คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เจออีกแล้วเหรอ
Step 2
เจออีกแล้ว
ฉันน่ะนั่งอยู่แถวที่ 3 ริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นสนามบาสฯ กลางแจ้งข้างหน้าเป็นเคมี ส่วนข้างหลังเป็นยัยกิ่งกานต์ ซึ่งมียัยไพรินนั่งอยู่ข้างๆ กัน
“มาแล้วเหรอ”
อาจารย์พูดกับใครสักคน แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่(เด็กๆ ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะคะ)
“ครับ”
เสียงผู้ชายงั้นเหรอ คุ้นๆ แฮะ
“เข้ามาสิ นักเรียนทุกคนเราจะมีเพื่อนใหม่ย้ายมานะ แนะนำตัวสิ”
ฉันได้ยินอาจารย์พูดทุกคำ แต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นดูหน้านักเรียนใหม่เพราะการ์ตูนกำลังมันส์
“กรี๊ดดดดดดดด”
อยู่ดีๆนักเรียนหญิงในห้องก็พากันกรีดร้อง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ฉันเงยหน้าได้เลย
“เงียบ”
อาจารย์ส่งเสียงปราม”แนะนำตัวสิ”
“ครับ สวัสดีครับผมชื่อปรเมศวร์ รัตนแสงไพบูลย์ เรียกว่าคารอสก็ได้นะครับ ย้ายมาจากนานาชาติ BEST ผมย้ายเข้ามากลางปีคงจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับเพื่อนๆ ทุกคนด้วยนะครับ”
เสียงปริศนากล่าวอย่างนุ่มนวล
“ฝากแต่เนื้อกับตัวเหรอค่ะ แล้วหัวใจล่ะ”
เสียงยัยไพรินดังขึ้น ฉันมีสัมผัสพิเศษสามารถแยกเสียงคนออกจากชะนีได้ แล้วเสียงอย่างนี้จะมีสักกี่ตัวกัน
“แล้วจะรับฝากไหมล่ะครับ”
เสียงปริศนากล่าวทีเล่นทีจริง
“กร๊ดดดดดดดด”
สิ้นเสียงตอบเหล่าชะนีก็ร้องกันระงม(รู้สึกเหมือนเป็นกบนะไอ้ที่ร้องระงมเนี่ย)
“เงียบ”
อาจารย์กล่าวอย่างเหลืออด ฉันก็ชักจะเหลืออดเหมือนกัน อยากจะรู้นักว่าจะหล่อซักแค่ไหน
“นายปีศาจ”
ฉันลุกพรวดขึ้นชี้หน้าไอ้ปีศาจคนเมื่อเช้า ทุกคนในห้องต่างเงียบกริบและต่างหันมามองฉันอย่างงุนงง
ฉันว่าฉันเริ่มอายแล้วนะ ฉันเลยค่อยๆนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม แล้วก้มหน้าเตรียมรับชะตากรรมอันโหดร้าย
“ไปนั่งที่ได้แล้ว”
อาจารย์บอกนายปีศาจ”ส่วนเธอประภัสสร พักเที่ยงไปพบฉันที่ห้องด้วย”
แล้วอาจารย์ก็หันไปสอนต่อ แต่ไม่มีนักเรียนคนใดสนใจหรอก เพราะทุกคนต่างจ้องมาที่ฉันกับไอ้ปีศาจ
“ฟิสิกส์นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เล่ามาเดี๋ยวนะ”
เคมีหันมาถามอย่างสนใจ
“เอาไว้เดี๋ยวค่อยเล่า”
ฉันเอ่ยอย่างรำคาญ
“นี่ๆๆ”
อยู่ดีๆนายปีศาจก็มาสะกิดแขนฉัน
“อะไรของนาย”
ฉันพูดแบบห้วนๆ
“ฉันชื่อคารอสนะไม่ใช่นาย”
“แล้วมาบอกฉันทำไม”
“โอเค เรื่องเมื่อเช้านี่ขอโทษละกัน”
ง่ายไปมั้ง ชิส์จะตบหัวแล้วลูบหลังเหรอไม่มีทางซะหรอก
“พวงกุญแจฉันอยู่ไหน”
ฉันถามอย่างไม่ไยดี
“ทิ้งไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
นายปีศาจทำหน้าสะใจเต็มที่
“นาย!”
