คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ▽ บทที่ ๐๑ : อยากได้
บทที่๑ : อยากได้
บางทีการที่ได้เจอใครสักคนที่ใช่..
อาจทำให้โลกของใครบางคนเปลี่ยนไป..
ขายาวก้าวขาเข้ามาในห้องของตัวเองก่อนจะโยนกระเป๋าเป้สีน้ำตาลที่ใช้เป็นประจำลงข้างทีวีและทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม.. แต่สมองกลับสั่งการให้เขาเด้งตัวขึ้นจากเตียงแล้วหยิบกล้องถ่ายรูปที่วางอยู่ข้างกายมาเปิดดูภาพถ่ายฝีมือของตัวเองที่ถ่ายมาในวันนี้ ภาพถ่ายนับสิบรูปถูกเลื่อนตั้งแต่ภาพแรกไปเรื่อยๆจนหยุดที่ภาพหนึ่งทำให้คนที่มองรูปนั้นยิ้มออกมาเป็นรอบที่สิบของวัน
ภาพของผู้ชายคนนึงตัวขาวๆปากแดงน่าสัมผัสบวกกับรอยยิ้มตาหยีที่ดูธรรมชาติกำลังเต้นอยู่ข้างหน้าแถวทำให้จงอินใจสั่นอีกจนได้ ..
“ โอยยย จงอินอยากได้จงอินอยากโดน ” เจ้าของเสียงทุ้มพึมพำกับตัวเองพร้อมกับทำท่างอแงเหมือนเด็กอยากได้ของเล่นถ้าใครมาเห็นภาพนี้คงจะขำเขาแน่ๆ ก็แหงแหละสาวเล็กสาวน้อยเก้งกวางในมหาลัยต่างก็สนใจเค้าทั้งนั้นหุ่นนักกีฬากับผิวสีแทนของเขาใครเห็นก็ต้องหวั่นไหวไปบ้าง
มาลองคิดๆดูการรู้สึกใจเต้นแบบนี้เขาไม่เคยได้ความรู้สึกนี้มานานแค่ไหนแล้ว.. คนที่ชอบเข้ามาคุยกับเขาหลายต่อหลายคนแต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกแบบนี้ .. บางทีคนในรูปอาจจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเขาจริงๆ แต่ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงคิดแบบนั้นทั้งที่พึ่งเคยเห็นหน้า
จงอินนั่งดูรูปคนน่ารักที่เขาแอบปลื้มอยู่นานสองนานแต่แล้วไลน์ก็ดังขึ้นมารัวๆทำให้ร่างหนาที่นั่งมีความสุขอยู่บนเตียงหัวเสียเล็กน้อย จากนั้นเขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดอ่านไลน์เจ้าปัญหา … รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าจางหายไปในทันที เมื่อชื่อไลน์ใครบางคนเด้งขึ้นมาในแจ้งเตือน
Taemmi: จงอิน ..
.22:00
Taemmi: ตอบไลน์เราบ้างสิ
.22:02
Taemmi: ลงมาหาเราข้างล่างหน่อย
.22:02
JongKim™: เราว่าเราคุยกันรู้แล้ว
✓Read.22:15
JongKim™: จะรอก็รอเราไม่ลง
✓Read.22:15
JongKim™: เลิกยุ่งสักทีเราเบื่อ
✓Read.22:20
เจ้าของไลน์ที่ส่งมาก็คือแทมินแฟนเก่าของจงอินนั่นแหละที่ตามตื้อเขาไม่เลิก..จะให้กลับไปคุยอย่างงั้นหรอ?ทั้งที่เลิกกันมากือบปี.. แล้วใครวะที่ทำให้เขานั่งอ้วกแตกอ้วกแตนเจียนตายร้องไห้อย่างกับผีบ้าในผับเพราะโดนหักอกยังดีที่ชานยอลกับลู่หานมันไปเจอไม่งั้นตัวเขาเองคงตายห่าจมกองอ้วกไปแล้ว
