คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2
บทที่ 2
การจะจัดการกับค่ายกลนั้นแตกต่างจากการจัดการกับกลองวงจรปิดแบบสุดขั้ว กล้องเหล่านั้นทำงานด้วยวงจรเวทที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากจึงง่ายต่อการแทรงแซง แต่ที่ว่าง่ายคงจะเป็นแค่กับบุคคลลึกลับคนนี้คนเดียวเท่านั้น แต่กับค่ายกลเวทที่มีวงจรกลไกที่ซับซ้อนจำต้องมีความเข้าใจในความสามารถของอัขระเวทต่างๆเป็นอย่างดีและต้องใช้สมาธิขั้นสูงในการควบคุมพลังวิญญาณและพลังธรรมชาติ จึงไม่อาจเสียสมาธิไปกับการพรางตัวได้
ค่ายกลเวทนั้นอันตรายมากหากผู้ใดเผลอเหยียบย่างเข้าไปในค่ายกลจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอีกมิติหนึ่ง และสำหรับค่ายกลสายฟ้านี้เมื่อเผลอเข้าไปแล้วจะต้องพบกับสายฟ้าจำนวนมากมายฟาดใส่ไม่รู้จบ ค่ายกลนี้นับว่าโหดร้ายเพราะมันคือค่ายกลสังหาร มันจะหยุดก็ต่อเมื่อเป้าหมายถูกทำลายหรือตัวค่ายกลเองถูกทำลายเท่านั้น และการจะทำลายค่ายกลได้นั้นจะต้องมีพลังมากกว่าผู้ติดตั้งค่ายกลอย่างน้องหนึ่งขั้น
บุคคลลึกลับยกมือทั้งสองขึ้นสงบจิตใจรวบรวมสมาธิ จากนั้นเริ่มสั่งการพลังวิญญาณและธรรมชาติทำการแทรกแซงค่ายกลวงแรกสุด
ดวงตาสีฟ้าใสของบุคคลลึกลับเพ่งมองไปที่ค่ายกล แสงสีต่างๆของพลังวิญญาณและธรรมชาติขยับเคลื่อนไหวตามการความนึกคิดของเขา พลังวิญญาณและธรรมชาติเริ่มรวมตัวกันเป็นอัขระเวทต่างๆแล้วแทรกซึมเข้าไปในอัขระเวทของค่ายกลปรับเปลี่ยนวงจรบางอย่าง จากหนึ่งวงเวทเป็นสองวงเวทเลื่อยไปจะกระทั้งครอบคุมทั้งค่ายกลเวทจึงเป็นอันเส็จสิ้น ตลอดทั้งขบวนการแทรกแซงนี้ใช้เวลาเพียงสามนาทีเท่านั้น การแทรกแซงค่ายกลจะต่างกับการแทรกแซงกล้องวงจรปิดตรงที่กล้องวงจรปิดจะหยุดการบันทึกภาพและคงภาพที่บันทึกล่าสุดเอาไว้ แต่กับค่ายกลทำอย่างนั้นไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่ค่ายทำงานนั้นก็หมายความว่ามีผู้บุกรุกเข้าไปยังค่ายกล ห้องควบคุมจะรับทราบในทันทีเมือเกิดขึ้น และในทางกับกันเมือค่ายกลหยุดทำงาน ถูกถอด หรือถูกทำลาย มันจะส่งสัญญาณไปที่ห้องควบคุมด้วยเช่นกับ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หยุดการทำงานของค่ายกล แต่ปรับเปลี่ยนมันให้เป็นค่ายกลชนิดใหม่
การปรับเปลี่ยนค่ายกลอันแรกทำให้เขาเหนื่อยเล็กน้อย เขาก้าวเดินเข้าไปในค่ายกลทันที เมื่อเท้าเหยียบลงไปยังค่ายกล ค่ายกลไร้ปฏิกิริยาตอบสนองเขาก็มุ่งสู่ค่ายกลต่อไปทันที
เขายังคงทำแบบเดิมกับค่ายกลอื่นๆใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีก็จัดการกับค่ายกลทั้งหมดได้ ก่อนจะเคลื่อนตัวไปถึงทางแยกเขาอำพรางตัวเองอีกครั้งเพื่อจัดการกับกล้องวงจรปิดฝั่งตรงข้ามที่เหลืออยู่
