ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หัวใจแห่งธาตุ (Core Element)
จากสงครามครั้งนั้นทำให้ศาสนจักรมืดได้ได้สูญสิ้นไป คงเหลือแต่ตำนานการต่อสู้ของเหล่าเดวิล และ เหล่ามาสเตอร์ของพวกเธอ.......
ปีศาสนจักรที่ 666 100 ปีหลังจากการสูญสลายของศาสนจักรมืด ศาสนจักรได้เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นจักรวรรดิไซออน อาณาจักรใหญ่น้อยได้ตกอยู่ใต้อาณัติของจักรวรรดิ รวมถึงอาณาจักรใหญ่ทั้ง 6 ของโลก กษัตริย์เหล่านั้นถูกล่อลวงด้วยอำนาจและความเป็นอมตะ ซึ่งทำให้พวกเขากลายสภาพเป็นภูติอมตะไร้ชีวิตไร้ความรู้สึก
โลกตกอยู่ภายใต้ความสิ้นหวังอย่างที่สุด ไม่มีใครสามารถต่อต้านจักรวรรดิได้ ด้วยความทุกข์ยากของผู้คนที่ถูกกดขี่ข่มเหงโดยจักวรรดิ จึงมีกลุ่มคนบางส่วนได้รวมตัวกันก่อตั้งกองกำลังต่อต้านจักรวรรดิ์ขึ้นมา ซึ่งกองกำลังนี้จะรวมรวมเหล่าผู้คน
ที่ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิ์..........
-----------------------------
ณ ตอนเหนือของอาณาจักรฟิลมัวร์ ที่ถูกปกครองโดยจักรวรรดิ
กลางวันที่ฝนตกหนักเด็กสาวผู้หนึ่งกำลังวิ่งหนีจากการตามล่าของทหารจักรวรรดิ เธอหนีด้วยความเหนื่อยอ่อน จนในที่สุดก็ไปจนมุมอยู่ที่โบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง เธอตัวสั่นด้วยความกลัว มือกำห่อบางอย่างไว้แน่น เธอถอยหนีจนติดกำแพง เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกแล้ว
"สาวน้อยส่งของในมือเจ้ามาเสียดีๆ อย่าให้พวกข้าต้องใช้กำลังน่า" ทหารจักรวรรดิพูดกับสาวน้อยคนนั้น
"มะ มะ ไม่นะ อย่านะ ชั้นให้พวกแกไม่ได้หรอก ถึงตายชั้นก็ไม่ยกให้" หญิงสาวตอบ
"หนอยนังนี่ พูดดีๆไม่รู้เรื่องต้องใช้กำลังใช่ไหม" ทหารจักรวรรดิขู่เธออีกครั้งพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้
"กรี๊ดดดดดดดดดด อย่านะอย่ามาแตะตัวชั้นนะ ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่นะ อย่านะ ออกไป" เธอส่งเสียงออกไป แต่พวกทหารก็ยังไม่ยอมหยุดขยับเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ
ทันใดนั้นก็ปรากฎชายผู้หนึ่งโผล่เข้ามาช่วยเธอไว้ พริบตาเดียวทหารจักรวรรดิถูกกำจัดไปเกือบหมด
ขณะที่เหล่าทหารกำลังตกใจนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง "พวกแกถอยไป อย่างพวกแกจัดการมันไม่ได้หรอก"
เหล่าทหารต่างแหวกทางให้เจ้าของเสียงนั้นเดินเข้ามาปรากฎว่าเป็นชายผู้หนึ่ง ท่าทางบ่งบอกว่าจะเป็นระดับหัวหน้า
"ฝีมืออย่างพวกแกมีแต่จะตายเปล่าๆ จริงไหม เซรอส แวน อาวน์เซ่น อดีตหัวหน้าหน่วย 6" ชายคนนั้นพูด
"สมกับเป็นผู้บัญชาการกองกำลังที่ 1 แห่งจักรวรรดิ์เสียจริง ยังจำผมได้หรือครับ แล้วจะเอาอย่างไรจะลองสู้กันดูซักตั้งไหมครับ หัวหน้าอาเธอร์ ไม่สิ อาจารย์อาเธอร์"
"ข้ายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลามาสู้กับแกตอนนี้หรอก ข้ามีอย่างอื่นสำคัญกว่าเรื่องของแก เอาเป็นว่าข้าจะปล่อยแกกับเด็กสาวนั่นไปก็แล้วกัน แต่เจอกันคราวหน้าคงไม่ปล่อยไปง่ายๆอย่างนี้อีกหรอกนะ เซรอส เจ้าลูกศิษย์ชั่ว"
"เอาละพวกเรากลับกันได้แล้ว" ชายผู้นั้นสั่งลูกน้องกลับ
"แต่ว่าท่านอาเธอร์ครับ แล้วของที่เรากำลังตามหาที่อยู่กับเด็กสาวนั่นล่ะครับ" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น
"ปล่อยมันไปก่อน ท่านประมุขไม่อยากให้พวกเราสูญเสียโดยไม่จำเป็น พวกเราจึงควรไปตามหาของชิ้นอื่นให้ครบก่อนแล้วค่อยกลับมาจัดการกับมันอีกครั้งก็ยังไม่สาย......"
