ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วรรณคดีสไตล์เกรียน

    ลำดับตอนที่ #175 : เทียบนามตัวละคร "รามเกียรติ์" กับ "รามายณะ"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.16K
      42
      2 ก.ค. 62

    บรรดาวรรณคดีทั้งหมดของเรา รามเกียรติ์ ถือว่าเป็นวรรณคดียอดฮิตแห่งสยามประเทศ มีที่มาจากคัมภีร์ รามายณะ (Ramayana) ของชมพูทวีป


    รามายณะเป็นวรรณคดีที่นิยมของอินเดีย จึงได้มีเวอร์ชั่นต่างๆออกมาอย่างมากมาย


    รวมไปถึงฉบับภาษาสยาม ซึ่งพี่ไทยเราก็ได้นำมาฟิคขึ้นมาใหม่ตามแบบฉบับไทยๆ [ติดตามได้ในมหากาพย์รามเกียรติ์ in เวอร์ชั่นต่างๆ ได้ในตอนที่ 132 - 139]


    และรามเกียรติ์ฉบับพี่ไทยของเราก็ได้ให้กำเนิดตัวละครขึ้นมามากมาย วันนี้ เราจะมาดูกันว่าตัวละครเหล่านี้มีต้นแบบมาจากใครบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว เราก็ได้ชมพร้อมกันเลย...
    .
    .
    .
    .
    .
    ฤษีวัชมฤค  -->  วาลมิกิ (Valmiki)
    ผู้รจนามหากาพย์รามายณะ และเป็นผู้ให้ที่พักพิงแก่นางสีดาอีกด้วย


    ฤษีอังคต  -->  อคัสตยะ (Agastya)  
    เป็นหนึ่งในแก๊ง 7 ฤๅษี ท่านมีรูปร่างเป็นคนแคระ 


    ฤษีโคดม  -->  เคาตมะ (Gautama) 
    เป็นหนึ่งในแก๊ง 7 ฤๅษี จับได้ว่าอินทราเทพกำลังซุกซนกับเมียของตน จึงสาปให้อินทราเทพมี "โยนี" ขึ้นทั่วตัว และสาปเมียตนเองให้เป็นก้อนหิน (ภายหลังเปลี่ยนมาเป็น "ดวงตา" แทน อินทราเทพจึงมีอีกชื่อนึงว่า สหัสนัยน์)


    นางกาลอัจนา --> อหลยา (Ahalya)   
    เมียของฤษีเคาตมะ ถูกสาปให้กลายเป็นก้อนหิน ครั้นฤๅษีวิศวามิตรพารามและลักษมัณไปที่อาศรม ศรีรามจึงเหยียบลงบนก้อนหินเพื่อปลดปล่อยคำสาป ภายหลังนางกลับไปอยู่กับฤๅษีที่พรหมโลกอย่างมีความสุข (ในรามเกียรติ์ลืมนางไปเรียบร้อย)


    รามสูร  -->  ปรศุราม (Parashurama)
    อวตารปางที่ 6 ของวิษณุ มีขวานเป็นอาวุธ เป็นฤษีที่สาบานจะล้างบางวรรณะกษัตริย์ให้สิ้น


    พิราพ  -->  วิราธ (Viradha)
    รากษสที่ได้รับพรจากพระพรหมว่าไม่ให้ตายด้วยอาวุธ ไปไฝว้กับราม เมื่อรู้ว่าคือนารายณ์อวตาร จึงเล่าเรื่องที่ตนถูกสาบจากท้าวกุเวรเพราะไปจี๊จ๊ะเด็กในสังกัด รามกับลักษมัณจึงช่วยกันฝังวิราธให้พ้นจากคำสาป

    [พิราพในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นคนละตัวกับพระพิราพ / ไภรวะ (Bhairava) ที่นับถือกัน]


    ฤษีวสิษฐ์ (Vasishtha)