เจออีกแล้ว
ฉันน่ะนั่งอยู่แถวที่ 3 ริมหน้าต่าง มองออกไปเห็นสนามบาสฯ กลางแจ้งข้างหน้าเป็นเคมี ส่วนข้างหลังเป็นยัยกิ่งกานต์ ซึ่งมียัยไพรินนั่งอยู่ข้างๆ กัน
“มาแล้วเหรอ”
อาจารย์พูดกับใครสักคน แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่(เด็กๆ ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะคะ)
“ครับ”
เสียงผู้ชายงั้นเหรอ คุ้นๆ แฮะ
“เข้ามาสิ นักเรียนทุกคนเราจะมีเพื่อนใหม่ย้ายมานะ แนะนำตัวสิ”
ฉันได้ยินอาจารย์พูดทุกคำ แต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นดูหน้านักเรียนใหม่เพราะการ์ตูนกำลังมันส์
“กรี๊ดดดดดดดด”
อยู่ดีๆนักเรียนหญิงในห้องก็พากันกรีดร้อง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ฉันเงยหน้าได้เลย
“เงียบ”
อาจารย์ส่งเสียงปราม”แนะนำตัวสิ”
“ครับ สวัสดีครับผมชื่อปรเมศวร์ รัตนแสงไพบูลย์ เรียกว่าคารอสก็ได้นะครับ ย้ายมาจากนานาชาติ BEST ผมย้ายเข้ามากลางปีคงจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับเพื่อนๆ ทุกคนด้วยนะครับ”
เสียงปริศนากล่าวอย่างนุ่มนวล
“ฝากแต่เนื้อกับตัวเหรอค่ะ แล้วหัวใจล่ะ”
เสียงยัยไพรินดังขึ้น ฉันมีสัมผัสพิเศษสามารถแยกเสียงคนออกจากชะนีได้ แล้วเสียงอย่างนี้จะมีสักกี่ตัวกัน
“แล้วจะรับฝากไหมล่ะครับ”
เสียงปริศนากล่าวทีเล่นทีจริง
“กร๊ดดดดดดดด”
สิ้นเสียงตอบเหล่าชะนีก็ร้องกันระงม(รู้สึกเหมือนเป็นกบนะไอ้ที่ร้องระงมเนี่ย)
“เงียบ”
อาจารย์กล่าวอย่างเหลืออด ฉันก็ชักจะเหลืออดเหมือนกัน อยากจะรู้นักว่าจะหล่อซักแค่ไหน
“นายปีศาจ”
ฉันลุกพรวดขึ้นชี้หน้าไอ้ปีศาจคนเมื่อเช้า ทุกคนในห้องต่างเงียบกริบและต่างหันมามองฉันอย่างงุนงง
ฉันว่าฉันเริ่มอายแล้วนะ ฉันเลยค่อยๆนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม แล้วก้มหน้าเตรียมรับชะตากรรมอันโหดร้าย
“ไปนั่งที่ได้แล้ว”
อาจารย์บอกนายปีศาจ”ส่วนเธอประภัสสร พักเที่ยงไปพบฉันที่ห้องด้วย”
แล้วอาจารย์ก็หันไปสอนต่อ แต่ไม่มีนักเรียนคนใดสนใจหรอก เพราะทุกคนต่างจ้องมาที่ฉันกับไอ้ปีศาจ
“ฟิสิกส์นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เล่ามาเดี๋ยวนะ”
เคมีหันมาถามอย่างสนใจ
“เอาไว้เดี๋ยวค่อยเล่า”
ฉันเอ่ยอย่างรำคาญ
“นี่ๆๆ”
อยู่ดีๆนายปีศาจก็มาสะกิดแขนฉัน
“อะไรของนาย”
ฉันพูดแบบห้วนๆ
“ฉันชื่อคารอสนะไม่ใช่นาย”
“แล้วมาบอกฉันทำไม”
“โอเค เรื่องเมื่อเช้านี่ขอโทษละกัน”
ง่ายไปมั้ง ชิส์จะตบหัวแล้วลูบหลังเหรอไม่มีทางซะหรอก
“พวงกุญแจฉันอยู่ไหน”
ฉันถามอย่างไม่ไยดี
“ทิ้งไปแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
นายปีศาจทำหน้าสะใจเต็มที่
“นาย!”