จะให้พูดก็พูดเถอะว่าตอนที่คบกับแทมินเขามีความสุขมากขนาดไหน.. ตอนแรกทะเลาะกันสักครั้งยังไม่มีแต่พอมาพักหลังๆงานที่มหาลัยแม่งก็เยอะจนเวลานอนแทบจะไม่มีอย่าว่าแต่นอนเวลากินข้าวยังไม่พอเลยเถอะทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้คนรักเท่าไหร่แล้วแทมินก็คิดว่าเขาไปแอบมีใคร เพราะกลัวแฟนเข้าใจผิดก็ตามง้อตามอธิบายก็ไม่เคยฟังหรอกแถมโดนบอกเลิกอีกสองปีที่คบกันมาเหมือนไม่มีความหมาย
กว่าจะทำใจได้ก็นานหลายเดือนอยู่ตอนนั้นเหมือนสภาพหมาแดกยาเบื่อที่พร้อมจะลงโลง คิดแล้วโครตสมเพชตัวเองแต่ยังดีพอทำใจได้แล้วแต่ถึงอย่างนั้นแทมินที่เป็นฝ่ายขอเลิกก็กลับตามตื้อแบบนี้อยู่เรื่อยนี่ก็จะปาไปห้าเดือนแล้ว แต่ทำไมเขาถึงไม่กลับไปคบต่อน่ะหรอ .. เพราะความรู้สึกรักมันหายไปนานแล้ว
บางทีปัญหาที่เกิดขึ้นเขาอาจจะผิดเองที่แบ่งแยกเวลาไม่เป็นก็ได้ถ้าลองคิดกลับกันว่าเขาเป็นฝ่ายรออย่างที่แทมินรอเขามาตลอดก็คงจะเบื่อเหมือนกัน แฟนที่ไม่มีเวลาให้แบบเขาเป็นใครก็คงไม่อยากจะคบต่อเพราะคิดแบบนั้นจงอินเลยไม่อยากกลับไปเป็นแบบก่อนคนเราเลิกกันเพราะอะไรกลับไปคบกันใหม่ก็ต้องเจอกับปัญหาเดิมๆซ้ำซาก บางทีการจบความสัมพันธ์อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
‘ ฮัลโหลพ่อ ’ คนตัวขาวที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางใบสีแดงยกโทรศัพท์ขึ้นมารับอย่างทุลักทุเลไหนจะกระเป๋าเดินทางไหนจะเอกสารการเรียนที่ถืออย่างเต็มมือ ขาเรียวก้าวขาไปในลิฟท์แล้วกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้นสามของตึกพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย
‘ เป็นไงหอที่ได้อยู่แกโอเคมั้ย ’ ปลายสายถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเขาไม่ค่อยให้เซฮุนไปนอนค้างที่อื่นนอกจากบ้านแต่ครั้งนี้เลี่ยงไม่ได้จริงๆเพราะมหาลัยกับบ้านของเซฮุนไกลกันพอสมควรถ้าไม่เช่าหออยู่คงมาเรียนไม่ทันแน่
‘ ก็โอเคนะพ่อได้หอสองอ่ะหอหนึ่งห้องเต็ม ’
‘ อ๋อที่นั่นมีกี่หอล่ะ ’
‘ มีสามครับหอหนึ่งดูจะโอเคสุดแต่ผมจองไม่ทันอ่ะพ่อ ’ คนที่ยืนพูดอยู่เบ้ปากเล็กน้อยเพราะเซ็งที่จองห้องไม่ทันถึงได้มาอยู่หอสองเนี่ย แต่ดีหอที่นี่เช่าอยู่แค่คนเดียวไม่วุ่นวาย เพราะเซฮุนไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย เขาอาจจะเจอรูมเมทไม่ค่อยดีก็ได้ขออยู่คนเดียวดีกว่า
‘ แล้วรับน้องเป็นไงบ้าง ’
‘ ก็สนุกดีครับแต่เจอคนกวนประสาทเข้าอ่ะดิ ’ ไอคนกวนประสาทก็คงเป็นพี่มืดที่ถือกล้องมาถ่ายเขาตอนใส่วิกเต้นแล้วยังจะมาทักว่าลืมวิกอีกผมคนอะไรไม่รู้น่าหมั่นไส้มาก
‘ อ่าวแล้วเค้าเป็นใครน่ะ ’
‘ รุ่นพี่นี่แหละพ่อชั่งเค้าเถอะพูดแล้วผมปรี๊ดเลยอ่ะ พ่อครับแค่นี้ก่อนถึงห้องแล้ว ’
