ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วรรณคดีสไตล์เกรียน

    ลำดับตอนที่ #164 : (20++) 10 บทอัศจรรย์สุดเด็ดดวง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.38K
      57
      2 ก.ค. 62

    - ขอเตือนไว้ก่อนว่าบทความนี้ติดเรท 20 + นะจ๊ะ
    -- เด็กและสตรีห้ามอ่านเกินวันละ 2 รอบ และโปรดสังเกตคำเตือนบนฉลากด้วยนะจ๊ะ



    อย่างที่ทราบกันว่า บทอัศจรรย์นั้นคือบทบรรยายฉาก xxx กันอย่างสนุกสนาน (สามารถดูเพื่มได้ในตอนที่ 1 : บทอัศจรรย์ เริงรสกามารมณ์สไตล์ไทยๆ)


     #วรรณคดีTOPTEN วันนี้ก็เสนอขอเสนอ 10 ฉากบทอัศจรรย์สุดเด็ดดวงในโลกวรรณคดีไทย
    ปล. นี่เป็นการจับอันดับส่วนตัวเท่านั้น ใครที่คิดว่าบทไหนเด็ดดวงกว่านี้ ก็เม้นมาได้เลยจ้า
    .
    .
    10. สมุทรโฆษ นางพินทุมดี [สมุทรโฆษคำฉันท์]

    เชยชดรสโอษฐสุรา มือพานแนวนา-
    ภีท้องสรแทบทรวงสมร

    นมน้องตราติดอกอร   เอวองค์พระกร
    กระกวัดกระเหม่นกามา

    สองเสวยสุขสุดสงกา ชมถาภมหา
    อันเทพยแสร้งเอาสม

    บทอัศจรรย์ของสมุทรโฆษที่ ft. กับนางพินทุมดีนั้น เป็นบทที่บรรยายซะ "โคตรตรงไปตรงมา" แบบถึงพริกถึงขิงเลยนะ เอาไปว่าบรรยายละเอียดขนาดไหน ก็เลยไปทัศนากันเอาเองเด้อ
    .
    .
    9. หนุมาน + สุพรรณมัจฉา [รามเกียรติ์]

    ว่าพลางอิงแอบแนบชิด
    จุมพิตปรางเปรมนาสา
    ค่อยประคองต้องเต้าสุมณฑา
    วายุพัดพัดมาอึงอล

    พระสมุทรตีฟองนองระลอก
    คลื่นกระฉอกฟัดฝั่งกุลาหล
    เมฆมัวทั่วทิศโพยมบน
    ฝนสวรรค์พรอยพรมสุมาลี

    อันดวงโกสุมปทุมมาลย์
    ก็แบ่งบานคลี่คลายเกสรศรี
    สองสมชมรสฤๅดี
    ต่างเกษมเปรมปรีดิ์ทั้งสองรา 

    ความรุนแรงระดับคลื่นถาโถมกระทบชายฝั่ง จน "ดวงโกสุม" ของเจ๊สุพรรณมัจฉาถึงกับ "คลี่คลายเกสร" (ใครที่สงสัยว่าท่าน ft กันได้ยังไงก็ให้ไปดูตอนที่ 115 : ความลับของเงือกในวรรณคดี)
    .
    .
    8. พญาเวนไตย + กากี [กากี]

    บันดาลพลาหกเทวบุตร
    ก็ผึ่งผุดตั้งทั่วทิศาศาล
    โพยมพยับอับอึงอนธการ
    สะท้านถึงเมรุราชสีขรินทร์

    สัตภัณฑ์บรรพตก็ไหวหวั่น
    คงคาลั่นเป็นระลอกกระฉอกสินธุ์
    ฝูงมหามัจฉาในวาริน
    ก็โดดดิ้นเล่นน้ำลำพองกาย

    อันดอกดวงสิมพลีที่ตูมกลัด
    ครั้นฝนซัดเชยแช่มแย้มขยาย
    ที่ตูมบานก้านกลีบขจรจาย
    รำพายกลิ่นรื่นรสเสาวคนธ์

    ตอนแรกพญาเวนไตยก็จัดให้แบบธรรมดาอยู่หรอกนะ พอเสร็จกิจ นางกากีก็ 

    ทำค้อนควักผลักกรแล้ววอนว่า
    ไม่กรุณาน้องเลยนะปักษี
    ไปหักหาญรานเสน่ห์เจ้าธานี
    ไม่ทันล่วงราตรีมารีบร้อน

    น้องยังไม่สบายวายทุกข์
    สุดที่จะร่วมสุขสโมสร
    จงรารักหนักหน่วงในอาวรณ์
    ใช่จะจรจากบาทมุลิกา

