ลำดับตอนที่ #249
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #249 : ยี่จับสีเห่า : 24 ยอดกตัญญู
"ยี่จับสีเห่า (二十四孝; The Twenty-four Filial Exemplars)" หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ 24 ยอดกตัญญู
ยี่จับสี่เห่าเป็นนิทานพื้นบ้านที่นำเสนอถึงความกตัญญูตามปรัชญาขงจื้อ 7 ประการ ได้แก่
1. การเลี้ยงดูบุพการี
2. การปรนนิบัติรับใช้บุพการีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
3. การให้ความสุขแก่บุพการี
4. การให้อภัยต่อความผิดพลาดของบุพการี
5. การปกป้องบุพการี
6. การรำลึกถึงบุพการี
7. จัดงานศพและเซ่นไหว้บุพการี
ยี่จับสี่เห่าได้รับความนิยมในจีนมาอย่างช้านาน ที่สยามประเทศนั้น พระเจนจีกอักษร (สุดใจ ตัณฑากาศ) เป็นผู้เรียบเรียงและแปลในสมัยรัชกาลที่ 5 และถูกนำมาวาดเป็นจิตรกรรมอยู่ในศาลเจ้าและโรงเจอยู่หลายครั้ง
ประวัติโดยสังเขปของทั้ง 24 ยอดกตัญญูมีดังนี้...
.
.
.
1.พระเจ้าซุ่นตี้ (舜; Shun)
ราชวงศ์ : สามราชาห้าจักรพรรดิ
เดิมชื่อหยีซุ่น กำพร้าแม่แต่เด็ก ถูกแม่เลี้ยงวางแผนสังหารแต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง หยีซุ่นไม่เคยโกรธเคืองแม้แต่น้อยแถมยังคงเคารพแม่เลี้ยงเหมือนเดิม เมื่อเรื่องถึงหูพระเจ้าตี้เหยา (Emperor Yao) จึงยกธิดาให้ เและมอบบัลลังก์ให้หยีซุ่น ออกพระนามว่า “พระเจ้าซุ่นตี้”
.
.
.
2.พระเจ้าฮั่นเหวินตี้ (漢文帝; Emperor Wen of Han)
ราชวงศ์ : ฮั่น
พระเจ้าฮั่นเหวินตี้ครองราชย์ต่อจากพระบิดา เป็นคนที่มีความกตัญญูอย่างยิ่ง ทุกเช้าค่ำจะต้องไปถามสารทุกข์สุขดิบของมารดาเสมอ พอมารดาล้มป่วย นอกจากงานบริหารราชการแผ่นดินแล้ว ท่านก็ไม่กล้าห่างกายพระมารดาไปไหน โอสถที่มารดาดื่มทุกชาม ท่านจะชิมก่อนค่อยป้อนให้พระมารดาเป็น 3 ปี เด็จแม่จึงหายเป็นปกติ
.
.
.
3.เจิงเซิน (曾參; Zeng Shen)
ราชวงศ์ : ยุควสันตสารท (ชุนชิว)
เจิงเซินเป็นศิษย์ในสำนักขงจื๊อ วันหนึ่งขณะที่กำลังตัดฟืนอยู่ในป่า มีแขกมาเยือนที่บ้าน คุณแม่ก็เกิดความร้อนใจ จึงกัดนิ้วของตนเอง ทันใดนั้นเจิงเซินที่กำลังตัดฟืนอยู่ก็รู้สึกเจ็บในอก เขาสังหรณ์ใจว่าทางบ้านคงเกิดเหตุอะไรขึ้น จึงรีบแบกฟืนกลับบ้านทันที
.
.
.
4.จื่อลู่ (仲由; Zhong You)
ราชวงศ์ : ยุควสันตสารท (ชุนชิว)
จื่อลู่เป็นศิษย์คนหนึ่งในสำนักขงจื๊อ ครอบครัวของเขายากจนมาก ต้องไปรับจ้างทำงานไกลบ้าน ครั้นได้เงินมาก็จะซื้อข้าวสาร แล้วแบกกลับบ้านเป็นระยะทางไกลนับร้อยลี้เป็นประจำ
.
.
.
