คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้น
"ตื่นได้แล้วครับคุณหนู" เสียงของชายชราที่น่าจะมีอายุประมาณ ๔๕ปีได้ดังขึ้นเพื่อปลุกอยู่ในห้วงแห่งนิทรา ทันใดนั้นเองเสียงที่งัวเงียจากชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากชายหนุ่มก็ดังขึ้นด้วยความโมโหดุจดั่งภูเขาไฟที่ระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
"โอ็ย!!! ลุงปิดม่านซะ นี่ยังเช้าอยู่เลยนะ จะรีบไปไหนกันละคร้าบบบบบบบบบ" เสียงที่ทอดยาวอันแสดงถึงความไม่สบอารมณ์พร้อมกับเสียงที่แสดงถึงการหยอกล้อกัน แสดงถึงการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเช้าวันใหม่
"คุณหนูครับ ผมรู้ว่าท่านง่วงนอนมาก แต่ถ้าไม่รีบตื่นเดี๋ยวก็ไปโรงเรียนไม่ทันหรอกครับและอีกอย่างเดี๋ยวผมจะโดนคุณนายว่าได้นะครับ" เสียงของคนรับใช้ผู้สูงอายุพูดขึ้น พร้อมกับมองด้วยสายตาที่ดูห่วงใย
"ครับ ทราบแล้วคร้าบบบบบบบบ" ผมลุกออกจากเตียงอย่างช้าๆๆ ด้วยความขี้เกียจของผมนั้นเอง
ก่อนอื่นผมจะขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมมีชื่อว่า สายฟ้า ครับ อายุ ๑๔ ปี เรียนอยู่ชั้นม. ๒ อย่างที่ทุกๆท่านได้เห็นกันอยู่ ผมเป็นลูกคุณหนูที่ทั้งหล่อ ทั้งเท่ ทั้งรวย พ่อกับแม่ของผมนั้นมีธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ต่างประเทศ ผมก็เลยต้องอาศัยอยู่กับพ่อบ้านและแม่บ้านอีกหลายคนด้วยกัน ซึ่งตัวผมเองนั้นไม่ค่อยจะชอบใจสักเท่าไร แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่พ่อกับแม่จะกลับมาบ้าน <นานๆๆครั้ง> พ่อกับแม่นั้นชอบให้ผมย้ายโรงเรียนอยู่บ่อยๆ ผมจึงไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทสักเท่าไร
"คุณหนูครับได้เวลาไปโรงเรียนแล้วครับ" เสียงของพ่อบ้านที่กระชับว่าให้รีบลงไป
"ครับบบบบบบ เดี๋ยวผมลงไป" ผมตอบกลับด้วยเสียงอันเบา
เอาละผมคงจะไม่มีอะไรที่ต้องแนะนำพวกคุณอีกแล้ว เอาเป็นว่าผมขอจบรายงานเพียงเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้เพลิดเพลินกับการผจญภัยครั้งสำคัญของผมให้ดีก็แล้วกัน ขอตัว
ขณะที่ผมกำลังโดยสารรถยนต์สีดำคันหนึ่งเพื่อที่จะไปโรงเรียนในยามเช้าเหมือนกับเด็กปกติทั่วไป แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมไม่เหมือนกับเด็กทั่วๆไปนั้นก็คือ รถที่ผมโดยสารอยู่นั้นออกจะหรูหราเกินไปสำหรับเด็กม.๒ ในรถก็มีทั่งตู้เย็น ทีวี เก้าอี้นุ่มๆที่ทั้งยาวและกว้างขวาง
ผมนั่งอยู่ในท่ามกลางรถที่เงียบสงบ ผมจึงนั่งครุ่นคิดถึงคำพูดของแม่ที่ได้บอกกับผมไว้ทางโทรศัพท์เมื่อคราวก่อน
เมื่อไม่กี่วันก่อน
"สายฟ้าจ๊ะ โรงเรียนที่แม่เลือกให้ลูกน่ะ ทั้งใหญ่ ทั้งกว้าง แม่รับรองเลยว่าลูกจะต้องติดใจโรงเรียนนี้อย่างแน่นอนที่สุด"
