยขึ้นมา
“เมื่อกี้ท่านนายพลบอกว่าจะถามแค่คำถามเดียวไม่ใช่หรอครับ” เขาเอียงคออย่างฉงน แต่ตัวคนถูกตั้งข้อพินิจก็ขึ้นเสียงเข้าใส่ ไม่สนใจในสิ่งที่ผู้อยู่ระดับล่างต้องการสื่อความนัยๆ
“ก็เออสิฟ่ะมีอะไรข้องใจงั้นหรอ!”
“ป่าวครับผมแค่งงเฉยๆครับ”
พลทหารบอยแก้ตัวเป็นพัลวัน ไม่อยากมีเรื่องกับคนที่ระดับยศสูงกว่า มันก็แหงอยู่แล้ว ขืนไปมีปัญหากับพวกชอบโอ้อวดบ้าอำนาจอย่างไอ้คุณแพ็คเข้า เงาหัวก็ไม่เท่ากันพอดีน่ะสิ
“งงอะไรของนาย..พลทหารฉันว่าฉันพูดถูกแล้วนะแต่ที่ฉันยังไม่ได้คือคำตอบของนายนะเจ้าอ้วน!!”
“เดี๋ยวผมตอบแน่ แต่ท่านนายพลบอกว่าจะถามแค่คำเดียว แล้วทำไมผมถึงได้ยินท่านนายพลถามซะเยอะเลย” รายนั้นตะกุกตะกักเล็กน้อย จนยืนตัวไม่ตรง ซึ่งเมื่อนายพลมองเห็นแล้วเกิดอาการหมั่นไส้จนไม่สนเรื่องคำตอบ แต่จะหันมาทำโทษแทนจะง่ายกว่า
“โธ่ไอ้ฟายเอ๊ย! สงสัยฉันคงต้องให้ของขวัญแกแล้วละ”
นายพลแพ็คพูดพลางยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วร้าย
“อะไรหรอครับ ท่านนายพลนี่ใจดีจัง”
“ได้...มันคือ PT10ท่า ท่าละ30ยก บวกกับวิ่งรอบเสาธงอีก30รอบแล้วก็ไม่ต้องขอบใจฉันด้วย”
น้ำเสียงเหมือนกับมันไม่ใช่ปัญหา ลอยๆออกมา คนถูกสั่งทำโทษทรุดคุกเข่าลงกับพื้นก่อนจะแหกปากไม่อยากทำ แน่นอนว่าพฤติกรรมเช่นนั้น ก็ไม่อาจเรียกคะแนนความสงสารจากนายพลแพ็คได้
หลังจากนายพลให้ของขวัญกับพลหารบอยเสร็จก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น จากพวกทหารเฝ้ายาม เขามองตามสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรำคาญใจ เพราะเขากะว่าจะสั่งให้พลทหารจอมกวนตรงหน้าไปวิ่งรอบค่ายสัก4-5รอบเสียหน่อย แย่จริงๆใครมันมาขัดจังหวะฟร่ะ
“เฮ้ยมีรถคันแปลกๆอยู่ที่หน้าประตู....”
