ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทามากิ – เคียวยะ .... กว่าจะรู้ [ Fic Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : -- 2 --

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 53


     ทามากิ – เคียวยะ .... กว่าจะรู้  [ Fic Yaoi]

    -2-

     

     

     

                    ตึก   ตึก

                    เสียงฝีเท้าสะท้อนกลับไปกลับมาอยู่รอบๆตัวจนร่างบางหยุดเดิน  ทามากิค่อยๆพาตัวเองเดินไปหยุดอยู่ตรงทางเข้าสวนดอกไม้ของบ้านเคียวยะ   เขากับเพื่อนๆในชมรมเคยมาบ้านเคียวยะ  คงไม่แปลกหากเขาจะพอรู้บ้างว่าสวนดอกไม้อยู่ตรงส่วนไหนของบ้าน

                    ดวงตาคู่สีม่วงมองสำรวจไปรอบสวนสวยอย่างตั้งใจ  เกือบปีแล้วที่ไม่ได้มาบ้านหลังนี้  สวนแห่งนี้ดูแปลกตาไปมากจากเมื่อก่อน  มันดูได้รับการเอาใจใส่อย่างดี

                    เอ๊ะ!

                    ใครน่ะ

                    สายตาพลันเหลือบไปเห็นใครบางคนตรงมุมสวน  ทามากิเดินไปหลบมุมเพื่อที่จะมองเห็นเธอคนนั้นให้ชัดๆ

                    หญิงสาวตรงหน้าดูจะแก่กว่าเขาไม่กี่ปี  กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อย่างมีความสุข  ดูจากการแต่งกายแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอคนนี้จะเป็นคนสวน

                    แล้วเธอเป็นใคร

                    ผู้หญิงตรงหน้าจัดเป็นคนที่สวยเลยทีเดียว  รูปร่างสูงโปร่ง  หุ่นเพรียวอย่างกับนางแบบ  ผมตัดซอยสั้นรับกับดวงตาเฉี่ยวคม  ดูเป็นคนที่เซ็กซี่มากๆ  กางเกงขาสั้นที่เธอใส่ดูจะยิ่งทำให้ขาเธอเรียวแล้วก็ยาว  เสื้อสายเดี่ยวเข้ารูปก็ยิ่งเน้นสัดส่วนของเธอ

                    สรุปสั้นๆ เธอดูสวยแล้วก็สง่างามมากทีเดียว

                    จู่ๆคนในความคิดของทามากิก็ทิ้งสายยางลง  ร่างของผู้หญิงตรงหน้าวิ่งไปทางประตูอีกบานที่เป็นทางเข้าอีกทางของสวนแห่งนี้  เธอวิ่งไปกระโดดกอดใครบางคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาพร้อมทั้งหอมแก้มซ้ายแก้มขวา  ส่วนคนที่โดนหอมแก้มก็ทำเหมือนรำคาญนิดๆ  แต่ดวงหน้าคมคายร้อนผ่าว  แก้มแดงระเรื่อ  ก่อนจะผลักหญิงสาวตรงหน้าออก

                    หากคนๆนั้นจะเป็นใครก็ได้  ใครก็ตามที่ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อ

                    เคียวยะ!

                    เพราะทามากิไม่เคยเห็นใครที่เคียวยะเคยจะให้กอดแล้วหอมแก้มเลยซักครั้ง  นอกจากแม่ของเคียวยะเอง  แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร  ทำไมเคียวยะถึงยอมให้กอด  ให้หอมแก้มโดยไม่ว่าไม่ปฏิเสธซักคำ  แถมเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะอาย

                    คนรักเหรอ

                    คงจะใช่สินะ  ไม่งั้นคงไม่มีท่าทางสนิทสนมกันแบบนั้น  แถมผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ในบ้านหลังนี้อีก

                    แล้วทำไม

                    ในเมื่อเคียวยะมีคนรักอยู่แล้วถึงยังได้มาทำท่าว่าสนใจเขาอีก  มาจูบทำไม  มาคอยดูแลทำไม  หรือเป็นเพราะว่าแค่สงสาร  แค่เห็นใจ  แล้วอารมณ์สถานการณ์มันพาไป