ถึงแม้ว่าแม่ของผมจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ไม่ว่ายังไง ตัวผมเองก็ไม่ชอบที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นสักเท่าไร
ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากที่นั่งคนขับรถ
"คุณหนูครับ ถึงโรงเรียนแล้วครับ เดี๋ยวผมเปิดประตูให้นะครับ" คนขับรถกล่าวด้วยวาจาที่สุภาพพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหาว่าผมเป็นคุณหนูเกินไป เดี๋ยวคนอื่นจะพากันเกลียดขี้หน้าผมหมด"
"งั้นก็ได้ครับ" คนขับรถกล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ผิดหวังเป็นอย่างมาก
ทันทีที่ผมได้ก้าวเท้าให้หลุดพ้นจากรถที่หรูหรา วินาทีที่เท้าของผมได้สัมผัสกับพื้นพสุธาและสิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมนั้น ไม่ใช้สิ่งอื่นใดเลย แต่เป็นตึกหลังใหญ่ๆ สูงแทบจะมองม่เห็นยอดตึกด้วยซ้ำไป พอผมได้เห็นสิ่งนี้แล้ว มันทำให้ผมถึงกับอึ้งกิ่มกี่ไปเลย อึ้งถึงขนาดพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ สุดจะบรรยายด้วยซ้ำไป พื้นที่ก็กว้าง เหมือนกับ...... เหมือนกับสนามบินสุวรรณภูมิเลยก็ว่าได้
สักพักผมก็ได้เห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้าไปในโรงเรียน ทีแรกผมก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจอะไรกับพวกธอมากนัก ผมจึงเดินผ่านพวกเธอแล้วตรงเข้าไปในโรงเรียน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะผมเองก็เพิ่งจะย้ายเข้ามาใหม่ ก็เลยยังไม่ค่อยชินหรือคุ้นเคยกับเส้นทางสักเท่าไร ผมจึงจำใจเดินเข้าไปหาผู้หญิงกลุ่มนั้นอย่างกล้าๆกลัวๆ และถามพวกเธอไปว่า
"เออ ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณจะพอทราบไหมว่าห้องม. ๒ นั้นอยู่ที่ไหนครับ"
แต่พอพวกเธอได้หันมามองและสบตากับหน้าของผมนั้น ในตอนนั้นผมคิดว่าพวกเธอจะหันมาเพื่อที่จะตอบคำถามของผม แต่ไม่เลยพวกเธอกลับทำหน้าตาเขินอายจนเห็นได้อย่างชัดเจน แถมยังกริ๊ดดดดซะ ซึ่งในตอนนั้นเองตัวผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพวกเธอจะร้องกันไปทำไม
เวลาผ่านไปได้สัก ๑ นาที
ในตอนนี้ผมก็ไม่สามารถที่จะฝ่าพวกเธอให้หลุดพ้นออกจากบริเวณนี้ได้ แต่ก็นับว่าโชคดีที่ดวงของผมยังไม่ตก ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา พวกเธอจึงรีบหันมาสวัสดีผู้หญิงคนนั้นอย่างมีสัมมาคารวะ และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว จากกริยามารยาทของพวกเธอแล้ว ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าผู้หญิงท่านนั้นคืออาจารย์ของโรงเรียนนี้อย่างแน่นอน ยังไม่ทันที่ผมจะได้มีเวลาให้ผมได้หายใจ อาจารย์ท่านนั้นก็ได้เดินตรงมาแนะนำตังเองให้ผมได้รู้จัก
