คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่สาม : แน๊ตและเบล
" พี่น็อตตตตตตต "
น็อตหันหน้าไปตามเสียงเรียกที่ดังมาตามทางเดินของโรงพยาบาล ดังเสียจนพยาบาลหันมามองเชิงปรามๆ
เด็กหนุ่ม มาส่งเอ้กที่ห้องทำฟันเสร็จแล้ว และ เขากำลังเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพ่อเขา
เสียงดัง นั้นมาจากเด็กผู้หญิงผิวขาว หมวย ตัวเล็ก สวมแว่นกรอบเหลี่ยม ในชุดนักเรียนมัธยมต้น เธอกำลังอยู่ห่างออกไปไม่ไกล
" เบาๆดิว่ะ เดี๋ยวเจ๊นก ก็ไปฟ้องพ่ออีกหรอก " น็อตโบกมือห้ามน้องสาว เมื่อเห็นพี่พยาบาลคนสวยมายืนอยู่ข้างๆ มองแน๊ต น้องสาวของเขา อย่างขำๆ
เด็กหญิงเงียบลงทันที ก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาหาพี่ชายอย่างรวดเร็ว
" แหม วันนี้มาทั้งพี่ทั้งน้องเชียว " เจ๊นก พยาบาลคนสวยที่รู้จักกับเด็กทั้งสองเอ่ยทัก
" โรง'บาล เลยป่วนไงครับ" น็อตยิ้มหวานให้พี่พยาบาล
" โหย ใจดีๆอย่าง เจ๊ ไม่ฟ้องพ่อน็อตหรอก เจ๊จะฟ้อง ผอ. "
เจ๊นก ทำเสียงโหดใส่ เด็กทั้งสอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้กลัวเลยสักนิด ถึงบางครั้งเจ๊นกจะเอาไปฟ้องพ่อจริงๆ ซึ่งก็สมควรอยู่ เพราะ บางครั้ง น็อตกับแน๊ตวิ่งเล่นกันในโรงพยาบาล จนเกือบไปชนคนไข้ล้ม
" ไม่นะๆ เจ๊เดี๋ยวพ่อผมโดนไล่ออก แล้วผมจะไม่มีอะไรกิน ต้องขายบ้าน ขายรถ ลาออกจากโรงเรียน มารับงานพาร์ทไทม์ น่าสงสารนะครับๆ เห็นแก่เด็กตาดำๆสองคน" น็อตทำเสียงน่าสงสารใส่เจ๊นก
" หูยยยย เวอร์ อ่ะ" แน๊ตตอบรับมุกของพี่ชาย หัวเราะเสียงดัง จนเจ๊นกต้องหันมา ชู่ววววว ใส่
" เจ๊ไปละนะ เดี๋ยวคุณหมอว่า " เจ๊นกยิ้มให้เด็กทั้งสองก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ของตนเอง
" บายครับ/ค่ะ" พี่น้องตัวป่วนพูดขึ้นพร้อมกัน
พ่อของน็อต ทำงานเป็นอายุรแพทย์ อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้มานานแล้ว ทำให้ลูกๆทั้งสอง เป็นที่รู้จักของคนหลายคนในโรงพยาบาล
" ทำเป็นเข้มๆ ทีอยู่กับสาวละ พูดมาก" แน๊ตเอ่ยล้อเลียนพี่ชาย ที่หลังจาก เจ๊นกเดินจากไปแล้ว เขานั้นเงียบกริบทันที
" ก็โตเป็นสาวเร็วๆซะสิ จะได้พูดด้วย " น็อตกวนใส่น้องสาวหวังโดยจะกวนโมโห การยวนเพื่อที่จะให้น้องสาวตอบโต้ นี่มันสนุกเสียจริงเชียว