เซฮุนกดตัดสายไปก่อนที่คนเป็นพ่อจะพูดเพราะของที่เยอะบวกกับความหนักจะให้คุยโทรศัพท์ตอนนี้คงไม่เหมาะแน่ๆ มือเรียวล้วงกุญแจห้องในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบออกมาไขประตูห้องบานสีขาวที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเปิดประตูแล้วสูดอากาศภายในห้องที่เขาต้องมาอยู่
ดวงตาคู่สวยกวาดสายตาสำรวจห้องใหม่ไปรอบๆ มันก็ไม่สกปรกอะไรเท่าไหร่ถ้าปัดกวาดอีกนิดก็คงจะโอเค เซฮุนเป็นผ้ชายที่จัดอยู่ในประเภทสะอาดถึงขั้นจู้จี้เพราะมีนิสัยที่ติดมาจากแม่ คนตัวบางวางสัมภาระต่างๆลงบนพื้นแล้วยืนกอดอกมองและใช้ความคิดว่าจะทำความสะอาดห้องอย่างไรดีพอได้ไอเดียจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อกล้ามสีขาวตัวบางกับบ๊อกเซอร์สีดำที่ชอบใส่ และหาผ้าสีขาวมาโพกหัวเหมือนอยู่ในศึกบางระจันยังไงยังงั้น
“ ลุยยย ” เขาวิ่งไปหยิบไม้กวาดที่วางอยู่แล้วรีบกวาดพื้นไปทั่วห้อง กิจกรรมทำความสะอาดบ้านล่วงเลยไปจนเป็นเวลาเกือบๆห้าทุ่ม เสื้อผ้ากับของใช้ที่เตรียมมายังไม่ได้เก็บให้เข้าที่เมื่อนึกได้เซฮุนก็รีบวิ่งไปเก็บของนั้นๆ ความเหน็ดเหนื่อยของวันผ่านพ้นไปแล้วพรุ่งนี้คือวันเรียนวันแรกของการเป็นเด็กมหาลัยเมื่อนึกถึงก็ยิ่งตื่นเต้นไม่หายว่าจะเจอเพื่อนแบบไหนกันนะ
แสงแดดยามเช้าปลุกให้คนที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียงค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ เซฮุนบิดขี้เกียจสองถึงสามทีแล้วหยัดตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะรีบวิ่งไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรียน เมื่อจัดการภารกิจประจำวันเสร็จเรียบร้อยจึงยกนาฬิกาข้อมือสีแดงขึ้นมาดูเวลาตอนนี้ก็เกือบๆแปดโมงแล้วแต่เวลาเข้าเรียนคือเก้าโมงจึงไม่รีบร้อนเท่าไหร่
เซฮุนออกจากก้องก่อนจะล็อคประตูล้วรีบลงมาข้างล่างก่อนจะเดินเข้าในมหาลัยแต่กลิ่นน้ำเต้าหู้ที่ลอยมาแตะจมูกนั้นหอมจนทำให้เขาหิวเลยอดที่จะเดินเข้าไปปสั่งป้าคนขายไม่ได้ แต่.. สายตาของเขาดันเหลือบไปเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับโบกมือละส่งยิ้มมาให้จนตาปิด
“ ชอบกินน้ำเต้าหู้หรอเรา ”
“ เอ่อ.. ” อะไรเนี่ยนี่มันพี่มืดที่เขาแอบบ่นกับพ่อเมื่อวานแล้วมาชวนคุยทำไมไม่อยากจะเสวนาด้วยสักหน่อย
“ เอากี่ถุงดีจ้ะ ” ป้าคนขายที่ยืนดูบทสนทนาของเขาทั้งคู่ถามขึ้นเพราะตอนนี้ลูกค้าที่ยืนต่อคิวเป็นสิบยืนรอกันอยู่ข้างหลังของเซฮุนและจงอิน
“ ถุงเดียวครับ/ครับ ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันมันจะดลใจอะไรขนาดนั้น..