ฉันกัดฟันกรอด
“นี่เธอ”
นายปีศาจยังไม่เลิกกวน มันจะไม่เรียนหรือไงเนี่ย
“อะไรอีก-_-^^^”
“เธอชื่ออะไรเหรอ”
นายปีศาจทำหน้าตาเหมือนเด็ก น่ารักเป็นบ้า “ฟิสิกส์” “แปลกจัง ชื่อออกจะอินเตอร์แต่หน้าเธอออกจะเขมรไม่เห็นเข้ากันเลย” ~ติ๊ง ตุ่ง ติ๊ง ตั่ง ติ๊ง ต่อง~เสียงออดหมดเวลาดังขึ้นขัดจังหวะการเป็นฆาตกรของฉัน นายรอดไปก็แล้วกัน “นี่ยัยบ๊อง ข้อนี้คิดไงอ่ะ^-^”
“เอ่อ..-///-“ อยู่ดีๆฉันก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นมาซะดื้อๆ
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่านายลอดช่อง(เปลี่ยนใหม่น่ะ)คล้ายรุ่นพี่เอกมากๆโดยเฉพาะหน้าตา ~รุ่นพี่เอกคือคนที่ฉันแอบปลื้มมานานตั้งแต่ม.ต้น แต่พี่เขาก็เห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง หน้าตาก็คล้ายๆนายลอดช่องอย่างที่บอกตา หู จมูก ปาก โครงหน้า คิ้ว แต่รุ่นพี่ผิวขาวเหลือง แล้วก็ผมสีดำ สูง 180 เซนติเมตร รุ่นพี่เป็นนักบาสฯของโรงเรียน และเป็นคนที่สีไวโอลินได้เพราะมากเลย มีคนสวยๆ ปลื้มรุ่นพี่เยอะมากเลยทำให้ฉันแทบจะไม่มีสิทธิ์~
“เธอชื่ออะไรเหรอ”
นายปีศาจทำหน้าตาเหมือนเด็ก น่ารักเป็นบ้า “ฟิสิกส์” “แปลกจัง ชื่อออกจะอินเตอร์แต่หน้าเธอออกจะเขมรไม่เห็นเข้ากันเลย” ~ติ๊ง ตุ่ง ติ๊ง ตั่ง ติ๊ง ต่อง~เสียงออดหมดเวลาดังขึ้นขัดจังหวะการเป็นฆาตกรของฉัน นายรอดไปก็แล้วกัน “นี่ยัยบ๊อง ข้อนี้คิดไงอ่ะ^-^”
“เอ่อ..-///-“ อยู่ดีๆฉันก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นมาซะดื้อๆ
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่านายลอดช่อง(เปลี่ยนใหม่น่ะ)คล้ายรุ่นพี่เอกมากๆโดยเฉพาะหน้าตา ~รุ่นพี่เอกคือคนที่ฉันแอบปลื้มมานานตั้งแต่ม.ต้น แต่พี่เขาก็เห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง หน้าตาก็คล้ายๆนายลอดช่องอย่างที่บอกตา หู จมูก ปาก โครงหน้า คิ้ว แต่รุ่นพี่ผิวขาวเหลือง แล้วก็ผมสีดำ สูง 180 เซนติเมตร รุ่นพี่เป็นนักบาสฯของโรงเรียน และเป็นคนที่สีไวโอลินได้เพราะมากเลย มีคนสวยๆ ปลื้มรุ่นพี่เยอะมากเลยทำให้ฉันแทบจะไม่มีสิทธิ์~
นายปีศาจทำหน้าตาเหมือนเด็ก น่ารักเป็นบ้า
“ฟิสิกส์”
“แปลกจัง ชื่อออกจะอินเตอร์แต่หน้าเธอออกจะเขมรไม่เห็นเข้ากันเลย”
~ติ๊ง ตุ่ง ติ๊ง ตั่ง ติ๊ง ต่อง~เสียงออดหมดเวลาดังขึ้นขัดจังหวะการเป็นฆาตกรของฉัน นายรอดไปก็แล้วกัน
“นี่ยัยบ๊อง ข้อนี้คิดไงอ่ะ^-^”
“เอ่อ..-///-“ อยู่ดีๆฉันก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นมาซะดื้อๆ
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่านายลอดช่อง(เปลี่ยนใหม่น่ะ)คล้ายรุ่นพี่เอกมากๆโดยเฉพาะหน้าตา ~รุ่นพี่เอกคือคนที่ฉันแอบปลื้มมานานตั้งแต่ม.ต้น แต่พี่เขาก็เห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง หน้าตาก็คล้ายๆนายลอดช่องอย่างที่บอกตา หู จมูก ปาก โครงหน้า คิ้ว แต่รุ่นพี่ผิวขาวเหลือง แล้วก็ผมสีดำ สูง 180 เซนติเมตร รุ่นพี่เป็นนักบาสฯของโรงเรียน และเป็นคนที่สีไวโอลินได้เพราะมากเลย มีคนสวยๆ ปลื้มรุ่นพี่เยอะมากเลยทำให้ฉันแทบจะไม่มีสิทธิ์~
“เอ่อ..-///-“ อยู่ดีๆฉันก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นมาซะดื้อๆ
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่านายลอดช่อง(เปลี่ยนใหม่น่ะ)คล้ายรุ่นพี่เอกมากๆโดยเฉพาะหน้าตา ~รุ่นพี่เอกคือคนที่ฉันแอบปลื้มมานานตั้งแต่ม.ต้น แต่พี่เขาก็เห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง หน้าตาก็คล้ายๆนายลอดช่องอย่างที่บอกตา หู จมูก ปาก โครงหน้า คิ้ว แต่รุ่นพี่ผิวขาวเหลือง แล้วก็ผมสีดำ สูง 180 เซนติเมตร รุ่นพี่เป็นนักบาสฯของโรงเรียน และเป็นคนที่สีไวโอลินได้เพราะมากเลย มีคนสวยๆ ปลื้มรุ่นพี่เยอะมากเลยทำให้ฉันแทบจะไม่มีสิทธิ์~
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่านายลอดช่อง(เปลี่ยนใหม่น่ะ)คล้ายรุ่นพี่เอกมากๆโดยเฉพาะหน้าตา
~รุ่นพี่เอกคือคนที่ฉันแอบปลื้มมานานตั้งแต่ม.ต้น แต่พี่เขาก็เห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่ง หน้าตาก็คล้ายๆนายลอดช่องอย่างที่บอกตา หู จมูก ปาก โครงหน้า คิ้ว แต่รุ่นพี่ผิวขาวเหลือง แล้วก็ผมสีดำ สูง 180 เซนติเมตร รุ่นพี่เป็นนักบาสฯของโรงเรียน และเป็นคนที่สีไวโอลินได้เพราะมากเลย มีคนสวยๆ ปลื้มรุ่นพี่เยอะมากเลยทำให้ฉันแทบจะไม่มีสิทธิ์~