" โห พูดกับน้อง พูดอย่างนี้หรอ"
" แล้วจะให้น็อตพูดไง นี่แหละ ดีแล้ว เหมาะกับแน๊ตแล้ว ฮาๆ"
" หูย มีแต่คนเขาอิจฉา ที่ไอ้เรามันมีพี่ชาย แต่เราละ อยากได้พี่สาว"
"ให้น็อตเป็นสาวให้ไหมละ น็อตยินดี"
แน๊ตรีบพยักหน้าขึ้นลงๆ เมื่อได้ยินน็อตพูดดังนั้น
" แน๊ต " น็อตเริ่มคิดที่จะหาเรื่องกวนน้องใหม่ เมื่อเห็นว่า แน๊ตดูจะไม่มีท่าทางหงุดหงิดอะไรกับเรื่องที่เขาเพิ่งพูดไป
" หืมมมมม " แน๊ตหันมาใส่พี่ชายอย่างงงๆ
" ขาใหญ่ว่ะ เพื่อนแน๊ตบอกน๊อต ว่า ฉายาแน๊ตคือ เจ๊ขาใหญ่ใช่ป่ะ "
แน๊ตรีบหันขวับมามองพี่ชายที่ยิ้มใส่อย่างล้อเลียน ขาใหญ่นี่แหละ เกลียดนัก ที่ใครๆก็ล้อ
"เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยววววว เหอะ" แน๊ตพูดไปดึงกระเป๋านักเรียนขึ้นมาทุบตัวพี่ชาย ที่พยายามเอี้ยวตัวหลบ แต่ก็ไม่พ้น
พลั่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
" เฮ้ย เจ็บนะเว้ย " น็อตพูดเสียงดัง
น็อตเดินทางจากบีทีเอสเข้ามายังโรงเรียน ซึ่งอยู่ห่างออกมาประมาณ
ทุกเช้าเวลามาโรงเรียน พ่อจะส่งน็อตและแน๊ตที่บีทีเอส ให้ไปโรงเรียนกันเอง แน๊ตอยู่คนละโรงเรียนกับน็อต ทำให้ต้องลงสถานีต่างกัน แต่ถึงอย่างนั้นบางทีแน๊ตก็ชอบเอ้อระเหยไปส่งพี่ชายถึงสถานี ก่อนจะกลับไปสถานีที่ตนเองต้องลง และนั่นก็ทำให้คนพี่หงุดหงิดอยู่บางที ที่โดนเพื่อนๆล้อ ว่าต้องให้น้องสาวมาส่งถึงโรงเรียน
"อ้าว เบล มาทำไรห้องนี้ว่ะ" เด็กหนุ่มเลื่อนประตูห้องเรียน ก่อนจะพบ เด็กหนุ่มหน้าคุ้นตาอีกคนนั่งอยู่บนโต๊ะเรียน ซึ่งล้อมรอบไปด้วยเพื่อนๆกลุ่มเดียวกับเขา แต่เหมือนว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะเป็นสิ่งแปลกปลอมของห้องเรียนนี้
เบลเรียนอยู่คนละสาย จึงเรียนคนละห้องไปด้วย
" มารอมึงแหละ มาช้าจริง" เบลยิ้มแป้น ฟังดูเหมือนทั้งกลุ่มกำลังคุยกันเรื่องเกม ที่เมื่อวานเพื่อนๆของเขาส่วนใหญ่แทนที่จะกลับบ้าน กับไปนั่ง ดอท ที่ร้านเกมแถวสยามสแควร์
" อะไรว่ะ" น็อตงงเล็กน้อย เมื่อเบลบอกว่ามารอเขา
" เป็นไง สาวใหม่ๆ" น็อตงงอยู่นิดหนึ่ง ก่อนจะนึกขึ้นได้ ว่าเบลคงพูดถึง เอ้ก เด็กสาวที่เขากลับบ้านด้วยเมื่อวาน
