คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : ละครนอก VS ละครใน
ละครนอก เป็นละครของภาคกลาง นัยว่าวิวัฒนาการมาจากโนราเพราะมีความมุ่งหมายเช่นเดียวกันคือ ดำเนินเรื่องรวดเร็ว และตลกขบขัน
.
.
สมัยโบราณผู้แสดงผู้ชายล้วน จึงมีการเล่นเป็นผู้หญิงด้วยนะฮ้า! เพิ่งเพิ่มผู้หญิงเข้ามาแสดงในปลายสมัยรัชกาลที่ ๔
ดนตรี : ไม่จำกัดจำนวนดนตรี ใช้วงปี่พาทย์
โรง : มีฉากเป็นผ้าม่าน มีประตูเข้าออก 2 ประตู หลังฉากเป็นที่แต่งตัวและสำหรับให้ตัวละครพัก หน้าฉากเป็นที่แสดงตั้งเตียงตรงกลางหน้าฉาก
การแต่งกาย : เลียนแบบเครื่องต้นของกษัตริย์ ตัวพระสวมชฎา ตัวนางสวมเครื่องประดับศีรษะตามฐานะเช่น มงกุฎกษัตรี รัดเกล้ายอด รัดเกล้าเปลว และกระบังหน้าเสื้อผ้าปักดิ้นเลื่อมแพรวพราว
การแสดง : มีคนบอกบท มีต้นเสียงและลูกคู่สำหรับร้อง บางตัวละครอาจร้องเอง การรำเป็นแบบแคล่วคล่อง
จังหวะของการร้องและการบรรเลงดนตรี : ค่อนข้างเร็ว เวลาเล่นตลกมักเล่นนานๆ ไม่คำนึงถึงการดำเนินเรื่อง และไม่ถือขนบธรรมเนียมประเพณี เริ่มต้นแสดงก็จับเรื่องที่เดียวไม่มีการไหว้ครู
เรื่องที่แสดงและเป็นที่นิยมแพร่หลายได้แก่ เรื่องแก้วหน้าม้า ลักษณวงศ์ และจันทโครพ
บทที่เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ได้แก่ เรื่องสังข์ทอง ไชยเชษฐ์ คาวี มณีพิชัย และไกรทอง
บทละครนอกครั้งกรุงศรีอยุธยามีอยู่ 14 เรื่อง คือ
- การะเกด
- คาวี
- ไชยทัต
- พิกุลทอง
- พิมพ์สวรรค์
- พิณสุริยวงศ์
- มโนห์รา
- มณีพิชัย
- สังข์ทอง
- สังข์ศิลป์ชัย
- สุวรรณศรี
- สุวรรณหงส์
- โสวัต
- โม่งป่า
ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์ได้เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเรื่อง
.
.
.
ละครใน เป็นละครที่เกิดขึ้นในพระราชฐานจึงเป็นละครที่มีระเบียบแบบแผน มีความมุ่งหมายสำคัญอยู่ 3 ประการ คือ
- รักษาศิลปของการรำอันสวยงาม
- รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีเคร่งครัด
- รักษาความสุภาพทั้งบทร้อง และเจรจา
เพราะฉะนั้นเพลงร้อง เพลงดนตรี จึงต้องดำเนินจังหวะค่อนข้างช้าเพื่อให้รำได้อ่อนช้อยสวยงาม
เป็นหญิงฝ่ายใน เดิมห้ามบุคคลภายนอกหัดละครใน จนถึงสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงเลิกข้อห้ามนั้น ต่อมาภายหลังอนุญาตให้ผู้ชายแสดงได้ด้วย ผู้แสดงละครในต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถตีบทให้แตก และมีลักษณะทีท้าวทีพญา
ดนตรี : ใช้วงปี่พาทย์
โรง : มีลักษณะเดียวกับโรงละครนอกแต่มักเรียบร้อยสวยงามกว่าละครนอก เพราะใช้วัสดุที่มีค่ากว่าเนื่องจากมักจะเป็นละครของเจ้านาย หรือผู้ดีมีฐานะ
เครื่องแต่งกาย : เหมือนละครนอก แต่ถ้าแสดงเรื่องอิเหนาตัวพระบางตัวจะสวมศีรษะด้วยปันจุเหร็จในบางตอน (ปันจุเหร็จในสมัยปัจจุบันมักนำไปใช้ในการแสดงเรื่องอื่นๆด้วย)
การแสดง : มีคนบอกบท ต้นเสียง ลูกคู่การร่ายรำสวยงามตามแบบแผน เนื่องจากรักษาขนบประเพณีเคร่งครัดการเล่นตลกจึงเกือบจะไม่มีเลย
เรื่องที่ใช้แสดงละครในแต่โบราณมีเพียง 4 เรื่องคือ
- รามเกียรติ์
- อิเหนา (อิเหนาเล็ก)
- ดาหลัง (อิเหนาใหญ่)
- อุณรุท
ภายหลังได้มีเพิ่มขึ้นบ้างเช่น เรื่องศกุลตลาพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6
.
.
.
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีละครแบบใหม่เกิดขึ้น คือละครดึกดำบรรพ์ นับแต่นั้นมาคนก็หันไปสนใจกับละครแบบใหม่มากกว่าละครใน เพราะดำเนินเรื่องรวดเร็วทันใจ ทั้งยังเป็นของแปลกใหม่ไม่เคยดูมาก่อน ในสมัยต่อมาก็เกิดการละครประเภทอื่นๆ อีก เช่น ละครร้อง ละครพันทาง และละครพูด ในระยะหลังนี้ละครในเสื่อมความนิยมลงมาก
หลังสมัยรัชกาลที่ 6 แล้ว มิได้มีละครในของหลวงอีก และแม้ในปัจจุบันนี้จะมีละครในเล่นกัน แต่แบบและลักษณะการแสดงเปลี่ยนไปมาก
ความคิดเห็น