                    ถ้าอย่างนั้นอย่ามายุ่ง  อย่ามาสงสารกันเลย

                    ปล่อยเขาไว้

                    ทิ้งไป

                    อย่ามาทำท่าอาลัยอาวรณ์

                    เพราะสุดท้ายคนที่เจ็บที่สุดคงจะไม่ใช่ใครที่ไหน  เป็นเขาเอง  เขาที่นึกดีใจ  หลงไปกับคำพูดปลอบประโลมหวานหู

                    แต่สุดท้าย

                    เขากลับไม่เหลือใคร  ก่อนร่างบางจะรีบหมุนตัวกลับ หยดน้ำมากมายเอ่อที่หน่วยตา  ทามากิปัดมันทิ้ง  แต่คงเพราะรีบเกินไปด้วยความที่ยังไม่หายดี  เลยรู้สึกวูบขึ้นมารีบหาที่เกาะ  แต่โชคกลับไม่เข้าข้าง  มือกลับไปคว้าโดนเอากิ่งไม้แหลม

                    บาดมมือเป็นทางยาว

                    คงลึกพอดู

                    เพราะลนลานกลัวจะล้ม  พอคว้าอะไรได้ก็จับเอาไว้เต็มแรง

                    คงเหมือนใจ

                    ที่ตอนนี้อ่อนล้าเต็มที  แต่เสียดายที่ไม่มีแม้ใครช่วยพยุง  ปลอบโยนเหมือนก่อน  เพราะตอนนี้ใครคนนั้นคงกำลังคุยกับใครอีกคนด้วยรอยยิ้ม

                    รอยยิ้มที่แม้แต่เขายังไม่เคยได้สัมผัส

                    รอยยิ้มที่ได้แต่พยายามแสวงหา

                    แต่สิ่งที่ได้กลับมา

                    มีเพียงดวงหน้าเรียบเฉยกับแววตาที่คอยปลอบประโลมยามร้องไห้เสียน้ำตา  ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะได้ครอบครองรอยยยิ้มนั้น

                    “ฉันคงไม่มีทางได้เห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนของนาย  เคียวยะ”

                    เพราะนายมอบมันให้คนอื่นไปแล้ว

     

     

    ****






    (ต่อ)

     

     

     

                    ทามากิรีบเดินออกมาจากสวนอย่างรวดเร็ว   จนดูเหมือนที่ตรงนั้นไม่เคยมีคนเดินผ่าน  เพราะไม่ว่าจะตอนมาหรือกลับออกไปไม่มีแม้ซักคนจะมองเห็น   หากแต่หยดเลือดมากมายบนพื้นกลับเป็นพยานสำคัญว่าเคยมีคนอยู่ที่นี่  ตรงนี้

                    วงเลือดมากมายสีแดงที่กระจายตัวรอบๆก่อนจะหยดเป็นทางเข้าไปในตัวบ้านคงจะไม่มีใครมองเห็น

                    แต่หากใครซักคนเดินผ่านา

                    จะได้รู้ว่า

                    หยดเลือดมากมายเหล่านั้นคงมาจากแผลที่ลึกพอสมควร

                    ร่างบางพยายามเอาชายเสื้อปิดปากเผลอไว้  กิ่งไม่ที่คิดจะจับเพื่อทรงตัว  ใครจะคาดคิดว่ามันจะกลับแหลมคมและมีหนามมากมายขนาดนั้น

                    ทามากิเดินอย่างไร้จุดหมาย  เดินต่อไปเรื่อยๆขอแค่ไปให้พ้นจากตรงนั้น 

                    นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เดินออกมาจากบ้านหลังนั้น  ก่อนร่างบางจะทรุดตัวลงนั่งฟุตบาทริมบาง  น้ำตาที่กักเก็บเอาไว้ทำท่าว่าจะไหลออกมาอีกครั้ง   ร่างบางรีบเงยหน้ามองฟ้า  เพียงเพราะกลัวว่ามันจะไหลออกมา

                    เพราะ...