“เฮ้ แค่ให้คิดเลขมันต้องคิดนานด้วยเหรอ”
นายลอดช่องพูดดับจินตนาการอันไกลโพ้นของฉัน “คิดไม่ออก ไปให้คนอื่นคิดให้ป่ะ-_-”
“อะไรกันเลขแค่นี้คิดไม่ออก”
“นี่นายลอดช่อง ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครเค้าว่านายเป็นใบ้หรอกนะ-_-^”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ-_-^”
“นายลอดช่อง”
“ทำไมล่ะ” “มันผันมาจากคารอสน่ะ” ฉันถูๆไถๆไปเรื่อย “ไม่เป็นไรฉันชอบชื่อนี้ เทห์ดี” นายนี่ท่าจะบ้า “ฮิ ฮิ^-^;;;”ฉันยิ้มเจื่อนๆ
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ” ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน” นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง “ฉันขอโทษ” ฉันตอบอย่างสำนึกผิด “ช่างมันเถอะ” แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น “ว๊าย” อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา “นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด” ฉันพูดปราม “นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที” “ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว” “แก
..” ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย “มีอะไรกันรึเปล่า” เคมีหันหน้ามาถาม “ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา
.แถวนี้” “ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่” ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน “นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่” “อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ” “เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง” “ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ” นายลอดช่องก็หายไปด้วย “ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย” ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ “ไง มีใครรังแกรึเปล่า” ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก” ฉันพูดอย่างอวด “แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ” ก็มันอยากรู้นี่หน่า “
.” “รีบตอบมาสิ” “เอ่อ
..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย” นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ “ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
นายลอดช่องพูดดับจินตนาการอันไกลโพ้นของฉัน
“คิดไม่ออก ไปให้คนอื่นคิดให้ป่ะ-_-”
“อะไรกันเลขแค่นี้คิดไม่ออก”
“นี่นายลอดช่อง ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครเค้าว่านายเป็นใบ้หรอกนะ-_-^”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ-_-^”
“นายลอดช่อง”
“ทำไมล่ะ” “มันผันมาจากคารอสน่ะ” ฉันถูๆไถๆไปเรื่อย “ไม่เป็นไรฉันชอบชื่อนี้ เทห์ดี” นายนี่ท่าจะบ้า “ฮิ ฮิ^-^;;;”ฉันยิ้มเจื่อนๆ
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ” ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน” นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง “ฉันขอโทษ” ฉันตอบอย่างสำนึกผิด “ช่างมันเถอะ” แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น “ว๊าย” อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา “นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด” ฉันพูดปราม “นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที” “ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว” “แก
..” ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย “มีอะไรกันรึเปล่า” เคมีหันหน้ามาถาม “ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา
.แถวนี้” “ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่” ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน “นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่” “อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ” “เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง” “ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ” นายลอดช่องก็หายไปด้วย “ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย” ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ “ไง มีใครรังแกรึเปล่า” ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก” ฉันพูดอย่างอวด “แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ” ก็มันอยากรู้นี่หน่า “
