ลำดับตอนที่ #239
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #239 : นานาชาติ in พระอภัยมณี
เรื่องพระอภัยมณีนั้นใช้ฉากเป็นทะเลอันดามันซะเป็นส่วนใหญ่ ย่อมมีผู้คนจากนานาชาติปรากฎอยู่มากมาย
วันนี้ เราจะไปดูกันว่าชาติพันธุ์วรรณาต่างๆที่ปรากฎในเรื่องพระอภัยมณีกันว่ามีชาติพันธุ์ไหนกันบ้าง
ถ้าพร้อมแล้ว เราก็มาเริ่มกันเลย let's go++
.
.
.
เริ่มจากตอนที่ท้าวอุเทนบุกเมืองรมจักร ท้าวเธอได้ตระเตรียมทัพไว้ดังนี้
.
.
หนังสือบอกปากน้ำว่ากำปั่น
สักห้าพันพลชวากะลาสี
มาทอดสู้อยู่ตรงท่าหน้าธานี
ห่างสักสี่สิบเส้นพอเห็นกัน
ข้างฝ่ายเหนือบอกว่าปัจจามิตร
พวกฝรั่งอังกฤษกับมักกะสัน
ล้วนขี่ม้าห้าหมื่นพื้นฉกรรจ์
เข้าบุกบั่นตีบ้านด่านดงมา
อันโยธามาทางตะวันตก
กระบวนบกแบกพื้นล้วนปืนผา
มลายูสุระตันวิลันดา
ตีเข้ามาในด่านชานบุรี ฯ
.
.
มีทั้ง..
ชวา - ดินแดนของอิเหนา เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในอินโดนีเซีย มีถิ่นฐานอยู่ทางตอนกลางและทางตะวันออกของเกาะชวา (Pulau Jawa) ชาวไทยที่เชื้อสายชวา ปัจจุบันอยู่ที่มัสยิดยะวา กรุงเทพมหานคร
อังกฤษ - เจ้าแห่งอาณานิคม ในสมัยรัชกาลที่ 3 สามารถครอบครองได้ทั้งอินเดีย พม่า มลายู แถมยังเอาชนะจีนในสงครามฝิ่นได้อีกด้วย
มักกะสัน - สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “มาคัสซาร์” (Makassar)” ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในเกาะซีลีบีส (Celebes) (ปัจจุบันคือเกาะซูลาเวซี (Sulawesi)) ไทยเรียกคนที่มีใจคอโหดร้าย โหดเหี้ยม อำมหิตผิดมนุษย์ว่ายักษ์มักกะสัน (รายละเอียดดูได้ในตอนที่ 64 : ยักษ์มักกะสัน)
มลายู - อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 3 ด้วยความวุ่นวายของเมืองไทรบุรี (Kedah) จึงแบ่งไทรบุรีออกเป็น 4 เมือง คือ กุปังปาซู (Kubang Pas) ปลิส (Perlis) สตูล และไทรบุรี
วิลันดา - คือฮอลันดา หรือเนเธอร์แลนด์ เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยามอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสมัยของพระนเรศวร และจัดตั้งหมู่บ้านฮอลันดาขึ้นมา
.
.
.
มาถึงตอนที่เงือกเฒ่าได้เล่าถึงอีกชาติพันธุ์หนึ่งไว้ นั้นคือ ลังกา
.
.
แต่สำเภาชาวเกาะเมืองลังกา
เขาแล่นมามีบ้างอยู่ลางปี
ถ้าเสียเรือเหลือคนแล้วนางเงือก
ขึ้นมาเลือกเอาไปชมประสมศรี
เหมือนพวกพ้องของข้ารู้พาที
ด้วยเดิมทีปู่ย่าเป็นมนุษย์
.
.
ซึ่งลังกา หรือ ศรีลังกา นั้นคือเมืองของอุศเรน เจ๊ละเวงวัณฬา
.
.
.
ต่อด้วยเกาะแก้วพิสดารของโยคีที่เสมือนเป็นแหล่งพักพิงของพวกเรือแตกนานาชาติ ขนาดที่พระอภัยมณีและสินสมุทรสามารถพูดได้หลายภาษา (ฝรั่ง จีน จาม)
.
.
ฝ่ายโยคีที่อยู่บนภูเขา
กับคนเหล่าเหลือตายหลายภาษา
ทั้งจีนจามพราหมณ์แขกไทยชวา
วิลันดาฝรั่งพรั่งพร้อมกัน
เป็นร้อยคนปรนนิบัติอยู่เช้าค่ำ
บ้างต้มน้ำเก็บลูกไม้มาให้ฉัน
เป็นเหล่าล้อมพร้อมหน้าเวลานั้น
บ้างนวดฟั้นปรนนิบัตินั่งพัดวี
.
.
แน่นอนเลยว่ามีทั้ง..