    พญาเวนไตยก็เลยต้องจัดให้นางต่อรอบสอง ความรุนแรงระดับแผ่นดินไหว ถึงขนาด "สัตภัณฑ์คีรี" หวั่นไหว มหาสมุทรก็ถาโถมราวกับสึนามิจนหมู่มัจฉาทั้งหลายแหล่ต่างโดดดิ้นมาเล่นน้ำเชียวนะ
    .
    .
    7. ระเด่นลันได ประแดะ [ระเด่นลันได]

    อัศจรรย์ลั่นพิลึกกึกก้อง
    ฟ้าร้องครั่นครื้นดังปืนใหญ่
    เกิดพายุโยนยวบสวบสาบไป
    หลังคาพาไลแทบเปิดโปง

    ฝนตกห่าใหญ่ใส่ซู่ซู่
    ท่วมคูท่วมหนองออกนอกเจิ่ง
    คางคกขึ้นกระโดดโลดลองเชิง
    อึ่งอ่าเริงร่าร้องแล้วพองคอ

    นกกระจอกออกจากวิมานมะพร้าว
    ต้องฝนทนหนาวอยู่งอนหง่อ
    ขนคางหางปีกเปียกจนมอซอ
    ฝนก็พอขาดเม็ดเสร็จบันดาล

    ความรุนแรงระดับพายุธรรมดา แต่ก็ทำให้เกิดฝนตกห่าใหญ่จน "ท่วมหนอง" นกกระจอกครั้นจะออกจาก "วิมานมะพร้าว" ขนนกก็ "เปียกปอน" ซะจนมอซอเต็มตัว
    .
    .
    6. ขุนแผน + สายทอง [ขุนช้างขุนแผน]

    ค่อยขยับจับเขยื้อนแต่น้อยน้อย
    ฝนปรอยฟ้าลั่นสนั่นเปรี้ยง
    ลมพัดซัดคลื่นสำเภาเอียง
    ค่อยหลีกเลี่ยงแล่นเลียบตลิ่งมา

    พายุหนักชักใบไดครึ่งรอก
    แต่กลับกลอกกลิ้งกลับเป็นนักหนา
    ทอสมอรอท้ายเสียหลายครา
    จนเภตราหยุดแล่นเป็นคราวคราว

    สมพาสพิมดุจริมแม่น้ำตื้น
    ไม่มีคลื่นแต่ละลอกกระฉอกฉาว
    ปะสายทองดุจต้องพายุว่าว
    พอออกอ่าวก็ล่มจมไปเลย

    แน่นอนว่า ลีลาของสายทองนั้นคล่องและดุเด็ดดีกว่านางพิม เพราะน้องพิมเป็นแค่ "แม่น้ำตื้น" แต่เจ๊สายทองของเราเป็น "พายุ" ถึงขนาดพี่แผนของเรา "ล่มปากอ่าว" เลยนะ!!
    .
    .
    5. ขุนแผน + บัวคลี่ [ขุนช้างขุนแผน]

    ถึงปากน้ำแล่นส่งเข้าตรงร่อง
    ให้ขัดข้องแข็งขืนไม่ใคร่เข้า
    ด้วยร่องน้อยน้ำอับคับสำเภา
    ขึ้นติดตั้งหลังเต่าอยู่โตงเตง

    พอกำลังลมจัดพัดกระโชก
    กระแทกโคกกระท้อนโขดเรือโดดเหยง
    เข้าครึ่งลำหายแคลงไม่โคลงเคลง
    จุ้นจู๊เกรงเรือหักค่อยยักย้าย

    ด้วยคลองน้อยเรือถนัดจึงขัดขึง
    เข้าติดตึงครึ่งลำระส่ำระสาย
    พอชักใบขึ้นกบรอกลมตอกท้าย
    ก็มิดหายไปทั้งลำพอน้ำมา

    ความรุนแรงระดับพายุเฮอร์ริเคน ถึงขนาด "สำเภา" ติด "ร่องน้อย" เจียวนา พอกำลังลมถาโถมจัดหนักเข้าจนเรือ "เข้าครึ่งลำ" ถึงขนาดขุนแผนยังกลัวว่าเรือลำน้อยของตนจะหัก!?
    .
    .
    4. อภัยมณี + เงือก [พระอภัยมณี]

    อัศจรรย์ครั่นครื้นเป็นคลื่นคลั่ง
    เพียงจะพังแผ่นผาสุธาไหว
    กระฉอกฉาดหาดเหวเป็นเปลวไฟ
    พายุใหญ่เขยื้อนโยกกระโชกพัด

    เมขลาล่อแก้วแววสว่าง
    อสูรขว้างเขวี้ยงขวานประหารหัต
    พอฟ้าวาบปลาบแปลบแฉลบลัด
    เฉวียนฉวัดวงรอบขอบพระเมรุ