“ คิดรวมเลยป้า ” คนเป็นพี่พูดก่อนจะหันมายิ้มให้อีกรอบ
“ อะไรของพี่เนี่ยผมจ่ายเองได้น่า ” เซฮุนขมวดคิ้วจนเป็นปมพร้อมกับจ้องไปที่คนตัวดำที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ พี่อยากซื้อให้เพราะน้องน่ารักไงครับ ” คนที่ฟังประโยคนั้นถึงกับนิ่งเป็นหินเหมือนกับโดนมนต์ของเมดูซ่าอะไรเทือกๆนั้น..แต่มันจะไม่แน่นิ่งไปกว่าเดิมถ้าคนตรงหน้าไม่ยื่นมาบีบแก้มของเขาทั้งสองข้างก่อนจะเดินจากไป
“ เพื่อนเวรไหนมึงบอกมาก่อนกูไงให้กูเหงาตีนตั้งนานเนี่ย ” ลู่หานเพื่อนซี้ที่นั่งรอจงอินอยู่ตั้งแต่เช้าแหกปากตั้งแต่หลังห้องดังจนมาถึงประตูห้องเรียน ทำให้ทุกสายตาหันมาจับจ้อง.. แต่เพื่อนร่วมห้องคงจะชินกับมันแล้วล่ะ แม่งเป็นงี้ตั้งแต่ม.1ยันปีสาม
“ เอาน่ามึงแปปเดียว ”
“ แล้วทำไมวันนี้น้องนีนี่ของพี่ถึงได้ดูอารมณ์ดีจังวะ ” สายตาจ้องจับผิดของเพื่อนสนิทมองมาที่เขา
“ กูว่ากูหาคนที่ใช่เจอแล้วว่ะ ”
“ เล่ามาดิ้ ”
“ ตอนนั้นที่รับน้องคณะไอ้ชานยอลแล้วมึงมาช้ากูก็ถ่ายรูปน้องที่ทำกิจกรรม..แต่จุดพีคมันอยู่ที่น้องคนนึงกูเห็นแว๊บแรกกูก็รู้เลยนี่แหละแม่ของลูก ชื่อเซฮุนเด็กปีหนึ่งคณะนิเทศ และเมื่อเช้ากูก็เจอน้องเขาอีกเลยบีบแก้มไปสองที ” จงอินโชว์มือของตัวเองที่ได้จับแก้มของเซฮุนให้ลู่หานดูก่อนจะดมให้อารมณ์เหมือนพวกโรคจิต
“ เดี๋ยวๆแล้วน้องเขาเล่นกับมึงมั้ย ”
“ เล่นไรวะโดดยางอ่ะหรอ กูไม่ได้ชวนว่ะกลัวเขาถีบ ”
“โดดบนหน้ามึง กูหมายถึงเขาแบบมีใจอะไรงี้มั้ย ” คนเป็นเพื่อนยื่นมือมาตบหัวหนึ่งทีเพราะสุดจะเอือมกับความโง่ของจงอิน
“ ไม่รู้ว่ะ อาจจะไม่มั้ง ” จากสีหน้าระรื่นตอนแรกกลายเป็นหน้าย่นลงมาทันที
“ นั่นไง ”
“ แต่คนเนี้ยกูบอกเลยกูจะรุกจนกว่าน้องเค้าจะรับ ”
“ ตรรกะจัญไรไปมั้ยมึง? แล้วมึงจะจีบยังไงวะ ”
ตอนนี้ก็ประมาณเกือบๆสองทุ่มจงอินที่พึ่งกลับจากบ้านลู่หานเพราะไปกินข้าวเย็นที่บ้านเพื่อนชาวจีนของตัวเองมาแต่เสียดายที่ไอชานยอลมันมาด้วยไม่ได้เห็นมันพูดอยู่พาแฟนไปเที่ยวไหนสักที แต่จะว่าไปยังไม่เคยเห็นหน้าแฟนแม่งเลยกะว่าพรุ่งนี้ต้องไปถามสักหน่อยว่าเป็นใคร
รถเฟอร์รารี่สีขาวคันหรูขับไปตามเส้นทางบนถนนจนเกือบจะใกล้ถึงคอนโดที่จงอินอยู่แต่เจ้าของรถก็ต้องชะลอความเร็วให้ช้าลงเพราะเหมือนมีเหตุการณ์อะไรสักอย่างตรงหน้าดลใจให้เขาหยุดรถ ก่อนที่ร่างหนาจะตัดสินใจเปิดประตูรถและเดินออกมาทันที
“ เด็กปีหนึ่งมึงมองหน้ากูหรอ! ”
“ เค้าบอกว่าไม่ได้มองหน้าพวกมึงก็คือไม่มองสิวะ ” คนผิวเข้มสบทออกมาเพราะเห็นผู้ชายสองคนกำลังรุมเตะใครบางคนที่นอนอยู่
“ เสือกอะไร”
“ คนหล่อมักเสือกได้ ” จงอินไม่ใช่แค่ยืนพูดอย่างเดียวแต่เดินตรงเข้าไปซัดหมัดใส่คนที่ด่าเขาอยู่พร้อมกับถีบยอดหน้าอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆแต่ไม่ทันระวังหลังก็โดนอีกคนต่อยเข้าที่โหนกแก้มจนเซไปอีกทาง พอตั้งหลักเสร็จก็จะซัดหมัดไม่ยั้งมือใส่คนที่ทำร้ายเขาเหมือนเป็นการออกกำลังกายยามดึก ถึงแม้เขาจะเรียนวาดภาพชอบถ่ายภาพดูไม่เหมาะกับเรื่องแบบนี้แต่ตอนม.ปลายก็จัดว่าเป็นนักเลงอยู่พอควร ลูกชายมักมาพร้อมกำปั้นเสมอ ..
