ลำดับตอนที่ #180
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #180 : ใครแต่ง "สุภาษิตสอนหญิง" ?
"สุภาษิตสอนหญิง" หรือ "สุภาษิตสอนหญิง" นั้น เข้าใจกันมาแต่เด็กว่า พระสุนทรโวหาร หรือ สุนทรภู่ เป็นคนแต่ง แต่ภายหลังนักวิชาการพากันสรุปกันว่าไม่ใช่สำนวนของสุนทรภู่แน่นอน 100 %
เพราะเมื่อพิจารณาจากสำนวนกลอนแล้ว น่าจะไม่ใช่ฝีปากของมหากวี อีกทั้งแนวคิดของ สุนทรภู่นั้นมีแต่อารมณ์รักใคร่เสน่หา ไม่มีความสงบพอที่จะสั่งสอนสตรีได้
ใครเป็นผู้แต่งกันแน่? เพราะกวีชื่อ "ภู่" ในสมัยนั้นมีอยู่ถึง 3 คน ได้แก่
1. พระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่)
2. พระยาราชมนตรีบริรักษ์ (ภู่จางวาง)
3. ภู่ จุลละภมร (ภู่นกกระจาบ)
เราจะข้ามภู่คนแรก ไปดูภู่คนอื่นๆ กันดีกว่า ภู่คนที่สองคือ
.
.
พระยาราชมนตรีบริรักษ์ (ภู่จางวาง) เป็นบุตรของพระยาศรีสรราช ในรัชกาลที่ 1 ได้ถวายตัวเป็นข้าหลวงเดิมในกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ในตำแหน่งจางวางมหาดเล็ก
ต่อมา เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระนั่งเกล้ารัชกาลที่ 3 จางวางภู่ก็ขึ้นเป็น พระยาราชมนตรีบริรักษ์ ตำแหน่งเสนาบดีกรมพระคลังมหาสมบัติ จนมีพระราชดำรัสยกย่องว่านายภู่นั้นเปรียบเป็น "บ่อแก้ว" ในรัชกาลของพระองค์
พระยาราชมนตรี (ภู่) มีบุตรธิดาหลายคน
ซึ่งเกิดแต่คุณหญิงกล่ำก็มี คุณพุ่ม (คุณพุ่มบุษบาท่าเรือจ้าง) กับ เจ้าจอมอิ่มในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว [รายละเอียดดูได้ที่ตอนที่ 18 : คุณพุ่ม คุณสุวรรณ : กวีสาวสุดจี๊ด]
ซึ่งเกิดแต่คุณหญิงอินก็มี หม่อมน้อย ชุมสาย ณ อยุธยา (คนล่ะคนกับผกกนะ จบป่ะ!!) นางห้ามในกรมขุนราชสีหวิกรม
ภู่คนนี้ก็เป็นกวีมีชื่อ แต่งโคลงจารึกไว้ที่วัดพระเชตุพนบทหนึ่งคือโคลงบทที่ 67 รูปฤาษีดัดตนแก้กษัยกล่อน ดังนี้
สิทธิกรรมนั่งน่วงเท้า ไขว่คอ
หลังคดคู้ตัวงอ งูบง้ำ
ตึงตลอดสอดมือพอ ชโลงเข่า ไว้แฮ
แก้กล่อนแห้งกล่อนน้ำ กล่อนเส้นกล่อนกษัย
.
.
ภู่คนสุดท้ายคือ ภู่ จุลละภมร (ภู่นกกระจาบ)
นายภู่ นกกระจาบนั้นมีชื่อจริงว่า นายภู่ จุลละภมร ใช้ชีวิตอยู่ช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 - 5 เชื่อกันว่าเคยเป็นลูกศิษย์ของสุนทรภู่สมัยบวชอยู่ที่วัดโพธิ์
นายภู่คนนี้มีผลงานเด่นๆ ได้แก่
1. สุภาษิตสอนสตรี
2. นครกายคำกลอน
3. นกกระจาบคำกลอน
4. พระสมุทรคำกลอน
5. จันทโครบคำกลอน
6. มงคลทีปนีคำกลอน
7. พระรถนิราศ
โดยเฉพาะ นครกายคำกลอน นั้น มีคำขึ้นต้นไหว้ครู ดังนี้
.
.
ประนมหัตถ์จัดวางขึ้นหว่างเศียร
ต่างประทีปโกสุมประทุมเทียน
จำนงเนียรน้อมพระศาสดา
อันเป็นมิ่งโมลีทั้งสี่ทวีป
ดังประทีปส่องทั่วทุกทิศา
ก็ล่วงลับดับไกลนัยนา
สู่มหาห้องนิพพานสำราญรมย์
ฉันชื่อภู่ผู้ประดิษฐ์คิดสนอง
ขอประคองคุณใส่ไว้เหนือผม
ให้ประเสริฐเลิศล้ำด้วยคำคม
โดยอารมณ์คิดเทียบคำเปรียบปราย...
.
.
เรามาดูคำไหว้ครูในคำกลอนสุภาษิตสอนหญิงบ้าง
.
.
ประนมหัตถ์นมัสการขึ้นเหนือเศียร
ต่างประทีปโกสุมปทุมเทียน
จำนงเนียรน้อมบาทพระศาสดา
อันเป็นปิ่นโมลีทั้งสี่ทวีป
ดังประทีปส่องทั่วทุกทิศา
ก็ล่วงลับดับไกลนัยนา
สู่มหาห้องนิพพานสำราญรมย์
ฉันชื่อภู่ผู้ประดิษฐ์คิดสนอง
ขอประคองคุณใส่ไว้เหนือผม
ให้ประเสริฐเลิศล้ำด้วยคำคม
โดยอารมณ์ดำริรักชักภิปราย...
.
.
นอกจากนี้ในสุภาษิตสอนหญิงยังปรากฏเรื่อง "เงินสลึง" ซึ่งเป็นเงินเหรียญเริ่มใช้สมัยรัชกาลที่ 5 เลยค่อนข้างชัดว่าน่าจะไม่ใช่สุนทรภู่แน่ๆ
สรุป... คนที่แต่งเรื่อง สุภาษิตสอนสตรีก็คือ นายภู่นกกระจาบ นี้เอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น