ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วรรณคดีสไตล์เกรียน

    ลำดับตอนที่ #303 : ปลาทูสุริยวงษ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 299
      8
      11 ก.ย. 62

    ปลาทูสุริยวงษ์ เป็นวรรณกรรมที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง มีลักษณะนิทานจักรๆวงศ์ ๆ 


    เรื่องนี้เป็นการล้อเลียนนิทานจักรๆวงศ์ ๆ ซึ่งสร้างความสนุกสนานและความตลกขบขันให้แก่ผู้อ่านจนได้รับการพิมพ์ซ้ำหลายครั้งจากหลายโรงพิมพ์
    .
    .
    .
    สำหรับเรื่องปลาทูสุริยวงษ์นี้ ผู้เขียนได้นำตัวบทมาจากเว็บไซต์หนังสือเก่าชาวสยาม (http://www.sac.or.th/databases/siamrarebooks/th/website/home) ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ในหมวดของวรรณกรรมวัดเกาะ  มีจำนวน 10 เล่ม


    เนื้อเรื่อกล่าวถึง ปลาทูสุริยวงษ์ ซึ่งแต่งงานกับนางปลาตุกัง ธิดาของท้าวปลาตุกัง และพานางกลับบ้านเมืองตน  ระหว่างทาง ท้าวปลาหมึกได้มาลักพานางปลาตุกังไปในถ้ำ


    ปลาทูสุริยวงษ์ติดตามมาทัน และต่อสู้กับท้าวปลาหมึก ท้าวปลาหมึกสู้ไม่ได้ จึงหนีไปฟ้อง ท้าวปลาวาฬ ซึ่งเป็นพี่ชาย ท้าวปลาวาฬรบกับปลาทูสุริยวงษ์ พระเอกของเราเป็นห่วงนางเอกจึงพาไปซ่อนในจอก ก่อนจะมาไฝว้กับท้าวปลาวาฬต่อ แต่สู้ไม่ได้ พระเอกก็รีบชิ่งหนีไป  


    ส่วนนางปลาตุกังที่ซ่อนอยู่ในจอกก็ถูกสายน้ำพัดกลับไปที่บ้านเมืองของตน ปลาทูสุริยวงษ์หนีไปหาฤษีปลากุเลาซึ่งเป็นอาจารย์ ท่านฤษีจึงเอาดินใต้สมุทรมาปั้นเป็นปลานกกระจอกเพื่อเป็นพี่เลี้ยงไปช่วยรบ


    ท้าวปลาหมึกถูกปลาทูสุริยวงษ์ฆ่าตาย ส่วนปลานกกระจอกกัดตาของท้าวปลาวาฬจนบอด และขาดใจตายในที่สุด  ก่อนตายท้าวปลาวาฬอธิษฐานขอไปเกิดเป็นยักษ์ และจะตามล้างแค้นปลาทูสุริยวงษ์


    ปลาทูสุริยวงษ์และปลานกกระจอกตั้งใจจะเดินทางกลับไปหานางปลาตุกัง แต่ระหว่างทางได้ผ่านเมืองผักบุ้งล้อมของท้าวปลาช่อน ซึ่งมีมเหสีคือปลากระสง มีธิดาคือนางปลาสลิด


    นางปลาสลิดออกจากวังมาเที่ยวที่ปากน้ำและพบกับปลาทูสุริยวงษ์ ทั้งสองแอบชอบกัน เจ้าปลานกกระจอกจึงแนะให้เขียนเพลงยาวส่งหานางปลาสลิด แต่ปลาทูสุริยวงษ์บอกว่าตนเป็นปลาน้ำเค็ม ไม่สามารถไปหานางที่เป็นปลาน้ำจืดได้ นางปลาดุกจึงอาสาไปส่งเพลงยาวให้ และชักชวนให้นางปลาสลิดลอบหนีไปที่ปากน้ำ


    เมื่อนางปลาสลิดมาถึง ปลาทูสุริยวงษ์ก็เสกคาถาให้นางอยู่ในน้ำเค็มได้ นางปลากระดี่ พี่เลี้ยงเห็นว่านางปลาสลิดหายไป จึงรีบไปทูลท้าวปลาช่อน  


    ท้าวปลาช่อนจึงยกทัพปลาออกติดตาม และเกิดการต่อสู้กับพระเอกขึ้น และแล้วปลาทูสุริยวงษ์ก็พานางปลาสลิดหนี เข้าไปในน้ำเค็มได้ ทำให้ท้าวปลาช่อนติดตามไปต่อไม่ได้  


    ปลาทูสุริยวงษ์มาเฝ้าท้าวปลาตุกังเพื่อจะรับตัวนางปลาตุกังกลับไปด้วย แต่นางปลาตุกังออกมาพบว่าปลาทูสุริยวงษ พานางนางปลิดมาด้วยในฐานะเมียอีกคนจึงด่าทอและทำร้าย........ (เนื้อความขาดไป)........  ปลาทูสุริยวงษ์  นางปลาสลิด และนางปลาตุกัง ตายลงทั้งหมด  แต่ยังมีจิตพยาบาทอาฆาตกัน 
    .
    .
    .
    ปลาทูสุริยวงษ์มาเกิดเป็นโอรสเมืองนพรัตน์ ชื่อว่า พันธุวงษ์   
    ท้าวปลาวาฬมาเกิดเป็นยักษ์เมืองปราการสงคราม ชื่อว่า พัทธะวาน 
    นางปลาตุกัง & นางปลาสลิดมาเกิดร่วมบิดาเดียวกัน คือ ท้าวอุไทย เจ้าเมืองกาญจนา โดยนางปลาตุกัง เป็นลูกมเหสีฝ่ายขวาชื่อนางมัจฉา และนางปลาสลิด เป็นลูกมเหสีฝ่ายซ้ายชื่อ นางวิลิศ