.” “รีบตอบมาสิ” “เอ่อ
..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย” นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ “ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
“อะไรกันเลขแค่นี้คิดไม่ออก”
“นี่นายลอดช่อง ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครเค้าว่านายเป็นใบ้หรอกนะ-_-^”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ-_-^”
“นายลอดช่อง”
“ทำไมล่ะ” “มันผันมาจากคารอสน่ะ” ฉันถูๆไถๆไปเรื่อย “ไม่เป็นไรฉันชอบชื่อนี้ เทห์ดี” นายนี่ท่าจะบ้า “ฮิ ฮิ^-^;;;”ฉันยิ้มเจื่อนๆ
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ” ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน” นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง “ฉันขอโทษ” ฉันตอบอย่างสำนึกผิด “ช่างมันเถอะ” แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น “ว๊าย” อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา “นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด” ฉันพูดปราม “นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที” “ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว” “แก
..” ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย “มีอะไรกันรึเปล่า” เคมีหันหน้ามาถาม “ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา
.แถวนี้” “ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่” ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน “นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่” “อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ” “เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง” “ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ” นายลอดช่องก็หายไปด้วย “ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย” ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ “ไง มีใครรังแกรึเปล่า” ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก” ฉันพูดอย่างอวด “แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ” ก็มันอยากรู้นี่หน่า “
.” “รีบตอบมาสิ” “เอ่อ
..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย” นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ “ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
“นี่นายลอดช่อง ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครเค้าว่านายเป็นใบ้หรอกนะ-_-^”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ-_-^”
“นายลอดช่อง”
“ทำไมล่ะ” “มันผันมาจากคารอสน่ะ” ฉันถูๆไถๆไปเรื่อย “ไม่เป็นไรฉันชอบชื่อนี้ เทห์ดี” นายนี่ท่าจะบ้า “ฮิ ฮิ^-^;;;”ฉันยิ้มเจื่อนๆ
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ” ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน” นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง “ฉันขอโทษ” ฉันตอบอย่างสำนึกผิด “ช่างมันเถอะ” แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น “ว๊าย” อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา “นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด” ฉันพูดปราม “นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที” “ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว” “แก
..” ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย “มีอะไรกันรึเปล่า” เคมีหันหน้ามาถาม “ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา
.แถวนี้” “ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่” ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน “นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่” “อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ” “เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง” “ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ” นายลอดช่องก็หายไปด้วย “ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย” ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ “ไง มีใครรังแกรึเปล่า” ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก” ฉันพูดอย่างอวด “แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ” ก็มันอยากรู้นี่หน่า “