5.จื่อเชียน / หมินสุ่น (閔損; Min Sun)
ราชวงศ์ : ยุควสันตสารท (ชุนชิว)
จื่อเชียนกำพร้ามารดาแต่เด็ก บิดามีภรรยาใหม่ มีลูกด้วยกัน 2 คน แม่เลี้ยงเกลียดชังจื่อเชียน (ตามฟอร์ม) วันหนึ่งในฤดูหนาว บิดาใช้ให้จื่อเชียนเข็นรถม้าออกไปข้างนอก เมื่อตรวจดูเสื้อผ้าก็รู้ว่าเสื้อกันหนาวของจื่อเชียนบุด้วยนุ่นเทียม ส่วนเสื้อผ้าของลูกสองคนบุด้วยนุ่นอย่างดี บิดาโมโหสุดขีด คิดจะขับไล่แม่เลี้ยงไปจากบ้าน แต่จื่อเชียนรีบคุกเข่าขอร้อง นางได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจมาก ตั้งแต่นั้นมานางก็รักเอ็นดูจื่อเชียนเสมอบุตรของตน
.
.
.
6.ถันจื่อ (郯子; Tan Zi)
ราชวงศ์ : โจว
ถันจื่อเป็นคนที่มีความกตัญญูอย่างยิ่ง เมื่อบิดามารดาป่วยเป็นโรคตา มีคนบอกว่านมกวางสามารถรักษาได้ จึงเอาหนังกวางมาคลุมตัวแล้วปะปนกับฝูงกวางเพื่อรีดนม ถันจื่อเกือบจะถูกนายพรานยิงตาย แต่เมื่อได้เล่าถึงสาเหตุ นายพรานก็สรรเสริญ และเมื่อบิดามารดาได้ดื่มนมกวาง โรคตาก็หายจนเป็นปกติ
.
.
.
7.เล่าไล่จื่อ (老萊子; Laolaizi)
ราชวงศ์ : โจว
เล่าไล่จื่อแม้จะอายุ 70 กว่าแต่ก็แสร้งร้องรำทำเพลงเหมือนเด็กๆ เพื่อให้พ่อแม่ขำขันสำราญใจ
.
.
.
8.ต๋งหย่ง (董永; Dong Yong)
ราชวงศ์ : ฮั่น
ต๋งหย่งสูญเสียบิดาไป จึงต้องขายตัวเองเป็นทาสเพื่อแลกกับเงินค่าทำศพพ่อ
.
.
.
9.ติงหลัน (丁蘭; Ding Lan)
ราชวงศ์ : ฮั่น
พ่อแม่ตายตั้งแต่ยังเด็ก ติงหลันจึงไม่มีโอกาสทดแทนพระคุณ เขาแกะสลักรูปบิดามารดาขึ้น ประดิษฐานบนแท่นบูชาไว้กราบไหว้แทนตัว นานวันเข้าภรรยาเกิดรำคาญจึงเอาเข็มแทงที่นิ้วของรูปสลัก ทันใดนั้นก็มีเลือดไหลออกมา เมื่อติงหลันทราบจึงหย่าขาดจากภรรยาทันที
.
.
.
10.เจียงเกอ (江革; Jiang Ge)
ราชวงศ์ : ฮั่น
เจียงเกออยู่กับมารดาผู้ชราเพียงสองคน ตอนนั้นบ้านเมืองมีโจรมากมาย เขาจึงแบกมารดาหนีภัยไปอยู่ตำบลอื่น ระหว่างทางเกิดเจอกับพวกโจร โจรจะจับพวกเขา เจียงเกอจึงอ้อนวอนจนหัวหน้าโจรยอมปล่อยแม่ลูกไป
.
.
.
11.ลกเจ็ก (陸績; Lu Ji)
ราชวงศ์ : ฮั่น
ตอนนั้นลกเจ็กยังเด็ก ได้ไปคำนับอ้วนสุด (袁術; Yuan Shu) อ้วนสุดจัดแจงส้มจำนวนมากมาเลี้ยงดู เมื่อลกเจ๊กได้ลิ้มลองแล้วก็คิดถึงมารดา จึงแอบหยิบส้มใส่แขนเสื้อของตน
ตอนจะกลับ ความดันโป๊ะแตกขึ้นมา เด็กน้อยก็คุกเข่าอธิบาย อ้วนสุดฟังแล้วชอบใจจึงสั่งให้เอาส้มกระเช้าหนึ่งตอบแทนความกตัญญู
ปล. ต่อมาลกเจ๊กเป็นหนึ่งในนักปราชญ์แห่งกังตั๋ง และขงเบ้งได้เอาเรื่องลักส้มมาแฉอีกด้วย
.