เมื่อพูดจบอาเธอร์ก็พาเหล่าทหารกลับไปโดยทิ้งเด็กสาวให้อยู่กับเซรอสเพียงลำพัง
เมื่อเหล่าทหารไปแล้ว เซรอส จึงหันมาคุยกับเด็กสาวคนนั้น
"เจ้าไปทำอะไรมาล่ะ ถึงได้ถูกพวกทหารตามล่าเอาเช่นนี้"
เธอตอบกลับไปพร้อมกับคลี่ห่อผ้านั้นออก "สิ่งนี้คือ หัวใจแห่งสายลม เป็นหนึ่งใน Core Element ที่พวกจักรวรรดิ์กำลังตามหาอยู่"
"Core Element หัวใจแห่งธาตุนั้นหรือ ข้าได้ยินมาว่ามันหายไปพร้อมกับศาสนจักมืดเมื่อ 100 ปีก่อนไปแล้วนี่" เขาถาม
"จริงๆแล้วมันไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ ก่อนที่ศาสนจักรมืดจะสูญสิ้น Core Element ทั้ง 6 ได้ถูกโยกย้ายไปซ่อนอาณาจักรใหญ่ทั่วโลกอย่างลับๆ โดยมีผู้พิทักษ์ของแต่ละอาณาจักรคอยคุ้มครอง
แต่เมื่อไม่นานมานี้เหล่ากษัตริย์ที่ปกครอง 6 อาณาจักรใหญ่ ได้ถูกความโลภเข้าครอบงำยอมกลายเป็นทาสรับใช้ศาสนจักร ไม่สิ จักวรรดิไซออน ไปแล้ว
เมื่อใดก็ตามที่กษัตริย์เหล่านั้นไม่ทรงคุณธรรมเอาไว้แล้ว เมื่อนั้นอำนาจของผู้พิทักษ์ของอาณาจักรก็เสื่อมลงด้วย จึงเป็นเหตุให้ทางจักรวรรดิสามารถทำลายผู้พิทักษ์เพื่อชิงเอา Core Element ไปได้ง่ายๆ" เธอหลับตาลงพร้อมทั้งทบทวนความทรงจำของเธอ จากนั้นจึงพูดต่อ
"Core Element ชิ้นนี้ เป็นของอาณาจักรเอสเทีย ก่อนที่อาณาจักรจะถูกยึดโดยจักรพรรดิ์แห่งไซออนนั้น บุตรีของกษัตริย์ได้แอบนำ Core Element หลบหนีออกมาจากอาณาจักร แต่หลบหนีไปได้ไม่นานทางจักรวรรดิก็สืบรู้จึงได้ถูกไล่ล่า ก่อนที่นางจะตายได้มอบ Core อันนี้มาให้แก่ข้า......"