                      ตอนนี้  ที่นี่   ไม่มีใครคอยปลอบประโลมอยู่ข้างกาย  จะมีก็แต่ตัวเอง

                    ตัวเองที่อ่อนแอ  อ่อนล้า

                    จนไม่มีแม้กำลังที่จะหยุดตัวเอง  หากต้องร้องไห้ออกมา

                    แต่ดูเหมือนวันนี้ฟ้าจะเห็นใจ

                    แสงอาทิตย์ที่ควรจะแผ่เข้าตายามเงยหน้ามองฟ้ากลับถูกหมู่เมฆดำเคลื่อนทับ  ก่อนสายฝนพร่ำจะโปรยปรายลงมา

                    แม้อาจไม่มีใครปลอบโยน  หากแต่ที่หางตากลับปรากฏน้ำใสแวววาวค่อยๆไหลออกมาก  แต่ก็แทบไม่มีใครสังเกตเห็น  เพราสายฝนด้านบนช่วยลบเลือนชะล้างให้มันหายไป

                   

                   

     

                    โอโทริ  เคียวยะ

                    เพื่อนคนแรกของทามากิที่จู่ๆก็เข้ามาแนะนำตัวเองอย่างงงๆ  แม้สีหน้าและแววตาดูเหมือนจะไม่เต็มใจ

                    แต่เคียวยะกลับเป็นคนแรกที่เข้ามาทักแล้วพูดด้วยกับเด็กใหม่ที่ไม่มีเพื่อนอย่างเขา

                    เขาจำได้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงตอนนั้น

                    ดีใจ...

                    ความรู้สึกแรกแวบเข้ามา  เขาที่ก้มหน้าอยู่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองแล้วตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

                    สุโอ  ทามากิ

                    ตั้งแต่ตอนนั้นทั้งเขาและเคียวยะก็เป็นเพื่อนกัน

                    ทุกครั้งเคียวยะจะห่วงเขาเสมอ  งานของชมรมเคียวยะก็มักจะแย่งเขาไปทำคนเดียวทุกครั้ง  จนวันนั้นที่เขานั่งทำงานจนดึก  มือบางยกขึ้นแตะริมฝีปาก

                    สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากนั่น  จนตอนนี้ก็ยังไม่หายไปไหน

                    ขอโทษ  กลับกันได้แล้ว

                    ฉันก็อยากขอโทษนายเคียวยะ  ที่ตอนนั้นพูดไม่ดีออกไป

    นายไม่ต้องมายุ่งกับฉัน  น่ารำคาญ

    กินยาด้วย  นายเป็นไข้  ฉันไปละ

                    ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น  นายโดนฉันว่าแต่นายกลับเป็นห่วงฉัน  ห่วงคนไม่ได้เรื่องคนนี้  ห่วงคนไม่เอาไหนที่ไม่มีอะไรดีซักอย่าง

                    ....ไม่ต้องกลัวนะ

                    คำพูดแผ่วเบาที่ข้างหูกับอ้อมกอดของนายมันทำให้ฉันอบอุ่น

                    ท.. ทำอะไรของนาย

    ก็ป้อนยา

     

    ปล่อย   ปล่อย

    ฉันเอง  อย่ากลัวนะ  ทามากิ

    ตอนนี้ฉันกลัวแล้วก็เหงามาก  แต่นายกลับไปไหนละ  เคียวยะ

    ทีหลังอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว  รู้มั้ย

    นายกำลังจะบอกหรือเปล่าว่านายจะอยู่ข้างๆฉัน  แต่ทำไมตอนนี้นายหายไปไหนละ  อยู่กับผู้หญิงคนนั้นคนนั้นใช่มั้ย

    แล้วมาพูดทำไม มาทำให้หวั่นไหวทำไม

    เพราะนาย

    เพราะนายคนเดียว
















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×