.
.
12.กัวจี้ (郭巨; Guo Ju)
ราชวงศ์ : ฮั่น
กัวจี้เป็นคนยากจน มีลูกชายอายุ 3 ขวบ มารดาของกัวจี้ (อาม่า) เอ็นดูหลานมาก มักเอาอาหารที่กินแบ่งให้หลานเสมอ กัวจี้เกิดความละอายใจจะฝังลูกตัวเอง มารดาจะได้กินอาหารอิ่มท้อง เพราะลูกนั้นอาจมีใหม่ได้ แต่แม่มีใหม่ไม่ได้ ขณะที่กัวจี้ขุดดินลึกก็พบทองคำจำนวนมาก
.
.
.
13.หวงเซียง (黃香; Huang Xiang)
ราชวงศ์ : ฮั่น
ตั้งแต่มารดาเสียชีวิต หวงเซียงคอยปรนนิบัติบิดาอย่างดีที่สุด ในหน้าร้อน ยามอากาศร้อนอบอ้าว ก่อนที่บิดาจะเข้านอน เขาจะใช้พัดโบกวีที่นอนของบิดาให้เย็นเสียก่อน แล้วค่อยให้บิดาขึ้นนอน
.
.
.
14.ไช่ซุ่น (蔡順; Cai Shun)
ราชวงศ์ : ฉิน
ไช่ซุ่นกำพร้าพ่อแต่เด็ก เขาปรนนิบัติดูแลแม่ด้วยความกตัญญู ตอนบ้านเมืองเกิดข้าวยากหมากแพง ไช่ซุ่นได้แต่เก็บผลหม่อนมากินประทังชีวิต และจะต้องนำตะกร้าสองใบไปด้วย ใบหนึ่งใส่ผลหม่อนสีดำ ใบหนึ่งใส่ผลหม่อนสีแดง
วันหนึ่งพบกับโจร โจรถามว่าทำไมต้องแยกตะกร้า ไช่ซุ่นตอบว่าผลสีดำมีรสหวานจะเอาไปให้แม่ ผลสีแดงมีรสเปรี้ยวจะเอาไว้กินเอง หัวหน้าโจรได้ฟังเกิดความสงสาร จึงสั่งลูกน้องให้นำข้าวสาร 3 กระสอบกับเนื้อโค 1 ขามามอบให้ไปเลี้ยงมารดา
.
.
.
15.เจียงซือ (姜詩; Jiang Shi)
ราชวงศ์ : ฮั่น
เป็นผู้กตัญญู แทคทีมร่วมกับภรรยา มารดาชอบดื่มน้ำที่มาจากแม่น้ำ ภรรยาอุตส่าห์ไปหาบมาให้ดื่ม มารดาชอบกินเนื้อปลา สองสามีภรรยาก็ยังอุตสาห์ไปหาปลามาให้กิน ทั้งยังเชิญแม่เฒ่าบ้านใกล้เคียงมาร่วมกินเป็นเพื่อนมารดา
อยู่มาวันหนึ่ง ที่ข้างบ้านเกิดมีแอ่งน้ำพุซึ่งมีกลิ่นและรสชาติเหมือนน้ำจากแม่น้ำ และมีปลาไนคู่หนึ่ง จากนั้นสองสามีภรรยาก็ใช้น้ำและปลาจากแอ่งน้ำพุมาให้มารดาทุกวัน
.
.
.
16.หยางอี่ (王裒; Wang Pou)
ราชวงศ์ : สามก๊ก
หยางอี่เป็นขอทานที่ดูแลมารดาด้วยความกตัญญู เมื่อมารดาถึงแก่กรรม หยางอี่ได้ปลูกกระท่อมอยู่ข้างๆหลุมศพอยู่เป็นเพื่อนมารดาและหมั่นเซ่นไหว้ทุกวัน เขาได้พบทองคำหนึ่งไหซึ่งฝังอยู่ข้างหลังหลุมฝังศพ มีอักขระจารึกไว้ว่า “ฟ้าประทานแก่ลูกกตัญญู”
.
.