ทันใดนั้น ก็มีชายแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำอย่างดี ผมสีน้ำตาลหวีเรียบเนี๊ยบดูคล้ายกับสุภาพบุรุษ หนวดบางๆของเขาหล่อกระชากใจสาวชนิดที่เดินมามุงกันเหมือนแมลงวัน แต่รถจี๊บที่เขาได้ขับมาทำให้นายพลแพ็ครู้ได้ว่า ชายคนนั้นไม่ใช่สามัญชนคนธรรมดา แต่เป็นคนของกองทัพ
“นายเป็นใครถึงกล้าเข้ามาในฐานทัพนี่หะ”
นายพลแพ็คแหกปากอีกหน คนถูกสั่งลงโทษซึ่งล้มนอนกองกับพื้น ต้องยกมือมาอุดหู แต่คนถูกตั้งคำถามกลับไม่สะทกสะท้าน แถมยังอุตส่าห์ยิ้มอย่างยียวนใส่อีกต่างหาก
ชายลึกลับก็เดินเข้ามาแล้วพูดเสียงอันหล่อเหลา จนฝ่ายนายพลแพ็คมีเส้นเลือดปุดๆอย่างไม่พอใจ นี่มันคิดว่าค่ายทหารเป็นห้างสรรพสินค้ารึไงกันว่ะ เสียงมันขัดใจพ่อจริงโว้ย
“ฉันคือลอร์ดปราโมทย์แห่งกองทัพอากาศเยอรมัน และที่ฉันมาในฐานทัพนี้ ก็เพื่อที่จะมาพบกับจอมพลแพ็ค แล้วใครคนไหนคือจอมพลแพ็คล่ะ”
“ฉันเองคือจอมพลแพ็คแห่งฐานทัพลับตอนใต้ของเยอรมัน...แล้วนายมีเรื่องอะไรฟ่ะ”
จอมพล หรือนายพลแพ็คเดินมาประชิด ก่อนจะพูดเสียงดังไม่รักษามารยาท
“ฉันมีเรื่องจากกองบัญชาการมาให้นาย แต่ต้องหาที่คุยกันนะ”
“ได้ตามฉันมา..พลทหารทุกนายเลิกแถว!!”
“ครับ”
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องประชุมกลางของฐานทัพ
“นายมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันนะลอร์ดปราโมทย์รีบว่ามาเลยและให้เร็วด้วย”
“ได้พอดีเกิดเหตุร้ายขึ้นเมื่อ2วันก่อน ทางกองบัญชาการได้รับข่าวด่วนมาจากทางเหนือว่า อีก14วันประเทศโปแลนด์จะนำกำลังพลทั้งทางน้ำอากาศและบกขึ้นโจมตีและท้าหากโจทตีสำเร็จประเทศเยอรมนีก็จะเสียพื้นที่ใหญ่ทางเหนือจะทำให้กำลังการรบเสียไปหมดแน่
“จริงหรอแล้วจะทำไงละเอ๊ะหรือว่าจะให้ฉันเอาข่าวไปส่ง”
“ถูกต้องนายจะต้องนำกำลังพลเอาข่าวและอาหารไปส่งให้ทันเวลาด้วยนะ”
“นายแหกตาดูสิที่นี้มันก็แค่ฐานทัพเล็กๆที่มีแค่ทหาร16นายที่เหลือก็เป็นผู้หลบภัยจากสงครามฉันว่านายเอาข่าวไปให้ที่อื่นแถอะนะ”
“ไม่ได้หรอ”
“ทำไมฟะฉันจะบอกอะไรให้นะไอคุณลอร์ดถ้านายยังจะให้เรานำข่าวไปส่งอีกนายจะไม่ได้เห็นอีกเลย”
“ทำไมฟะ”จะหนีรึไง”
“ป่าวเฟ่ยฉันจะนำข่าวไปส่งให้ไงละฟะ”
“ OoO!”
ลอร์ดปราโมทย์ทำสีหน้าเหวอทีได้ยินคำพูดกวนๆของจอมพลแพ็ค
“งงใช้ไหมละไอ้ฟาย5555+”
จอมพลเเพ็คทำอาการสะใจที่เห็นสีหน้าเหวอของลอร์ดปราโมทย์
“ก็ดีงันฉันจะอธิบายคร่าวๆให้ฟังนะ”
“ว่ามาเลย”
ลอร์ดปราโมทร์ได้หยิบซองบ่างอย่างออกจากกระเป๋าเสื่อแล้วเปิดออกด่านในมีแผนที่และตัวหนังสือมากมาย
“คือว่าก่อนจะออกเดินทางฉันจะให้นายหากำลังพลมา7นาย”
“อือได้แต่ถ้าฉันไปแล้วใครจะอยู่ที่นี่แทนฉันละหะหรือว่าจะเป็นนายหะ”
“ป่าวหรอกฉันจะต้องไปกับนายด้วยอีกอย่างจะมีกำลังทหารจำนวน36นายกับรถถังมาคุ้มกันที่นี้แทนนาย”
จอมพลทุบโต๊ะแล้วตะโกนด้วยความโมโหว่า
“จริงหรอฟะ!ทำไมเวลาฉันขอไปได้แค่ทหาร16นายละหะ”
“เรื่องนั่นเอาไว้ก่อนเถอะนะฉันจะขอพบพลทหารคนนึงในรายชื่อที่มีอยู่ในนี้หน่อย”
จากนั้นลอร์ดปราโมทย์ก็ได้เปิดรายชื่อไปทางจอมพล
“ได้ใครละฟะเลือกเลย”
“ได้ฉันขอพบพลทหารบอยหน่อย”
“OxO!”