"สวัสดีจ๊ะ ครูชื่อผกาแก้วจ๊ะ ครูทำงานอยู่ฝ่ายบัญชีของโรงเรียน เดี๋ยวครูจะพาเธอไปห้องพักครูก่อนนะ" ถึงหน้าตาของเธอจะไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่เสียงของเธอนั้นถึงกับสะกดจิตใจของผมได้เชียวละ
๕ นาทีต่อมา
ไม่ทันไรข้างหน้าของผมนั้นก็เป็นห้องที่เต็มไปด้วยเก้าอี้กับโต๊ะที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย หนังสือ สมุด กระดาษ และอุปกรณ์การสอนอื่นๆ ได้ถูกเรียงอยู่บนโต๊ะอย่างไม่มีที่ติ ห้องทั้งห้องก็ดูสะอาดหมดจด มีผู้คนมากมายไม่ว่าจะอยู่ในท่านั่งหรือว่ายืนก็ล้วนแต่สนทนากันอย่างเคร่งเครียดตามภาษาผู้ใหญ่ ใช่แล้วครับตอนนี้ผมได้มายืนอยู่ในห้องพักครูแล้ว
"เดี๋ยวก่อนนะจ๊ะ ครูขอตัวไปจัดการงานเดี๋ยวนึง" เสียงที่สดใสได้ดังขึ้น ใช่แล้ว คนนั้นก็คืออาจารย์ผกาแก้ว
แต่ด้วยความตื่นเต้นของผม ผมจึงตอบกลับไปแบบไม่ทันตั้งตัวไปว่า
"ครับ" เสียงของผมนั้นดังก้องไปทั่วห้องพักครู
ทันใดนั้นอาจารย์ทุกท่านก็ได้หยุดสนทนากัน บรรยากาศที่มีแต่บทสนทนาเหลือเพียงแต่บรรยากาศที่เงียบสงบ แววตาของอาจารย์ทุกคู่ได้หันมามองผมในแนวเดียวกัน หน้าของผมเลยเกิดอาการหน้าแดงกระทันหัน
<โธ่โว๊ย! ตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้เนี้ย ยังไม่เคยหน้าแตกขนาดนี้มาก่อนเลยนะ> นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดได้ในเวลาอย่างนี้
กริ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนได้ทำลายความเงียบสงบในห้องพักครูได้เป็นอย่างดี
"อ้าว! ตายจริง ! ออดดังแล้วจ๊ะ พวกเราก็ไปกันได้แล้วนะจ๊ะ" อาจารย์ได้พูดกับผมด้วยถ้อยคำสุภาพเช่นเดิม
"ครับ" ผมตอบกลับด้วยใบหน้าที่แดงก่ำแสดงถึงความอาย
ผมกำลังเดินอยู่บนระเบียงทางเดินที่กว้างขวาง ถ้าจะให้ผมเดาละก็คงสักประมาณ ๒ เมตรเห็นจะได้ ระหว่างที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับการเดาระเบียงทางเดินอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"ถึงแล้วจ๊ะ" เสียงนี้ทำให้ผมสะดุ้งตกใจ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ผมหลุดออกจากความคิดที่ไร้สาระได้
ทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นมา ผมกลับตกใจมากกว่าไอ้ระเบียงทางเดินนั้นยิ่งกว่าซะอีก จนผมถึงกับหลุดปากแล้วอุทานขึ้นมาว่า
" เหวอ ! แม่เจ้าโว๊ยยยยยย!!! นี่มันอะไรกันแน่เนี้ย นี่มันตึกเรียนจริงรึเปล่าเนี้ยยังกับพระราชวังยังไงยังงั้นเลย" คำพูดที่ผมเผลออุทานมาเพราะตกใจมาก ทำให้อาจารย์ที่ยืนอยู่ข้างๆผมนั้นมีรอยยิ้มที่มุมปากขึ้น แม้ว่ามันจะน้อยนิดก็ตาม สำหรับผมแล้วรอยยิ้มนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่มีค่า มันทำให้ผมมีความสุขไปด้วย
"เออ ขอโทษนะ ครูลืมถามชื่อของเธอไปนะจ๊ะ" สีหน้าของอาจารย์แสดงถึงความตั้งใจจริง ทำให้ผมตอบกลับไปอย่างตั้งใจจริงว่า "ผมชื่อสายฟ้าครับ"
