วรรณคดีสไตล์เกรียน

ลำดับตอนที่ #268 : ตามเสด็จในไกลบ้าน (๙) : เยอรมนี ฝรั่งเศส

คีล (Kiel)

: เป็นหนึ่งในเมืองท่าทางทะเลที่มีความสำคัญของเยอรมนี เป็นที่รู้จักในการจัดงานล่องเรือระดับนานาชาติ รัชกาลที่ 5 เสด็จไปชมคลองคีล (Kiel Canal) และอู่ต่อเรือของบริษัทโฮวาลด์สเวิร์ค-ดอยช์ เวิร์ฟต์ (Howaldtswerke-Deutsche Werft)

.

.

.

เบอร์ลิน (Berlin)

: เป็นเมืองหลวงของเยอรมนี เป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่มีอิทธิพลที่สุดของยุโรป ในด้านการเมือง วัฒนธรรม สื่อสารมวลชน และสหวิทยาการ

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปมหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral Church) สวนสัตว์เบอร์ลิน (Berlin Zoological Garden) ห้างคาเดเว (Kaufhaus des Westens / KaDeWe) โรงพยาบาลวีร์โชว์ (Campus Virchow Klinikum)

.

.

.

คัสเซิล (Kassel)

: เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของเยอรมนี และเป็นที่ประทับของไกเซอร์วิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี (Wilhelm II, German Emperor)

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปพระราชวังวิลเฮลมส์เฮอเออ (Schloss Wilhelmshöhe) สวนเบิร์กพาร์ค (Bergpark Wilhelmshöhe) และจตุรัสเฮอร์คิวลิส (Hercules monument)

.

.

.

เบราน์ชไวค์ (Braunschweig)

: เป็นเมืองอิสระตามการบริหารเขตปกครองของเยอรมนี เป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของประเทศและสหภาพยุโรป

รัชกาลที่ 5 ประทับยังพระราชวังบรันสวิก (Brunswick Palace) 

ดยุกโยฮัน อัลเบิร์ตแห่งเม็คเล็นบูร์ก (Duke John Albert of Mecklenburg) เชิญเสด็จไปทอดพระเนตรละครเวทีที่โรงละครประจำเมือง (Staatstheater Braunschweig) ชมการซ้อมรบซึ่งปัจจุบันสนามซ้อมเป็นโรงพยาบาลประจำเมือง (Municipal Hospital Braunschweig)

รัชกาลที่ 5 ยังทอดพระเนตรวิ่งแข่งที่มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเบราน์ชไวค์ (Technical University of Braunschweig) ปราสาทดังก์วาเดอโรป (Dankwarderode Castle) และโบสถ์บรันสวิก (Brunswick Cathedral)

.

.

.

บาดฮาร์ซบูร์ก (Bad Harzburg)

: เป็นเมืองอันเงียบสงบที่ตั้งอยู่ที่เทือกเขาฮาร์ช (Harz) 

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปฟาร์มเลี้ยงม้า (Bad Harzburg Stud Farm) ปราสาทบุนด์ไฮม์ (Bündheim Castle) อุทยานแห่งชาติเทือกเขาฮาร์ช (Harz National Park) ภัตตาคารราเดาวัซเซอร์ฟอล (Radau- Wasserfall Restaurant)

.

.

.

.

.

โคโลญ (Cologne)

: เป็นเมืองใหญ่อันดับสี่ของเยอรมนี เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุด สร้างโดยชาวโรมัน

รัชกาลที่ 5 เสด็จไปอาสนวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) สะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) และย่านผลิตน้ำหอม 4711

.

.

.

ปารีส (Paris)

: รัชกาลที่ 5 เสด็จไปสวนสาธารณะบัวส์ เดอ บูโลญ (Bois de Boulogne) หอไอเฟล (Eiffel Tower) โรงงานแห่งชาติแห่งแซฟวร์ (Manufacture nationale de Sèvres) มหาวิหารซาเคร-เกอร์ (Sacré-Cœur) พระราชวังฟงแตนโบล (Palace of Fontainebleau) พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles)

.

.

.

.

.

รงบุลเย (Rambouillet)

: เป็นเมืองเล็กๆ ล้อมไปด้วยป่าชื่อเดียวกัน เป็นที่ตั้งของปราสาทรงบุลเย (Château de Rambouillet) ที่รัชกาลที่ 5 ประทับ ซึ่งมีประธานาธิบดีอาร์ม็อง ฟาลีแยร์ (Armand Fallières) กับโอกุสต์ ปาวี (Auguste Pavie) มารับเสด็จ

จากนั้นจึงเสด็จไปบาดฮาร์ซบูร์กอีกครั้ง

.

.

.

บาดฮาร์ซบูร์ก

: เมื่อกลับจากปารีส ก็เสด็จมาที่บาดฮาร์ซบูร์กอีกครั้งเพื่อรักษาพระวรกายแบบสปาบำบัด 

โดยประทับที่วิลลาเฟอร์สเตนรูห์ (Villa Fürstenruhe) แล้วจึงเสด็จไปเยี่ยมเจ้าชายไอเทิล ฟรีดริช แห่งปรัสเซีย (Prince Eitel Friedrich of Prussia) 

นอกจากนี้ รัชกาลที่ 5 ยังได้เสด็จไปสวนสาธารณะคัวร์พาร์ค (Kurpark) การแข่งขันเทสนิส การแข่งขันกอล์ฟ สวนเลี้ยงกวาง (Deer Park) และทรงซื้อหมาดัชชุน (Dachshund) 2 ตัว

เนื่องจากช่วงเวลานั้นตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษา รัฐบาลเยอรมันจึงถวายบ่อน้ำร้อนชื่อ โกนิคจุฬาลงกรณ์ (Konig Chulalongkorn) ซึ่งต่อมาทางรัฐบาลไทยได้สร้างศาลาไทย (Thai-Sala) ครอบบ่อน้ำ แต่แล้วเสร็จตอนที่รัชกาลที่ 5 สวรรคต เจ้าฟ้ามหิดลจึงเสด็จมาเปิดแทน

.

.

.

ซาลเบิค (Saalburg)

: เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน

.

.

.

วีสบาเดิน (Wiesbaden)

: เป็นเมืองตากอากาศที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี รัชกาลที่ 5 เสด็จไปคูร์เฮาส์แห่งวีสบาเดิน (Kurhaus, Wiesbaden) และเยี่ยมชมความเป็นอยู่ของชาวเมือง

.

.

.

ปารีส

: เมื่อกลับจากวีสบาเดิน ก็เสด็จมาที่ปารีสอีกครั้ง รัชกาลที่ 5 เสด็จไปโบสถ์ลามาดแลน (La Madeleine) ร้านเครื่องฉายภาพยนตร์ พระราชวังแซ็ง-กลู (Château de Saint-Cloud) โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์ (Sainte-Chapelle) พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมูเซ เกรอแวง (Musée Grévin) 

คืนสุดท้าย รัชกาลที่ 5 ได้ทอดพระเนตรโอปาร่าเรื่องมาดามบัตเตอร์ฟลาย (Madama Butterfly) ซึ่งเนื้อหากล่าวถึงโศกนาฏกรรมความรักระหว่างหญิงสาวชาวญี่ปุ่นกับนายทหารเรือชาวอเมริกัน ในไทยได้มีการสร้างเป็นละครเวทีในชื่อเรื่อง "โจโจ้ซัง" และกรมพระนราธิปได้ดัดแปลงเป็นบทละครเรื่อง "สาวเครือฟ้า"

.

.

.

จากนั้นก็เสด็จไปยังสวิซเซอร์แลนด์