.” “รีบตอบมาสิ” “เอ่อ
..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย” นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ “ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ-_-^”
“นายลอดช่อง”
“ทำไมล่ะ” “มันผันมาจากคารอสน่ะ” ฉันถูๆไถๆไปเรื่อย “ไม่เป็นไรฉันชอบชื่อนี้ เทห์ดี” นายนี่ท่าจะบ้า “ฮิ ฮิ^-^;;;”ฉันยิ้มเจื่อนๆ
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ” ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน” นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง “ฉันขอโทษ” ฉันตอบอย่างสำนึกผิด “ช่างมันเถอะ” แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น “ว๊าย” อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา “นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด” ฉันพูดปราม “นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที” “ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว” “แก
..” ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย “มีอะไรกันรึเปล่า” เคมีหันหน้ามาถาม “ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา
.แถวนี้” “ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่” ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน “นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่” “อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ” “เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง” “ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ” นายลอดช่องก็หายไปด้วย “ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย” ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ “ไง มีใครรังแกรึเปล่า” ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก” ฉันพูดอย่างอวด “แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ” ก็มันอยากรู้นี่หน่า “
.” “รีบตอบมาสิ” “เอ่อ
..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย” นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ “ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
“นายลอดช่อง”
“ทำไมล่ะ” “มันผันมาจากคารอสน่ะ” ฉันถูๆไถๆไปเรื่อย “ไม่เป็นไรฉันชอบชื่อนี้ เทห์ดี” นายนี่ท่าจะบ้า “ฮิ ฮิ^-^;;;”ฉันยิ้มเจื่อนๆ
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ” ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน” นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง “ฉันขอโทษ” ฉันตอบอย่างสำนึกผิด “ช่างมันเถอะ” แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น “ว๊าย” อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา “นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด” ฉันพูดปราม “นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที” “ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว” “แก
..” ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย “มีอะไรกันรึเปล่า” เคมีหันหน้ามาถาม “ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา
.แถวนี้” “ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่” ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน “นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่” “อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ” “เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง” “ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ” นายลอดช่องก็หายไปด้วย “ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย” ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ “ไง มีใครรังแกรึเปล่า” ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก” ฉันพูดอย่างอวด “แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ” ก็มันอยากรู้นี่หน่า “
.” “รีบตอบมาสิ” “เอ่อ
..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย” นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ “ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