หลังจากที่ผมได้พูดจบประโยคเสร็จ อาจารย์ก็ยิ้มและพูดกลับมาด้วยสีหน้าที่ใจดีว่า
"สายฟ้าจ๊ะ โรงเรียนของเราเนี้ย อาจจะแปลกประหลาดกว่าโรงเรียนอื่นสักหน่อย แต่ครูก็เชื่อนะว่าเธอนะจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนและโรงเรียนนี้ได้อย่างแน่นอนจ๊ะ
เมื่อผมได้ยินประโยคนี้เข้า ก็รู้สึกสะกิดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเท่าที่ผมสังเกตมานั้นก็ไม่เห็นมีอะไรที่แตกต่างหรือแปลกไปจากโรงเรียนอื่นเลย นอกจากเรื่องที่โรงเรียนนี่จะมีพื้นที่กว้างและใหญ่กว่าโรงเรียนอื่นก็เท่านั้นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีตึกที่สูงเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นโรงเรียนนี้ก็ยังมีดอกไม้และต้นไม้นานาชนิดอยู่ทั่วบริเวณในโรงเรียนและนอกโรงเรียน
ย้อนกลับมาในเวลาปัจจุบัน
พอผมได้เปิดประตูเข้าไป มันทำผมตะลึงไปเลยและทันใดนั้นเองผมก็เข้าใจแล้วว่าทำไมโรงเรียนนี้ถึงได้แปลกประหลาด นั้นก็เพราะห้องเรียน ๑ ห้องจะอยู่ใน ๑ ชั้นของทั้งตึก สรุปว่าม.๒ จะอยู่ในตึกหลังหนึ่งทั้งหลังและภายในตึกก็จะแบ่งออกเป็น ๙ ชั้นด้วยกัน ชั้นที่ ๑ ก็จะเป็นประตูทางเข้า ชั้นที่ ๒ ก็จะเป็นของห้อง ๑ ทั้งหมด ชั้นที่ ๓ ก็จะเป็นของห้อง ๒ ทั้งหมด และมันก็จะไล่ขึ้นไปเรื่อยๆๆ จนถึงชั้นที่ ๙ ห้อง ๘
ห้องนึงจะมี่นักเรียนไม่เกิน ๓๑ คน ห้องของผมคือห้อง ม. ๒/๘ ก็จะอยู่ในชั้นที่ ๙ แต่สำหรับผมแล้วการเดินขึ่นบันไดนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากมากเพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรที่มันเหนื่อยเช่นการเล่นกีฬาเนี่ย ขอผ่านเลยล่ะ แถมยังต้องขึ้นบันไดตั้ง ๙ ชั้นแน่ะ
< ตายแน่คราวนี้ ชั้นไม่เหลืออนาคตอีกต่อไปแล้ว> ผมคิดอย่างหมดหวัง
ระหว่างที่ผมกำลังก้าวบันไดอย่างหมดหวังอยู่นั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียง เสียงที่จะนำพาผมไปสู่แสงสว่าง
"สายฟ้านั้นเธอจะเดินไปไหน นี่! ทางนี้! ตรงนี่มีลิพให้ขึ้นไปด้วยนะ รีบมาเร็ว! เดี๋ยวประตูลิพจะปิดก่อนพอดี" อาจารย์พูดอย่างเร่งรีบเพื่อให้ผมรีบวิ่งเข้ามาในลิพ
ผมดีใจมากจนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาเลยละ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงหยดน้ำเล็กๆก็ตาม แต่หยดน้ำตาเม็นนี้ก็สามารถที่จะทำให้คนภายนอกได้รู้ว่า ผมดีใจมากแค่ไหน
ภายในกล่องเหล็กที่ใหญ่โต ได้มีเพียงแค่บุคคล คนยืนอยู่ ขณะที่ลิพได้เคลื่อนที่อย่างช้าๆ ตัวเลขก็ได้นับไปข้างหน้าอย่างช้าๆๆและเงียบสงบ ความเงียบนั้นทำให้พวกเขาทั้งสองไม่รู้สึกตัวเลยว่า พวกเขานั้นได้มายังที่หมายเรียบร้อยแล้ว
ประตูลิพได้ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ
"ไปกันได้แล้วจ๊ะ" เสียงที่ชักชวนอย่างอ่อนหวาน ทำให้ผมต้องจำใจเดินตามคำชวนของหญิงสาวผู้หนึ่งไป
