คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : กลอนสวด : วรรณคดีที่ถูกลืม
กลอนสวดก็คือกลอนที่อ่านเป็นทำนองสวด แต่งเป็นกาพย์ยานี 11 กาพย์ฉบัง 16 และกาพย์สุรางคนางค์ 28 ข้อความที่แต่งมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนาโดยมีเนื้อเรื่องที่มุ่งสั่งสอนข้อธรรมะโดยตรงและโดยอ้อมซึ่งได้แก่ ชาดกและเรื่องที่แต่งเลียนแบบชาดก
วัฒนธรรมทางการอ่านมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว หากเป็นการอ่านที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการ “อ่านด้วยหู” แน่! งงเด้งงเด้
การอ่านด้วยหูก็คือการที่ผู้รู้หนังสืออ่านให้คนฟังจำนวนมา ก(อย่าลืมน่ะครับว่าคนสมัยก่อนรู้หนังสือกันน้อยมาก) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านหนังสือในวัดซึ่งมีประเพณีการสวดอ่านหลากหลายประเภทในทุกภูมิภาคของไทย
- ภาคกลาง : การสวดพระมาลัย การสวดคฤหัสถ์ การสวดลำ จำอวดพระ
- ภาคอีสาน : ประเพณีการอ่านหนังสือผูก การสวดสรภัญญ์
- ภาคใต้ : การสวดหนังสือบุด การสวดด้านและการสวดพระมาลัย
- ภาคเหนือ : การเล่าคร่าว หรือค่าวซอ
การนำกลอนสวดมาสวดอ่านเป็นท่วงทำนอง เป็นประเพณีนิยมของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ และเพิ่งจะเริ่มคลายความนิยมลงในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นระยะที่วิทยาการความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีค่อยๆมีอิทธิพลต่อการเผยแพร่วรรณกรรมทำให้ประเพณีการอ่านหนังสือเปลี่ยนไปจากการ “อ่านด้วยหู” เป็นการ “อ่านด้วยตา” แทน
กำเนิดของกลอนสวดอยู่ที่วัด เมื่อพุทธศาสนิกชนไปบำเพ็ญกุศลร่วมกันในวัด เมื่อว่างจากสวดมนต์หรือฟังเทศน์ก็ใช้เวลาว่างนั้นสนทนาธรรม เล่าเรื่องทางศาสนาหรือนำหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนามาอ่านสู่กันฟัง
แต่เดิมอ่านเป็นร้อยแก้วอย่างทำนองธรรมวัตร ต่อมาจึงมีการนำชาดก หรือเรื่องราวต่างๆมาแต่งเป็นกลอนสวด เมื่อศาสนิกชนได้ฟังเสียงสวดที่ไพเราะรื่นหู ก็จะเกิดเลื่อมในศรัทธา
แม้ว่าปัจจุบันวัฒนธรรมการสวดอ่านหนังสือแทบจะสูญหายไปแล้วจากสังคมไทยเพราะการอ่านได้เปลี่ยนเป็นการอ่านด้วยตาตามแบบตะวันตก วรรณกรรมซึ่งแต่งสำหรับสวดก็ยังคงมีหลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมากในรูปของต้นฉบับตัวเขียนหรือสมุดไทย เฉพาะที่แผนกเอกสารโบราณ
หอสมุดแห่งชาติก็มีจำวนถึง 141 เรื่องนับเป็นจำนวนเล่ม 707 เล่ม เป็นสมุดไทย 667 เล่ม สมุดฝรั่ง 40 เล่ม มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้เป็นประจักษ์พยานที่จะทำให้อนุชนรุ่นหลังเข้าใจวัฒนธรรมอันเป็นรากเหง้าของสังคมไทย
อย่างไรก็ตาม การจะหยิบยืมกลอนสวดไปสวดอ่านนั้น เจ้าของหนังสือหรือผู้คัดลอกมักมีหมายเหตุให้ระมัดระวังในการใช้หนังสือของตน ดังนี้
๏ หนังสือพระแก่นจันทร์นี้ถ้าผู้ใดจะยืมไปอ่านแล้วขอท่านทั้งหลายอย่าได้นอนอ่าน เป็นอันขาดทีเดียวแล้วอีกประการหนึ่งถ้าจะอ่านก็อย่าให้น้ำหมากน้ำพลูหยดย้อยลงไปที่หนังสือเลยท่านเอย ถึงจะมีลูกมีหลานก็อย่าควรเอาให้เล่น ไม่ดีเลยจริงนะท่าน
(แก่นจันทร์ เลขที่ 12)
การหยิบยืมกลอนสวดประเภทเรื่องประโลมโลกและหมายเหตุเตือนผู้ยืมให้รักษาหนังสือ แสดงถึงความแพร่หลายของการสวดอ่านกลอนสวดว่าเป็นไปอย่างกว้างขวาง และยังชี้ให้เห็นความสำคัญของต้นฉบับตัวเขียนซึ่งมีคุณค่าเพราะคัดลอกมาด้วยความยากลำบาก
การสวดคฤหัสถ์ -- เรื่องนี้มีตำนาน (22 ส.ค. 60)
ความคิดเห็น