    พลาหกเทวบุตรก็ผุดพุ่ง
    เป็นฝนฟุ้งฟ้าแดงดังแสงเสน
    สีขรินทร์อิสินธรก็อ่อนเอน
    ยอดระเนนแนบน้ำแทบทำลาย

    บทอัศจรรย์ของเฮียอภัยมณีกับเงือกสาว (ใครที่สงสัยว่าท่าน ft กันได้ยังไงก็ให้ไปดูตอนที่ 115 : ความลับของเงือกในวรรณคดี) ความรุนแรงระดับคลื่นยักษ์สึนามิจน "เกาะแก้วร้อนฉ่าจนลุกเป็นไฟ!!"
    .
    .
    3. อภัยมณี + ผีเสื้อสมุทร [พระอภัยมณี]

    เกิดกุฬาคว้าว่าวปักเป้าติด
    กระแซะชิดขากบกระทบเนียง
    กุฬาส่ายย้ายหนีตีแก้เอียง
    ปักเป้าเหวี่ยงยักแผละกระแซะชิด

    กุฬาโคลงไม่สู่คล่องกระพร่องกระแพร่ง
    ปักเป้าแทงตะละทีไม่มีผิด
    จะแก้ไขให้หลุดสุดความคิด
    ประกบติดตกผางลงกลางดิน

    ก่อนอื่น เราต้องอย่าลืมบริบทนะครับ ว่าเฮียอภัยมณีหลงใหล่รูปผีเสื้อสมุทรในร่างแปลง เพราะความจริงแล้ว เฮียแกรู้อยู่แล้วเจ๊แกคือยักษ์แปลงมา แต่สถานการณ์ทำให้ไม่สามารถจะหลบหนีออกไปได้ (สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ตอนที่ 127 : เหตุการณ์ "หญิงรุกชาย" ในวรรณคดี)

    หากพิจารณาบทอัศจรรย์เป็นการแข่งว่าวนั้น เราจะพบว่าตัวว่าวกุลาพยายามหนีแล้ว แต่ปักเป้าพยายามเข้ามา "กระแซะ" "แนบชิด"และ "จับแทง" จนกระทั่งกุลา "ไม่สามารถหลุดได้"!!
    .
    .
    2. ลอ + เพื่อน + แพง [ลิลิตพระลอ]

    สมเสน่ห์อรใหม่หมั้ว  กลั้วรสกลั้วกลิ่นกลั้ว
    กลสกลั้วสงสาร ฯ

    บุษบาบานคลี่คล้อย   สร้อยแลสร้อยซ้อนสร้อย
    เสียดสร้อยสระศรี ฯ

    ภุมรีคลึงคู่เคล้า       กลางกมลยรรเย้า
    ยั่วร้องขานกัน ฯ

    บทอัศจรรยนี้เป็นบทอัศจรรย์ที่ทั้งแซบและโคตรจะเด็ดดวงในโลกวรรณคดีไทย เพราะเป็นแบบเดียวที่เป็นแบบ 2 in 1 ชายหนึ่งหญิงสาว!! 

    เริ่มจากการที่พวกนางทั้งสามเนื้อแนบเนื้อกันอย่างเมามันกลางสระน้ำ ขนาด "ภุมรีคลึงคู่" อยู่กลาง "กมลเซียวนะ ลองนึกภาพดู แล้วเจ็ดเทพลอก็ทำการจัดการกับพระเพื่อนจน "สมสมร" แล้วท่านก็ทำการจัดพระแพงต่อยก 

    ความรุนแรงของเจ็ดเทพลอนั้นอยู่ในระดับม้าพยศห้าตัว ช้างตกมันเจียวนา
    .
    .
    1. ไชยสุริยา + สุมาลี [พระไชยสุริยา]

     ขึ้นกดบทอัศจรรย์
    เสียงครื้นครั่นชั้นเขาหลวง
    นกหกตกรังรวง
    สัตว์ทั้งปวงง่วงงุนโงง

    แดนดินถิ่นมนุษย์
    สียงดังดุจพระเพลิงโพลง
    ตึกกว้านบ้านเรือนโรง
    โคลงคลอนเคลื่อนเขยื้อนโยน

    บ้านช่องคลองเล็กใหญ่
    บ้างตื่นไฟตกใจโจน
    ปลุกเพื่อนเตือนตะโกน
    ลุกโลดโผนโดนกันเอง

    ความรุนแรงระดับแผ่นดินไหวขนาดสิบริกเตอร์ สององค์ทรงสังวาส จนโลกธาตุก็ความหวั่นไหว พอ "ตื่นนอนอ่อนอกใจ  เดินไม่ได้ให้อาดูร" เจียวนา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×