    ฤษีสวามิตร  -->  วิศวามิตร (Vishvamitra)
    คู่ปรับของฤษีวสิษฐ์ ผู้พารามและลักษมัณไปปราบอสูร และพารามไปยกมหาธนูโมฬี
     

    ฤษีกไลโกฏ  -->  ฤษยะสฤงค์ (Rishyasringa)
    หลานของกัศยปะพ่อทุกสถาบัน บำเพ็ญตบะจนแคว้นอังคะแห้งแล้ง ท้าวโลมบาทจึงนำนางโสเภณีมาล่อพระฤาษี ฝนจึงตกตามปกติ 


    ท้าวโรมพัต  -->  โลมบาท (Romapada) 
    : ราชาแคว้นอังคะ (Anga)

    นางอรุณวดี   -->  ศานตา (Shanta)
    ธิดาของท้าวโลมบาท [ในรามเกียรติ์ นางอรุณวดีไปยั่วยวนฤษีกไลโกฎด้วยตัวเอง]

    ท้าวอัชบาล  -->  อชะ (Aja)
    พ่อของท้าวทศรถ

    ท้าวชนก  -->  ชนก (Janaka) 
    : ตำแหน่งราชาแห่งมิถิลา (Mithilaชื่อจริงคือ ศีรธวัช (Seeradhwaja

    ฤษีสุธามันตัน  -->  ศตานทะ (Shatananda)
    ปุโรหิตที่ปรึกษาเมืองมิถิลา

    ฤษีภารทวาช  -->  ภรัทวาช (Bharadwaja)
    ฤษีที่คุหะ (พรานกุขัน) พาสามกษัตริย์มาพบขณะเดินดง

    ฤษีสระภังค์  -->  สรภังคะ (Sharabhanga)
    ฤษีที่สามกษัตริย์พบขณะเดินดง ตอนนั้นอินทราเทพกำลังมาอัญเชิญฤษีขึ้นสู่สวรรค์ 

    ฤษีสุทัศน์  -->  สุติกษณะ (Suteekshna)
    ฤษีที่สามกษัตริย์พบขณะเดินดง

    ฤษีนารท  -->  นารัท (Narada)
    บุตรของพระพรหมา ผู้เอ่ยนาม "นาร๊าย นารายณ์"

    ท้าวไกยเกษ  -->  อัศวบดี (Ashwapati)
    : พ่อของนางไกเกยี เจ้าเมืองไกเกยะ (Kekeya)

    พระราม (Rama)

    นางสีดา (Sita)

    พระพรต  -->  ภรต (Bharata)

    พระลักษมณ์  -->  ลักษมัณ (Lakshmana)

    พระสัตรุด  -->  ศัตรุฆณ์ (Shatrughna)

    ท้าวทศรถ (Dasharatha)

    นางเกาสุริยา  -->  เกาศัลยา (Kausalya)

    นางไกยเกษี   -->  ไกเกยี (Kaikeyi)

    นางสมุทรเทวี  -->  สุมิตรา (Sumitra)

    พระมงกุฎ  -->  กุศะ (Kusha)

    พระลพ  -->  ลวะ (Lava)

    อำมาตย์สุมันตัน  -->  สุมันตระ (Sumantra)

    นางค่อมกุจจี  -->  มนถรา (Manthara)

    พรานกุขัน  -->  คุหะ (Guha)

    ท้าวมาลีวราช  --> มาลียวัน (Malyavan) 
    : หนึ่งในสามผู้ก่อตั้งกรุงลงกา

    ท้าวสหมลิวัน  -->  สุมาลี (Sumali)
    หนึ่งในสามผู้ก่อตั้งกรุงลงกา สิ้นชีพตอนอินทรชิตไปรบกับอินทราเทพ

    ท้าวจตุรพักตร์ --> ปุลัสตยะ (Pulastya)
    : บุตรของพระพรหมา บวชเป็นฤษี มีลูกชื่อ วิศะรพ

