ลำดับตอนที่ #256
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #256 : 10 วรรณคดี in มหาภารตะ
มีคำกล่าวว่า "สิ่งใดที่มีอยู่ในมหาภารตะ สิ่งนั้นก็จะมีให้เห็นในที่อื่น ถ้าสิ่งใดที่ไม่มีปรากฎอยู่ในมหาภารตะ สิ่งนั้นจะไม่มีให้เห็นในที่อื่นเลย"
มหาภารตะ (Mahabharata) เป็นหนึ่งในสองมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชมพูทวีป [อีกเรื่องคือรามายณะ] เล่าถึงการสู้รบกันระหว่างพี่น้องสองตระกูล (GoT ver.ภารตะ) และยังมีเรื่องย่อยต่างๆสอดแทรกอยู่มากมาย
.
.
.
.
.
1. ภควัทคีตา
ภควัทคีตา (Bhagavad Gita) เป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นบทสนทนาระหว่างอรชุน (Arjuna) กับศรีกฤษณะ (Krishna) ภควัทคีตาเรียกได้ว่าเป็นบทสรุปแห่งคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูทั้งปวง
ปรัชญาในภควัทคีตาเป็นการรวบยอดเอาคำสอนที่กระจัดกระจายในคัมภีร์ต่างๆมารวมไว้ในเล่มเดียว เปรียบได้กับเป็นหัวใจแห่งคำสอนของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูก็ไม่ผิดนัก..
.
.
.
2. ศกุนตลา
ศกุนตลาเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 ที่ทรงแปลมาจากกาลีทาส (Kalidasa) และทรงประยุกต์เป็นบทละครร้อง
เล่าถึง ศกุนตลา (Shakuntala) ลูกสาวของฤษีวิศวามิตร (Vishvamitra) กับอัปสรเมนกา (Menaka) แต่นางกลับถูกทิ้งไว้ในป่าตามลำพัง [รายละเอียดสามารถดูได้ในตอนที่ 53 : 10 คุณแม่สุดจี๊ดในโลกวรรณคดี]
เมื่อนางเติบโตเป็นที่ต้องตาของท้าวทุษยันต์ (Dushyanta) แต่นางกลับถูกฤษีทุรวาส (Durvasa) สาปให้คนรักจดจำไม่ได้ จนเกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมา
ปล. เจ้แกเป็นแม่ของท้าวภรต (Bharata) ผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย
.
.
.
3. สาวิตรี
สาวิตรีเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6
เรื่องนี้มาจากฤษีมารกัณเฑยะ (Markandeya) เล่าเรื่อง สาวิตรี (Savitri) สตรีผู้ใช้ปัญญาขอวิญญาณสวามีกลับมาจากพระยม (Yama) ให้ยุธิษฐิระ (Yudhishthira) ฟัง
.
.
.
4. พระนล
พระนลคําหลวง เป็นพระราชนิพนธ์แปลของรัชกาลที่ 6 ที่ทรงแปลมาจากภาษาอังกฤษของเซอร์โมเนียร์ วิลเลียมส์ (Sir Monier Williams) ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นหนังสือแต่งดีประเภทกวีนิพนธ์
เรื่องนี้มาจากฤษีพฤหทัศวะ (Brihadacwa) ได้เล่าเรื่อง พระนล (Nala) กับนางทมยัมตี (Damayanti) ให้เฮียยุฟัง
.
.
.
5. อนิรุทธ์ / อุณรุท
อนิรุทธ์ปรากฏในไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงพระราชนิพนธ์เป็นบทละครชื่ออุณรุท คู่กับรามเกียรติ์และอิเหนา
เล่าถึง อนิรุทธ์ (Aniruddha) โอรสของปรัทยุมน์ (Pradyumna) หลานเฮียกฤษณะ ความหล่อเลื่องลือไปถึงหูนางอุษา (Usha) ธิดาของพณาสูร (Banasura)
นางจิตรเลขา (Chitralekha) จึงเหาะพามาลอบรับอยู่ร่วมกัน เมื่อพณาสูรทราบก็ให้จับตัวอนิรุทธ์ และเมื่อเรื่องไปถึงหูเฮียกฤษณะ ก็พาปรัทยุมน์และพลรามไปปรับทัศนคติ
พณาสูรสู้ไม่ได้ จึงฟ้องพระศิวะ บิ๊กบอสจึงมาพร้อมกรรติเกยะ (Kartikeya) และคเณศ (Ganesha) ต่อสู้กันไม่มีใครแพ้ชนะ พณาสูรถูกตัดกรทั้งพันให้เหลือสอง บิ๊กบอสจึงขอชีวิต
.
.
.