ทันทีที่ผมได้ก้าวเท้าของผมเข้าไปในห้องอย่างนุ่มนวล ผมก็สังเกตเห็นว่าในห้องเรียนนั้นทุกคนต่างใส่ชุดยูนิฟอร์มสีขาวบริสุทธ์ ทุกคนต่างใส่ไทต์สีดำไม่ว่าจะหญิงหรือชาย จะต่างกันก็ตรงผู้ชายจะใส่กางเกงสีดำ ผู้หญิงจะใส่กระโปรงสีดำยาวประมาณเข่าทุกคน ในชั้นเรียนนี้นั้นมีผู้หญิงอยู่ประมาณ เอ๋
.. ๑ , ๒, ๓, ๔
. อ้อ! ๑๗ คนนั้นเอง งั้นผู้ชายก็คงจะมีสักประมาณ ๑๓ คนเห็นจะได้
ระหว่างที่ผมมัวแต่นับจำนวนคนอยู่นั้น ผมก็ไม่ทันสังเกตว่าอาจารย์ผกาแก้วนั้นได้ยืนคุยกับอาจารย์อีกท่านหนึ่ง หน้าตาสวย ผมยาวสีดำขลับกับผิวบนใบหน้าอันเรียวและขาวของเธอ ตัวสูง ถึงผิวจะไม่ค่อยขาวแต่ก็ไม่ค่อยดำเท่าที่ผมเห็น สักพักอาจารย์ผกาแก้วก็ได้เดินเข้ามาทางผมและบอกกับผมว่า
เดี๋ยวอาจารย์ประจำชั้นของเธอจะพาเธอเข้าไปในห้องเอง พยายามเรียนเข้านะ คำพูดที่ดูเหมือนหวังดีได้จากไปกับรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว
"อ้าวๆๆ นักเรียนนั่งที่กันได้แล้ว เอาละก่อนอื่นครูจะแนะนำเพื่อนใหม่คนหนึ่งให้รู้จัก"
"นี่นี่ดูสิพวกเราคนเนี้ยหล่อดีเนอะ ใช่ๆจริงด้วยแถมยังน่ารักอีกต่างหาก" เสียงซุบซิบดังขึ้นจากพวกผู้หญิงกลุ่มนึง
"อ้าว เงียบๆกันหน่อย แหม่ทำไมเวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็ชอบตื่นเต้นกันจัง อยู่ให้มันสงบกว่านี้หน่อยได้ไหม"
ผมได้ก้าวเท้าเดินเข้ามาในห้องและยืนอยู่ตรงหน้าชั้นเรียน ทันทีที่ผมได้เข้ามายืนแล้ว ผมก็เริ่มแนะนำตัวเองต่อหน้าสาธรณะ
"สวัสดีครับ ผมมีชื่อว่าสายฟ้าครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วนนะครับ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงอันดัง หนักแน่นและเสียงดัง
ด้วยคำพูดของผมบวกกับเสียงอันดังทำให้บรรยากาศของห้องอยู่ในความเงียบสงบในชั่วขณะ จากนั้นก็มีเสียงปรบมือและเสียงกริ๊ดดดดดมาจาทุกสารทิศ ในตอนนั้นเองผมรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่ผมก็รู้สึกดีใจด้วยเช่นเดียวกัน เพราะตั้งแต่ที่ผมย้ายโรงเรียนมานั้น ยังไม่เคยมีใครคนไหนทำอย่างนี้มาก่อน ส่วนมากพอผมแนะนำตัวเสร็จ ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ ทุกคนจะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ
"สายฟ้าจ๊ะ ที่นั่งเธออยู่ตรงนี้นะ"
<หา ตั้งแต่เรียนมานังไม่เคยได้นั่งข้างหน้าสักครั้งเลยนะ แถมยังเป็นแถวกลางซะด้วย>
ทันทีที่ผมรู้ที่นั่งของผม ผมก็หิ้วกระเป๋าของผมไปวางไว้บนเก้าอี้ และหยิบอุปกรณ์การเรียนขึ้นมา
พอผมเข้ามานั่งที่ได้ไม่นานนัก ผมก็สังเกตเห็นว่าในห้องนี้มีอาจารย์ประจำชั้นทั้งหมด ๓ คนด้วยกันท่านแรกก็คืออาจารย์ที่ยืนคุยกับอาจารย์ผกาแก้วในตอนเช้า เธอเป็นอาจารย์สอนภาษาไทยในห้องของเรา