“ทำไมล่ะ”
“มันผันมาจากคารอสน่ะ”
ฉันถูๆไถๆไปเรื่อย
“ไม่เป็นไรฉันชอบชื่อนี้ เทห์ดี”
นายนี่ท่าจะบ้า
“ฮิ ฮิ^-^;;;”ฉันยิ้มเจื่อนๆ
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ” ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน” นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง “ฉันขอโทษ” ฉันตอบอย่างสำนึกผิด “ช่างมันเถอะ” แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น “ว๊าย” อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา “นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด” ฉันพูดปราม “นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที” “ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว” “แก
..” ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย “มีอะไรกันรึเปล่า” เคมีหันหน้ามาถาม “ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา
.แถวนี้” “ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่” ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน “นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่” “อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ” “เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง” “ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ” นายลอดช่องก็หายไปด้วย “ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย” ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร” แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ “ไง มีใครรังแกรึเปล่า” ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ “คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก” ฉันพูดอย่างอวด “แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ” ก็มันอยากรู้นี่หน่า “
.” “รีบตอบมาสิ” “เอ่อ
..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย” นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ “ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
“เออใช่นายลอดช่องนายเป็นลูกครึ่งเหรอ”
ความแค้นย่อมถูกลบด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ใช่ฉันเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แม่ฉันเป็นคนไทย พ่อเป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ฉันแยกทางกันตั้งแต่ฉัน 3 ขวบฉันเลยอยู่ที่เมืองไทยกับแม่แค่ 2 คน”
นายลอดช่องตอบเสียงเบา ๆฉันว่านายตอบเกินคำถามไปหน่อยนะ แต่ชีวิตนายน่าสงสารจัง
“ฉันขอโทษ”
ฉันตอบอย่างสำนึกผิด
“ช่างมันเถอะ”
แล้วนายลอดช่องก็เอื้อมมาผลักหัวฉันเบาๆอยู่ดีๆใจฉันก็เต้นไม่เป็นจังหวะซะงั้น
“ว๊าย”
อยู่ดีๆยัยไพรินก็ร้องขึ้นมา
“นี่มันห้องเรียนนะ ไม่ใช่ตลาดสด”
ฉันพูดปราม
“นี่นังชะนี เมื่อไรจะเลิกอ่อยแฟนชาวบ้านเค้าซักที”
“ใครกันแน่ที่เป็นชะนี ไม่ใช่เธอเหรอเห็นร้องผัว ผัว ผัว”
“แก ..”
ยัยไพรินพูดไม่ออกแต่ง้างมือตั้งท่าจะตบ ฉันก็พร้อมจะปล่อยหมัดเหมือนกันเพราะฉันไม่ใช่นางเอกนิยายน้ำเน่าซะหน่อย
“มีอะไรกันรึเปล่า”
เคมีหันหน้ามาถาม
“ก็ยัยไพรินนะสิอยู่ดีๆ ก็มาร้องหา .แถวนี้”
“ก็ยัยคู่แฝดเธอน่ะ กำลังแต๊ะอั๋งคารอสอยู่”
ฉันไปแต๊ะอั๋งตอนไหนเนี่ย มีแต่นายนั้นมาผลักหัวฉัน
“นี่พูดให้มันดีๆ หน่อยนะ ใครแต๊ะอั๋งใครกันแน่”
“อ๊าย นี่เธอหาว่าคารอสแต๊ะอั๋งเธองั้นเหรอ”
“เธอมาใส่ร้ายฉันปาวๆ เนี่ยถามคารอสรึยัง”
“ถามกิ่งก็ได้ ใช่ไหมกิ่ง อ้าวหายไปไหนล่ะ”
นายลอดช่องก็หายไปด้วย
“ฮิ ฮิ ฮิ ท่าทางจะไปได้สวย”
ยัยไพรินหัวเราะอยู่คนเดียว”ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร”
แล้วยัยไพรินก็เดินไปหาเพื่อนคนอื่น พลางหัวเราะอย่างทุเรศ ย้ำว่าทุเรศเจริงๆ
ซักพักใหญ่นายลอดช่องกับกิ่งกานต์ก็เดินเข้าห้องมา นายลอดช่องก็เดินแบบเก็กๆ ส่วนยัยกิ่งกานต์นี้สิยังสามารถรักษาสีหน้าอันเยือกเย็นไว้ได้ แต่ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนิดๆ นะ
“ไง มีใครรังแกรึเปล่า”
ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเองแหละ
“คนอย่างฉันเนี่ยนะจะยอมให้คนอื่นรังแก”
ฉันพูดอย่างอวด
“แล้วนายไปคุยอะไรกับกิ่งกานต์เหรอ ดูเหมือนหล่อนจะอารมณ์เสียนะ”
ก็มันอยากรู้นี่หน่า
“ .”