เมื่อมาถึงทางแยก ทางแยกยาวร้อยเมตร สองฝั่งเป็นห้องนิรภัยมากมาย และห้องที่อยู่ด้านในสุด ตรงข้ามกับที่เขายืนคือจุดหมายของเขา ‘ห้องนิรภัยหมายเลข1’
การจัดการกับกล้องวงจรปิดไม่ได้ยุ่งยากแม้นระยะทางจะไกลกว่าเดิมมากแต่ก็เพียงเพ่งสมาธิเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
ดวงตาสีฟ้าใสของบุคคลลึกลับเรืองแสงอีกครั้งมองตรงไปทั่วทางเดิน แต่เมื่อเห็นวงจรของค่ายกลเขาถึงกับคิ้วขมวด บนทางเดินยังมีค่ายกลอยู่เช่นเดินแต่แตกต่างจากอันก่อนหน้าอยู่บ้างตรงที่มันมีค่ายกลเพียงอันเดียว เป็นค่ายกลที่มีขนาดใหญ่มาก แต่นั้นคือในสายตาของคนอื่น
ค่ายกลนี้ถ้าดูผิวเผินแล้วจะเป็นค่ายกลขนาดใหญ่เพียงหนึ่ง แต่ภายในกลับซ่อนค่ายกลเล็กๆอีกสิบสองค่ายกลเอาไว้อย่างแนบเนียน ค่ายกลวงนอกคือ ค่ายกลจักรวาล ส่วนอีกสิบสองค่ายกลเล็กภายในก็คือ ค่ายกลจักรราศี ค่ายกลซ้อนค่ายกลแบบนี้ถูกเรียกอีกอย่างว่า ค่ายกลแม่ลูก ค่ายกลนี้นับว่าสร้างความยุ่งยากให้กลับบุคคลลึกลับอยู่บ้าง
การจรกรรมครั้งก่อนๆของบุคคลลึกลับพบเจอกับค่ายกลแปลกๆอยู่มากมาย แต่ค่ายกลแม่ลูกที่อยู่ตรงหน้านับว่ายากที่สุดที่เจอมา แต่ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย
มุมปากใต้ผ้าพันคอยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นเริ่มกำหนดจิตสมาธิควบคุมพลังวิญญาณและพลังธรรมชาติในค่ายกล
ค่ายกลแม่ลูก ค่ายกลนอกคือแม่ ค่ายกลในคือลูก แม้จะแยกกันเป็นแม่ลูกแต่การเชื้อมต่อของกระแสเวทมนต์กับสอดคล้องกันเป็นหนึ่งเดียว การจะแทรกแซงไม่สามารถแยกทำไปทีละค่ายกลได้ต้องทำการแทรกแซงทั้งหมดพร้อมกันเท่านั้นจึงจะเปลี่ยนค่ายกลนี้เป็นค่ายกลใหม่ได้
พลังวิญญาณและพลังธรรมชาติในค่ายกลมีความเข้มข้นสูงมากยากต่อความควบคุบ แถมยังต้องควบคุมพร้อมกันทั้งค่ายกลทำไห้กินแรงเป็นอย่างมาก เพียงแค่สามนาทีก็เริ่มมีเม็ดเหงื่อไหลอยู่ตามหน้าผาก ความยากในการจัดการกับค่ายกลตรงหน้าเกินความคาดหมายของบุคคลลึกลับไปเล็กน้อย แต่ก็แค่เล็กน้อย
บุคคลลึกลับกำหนดจิตสมาธิขั้นสูงควบคุมพลังวิญญาณและธรรมชาติเกิดเป็นอัขระเวทมากมายก่อนจะค่อยแทรกซึมเข้าไปปรับเปลี่ยนแก้ไขวงจรเวททั้งหมดพร้อมๆกัน การแทรกซึมเป็นไปอย่างเชื่องช้า ยิ่งนานเหงื่อบนหน้าเขายิ่งมาก
สิบนาทีผ่านไปเมื่อขบวนการสุดท้ายของการแทรกซึมสิ้นสุด อัขระเวททั้งหมดที่ขีดเขียนอยู่บนทางเดินและผนังเกิดแสงเรืองรองขึ้นเล็กน้อยจากนั้นพลังวิญญาณและธรรมชาติในค่ายกลแม่ลูกก็สงบลง บุคคลลึกลับถอนหายใจเล็กน้อยลดมือลงรอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าใต้ผ้าพันคอแล้วก้าวเท้าเดินไปบนค่ายกลอยู่ไม่ลังเลมุ่งสู่ห้องนิรภัยหมายเลข1
ความคิดเห็น