17.นางถังฮูหยิน (唐夫人; Madam Tang)
ราชวงศ์ : ถัง
นางถังฮูหยินต้องคอยสละน้ำนมของนางให้แม่ผัวกินทุกวัน จนได้รับการสรรเสริญไปทั่ว
.
.
.
18.หวังเสียง (王祥; Wang Xiang)
ราชวงศ์ : สามก๊ก
หวังเสียงกำพร้ามารดาแต่เด็ก ถูกแม่เลี้ยงใจร้าย (ตามฟอร์ม) กลั่นแกล้งให้ไปหาปลาสดๆในช่วงฤดูหนาว หวังเสียงจึงเปลื้องเสื้อผ้าออก นอนนาบกายลงบนพื้นให้ไออุ่นในร่างเผาลนน้ำแข็ง กระทั่งสามารถจับปลาไปแม่เลี้ยงทานได้
.
.
.
19.อู๋เมิ่ง (吳猛; Wu Meng)
ราชวงศ์ : สามก๊ก
เนื่องจากทางบ้านยากจนไม่มีเงินซื้อมุ้ง ในฤดูร้อนตอนกลางคืน อู๋เมิ่งจึงนอนเปลือยกายล่อให้ยุงมากัดเพื่อที่จะได้ไม่ไปกัดบิดา
.
.
.
20.หยางเซียง (楊香; Yang Xiang)
ราชวงศ์ : จิ้น
วันหนึ่งขณะที่ติดตามบิดาไปที่ไร่ ทันใดนั้นมีเสือตัวหนึ่งกระโจนมาคาบบิดาไป ด้วยแรงกตัญญูหยางเซียงจึงกระโดดขึ้นไปบนหลังเสือ ใช้มือทั้งสองทุบตีเสือสุดแรงจนเสือปล่อยบิดาออกมา
.
.
.
21.เมิ่งจง (孟宗; Meng Zong)
ราชวงศ์ : สามก๊ก
เมิ่งจงกำพร้าบิดาตั้งแต่เด็ก อยู่กับมารดาที่ป่วยหนัก วันหนึ่งมารดาใคร่จะกินหน่อไม้ เมิ่งจงพยายามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เข้าโผกอดกอไผ่ร่ำไห้อย่างเวทนา ฟ้าดินจึงบันดาลให้หน่อไม้ผุดขึ้นมาให้มารดาทานจนอาการป่วยหายเป็นปกติ
.
.
.
22.เกิงเฉียนโหลว (黔婁; Yu Qianlou)
ราชวงศ์ : ฉีใต้
เกิงเฉียนโหลวสอบเข้ารับราชการได้ที่อำเภอแห่งหนึ่ง เมื่อรู้ว่าบิดาล้มป่วยก็ลาจากราชการ หมอที่รักษาบอกว่าถ้าอยากรู้ว่าอาการป่วยเพียงแค่ชิมอุนจิของคนไข้ก็จะทราบ ถ้ามีรสหวานก็หมดหนทางรักษา เกิงเฉียนโหลวมิรอช้าเอาอุนจิของบิดาชิมทันที ปรากฎว่ามีรสหวาน ทำให้เขาทุกข์ใจมาก พอตกค่ำเกิงเฉียนโหลวอธิษฐานต่อเทพเจ้าขอให้บิดาหายป่วย ส่วนตนเองจะขอตายแทน ไม่ช้าบิดาก็หายเป็นปกติ
.
.
.
23.จูโซ่วชาง (朱壽昌; Zhu Shouchang)
ราชวงศ์ : ซ่ง
จูโซ่วชางตอนอายุ 7 ขวบ มารดาของเขาถูกขายไปเป็นภรรยาชายอื่น ทำให้แม่ลูกต้องพลัดพรากถึง 50 ปี จูโซ่วชางแม้จะเป็นขุนนางชั้นสูงตัดสินใจลาออกจากราชการเพื่อตามหามารดา จนกระทั่งได้พบกันในที่สุด
.
.
.
24.หวงถิงเจียน (黃庭堅; Huang Tingjian)
ราชวงศ์ : ซ่ง
หวงถิงเจียนเป็นขุนนางผู้ใหญ่ มีความกตัญญูอย่างยิ่ง ทุกวันเขาจะเทล้างถังอุจจาระของมารดาด้วยตนเองเสมอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น