จีน - คนจีนเข้ามาติดต่อค้าขายและพำนักอาศัยอยู่ในเมืองไทยมาช้านาน มีทั้งแต้จิ๋ว (潮州; Chaozhou) แคะ (客家; Hakka) ไหหลำ (海南; Hainan) ฮกเกี้ยน (福建; Fujian) กวางสี (廣西; Guangxi)
จาม - เดิมเป็นชนชาติอาณาจักรจามปา (Champa) (แถวๆเวียดนาม) แขกจามในไทยมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในสงครามเก้าทัพ ได้เกณฑ์ไปต่อสู้กับพม่าจนได้รับชนะ รัชกาลที่ 1 จึงพระราชทานที่ดินแถว "บ้านครัว" ให้
พราหมณ์ - ผู้ประกอบพิธีในศาสนาฮินดู รัชกาลที่ 1 โปรดฯให้สร้างเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ขึ้นแล้วโปรดให้นำพราหมณ์จากภาคใต้ขึ้นมาประจำราชสำนัก
ไทย - ไทยสยาม (Thai Siam) คือกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งพูดภาษาไทยกลาง (แต่ไทยแท้ไม่มีหรอก ผสมกันทั้งนั้น)
.
.
.
ตอนที่สินสมุทรปราบบอสอย่างโจรสุหรั่ง (ซึ่งเป็นโจรสลัดอังกฤษ) รองกัปตันอย่างอังกุหร่าก็รายงานตัวทันที
.
.
ข้าชาวเมืองสำปะหลังฝรั่งเศส
เอาโหมดเทศขึ้นไปขายข้างฝ่ายเหนือ
เขาจับได้ไว้ชีวิตใช้ชิดเชื้อ
เที่ยวตีเรือกับสุหรั่งตั้งเป็นนาย
.
.
มีการเพิ่ม ฝรั่งเศส ขึ้นมาอีกหนึ่ง
.
.
.
ตอนที่เฮียภัยขึ้นครองผลึกนั้น เฮียก็ได้ส่งศิษย์พี่เกาะแก้วกลัวไปยังที่ต่างๆ
.
.
อัดแจจามข้ามหน้ามลายู
พวกญวนอยู่เวียดนามก็ข้ามไป
ข้างพวกพราหมณ์ข้ามไปเมืองสาวถี
เวสาลีวาหุโลมโรมวิสัย
กบิลพัสดุ์โรมพัฒน์ถัดถัดไป
เมืองอภัยสาลีเป็นที่พราหมณ์
ข้างพวกไทยได้ลมก็แล่นรี่
เข้ากรุงศรีอยุธยาภาษาสยาม
พม่ามอญย้อนเข้าอ่าวพุกาม
ฝรั่งข้ามฟากเข้าอ่าวเยียระมัน
.
.
มีการเพิ่มชาติพันธุ์ขึ้นมาดังนี้...
ญวน - คือชาวเวียดนาม ในสมัยรัชกาลที่ 3 เราทำสงครามกับญวนเรียกว่า อานามสยามยุทธ สยามได้เชิญญวนคริสเตียนซึ่งหนีการไล่ล่าเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่สามเสน
พม่า - อดีตอริราชศัตรูของสยาม ในสมัยรัชกาลที่ 3 ต้องทำสงครามกับอังกฤษจนทำสนธิสัญญารานตะโบ (Treaty of Yandabo) แถมต้องเสียค่าปฏิกรรมสงครามเป็นเงินหนึ่งล้านปอนด์
มอญ - คู่ปรับของพม่าจากราชาธิราช อพยพเข้ามายังแผ่นดินไทย จนมีชุมชนมอญอยู่หลายชุมชน ที่คนรู้จักก็แถวปากเกร็ด พระประแดง บางกระดี่
.
.
.
ส่วนเมืองทมิฬของเจ้าละมานนั้น สุนทรภู่ได้บรรยายเอาไว้ดังนี้
.
.
ฝ่ายลำหนึ่งถึงละมานสถานถิ่น
เมืองทมิฬฟันเสี้ยมเหี้ยมหนักหนา
ไม่กินข้าวชาวบุรินทร์กินแต่ปลา
กินช้างม้าสารพัดสัตว์นกเนื้อ
ถึงเวลาฆ่าชีวิตเอามีดเชือด
แล้วคลุกเลือดด้วยสักหน่อยอร่อยเหลือ
ทั้งน้ำส้มพรมพล่าน้ำปลาเจือ
ล้วนเถือเนื้อดิบกินสิ้นทุกคน
จึงพ่วงพีมีกำลังเหมือนดังอูฐ
แต่เสียงพูดคล้ายทำนองของสิงหล
ไว้ผมปรกปกไหล่เหมือนไฟลน
หยิกหยิกย่นย่อย่องององอน
.
.
ซึ่งคนสันนิษฐานกันว่าน่าจะเป็นแอฟริกัน เพราะชาวสยามรู้จักแอฟริกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ในโคลงต่างภาษา [รายละเอียดดูได้ในตอนที่ 141 : โคลงภาพคนต่างภาษา]
.
.
.
รวมชาติพันธุ์ทั้งหมดที่ปรากฎในเรื่องเท่ากับ 14 ชาติพันธุ์ แล้วตอนสุดท้ายพระโยคีก็ได้เทศนาถึง "ความสามัคคี" ให้มีไมตรีต่อกันจะดีกว่า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น