    แม่ของนางมัจฉาสิ้นตั้งแต่นางยังเด็ก ทำให้นางวิลิศและแม่คอยหาทางกลั่นแกล้ง จนเสด็จพ่อไล่นางออกจากวัง และไปอยู่กับตายายในอุทยาน


    พันธุวงษ์ ชวนพี่เลี้ยงไปขับรถไฟเล่นชมสวรรค์ แต่รถไฟก็เกิดหม้อน้ำแตกจึงตกลงมาตาย พระฤษีชุบชีวิตให้และซ่อมรถไฟ พร้อมเสกให้สามารถพับเก็บเป็นปืนพกได้  


    พันธุวงษ์ และพี่เลี้ยงหลงเข้ามาในอุทยานของท้าวอุไทยและพบกับนางมัจฉา พันธุวงษ์หลงรักนาง จึงขอไปอาศัยกับตายายด้วย และลอบซั่มนางตอนที่ตายายไม่อยู่  


    วันหนึ่งนางวิลิศมาเที่ยวชมอุทยานและพบกับพันธุวงษ์ ทั้งสองพอใจกัน พันธุวงษ์จึงลอบคบซ้อนกับนางวิลิศอีกคน


    วันหนึ่ง เจ้าเมืองปราการสงครามส่งสาส์นมาขอธิดาของท้าวอุไทยให้โอรส (คือยักษ์พัทธะวาน)  แต่ท้าวอุไทยไม่ให้จึงต้อรบกัน พันธุวงษ์อาสาออกศึกและเอาชนะ


    ท้าวอุไทยจึงยกนางวิลิศให้เป็นรางวัล แต่พันธุวงษ์ทูลขอนางมัจฉาเป็นชายาอีกคน ต่อมาพันธุวงษ์ขอลากลับบ้านเมืองพร้อมชายาทั้งสอง ระหว่างทางเจ้าเมืองยักษ์ (เสด็จพ่อ) จับตัวพันธุวงษ์กลับไปขังไว้ในเมือง ส่วนตนเองก็แปลงกายเป็นพระเอกของเราสวมรอยไปกับนางเอกทั้งสองแทน


    แต่ นางแก้วประพาฬ ชายาเมืองยักษ์ เห็นพันธุวงษ์ก็ถูกใจ จึงแสร้งขอพันธุวงษ์ไปกิน แล้วแปลงกายเป็นหญิงงามเข้าไปซั่ม พันธุวงษ์ขอให้นางไปเอาปืนคืนมาให้ตน จากนั้นก็ชวนนางยักษ์แปลงหนีกลับเมือง


    เสด็จพ่อก็ประหลาดใจที่เห็นว่าพันธุวงษ์มี 2 คน แต่เมื่อเจ้าเมืองยักษ์เห็นนางแก้วประพาฬมากับศัตรูของตน dHโกรธและคืนร่างเป็นยักษ์เข้าไปทำร้าย เมียกับผัวต่อสู้กันจนตายคู่


    แต่เมื่อ ท้าวตรีภักตร์ ผู้เป็นสหายทราบเรื่องว่าเจ้าเมืองยักษ์ถูกฆ่าตาย  จึงยกทัพมารบ และจับตัวพันธุวงษ์ลงไปใต้พื้นดิน แต่แม่ธรณีมาช่วยเอาไว้ พันธุวงษ์หลงทางไปในอุทยานที่เมืองยักษ์ และได้พบรักกับนางสุวรรณเกษรจึงได้ลักลอบนัดหมาย ให้นางเปิดช่องแกลเอาไว้ในยามกลางคืนเพื่อที่จะได้ไปหา


    แต่พัทธะวานมาแอบได้ยิน จึงแปลงกายเป็นพันธุวงษ์เข้าไปโลมนางสุวรรณเกษรแทน เมื่อพันธุวงษ์รู้ว่ามีคนสวมรอยก็รีบบุกเข้าไปในตำหนัก และพบว่านางกำลังอยู่กับพัทธะวานที่แปลงกาย


    ทั้งคู่จึงสู้รบกัน และพัทธะวานก็ลักนางสุวรรณเกษรกลับเมืองของตน พันธุวงษ์พยายามตามไปไม่ทัน และได้พลัดหลงเข้าไปในเมืองยี่ปุ่น


    พันธุวงษ์ทราบว่าเจ้าเมืองมีน้องสาวชื่อนางกาหลง จึงคิดอุบายพาเจ้าเมืองกับนางกาหลงไปเที่ยวชมเขาพระสุเมรุ เมื่อเห็นเจ้าเมืองยี่ปุ่นลงจากรถไฟไปแล้ว พันธุวงษ์ก็รีบขับรถไฟพานางกาหลงหนีไป


    เจ้าเมืองยี่ปุ่นจคคงรีบขึ้นลูกปะลุน ติดตามไปจนทัน และสั่งให้คืนนางมา  แต่พันธุวงษ์ไม่ยอมและบอกว่าจะมาสู่ขอนางตามประเพณีภายหลัง......  


    (จบเล่มที่ 10 แต่เพียงเท่านี้)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×