วิชาแรกที่ผมต้องเรียนในวันนี้ก็คือ วิชาภาษาไทย ไม่นานอาจารย์ก็เริ่มหยิบอุปกรณ์การเรียนการสอนมาด้วยสีหน้าที่อารมณ์ดี
"หัวหน้าชั้น" เธอกล่าวหลังจากที่เธอเดินเข้ามาได้ไม่นาน
"นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ" เสียงของหัวหน้าชั้นดังขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปยังเพื่อนทั้งห้อง
"สวัสดีครับ/ค่ะ อาจารย์" เสียงของนักเรียนทุกคนดังขึ้นพร้อมกับยืนตรงและประสานมือไว้ระหว่างอกอย่างช้าๆ
"เอาละ อย่างที่นักเรียนทุกๆคนรู้ๆกันอยู่ ว่าวันนี้มีนักเรียนเข้ามาใหม่ ครูจึงอยากให้พวกเราทุกคนแนะนำตัว เริ่มจากคนที่อยู่ด้านขวามือ เชิญจ๊ะ อธิศ วิษณุ จิรสิน สมุทร ธนกฤต ฐิติพงศ์ ธนโชค ณัฐภัทร กรินทร จิรกิต ชยุตร์ ฉัตรบดินทร์ ธารินทร์ครับ อรุณี ชลธรณ์ ภาฝัน ฐิติรัตร์ อภานุช พีรดา สาธิดา ปทุมพร อรภา ราเชล วีรยา วรรณการณ์ รพีพร ธีชานัน ไรวินทร์ พิมนริณ์ ภิณญลักษณ์ค่ะ "
"ต่อไปถึงคราวครูแนะนำตัว ครูชื่อ ปิติราชา ยินดีที่ได้รู้จัก ถึงแม้ว่าชื่อครูจะเหมือนผู้ชายไปหน่อย แต่รับรองเลยว่าครูน่ะเป็นผู้หญิงเต็มตัวแน่นอน" อาจารย์พูดอย่างมั่นใจในตัวเองมาก
"ในเมื่อวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก ครูจึงอยากจะบอกกับนักเรียนทุกคนให้รู้เกี่ยวกับกฏของโรงเรียนหน่อย โรงเรียนของเราจะเปิดเรียนตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันเสาร์นะ" อาจารย์กล่าวด้วยสีหน้าที่ดูพึงพอใจ
"โฮ่" เสียงโฮ่ได้ดังขึ้นจากนักเรียนทั้งห้องยกเว้นผมคนเดียว ที่ผมไม่โฮ่นั้นก็เป็นเพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ
"เอ้า เงียบกันหน่อย ครูยังพูดไม่จบเลยนะ ฟังให้ดี ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องมาโรงเรียนถึง ๖ วัน แต่พวกเธอก็มาเรียนแค่ครึ่งวันต่อวันเองนะ" เธอกล่าวด้วยถ้อยคำที่แสนจะธรรมดาแต่หนักแน่น
"เย้! ยะหู้ !" ต้องให้ได้อย่างนี้สิ
ระหว่างนั้นผมก็สังเกตว่า มีรอยยิ้มประทับอยู่ที่มุมปากเล็กๆของอาจารย์ปิติราชา รอยยิ้มนั้นแสดงถึงความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อพวกเราอย่างกับลูกของตัวเอง
"เอ้า พอกันได้แล้ว สุดท้ายนี้ครูขอฝากคำพูดนี้ให้พวกเธอทั้งหมดช่วยกันคิดนะ แล้วจำเอาไว้ว่าห้ามให้ใครช่วยเป็นอันขาด เริ่มแล้วนะ สามัคคีจะก่อให้เกิดพลัง ยามที่พวกเราสามัคคี จะก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ได้ เลิกเรียนได้"
"นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ"
ผมงงกับข้อคิดที่อาจารย์ให้พวกเรามา ยั่งกับโค้ตลับเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครในห้องสักคนที่จะสนใจกับข้อคิดที่อาจารย์ตั้งให้
แต่พวกเขาก็ไม่รู้หรอกว่าชะตากรรมของคนทั้งห้องได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว
ความคิดเห็น