วรรณคดีสไตล์เกรียน

ลำดับตอนที่ #173 : พี่น้องตระกูล "อาทิตย์"

ตามคัมภีร์ฤคเวท (Rigveda) ได้ถึงพี่น้องเทวดาตระกูล "อาทิตย์" (Adityas) ซึ่งะมี 7 องค์ ต่างก็เป็นโอรสของเทพบิดรกัศยปะ (Kashyapa) กับ นางอทิติ (Aditi) แต่ยังมีโอรสของนางอทิติอีกองค์หนึ่ง ซึ่งเจ๊แกไม่ค่อยจะชอบหน้ามากนัก คือ สุริยะ 

ดังนัั้น พี่น้องตระกูลอาทิตย์มี 8 องค์ คือ

1. วรุณาทิตย์ (วรุณ - Varuna)

: ผู้ปกครองท้องน้ำ มหาสมุทร เทพประจำดาวฤกษ์ศตภิษัช (Shatabhisha)

2. มิตราทิตย์ (มิตรา - Mitra)

: เทพแห่งมิตรภาพ เทพประจำดาวฤกษ์อนุราธา (Anuradha)

3. อริยมนาทิตย์ (อรรยมัน - Aryaman)

: เทพผู้คุ้มครองม้า และทางช้างเผือก เทพประจำดาวฤกษ์บุรพผลคุนี (Pūrva Phalgunī)   

4. ภคาทิตย์ (ภาคะ - Bhaga)

: เทพแห่งความมั่งคั่ง การสมรส และรุ่งอรุณ เทพประจำดาวฤกษ์อุตรผลคุนี (Uttara Phalgunī)

5. องศาทิตย์ (องศา - Ansa)

: -

ุ6. อัคนี (Agni)

: เทพแห่งไฟ เทพประจำดาวฤกษ์วิศาขา (Visakha)

7. อินทราทิตย์ (อินทรา - Indra)

: ผู้ปกครองสวรรค์ เทพเจ้าแห่งลมฟ้าอากาศ เทพประจำดาวฤกษ์เชษฐา (Jyeshtha)

8. สุริยาทิตย์ (สุริยะ - Surya)

: เทพแห่งแสงสว่าง (พระอาทิตย์)

สุริยะนั้น แม้จะได้รับให้มีอาทิตย์พ่วงท้ายก็เถอะ แต่แม่ก็ยังไม่รัก สุริยะจึงต้องเที่ยวขับรถอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก ปล่อยให้แก๊ง 7 เทพโลดแล่นอยู่บนสวรรค์

แต่เดิมสวรรค์นั้นมีพวกอสูร (Asura) ปกครองอยู่ แต่เหล่าอสูรกลับถูกเหล่าเทวา (Deva) จับโยนลงจากสวรรค์ แล้วเข้ายึดทำเนียบสวรรค์เป็นที่ทำการของเหล่าเทพแทน 

ทำให้พวกอสูรโกรธแค้น ถึงขนาดบุกทวงสวรรค์ จนเกิดเป็นเทวาสุรสงครามอยู่บ่อยครั้ง

ในคัมภีร์พระเวท ระบุว่า วรุณ เป็นเทพสูงสุด เคยปกครองทั้งสวรรค์ และดูแลโลกมนุษย์ ก่อนจะถูกถ่ายโอนอำนาจมาเป็น อินทรา ในภายหลัง 

แต่ในคัมภีร์ ภควัตปุราณะ (Bhagavata Purana) กลับบอกว่ามีอยู่ด้วยกัน 12 องค์ ดังนี้

1. วิษณุ (Vishnu)

2.อรรยมัน (Aryaman) 

3.อินทรา (Indra) 

4. ตวัษฏฤ (Tvashtha)

5.วรุณ (Varuna) 

6. ธาตรี (Dhatri)

7.ภาคะ (Bhaga) 

8. ปรรชันยะ (Parjanya)

9. วิวัสวัต (Vivasvat) / สุริยะ (Surya)

10. อังศุมัน (Amshuman)

11.มิตรา (Mitra) 

12. ปูษัณ (Pushya)

ส่วนในคัมภีร์ วิษณุปุราณะ (Vishnu Purana) บอกว่ามี

1. วิษณุ (Vishnu)

2.อรรยมัน (Aryaman) 

3.อินทรา (Indra) 

4. ตวัษฏฤ (Tvashtha)

5.วรุณ (Varuna) 

6. ธาตรี (Dhatri)

7.ภาคะ (Bhaga) 

8. สวิตฤ (Savitr)

9. วิวัสวัต (Vivasvat) / สุริยะ (Surya)

10.องศา (Ansa)

11.มิตรา (Mitra) 

12. ปูษัณ (Pushya)

ส่วนในคัมภีร์ ศตปถพราหมณะ (Satapatha Brahmana) บอกว่ามี

1. ยม (Yama)

2.อรรยมัน (Aryaman) 

3.อินทรา (Indra)

4. รวี (Ravi)

5.วรุณ (Varuna) 

6. ธาตรี (Dhatri)

7.ภาคะ (Bhaga) 

8. สวิตฤ (Savitr)

9.สุริยะ (Surya)

10.องศา (Ansa)

11.มิตรา (Mitra) 

12. ทักษะ (Daksa)

แนวคิดในเรื่องของสงครามระหว่างเทพกับอสูร แสงสว่างกับความมืด หรือความดีกับความชั่วนั้น มีมานานนับตั้งแต่ชาวอารยันยังไม่ได้อพยพเข้ามาสู่อินเดียด้วยซ้ำไป 

นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า อารยันและอิหร่านเป็นพวกเดียวกันและอพยพมาพร้อมกัน โดยที่พวกหนึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานทางฝั่งตะวันตก อีกพวกหนึ่งแยกไปฝั่งตะวันออก จะเห็นได้จากภาษาของทั้งสองพวกซึ่งมีความใกล้เคียงกันมาก

อีกทั้งคัมภีร์อเวสตะ (Avesta) แห่งศาสนาโซโรอัสเตอร์ (Zoroastrianism) กับคัมภีร์พระเวท (Vedas) แห่งศาสนาฮินดู (Hinduism) นั้นก็มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด 

แต่การนับถือเทพเจ้าของชน 2 พวกนี้เป็นไปคนละแนว คือชาวอารยันสายอิหร่านจะนับถือ "อสุระ" เป็นเทพเจ้าฝ่ายดี ส่วนชาวอารยันสายอินเดียถือว่า "เทวะ" นั้นเป็นฝ่ายดี

ศาสนาโซโรอัสเตอร์ถือว่า อหุระ มาซดะ (Ahura mazda) เป็นผู้สูงสุด โดยมีคู่แข่งคือ อหริมัน (Ahriman) ซึ่งสุดท้ายแล้วชัยชนะของความดีก็มีชัยเหนือความชั่วช้าทั้งปวง