    ท้าวลัสเตียน --> วิศะรพ (Vishrava)
    บุตรของฤษีปุลัสตยะ บวชเป็นฤษีตามบิดา

    นางรัชดา  -->  ไกกะษี (Kaikasi)
    : ธิดาของท้าวสุมาลี ถูกส่งมาเป็นชายาฤษีวิศะรพ เสี้ยมสอนให้ลูกๆอิจฉาท้าวกุเวร

    กุเปรัน  -->  กุเวร (Kubera) 
    เป็นเทพแห่งทรัพย์ และโลกบาลทิศอุดร บุตรของฤษีวิศระรพกับนางเทพวรรณี  (Ilavida)

    ทศกัณฐ์  -->  ราวณะ (Ravana)

    นางมณโฑ  -->  มัณโฑทะรี (Mandodari)
    : ธิดาของมายาสูร (Mayasura)

    กุมภกรรณ (Kumbhakarna)

    พิเภก  -->  วิภีษณะ (Vibhishana)

    สำมนักขา  -->  ศูรปนขา (Shurpanakha)

    อินทรชิต (Indrajit)

    สุวรรณกันยุมา  -->  สุโลจนา (Sulochana)


    ไมยราพ  -->  อหิราวัณ (Ahiravan)
    : น้องชายของราวณะ ได้ลักพาตัวศรีรามและลักษมัณไปไว้ที่บาดาล มีวิธีเดียวที่จะฆ่าได้ คือต้องดับประทีปทั้งห้าที่จุดอยู่ห้าทิศทางในเวลาเดียวกัน หนุมานจึงเข้าเกียร์เป็นปัญจมุขีเรนเจอร์ (Panchamukhi) --> หนุมาน 5 หน้าคือหน้าหนุมาน หน้านรสิงห์ หน้าครุฑ หน้าหัยครีพ และ หน้าวราหะ จัดการสังหารอหิราวัณ


    นางสุพรรณมัจฉา  -->  มกร (Makara)
    : ต้นฉบับนางคือ มกร [ในรามเกียรติ์คือเงือก] ระหว่างที่หนุมานเหาะข้ามสมุทรกลับจากการเผากรุงลงกา ในขณะนั้น เหงื่อได้หล่นลงทะเล นางมรกเผลอกินเข้าไป จึงตั้งครรภ์ มีบุตรนามว่า มกรธวัช และไปฝากอหิราวัณเลี้ยงไว้ในบาดาล


    มัจฉานุ  -->  มกรธวัช (Makardhwaja)
    : เกิดจากเหงื่อของหนุมาน เป็นผู้เฝ้าประตูวังอหิราวัณ


    สหัสเดชะ  -->  สหัสตระราวัณ (Sahastra Ravana)
    : ในอัทภุตะรามายณะ (Adbhuta Ramayana) ได้กล่าวถึงอีเว้นท์หลังการสังหารราวณะจบลง นางสีดาก็บอกว่าตนเคยได้พบกับสหัสตระราวัณ ผู้มีพันเศียร มีศักดิ์เป็นพี่ชายของราวณะ และมีพละกำลังมากกว่าหลายเท่านัก เมื่อศรีรามได้ฟังเช่นนี้ก็อยากที่จะลองของสักหน่อย จึงจัดเตรียมกองทัพบุกไปหาสหัสตระราวัณทันที 

    แต่ศรีรามก็มิอาจทำอะไรได้ เมื่อนางสีดาทราบ จึงปรากฏตัว ณ สนามรบ และเมื่อเห็นสวามีกับอนุชาสายแท้งค์กำลังนอนสิ้นสติ ก็พิโรธกำลัง ปรากฏรูปอันน่ากลัวเป็นพระภัทรกาลี (Bhadrakali) เข้ารบกับสหัสตระราวณะอย่างดุเดือด และทรงสังหารสหัสตระราวณะลงในที่สุด 