"ข้าเคยได้ยินเรื่องที่จักวรรดิ์ออกตามล่าหญิงสาวผู้หนึ่งเหมือนกันไม่นึกว่าจะเป็นเจ้า ข้าเดาว่าผู้ที่ตายไปน่าจะเป็นคนสนิทของเจ้ามากกว่าใช่ไหม่เอเลเทีย บุตรีของกษัตริย์ลูก้า แห่งอาณาจักรเอสเทีย...." เซรอสพูด
"ไม่.. ไม่ ข้าไม่ใช่บุตรีของกษัตริย์ลูก้าข้าเป็นเพียงแค่คนรับใช้เท่านั้น"
"เจ้าปิดบังข้าไม่ได้หรอกเอเลเทีย ว่ากันว่าบุตรีคนแรกของอาณาจักรทั้ง 6 เมื่อแรกเกิด จะมีการผนึกตราสัญลักษณ์แห่งธาตุไว้ที่อกด้านซ้าย ถ้าข้ามองไม่ผิดที่อกด้านซ้ายของเจ้ามีสัญลักษณ์ธาตุลมประทับอยู่ไม่ใช่หรือ"
เอเลเทียหันไปมองที่บริเวณอกด้านซ้าย ก็พบว่าเสื้อบริเวณอกด้านซ้ายของเธอได้ฉีกขาดเผยให้เห็นสัญลักษณ์ธาตุบนผิวอันขาวเนียนของเธอ
"กรี๊ดดดดด......." เธอรีบเอามือมาปิดที่อกของเธออย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งหน้าแดงกำ่เนื่อจากความอาย
"ในเมื่อท่านรู้ถึงขนาดนี้แล้ว เราก็ไม่ขอปิดบัง ก็อย่างที่ท่านว่านั่น เราคือบุตรตรีเพียงคนเดียวของกษัตริย์ลูก้า นามว่า เอเลเทีย และคนที่ตายแทนข้านั่นคือองค์รักคนสนิทของข้า" เธอตอบทั้งที่หน้าเธอยังแดงก่ำ
เซรอสจึงถามต่อ "จากนี้เจ้าจะทำอย่างไร จะเดินทางไปไหนต่อ ถ้าเจ้ายังเดินทางเช่นนี้ต่อไปก็คงมีคนจำเจ้าได้เป็นแน่แท้เชียว"
เธอตอบกลับมาว่า "ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่ได้โปรดเถิด ได้โปรดพาชั้นไปด้วยเถอะนะ ช่วยชั้นด้วยเถอะค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปฝากไว้กับคนรู้จักของข้า ที่นั่นเจ้าจะได้รับความคุ้มครองอย่างดี แต่เจ้าต้องปิดเรื่อง Core Element และฐานะของเจ้าเป็นความลับ ไม่งั้นเจ้าจะเดือดร้อนเอาง่ายๆ" เซรอสพูด
"ค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ" เธอตอบ
จากนั้นทั้งสองก็เดินออกไปจากเมือง........
ปีศาสนจักรที่ 666 100 ปีหลังจากการสูญสลายของศาสนจักรมืด ศาสนจักรได้เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นจักรวรรดิไซออน อาณาจักรใหญ่น้อยได้ตกอยู่ใต้อาณัติของจักรวรรดิ รวมถึงอาณาจักรใหญ่ทั้ง 6 ของโลก กษัตริย์เหล่านั้นถูกล่อลวงด้วยอำนาจและความเป็นอมตะ ซึ่งทำให้พวกเขากลายสภาพเป็นภูติอมตะไร้ชีวิตไร้ความรู้สึก
โลกตกอยู่ภายใต้ความสิ้นหวังอย่างที่สุด ไม่มีใครสามารถต่อต้านจักรวรรดิได้ ด้วยความทุกข์ยากของผู้คนที่ถูกกดขี่ข่มเหงโดยจักวรรดิ จึงมีกลุ่มคนบางส่วนได้รวมตัวกันก่อตั้งกองกำลังต่อต้านจักรวรรดิ์ขึ้นมา ซึ่งกองกำลังนี้จะรวมรวมเหล่าผู้คน
ที่ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิ์..........