หลังจากนั้นไอพวกหมาหมู่ทั้งหลายแหล่ก็วิ่งหนีกันไปหมดโชคดีที่มันมากันสองคนถ้าเยอะกว่านี้เขาอาจจะเป็นพระเอกตกม้าขาวก็ได้ มือหนาลูบบริเวณโหนกแก้มของตัวเองที่เป็นรอยช้ำและมีเลือดซิบๆอยู่เล็กน้อยแต่แผลแค่นี้ไกลหัวใจมาก
“ เห้ยเป็นอะไรมั้ย ” จงอินเดินเข้าไปหาคนที่นอนเจ็บอยู่ตรงฟุตบาทของพื้นแต่ทำไมทรงผมมันคุ้นๆวะ
“ ขะ..ขอบคุณครับ ” คนที่นอนอยู่พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะสบตากัน
“ น้องเต้าหู้/เห้ยพี่ ” เสียงที่เปล่งออกมาโดยไมได้นัดหมายดังขึ้นพร้อมกัน
“ เป็นอะไรมั้ย ” เจ้าของเสียงทุ้มรีบเดินเข้าไปหาคนตัวขาวเพราะความห่วงล้วนๆไม่มีอะไรผสมใครมันกล้าทำคนน่ารักของเขา จงอินจับหน้าเซฮุนหมุนไปมาเพื่อสำรวจรอยช้ำมีรอยที่มุมปากเล็กน้อย เขารู้ว่าตัวเองแสดงอาการห่วงมากไปแต่ถึงอย่างนั้นก็อดใจไม่ได้
“ ขึ้นรถพี่ไปส่งเอง ” ยังไม่ทันที่คนตรงหน้าจะตอบคำถามอะไรคนเป็นพี่ก็ลากขึ้นไปคนเป็นน้องบนรถจนได้จากนั้นจงอินก็สตาร์ทเครื่องและขับออกมาจากตรงนั้น
“ แผลเจ็บมั้ย ” เขาถามเพราะความเป็นห่วงแต่เซฮุนส่ายหน้าให้คำตอบ
“ เอ่อพี่มาเจอผมได้ไงอ่ะ ” คนที่นั่งอยู่ข้างๆคนขับเอ่ยถามขึ้น
“ พี่จะกลับคอนโดแล้วมาเจอน้องเต้าหู้โดนไอพวกนั้นทำมิดีมิร้ายพี่เลยมาช่วยไงครับ ”
“ ผมไม่ใด้ชื่อเต้าหู้สักหน่อย ”
“ ก็เห็นเมื่อเช้าซื้อน้ำเต้าหู้กินเลยตั้งชื่อให้งั้นเรียกว่าอะไรดีล่ะ? ” จงอินที่กำลังขับรถยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆระหว่างที่เขาถามคำถามอยู่
“ เซฮุนครับผมชื่อเซฮุน ”
“ อ้อออ งั้นพี่เรียกที่รัก โอเคครับตามนี้ ”
“ อะไรของพี่วะที่รักอะไรผมเป็นผู้ชาย จะบ้าไง้? ” คนตัวขาวหันมาทำหน้ามุ่ยใส่แต่จะพูดอะไรยังไงเซฮุนก็น่ารักอยู่ดีนั่นแหละ
“ งั้นพี่ขอจีบเซฮุนตั้งแต่ตอนนี้ละกัน ”
“ ไม่ ”
“ ไม่แปลว่าได้ ” จงอินยิ้มกวนประสาท
“ อะไรเนี่ย ? ”
“ตามนั้นแหละที่รัก แล้วพักแถวไหนจะได้ไปส่งถูกดึกแล้ว ”
“ หอสองอ่ะครับ ” เซฮุนกัดฟันพูดอย่างไม่ประสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
หลังจากนั้นจงอินก็ชวนคนที่นั่งข้างๆคุยไปเรื่อยถึงแม้เซฮุนจะไม่ค่อยอยากคุยด้วยสักเท่าไหร่ก็แน่ล่ะ อยู่ดีๆมีผู้ชายมาขอจีบทั้งที่เขาเป็นผู้ชายเนี่ยนะ?