    ขร (Khara)
    : น้องชายของราวณะ ราชาแห่งรากษสแห่งเมืองทัณฑะ (Danda) [ในรามเกียรติ์คือ โรมคัล] 

    ทูษณ์  -->  ทูษัณ (Dushan)
    : เป็นพี่น้องฝาแฝดกับขร ถูกศรีรามสังหาร

    ตรีเศียร  -->  ตรีศิระ (Trishira)
    เป็นหนึ่งในบุตรชายทั้ง 7 ของราวณะ ถูกศรีรามสังหาร

    ทศคีรีวัน ทศคีรีธร  -->  นรานตกะ (Naranataka) เทวัณตกะ (Devantaka)
    ลูกฝาแฝดของราวณะ ถูกอังคัทกับหนุมานสังหาร [ในรามเกียรติ์ถูกพระลักามณ์สังหาร]

    สหัสกุมาร  -->  อักษกุมาร (Akshayakumara)
    : บุตรคนสุดท้องของราวณะ เมื่อหนุมานไปอาละวาดทำลายสวนโศก อักษกุมารก็ถูกส่งไปปราบปราม และก็ถูกหนุมานสังหารในที่สุด

    อิทธิกาย  -->   อติกาย (Atikaya)
    : บุตรของราวณะ ถูกลักษมัณสังหารในสงคราม [ในรามเกียรติ์เป็นแค่ลูกน้องกีกีี้ของทศกัณฐ์]

    ตรีชฎา (Trijata)
    : รากษสีผู้เฝ้าสวนโศกและนางสีดา เป็นคนที่นางสีดาเรียกว่า "ท่านแม่"

    กำปั่น  -->  อกัมปัน (Akampana)
    : บุตรของท้าวสุมาลี ถูกหนุมานสังหารในสงคราม

    มังกรกัณฐ์  -->  มกรากษะ (Makaraksha) 
    : บุตรของขร ถูกศรีรามสังหารในสงคราม


    มโหทร  -->  มโหทรา (Mahodara)
    : บุตรของท้าวมาลียวัน รักษากำแพงกรุงลงกาทิศทักษิณร่วมกับมหาปรรศวะ ภายหลังถูกสุครีพสังหารในสงคราม [ในรามเกียรติ์รอด]


    เปาวนาสูร  -->  มหาปรรศวะ (Mahaparshva)
    : บุตรของท้าวมาลียวัน รักษากำแพงกรุงลงกาทิศทักษิณร่วมกับมโหทร เป็นผู้ห้ามไม่ให้ราวณะสังหารนางสีดา ภายหลังถูกองคตสังหารในสงคราม [ในรามเกียรติ์รอด]


    กากนาสูร  -->  ตารกา (Taraka)  

    สวาหุ  -->  สุพาหุ (Subahu)

    มารีศ  -->  มารีจ (Maricha)

    ชิวหา  -->  วิทยุชชิหวา (Vidyujjihva)
    : แฟนของนางศูรปนขา ถูกราวณะสังหาร [ในรามเกียรติ์ ถูกทศกัณฐ์ตัดลิ้นจึงตาย] 

    อัศมูขี (ยักษ์ขมูขี)  -->  อโยมุขี (Ayomukhi)


    สุกรสาร  -->  ศุกะ (Shuka) & สารณ (Sharana) 
    : ราวณะใช้ศุกะและสารณไปสืบดูเหตุการณ ศุกะและสารณจำแลงกายเป็นวานรปลอมเข้าไปอยู่ในกองทัพ แต่วิิภีษมะเห็นเข้า จึงจับตัวไปถวาย แต่ศรีรามกลับสั่งให้ปล่อยตัวกลับไปลงกา ศุกะและสารณจึงนำความไปเล่าให้เจ้ากรุงลงกาฟังและกล่าวสรรเสริญพระรามเป็นอันมาก