-----------------------------
ณ ตอนเหนือของอาณาจักรฟิลมัวร์ ที่ถูกปกครองโดยจักรวรรดิ
กลางวันที่ฝนตกหนักเด็กสาวผู้หนึ่งกำลังวิ่งหนีจากการตามล่าของทหารจักรวรรดิ เธอหนีด้วยความเหนื่อยอ่อน จนในที่สุดก็ไปจนมุมอยู่ที่โบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง เธอตัวสั่นด้วยความกลัว มือกำห่อบางอย่างไว้แน่น เธอถอยหนีจนติดกำแพง เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกแล้ว
"สาวน้อยส่งของในมือเจ้ามาเสียดีๆ อย่าให้พวกข้าต้องใช้กำลังน่า" ทหารจักรวรรดิพูดกับสาวน้อยคนนั้น
"มะ มะ ไม่นะ อย่านะ ชั้นให้พวกแกไม่ได้หรอก ถึงตายชั้นก็ไม่ยกให้" หญิงสาวตอบ
"หนอยนังนี่ พูดดีๆไม่รู้เรื่องต้องใช้กำลังใช่ไหม" ทหารจักรวรรดิขู่เธออีกครั้งพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้
"กรี๊ดดดดดดดดดด อย่านะอย่ามาแตะตัวชั้นนะ ใครก็ได้ช่วยด้วย ไม่นะ อย่านะ ออกไป" เธอส่งเสียงออกไป แต่พวกทหารก็ยังไม่ยอมหยุดขยับเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ
ทันใดนั้นก็ปรากฎชายผู้หนึ่งโผล่เข้ามาช่วยเธอไว้ พริบตาเดียวทหารจักรวรรดิถูกกำจัดไปเกือบหมด
ขณะที่เหล่าทหารกำลังตกใจนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง "พวกแกถอยไป อย่างพวกแกจัดการมันไม่ได้หรอก"
เหล่าทหารต่างแหวกทางให้เจ้าของเสียงนั้นเดินเข้ามาปรากฎว่าเป็นชายผู้หนึ่ง ท่าทางบ่งบอกว่าจะเป็นระดับหัวหน้า
"ฝีมืออย่างพวกแกมีแต่จะตายเปล่าๆ จริงไหม เซรอส แวน อาวน์เซ่น อดีตหัวหน้าหน่วย 6" ชายคนนั้นพูด
"สมกับเป็นผู้บัญชาการกองกำลังที่ 1 แห่งจักรวรรดิ์เสียจริง ยังจำผมได้หรือครับ แล้วจะเอาอย่างไรจะลองสู้กันดูซักตั้งไหมครับ หัวหน้าอาเธอร์ ไม่สิ อาจารย์อาเธอร์"
"ข้ายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลามาสู้กับแกตอนนี้หรอก ข้ามีอย่างอื่นสำคัญกว่าเรื่องของแก เอาเป็นว่าข้าจะปล่อยแกกับเด็กสาวนั่นไปก็แล้วกัน แต่เจอกันคราวหน้าคงไม่ปล่อยไปง่ายๆอย่างนี้อีกหรอกนะ เซรอส เจ้าลูกศิษย์ชั่ว"
"เอาละพวกเรากลับกันได้แล้ว" ชายผู้นั้นสั่งลูกน้องกลับ
"แต่ว่าท่านอาเธอร์ครับ แล้วของที่เรากำลังตามหาที่อยู่กับเด็กสาวนั่นล่ะครับ" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น
"ปล่อยมันไปก่อน ท่านประมุขไม่อยากให้พวกเราสูญเสียโดยไม่จำเป็น พวกเราจึงควรไปตามหาของชิ้นอื่นให้ครบก่อนแล้วค่อยกลับมาจัดการกับมันอีกครั้งก็ยังไม่สาย......"
เมื่อพูดจบอาเธอร์ก็พาเหล่าทหารกลับไปโดยทิ้งเด็กสาวให้อยู่กับเซรอสเพียงลำพัง
เมื่อเหล่าทหารไปแล้ว เซรอส จึงหันมาคุยกับเด็กสาวคนนั้น
"เจ้าไปทำอะไรมาล่ะ ถึงได้ถูกพวกทหารตามล่าเอาเช่นนี้"
เธอตอบกลับไปพร้อมกับคลี่ห่อผ้านั้นออก "สิ่งนี้คือ หัวใจแห่งสายลม เป็นหนึ่งใน Core Element ที่พวกจักรวรรดิ์กำลังตามหาอยู่"
"Core Element หัวใจแห่งธาตุนั้นหรือ ข้าได้ยินมาว่ามันหายไปพร้อมกับศาสนจักมืดเมื่อ 100 ปีก่อนไปแล้วนี่" เขาถาม