“ อ่าถึงแล้วหอสองเดี๋ยวพี่ขึ้นไปส่ง ” จงอินเดินออกจากรถแล้วอ้อมไปเปิดประตูให้ฝั่งเซฮุน
“ ไม่ต้องไปส่งหรอกพี่ผมไปได้ ”
“ เอาน่ากลัวไอพวกนั้นมันมาทำร้ายอีกจะทำไง? ”
“ ไม่-ต้อง-ขึ้น ” เซฮุนมองเขม็งมาที่จงอินก่อนจะวิ่งเข้าไปในหอ
แต่มีหรอที่จงอินจะพลาดถึงจะยังไม่ได้บุกถึงห้องแต่ตอนนี้ก็รู้แล้วล่ะว่าเซฮุนอยู่หอสอง
ถ้าอยากรู้ว่าห้องไหนชั้นไหนต้องไปถามเจ้าหน้าที่อีกทีว่าแล้วจงอินก็รอให้เซฮุนเดินขึ้นห้องจนลับตาจากนั้นเขาก็รีบเดินเข้าไปถามตรงเค้าท์เตอร์
“ พี่สาวครับผู้ชายที่ชื่อเซฮุนพักอยู่ห้องไหนชั้นไหนครับ ” เหมือนพนักงานสาวที่นั่งเฝ้าหออยู่จะไม่อยากให้ข้อมูลสักเท่าไหร่จงอินเลยแนบแบงค์พันให้เป็นศีลน้ำใจเล็กน้อย
“ แหม่ ชั้นสามห้อง 140 ค่ะ ”
“ อ้อขอบคุณครับ ”
จงอินยิ้มร่าให้กับคำตอบที่ได้ยังไงก็รู้ห้องแล้วล่ะวะ เขาหัวเราะในใจพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในรถแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหารายชื่อของแม่ตัวเองและกดโทรออก
“ ว่าไงลูกรัก ” ปลายสายที่อยู่ไกลถึงญี่ปุ่นตอบกลับมา
“ ทำเรื่องย้ายคอนโดให้ผมหน่อย ”
“ อ่าวที่นั่นไม่สบายหรือไง? ”
“ สบายดีแหละครับแต่ผมมีเหตุจำเป็น น่ามี๊จัดให้ลูกหน่อย ” จงอินทำเสียงงอแงอ้อนคนเป็นแม่
“ มีเรื่องอะไรทำให้ลูกแม่ถึงกับย้ายที่พักล่ะ ”
“ เอาไว้มี๊กลับไทยผมจะพาคนๆนึงไปเจอ ”
“ ก็ได้จะย้ายไปที่ไหนจ้ะ ”
“ ห้อง 141 ชั้นสามหอสองครับ ”
ดีจ้าโง้ยยยเซฮุนกับพี่ชรงอินทร์เจอกันรอบสองแล้ว
แบบมายเดสทีนี่มากๆเลยแง้เขิน
คือคนพี่รุกหนักมาก555555
ชอบก็เม้นท์มาเม้าส์กันได้นะก๊ะ
อยากได้กำลังใจฮรือ
ตกหลุมรักไปพร้อมกันที่ : #คฮรพ
TWITTER : @_zenoq
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ความคิดเห็น