6. กฤษณาสอนน้อง
กฤษณาสอนน้องที่ปรากฏอยู่ในไทยมีสองเวอร์ชั่นคือฉบับกรุงธนบุรี และฉบับพระนิพนธ์ของกรมพระปรมานุชิตชิโนรสที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
ที่มาของเรื่องนี้มาจาก เทราปตี (Draupadi) หรือนางกฤษณา ชายาของแก๊งปาณฑพพูดคุยกับนางสัตยภามา (Satyabhama) ชายาของเฮียกฤษณะ
.
.
.
7. รามายณะ
รามายณะ มหากาพย์รุ่นพี่ก็มีการพูดถึงในมหาภารตะเช่นกัน
ตอนที่เจ๊เทราปตีถูกชัยทรัถ (Jayadratha) ฉุดไปนั้น ฤษีมารกัณเฑยะได้เล่าเรื่องสาวิตรีและรามายณะให้เฮียยุฟัง
นอกจากนี้ตัวละครในรามายณะยังได้ไป cameo ในมหาภารตะอยู่หลายตัวด้วยกันอย่าง ชัมพวัน/ชมพูพาน (Jambavan), มายาสูร (Mayasura), วิภีษณะ/พิเภก (Vibhishana), กุเวร (Kubera) และหนุมาน (Hahuman)
.
.
.
8. ลิลิตนารายณ์สิบปาง
ลิลิตนารายณ์สิบปางเป็นพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6
ในปางที่แปดเล่าถึงกฤษณาวตาร อวตารสุดเกรียนของเฮียกฤษณะตั้งแต่ยังเล็ก ปราบพญากังสะ (Kamsa) สร้างวีรเกรียนให้ชราสันธ์ (Jarasandha) รุกมิณ (Rukmi) ศิศุปาล (Shishupala) ตบเกรียนชัมพวัน อีเว้นท์อนิรุทธิ์ อีเว้นท์มหาภารตะ กระทั่งถึงตอนตระกูลยาทพล่มสลาย
.
.
.
9. จิตรา (จิตรางคทา)
จิตราเป็นบทละครของรพินทรนาถ ฐากูร (Rabindranath Tagore)
เล่าถึง จิตรางคทา (Chitrāngadā) ที่ถูกเลี้ยงดูเป็นสาวทอมมาโดยตลอด กระทั่งนางได้ตกหลุมรักอรชุนที่เนรเทศตัวเองไปอยู่ป่า เลยขอพรจากกามเทพให้เปลี่ยนจากสาวหล่อเป็นสาวสวย และอยู่กินร่วมกับอรชุน
.
.
.
10. นหุษะ & ยยาติ
นหุษะ (Nahusha) เป็นหลานของปุรุรพ (Pururava) ต้นตระกูลจันทรวงศ์ มีมเหสีนาม อโศกสุนทรี (Ashokasundari) ซึ่งเป็นธิดาของบิ๊กบอสกับเจ๊ปารวตี จากการขอต้นกัลปพฤกษ์
ครั้งหนึ่งอินทราเทพสังหารวฤตาสูร (Vritra) แล้วรู้สึกผิด จึงชิ่งจากสวรรค์ไปบำเพ็ญตบะ
เหล่าทวยเทพจึงมีมติเชิญราชานหุษะมาครองสวรรค์ชั่วคราว แต่นหุษะกลับชอบเทพีศจี (Shachi) ซึ่งเป็นแฟนของอินทราเทพ จึงจัดวอซึ่งแบกโดยเหล่ามหาฤาษี
แต่เหล่าฤษีเคลื่อนไปแบบช้าๆ ทำให้นหุษะขัดใจ ด่าทอว่าช้าเหมือนงูเลื้อย ฤษีอคัสตยะ (Agastya) จึงสาปให้ไปเกิดเป็นงู รอคอยลูกหลานมาตอบปัญหาธรรมะ
.
.
.
นหุษะมีลูกนาม ยยาติ (Yayati) ซึ่งมีเมียสองคน
คนแรกคือ เทวยานี (Devayani) ลูกสาวของพระศุกร์ (Shukra) คุรุของเหล่าอสูร
คนที่สองคือ สรมิษฐา (Sharmishtha)
ด้วยนิสัยเจ้าชู้ ทำให้พระศุกร์สาปให้ยยาติเป็นชายชรา แต่สามารถถ่ายโอนความแก่ให้กับลูกได้
ยยาติจึงขอร้องให้ลูกๆสลับความแก่กับตน กระทั่งเจ้าชายปุรุ (Puru) ยินยอม เมื่อยยาติเบื่อหน่ายก็ คืนความหนุ่มให้ปุรุและมอบบัลลังก์ให้ [รายละเอียดสามารถดูได้ในตอนที่ 27 : ตำนานวงศ์กษัตริย์]
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น