"จริงๆแล้วมันไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ ก่อนที่ศาสนจักรมืดจะสูญสิ้น Core Element ทั้ง 6 ได้ถูกโยกย้ายไปซ่อนอาณาจักรใหญ่ทั่วโลกอย่างลับๆ โดยมีผู้พิทักษ์ของแต่ละอาณาจักรคอยคุ้มครอง
แต่เมื่อไม่นานมานี้เหล่ากษัตริย์ที่ปกครอง 6 อาณาจักรใหญ่ ได้ถูกความโลภเข้าครอบงำยอมกลายเป็นทาสรับใช้ศาสนจักร ไม่สิ จักวรรดิไซออน ไปแล้ว
เมื่อใดก็ตามที่กษัตริย์เหล่านั้นไม่ทรงคุณธรรมเอาไว้แล้ว เมื่อนั้นอำนาจของผู้พิทักษ์ของอาณาจักรก็เสื่อมลงด้วย จึงเป็นเหตุให้ทางจักรวรรดิสามารถทำลายผู้พิทักษ์เพื่อชิงเอา Core Element ไปได้ง่ายๆ" เธอหลับตาลงพร้อมทั้งทบทวนความทรงจำของเธอ จากนั้นจึงพูดต่อ
"Core Element ชิ้นนี้ เป็นของอาณาจักรเอสเทีย ก่อนที่อาณาจักรจะถูกยึดโดยจักรพรรดิ์แห่งไซออนนั้น บุตรีของกษัตริย์ได้แอบนำ Core Element หลบหนีออกมาจากอาณาจักร แต่หลบหนีไปได้ไม่นานทางจักรวรรดิก็สืบรู้จึงได้ถูกไล่ล่า ก่อนที่นางจะตายได้มอบ Core อันนี้มาให้แก่ข้า......"
"ข้าเคยได้ยินเรื่องที่จักวรรดิ์ออกตามล่าหญิงสาวผู้หนึ่งเหมือนกันไม่นึกว่าจะเป็นเจ้า ข้าเดาว่าผู้ที่ตายไปน่าจะเป็นคนสนิทของเจ้ามากกว่าใช่ไหม่เอเลเทีย บุตรีของกษัตริย์ลูก้า แห่งอาณาจักรเอสเทีย...." เซรอสพูด
"ไม่.. ไม่ ข้าไม่ใช่บุตรีของกษัตริย์ลูก้าข้าเป็นเพียงแค่คนรับใช้เท่านั้น"
"เจ้าปิดบังข้าไม่ได้หรอกเอเลเทีย ว่ากันว่าบุตรีคนแรกของอาณาจักรทั้ง 6 เมื่อแรกเกิด จะมีการผนึกตราสัญลักษณ์แห่งธาตุไว้ที่อกด้านซ้าย ถ้าข้ามองไม่ผิดที่อกด้านซ้ายของเจ้ามีสัญลักษณ์ธาตุลมประทับอยู่ไม่ใช่หรือ"
เอเลเทียหันไปมองที่บริเวณอกด้านซ้าย ก็พบว่าเสื้อบริเวณอกด้านซ้ายของเธอได้ฉีกขาดเผยให้เห็นสัญลักษณ์ธาตุบนผิวอันขาวเนียนของเธอ
"กรี๊ดดดดด......." เธอรีบเอามือมาปิดที่อกของเธออย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งหน้าแดงกำ่เนื่อจากความอาย
"ในเมื่อท่านรู้ถึงขนาดนี้แล้ว เราก็ไม่ขอปิดบัง ก็อย่างที่ท่านว่านั่น เราคือบุตรตรีเพียงคนเดียวของกษัตริย์ลูก้า นามว่า เอเลเทีย และคนที่ตายแทนข้านั่นคือองค์รักคนสนิทของข้า" เธอตอบทั้งที่หน้าเธอยังแดงก่ำ
เซรอสจึงถามต่อ "จากนี้เจ้าจะทำอย่างไร จะเดินทางไปไหนต่อ ถ้าเจ้ายังเดินทางเช่นนี้ต่อไปก็คงมีคนจำเจ้าได้เป็นแน่แท้เชียว"
เธอตอบกลับมาว่า "ยังไม่รู้เลยค่ะ แต่ได้โปรดเถิด ได้โปรดพาชั้นไปด้วยเถอะนะ ช่วยชั้นด้วยเถอะค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปฝากไว้กับคนรู้จักของข้า ที่นั่นเจ้าจะได้รับความคุ้มครองอย่างดี แต่เจ้าต้องปิดเรื่อง Core Element และฐานะของเจ้าเป็นความลับ ไม่งั้นเจ้าจะเดือดร้อนเอาง่ายๆ" เซรอสพูด
"ค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ" เธอตอบ
จากนั้นทั้งสองก็เดินออกไปจากเมือง........
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น