    สารัณทูต  -->  สรรทูล (Sardula)
    : ราวณะใช้สรรทูลและพวกไปสืบข่าวอีก ก็ถูกวิิภีษมะจับได้อีกครั้ง คราวนี้ พวกวานรพากันรุมสกรัมเหล่าสปายจนปางตาย แต่ศรีรามสั่งให้ปล่อยกลับไปอีกครั้ง


    กุมพล  -->  กพัณฑะ (Kabandha)
    : เดิมเป็นคนธรรพ์อยู่บนสวรรค์ แต่ไปมีเรื่องจี๊จ๊ะกับเด็กในสังกัดของอินทราเทพ ทำให้ถูกสาปให้มีรูปร่างอัปลักษณ์ ใบหน้าอยู่ที่ลำตัว ต่อมาศรีรามกับลักษมัณออกตามหานางสีดา กบัณฑาพยายามจะจับกิน จึงถูกตัดแขนทั้งสองข้าง และรู้ว่าเป็นนารายณ์อวตาร จึงขอร้องให้ศรีรามสังหารตนเสีย ศรีรามจึงจัดให้ตามคำขอ เมื่อร่างของกบัณฑาถูกเผาก็กลับเป็นคนธรรพ์อีกครั้ง พร้อมกับแนะนำให้ผูกมิตรกับสุครีพ


    ผีเสื้อสมุทร  -->  สุรสา (Surasa)
    : มารดาแห่งนาคทั้งหลาย ได้จำแลงตัวเป็นยักขินีขนาดมโหฬารขวางทางหนุมานไว้ พร้อมร้องท้าให้หนุมานเข้าปาก เมื่อหนุมานเข้าไปในปากของนางและกลับออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว นางสุรสากล่าวชมเชยความฉลาดของหนุมาน แล้วอนุญาตทางให้ไป

    ต่อจากนี้ไปจึ่งไปพบนางผีเสื้อชื่อสิงหิกา (Sinhika) ผู้มีฤทธิ์ยึดเงาใครได้แล้วก็ยึดตัวได้ นางยึดเงาหนุมานไว้ได้ หนุมานจึ่งเข้าปากนางแล้วเข้าไปแหวะท้องออกมาได้ 
     

    อากาศตะไล  -->  ลังกินี (Lankini)
    : รากษสีผู้ถูกพระพรหมาสาปให้มาเฝ้ากรุงลังกา เมื่อหนุมานจะเข้าไปยังกรุงลังกาเพื่อหานางสีดา ลังกินีถือคติ บวกก่อนได้เปรียบ แต่นางเป็นผู้หญิง หนุมานจึงพยายามไม่ทำร้ายนางมากไปกว่าให้เลือดตกยางออก นางจึงเล่าเรื่องคำสาปให้ฟัง และนางได้กล่าวขออภัยต่อหนุมาน ซึ่งหนุมานก็ให้อภัย แล้วลังกินีก็พ้นจากคำสาปในที่สุด


    ท้าวจักรวรรดิ  -->  ลพณาสูร (Lavanasura)
    : อสูรเจ้าเมืองมธุวัน (Mathura) [ในรามเกียรติ์เรียก มลิวัน] ถูกศัตรุฆณ์สังหาร


    ชมพูพาน  -->  ชัมพวัน (Jambavan)
    พญาหมี ในต้นฉบับเป็นตัวเดียวกัน [ในรามเกียรติ์แยกออกมาเลย พญาวานรสีแดงเลือดหมูที่แปลงกายเป็นหมีคือชามพูวราช ส่วนพญาวานรสีชมพูคือชมพูพาน]


    พาลี  -->  วาลี (Vali)

    สุครีพ  -->  สุครีวะ (Sugriva)

    นางดารา  -->  ตารา (Tara)

    หนุมาน (Hanuman)
    เป็นอวตารของบิ๊กบอสศิวะเทพ เป็นบุตรของวายุเทพ

    นางสวาหะ  -->  อัญชนา (Anjana)
    มเหสีของราชาวานรเกศรี (Kesari)