“ทำสีหน้าอย่างนั่นทำไมหรอเขาฝีมือดีหรอนายถึงตกใจนะหะ”
“อ๋อป..ป..ป่าวหรอก(ได้โอกาสดีเลยเอาไอ้หมอนี่ไปคงจะปั่นสมองแก่จนระเบิดตายแน่ฮิฮิๆ..)”
จอมพลขำได้ใจเมื่อรู้ว่าพลทหารจะได้ไปด้วยแต่สีหน้ากลับมีความสงสัยอยู่แต่ก็ไม้เอ๊ยถาม
“มัวคิดอะไรอยู่หะตกลงจะให้ฉันพบได้หรือป่าวละ”
“ได้สิไอหมอเนียนายจะขอพบได้เลยเดียวฉันจะประกาศเรียกให้นะ”
จอมพลทำถ้าดีใจแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุมแล้วเดินตรงไปที่ห้องประชาสัมพันธ์ที่อยู่ตรงข้ามกัน
“อือๆ”
เสียงไอจากลำโพงตรงจุดที่อยู่ทางเสาธงที่พลทหารบอยกำลังปฎิบัติโทษอยู่
“เอ๊ะ!เสียงของนายพลนิหรือว่าจะให้เราทำโทษต่อแน่เลยเฮ้ย...”
“ประกาศ!ขอพบพลทหารบอยที่ห้องกลางตอนนี้ด่วน”
เมื่อเสียงไมดับลงพลทารบอยทำหน้างงแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมกลางอย่างช้าๆอยู่ก็มีเสียงไมดังขึ้นครั้งที่สองว่า
“ไอพลทหารบอยแก่วิ่งไม่เป็นหรือยังไงฟะถ้าแก่ยังช้าอีกคืนนี้ฉันจะจัดของโคตรขวัญให้แกแน่นรีบมาเดียวนี่เลยนะเฟย”
จากนั้นเสียงไมก็ดับลงพลทหารบอยไม่รอช้ารีบใส่เกียติหมาวิ่งไปที่ห้องประชุมกลางอย่างฉับไว
“!ปังๆขออณุญาตคับ”
“ เชิญเข้ามาได้”
“มีอะไรหรอคับนายพล”
“ลอร์ดปราโมทย์อยากพบนายนะ”
“เหรอคับ”
“เออสิ”
“มีอะไรหรอคับลอร์ด”
“เอาละตั้งแต่นี้ต่อไปฉันจะแต่งตั้งยศปลอมให้นายคือยศจ่า ซึ่งท่านนายพลจะต้องเรียกเขาว่าจ่าบอยเท่านั้นนะ”
“OoO!ไม่นะ.......”
เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งพลทหารบอยได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นยศจ่าถึงแม้ว่าจะเป็นยศที่ถูกตั้งเป็นยศปล่อมแต่ก็ทำให้พลทหารบอยมียศเกือบเท่าเทียมกลับจอมพลแพ็คแต่ก็ไม่ทำให้จอมพลแพ็คหวั่นแต่ก็ยังไม่หมดลอร์ดปราโมทย์ได้สั่งให้ไปหาจอมพลแพ็คนำใบกระดาษที่มีชื่อและยศปลอมอยู่ไปให้6คนที่เหลือและนัดหมายการเดินทางและเตรียมอาวุธให้พร้อมซะตากำที่ทั้งหมดจะได้เจอคืออะไรและหนทางข้างหน้าจะพบเหตุการณ์แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับจ่ายศปลอมที่มีนามว่า”บอย”
ความคิดเห็น