“รีบตอบมาสิ”
“เอ่อ ..นี่ใครเหรอหน้าเหมือนเธอเป๊ยบเลย”
นี่นายกล้าไม่ตอบคำถามฉันเหรอ
“ฉันชื่อประภาสร พิสิทธิกุล เรียกว่า เคมีก็ได้เป็นพี่สาวฝาแฝดของฟิสิกส์^___^”
”เคมีตอบอย่างฉะฉาน แถมด้วยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม ถ้าพี่นาวินแฟนเธอมาเห็น เธอจะทำหน้ายังไงเนี่ย
“ชื่อเพราะจังนะ^-^”
”โลกใบนี้มีแค่พวกเขา 2 คนรึไงเนี่ย
“ชื่อฉันก็เพราะย่ะ”
ฉันแทรกขึ้น
“ตรงไหน/ตรงไหน”
นายลอดช่องกับเคมีพูดขึ้นพร้อมกัน
“แหมเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะ”
ยี้ หมั่นไส้(อย่างไม่มีเหตุผล)
“เออใช่ฟิสิกส์เธอรู้จักกับคารอสเหรอถึงได้ลุกขึ้นชี้หน้าเขาอย่างนั้น”
เคมีถาม
“หะ..หา..เปล่าแค่จำคนผิดน่ะ หน้าคารอสดันไปเหมือนไอ้ปีศาจโรคจิตที่ฉันเจอเมื่อเช้าน่ะ”
“O_Oเธอเจอพวกโรคจิตเหรอแล้วมันทำอะไรเธอรึเปล่า”
“เอ่อ ..”
จะให้ฉันตอบว่าไง บอกว่ามันหอมแก้มฉันเหรอ บ้า
“มันไม่ได้ทำอะไรฉันหรอก”
“เฮ้อ ฉันนึกว่ามันจะทำร้ายเธอซะอีก”
“แต่ฉันว่าฉันสงสารไอ้โรคจิตนะ เพราะฟิสิกส์อาจจะทำมิดีมิร้ายก่อนที่มันจะทำซะด้วยซ้ำ”
นายลอดช่องพยายามกลั้นหัวเราะ
“ชิส์ ..”
ไอ้โรคจิตคนนั้นมันก็คือนายไม่ใช่รึไง
“เคมี ฉันว่าเราอย่าไปน้ำลายกับเรื่องพวกนี่เลย”
ฉันบอกเคมี
“^_______^”เคมีไม่ตอบแถมยังไปยิ้มให้นายลอดช่องอีก ตกลงใครเป็นญาติเธอกันแน่เนี่ย
^_______^”เคมีไม่ตอบแถมยังไปยิ้มให้นายลอดช่องอีก ตกลงใครเป็นญาติเธอกันแน่เนี่ย
ความคิดเห็น