    องคต  -->  อังคัท (Angada)

    นิลพัท  -->  นล (Nala)
    ทหารวานร บุตรของวิศวกรรมเทพ คุมทีมจองถนน

    นิลนนท์  -->  นิล (Nila)
    ทหารวานร บุตรของอัคนีเทพ

    สุรเสน  -->  สุเษน (Sushena)
    บุตรของวรุณเทพ พ่อนางตารา พ่อตาสุครีพ ผู้คุมทีมออกค้นหานางสีดาทางทิศประจิม

    สัตพลี  -->  สัตพลี (Shatabali)
    บุตรของจันทราเทพ ทหารวานรผู้คุมทีมออกค้นหานางสีดาทางทิศอุดร

    ท้าวตาวัน  -->  มายา (Maya)
    อสูรที่บังอาจรักกับนางเหมา จึงถูกอินทราสังหาร (ก็ยุ่งกับเด็กในสังกัดเองนิ!)

    นางบุษมาลี  -->  เหมา (Hema)
    อัปสรในสังกัดของอินทราเทพ แต่ลอบรักกับมายะ หลังอสูรถูกสังหาร พระพรหมาจึงให้มาอยู่เมืองมายา เมื่อครั้นแก๊งวานรเดินหลงเข้ามา หนุมานก็ได้พบกับผู้เฝ้าสถานที่นามว่า สยัมประภา (Swayam prabha) [ในรามเกียรติ์ไม่มี] นางสยัมประภาอาสาพาพวกวานรออกมาได้

    นกสดายุ (Jatayu)

    นกสัมพาที (Sampati)

    ทรพี  -->  ทุนทุภี (Dundubhi)
    : อสูรควาย

    ตรีบุรัม  -->  ตรีปุราสูร (Tripurasura)
    ตรีปุราสูรเป็นนามของอสูร 3ตน ได้แก่ วิทยุนมาลี (Vidyunmali) ตารกักษะ (Tarakaksha) และ วีรยาวณะ (Viryavana

    อสูรทั้งสามได้ขอพรกับพระพรหมาให้มีปราสาท3 แห่ง แล้วพวกตนจะตายต่อเมื่อทำลายทั้งสามปราสาทหลังพร้อมกันด้วยลูกศรเดียว

    อสูรทั้งสามกร่างจนบิ๊กบอสต้องไปปราบเอง บิ๊กบอสใช้ aka อวตารว่า ตรีปุรันฏกะ (Tripurantaka) โดยเหล่าเทพได้แบ่งฤทธิครึ่งหนึ่งให้ 

    พระแม่ธรณีเป็นราชรถ สุริยะจันทราเป็นล้อศึก พระพรหมาเป็นคนขับ เขาพระสุเมรุเป็นคันธนู วาสุกรีนาคราชเป็นสายศร ลูกพี่วิษณุเป็นลูกศร บิ๊กบอสก็ยิงศรออกไปดอกเดียวก็สามารถทำลายเมืองและอสูรทั้งสามได้


    นนทก  -->  ภัสมาสุร (Bhasmasura) 
    : เป็นอสูรที่ได้รับพรจากพระศิวะว่าถ้าเอามือไปแตะศีรษะผู้ใด ผู้นั้นจะถูกเผาผลาญ และเมื่อได้พรนั้นแล้ว ภัสมาสุรกลับจะวางมือบนศีรษะของบิ๊กบอสแทน ทำให้บิ๊กบอสต้องวิ่งหนีภัสมาสุรราวกับหนังแขก (ก็มันหนังแขกนิหว่า) ลูกพี่วิษณุเห็นเช่นนั้น ก็แปลงร่างเป็นนางโมหิณี (Mohini) หลอกล่ออสูรให้เต้นรำตาม สุดท้ายก็ถูกท่ารำเผาผลาญตัวเอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×