" อ๋อ นี่คือ มารอนินทา" น็อตเดินเข้ามาวางของลงที่โต๊ะ ก่อนจะยืนอยู่ตรงนั้นพูดคุยกับเพื่อนๆ
" เออถูก ทำไมว่ะ มึงก็หล่อสู้โอ๊ตไม่ได้ นั่งทำตาตี่ไปวันๆ ทำไมหญิงเยอะจังว่ะ แล้วทำไมว่ะ กูนี่ หล่อ รวย กว่ามึงเยอะ ไม่มีสักคน " เบลล้อเลียน ซึ่งก็จริงอยู่ ถึงน็อตจะค่อนข้างหน้าตาดี แต่ก็ใช่ว่าจะหล่ออะไรมากมาย เมื่อเทียบกับโอ๊ตเพื่อนอีกคนในกลุ่มแล้ว
" เย้ดดดดดดดด หล่อสัดอ่ะ พี่เบล " วินประชดเพราะทนคำหลงตนเองอย่างไม่เป็นความจริงของเพื่อนไม่ไหว
" เออถูก กูหล่อๆ " เบลตอบรับ พร้อมกับผายมือ เชิงแนะนำตัวเอง ก่อนจะพบว่าทุกคนทำหน้าเอือมใส่
"เปล่า จริงๆแล้ว กูมาทวง เกมกู เกมกู เอามาคืนด้วย" เบลบอกเหตุผลจริงๆที่เขามานั่งรอน็อตที่ห้องนี้
"เกมอะไร"
"เกมที่มึงเอาไปใส่พีเอสพี มึงอ่ะ " เบลขี้เกียจรอให้น็อตนึกออก เลยชิงพูดเสียก่อน
"อ้าว ก็ไหนมึงบอกว่ามึงให้กู มึงเล่นเบื่อแล้ว"
"ให้เตี่ยมึงสิ แพงนะเว้ย เอามาคืน" เบลทำเป็นจำไม่ได้
"โห พี่เบลครับ พี่เบล ลูกชายนักธุรกิจร้อยล้าน จะงกอะไรกับอีแค่สองพันครับ" วินส่งเสียงใส่เบล ที่ทำเป็นไก๋อยู่อย่างนั้น
"ที่รวยอ่ะพ่อกู ไม่ใช่กูโว้ย"
เบลเริ่มนึกถึงเรื่องอัปยศอดสูของตนเอง ที่ป๊าม๊าของเขานั้น อยากให้เขามีชีวิตอย่างเด็กธรรมดาๆ จึงโทรไปถามเหล่าเพื่อนๆว่าได้เงินกันอาทิตย์ละเท่าไร ทุกคนจึงรวมหัวกันแกล้งบอกตังค์น้อยๆเข้าไว้ ม๊าของเบลจึงให้เงินเบลตามนั้น
แน่นอนว่าคนอย่างเบลต้องโวย จนสุดท้ายเงินเบล ก็กลับมาได้เงินอาทิตย์มากกว่าเพื่อนๆอยู่ดี
" อ้าวมึง ไอ้เบล มึงบอกมึงจะเลิกคำหยาบ ป๊ามึงด่าไม่ใช่หรอ เลิกสิว่ะ เลิกๆ เดี๋ยวอดมรดกนะเว้ย" นัทนึกขึ้นมาได้ เมื่อได้ยินคำหยาบหลากหลายคำออกมาจากเด็กหนุ่มหน้าตี๋ หลังจากเบลพยายามจะเลิกพูดคำหยาบอยู่หลายอาทิตย์ แต่เหมือนเขาจะหลุดมันออกมาเรื่อยๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ
"ครับๆ ผมไม่พูดแล้วครับ"
" เดี๋ยวๆ ปีนี้ ถ้าป๊ามึงไปออกงานพาราก้อน กูจะตามไป เผื่อเจอป๊ามึง กูจะได้กล้องฟรี " น็อตเรียนวิชาเลือกคือถ่ายภาพ ดังนั้นนี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่พาเขามาสนิทกับเบลจนได้
" ลูกชายยังไม่ได้เลย มึงคิดว่ามึงจะได้" เบลแย้งขึ้นมา ถึงบ้านเขาจะรวยมหาศาล แต่กับลูกๆนั้นเข้มงวดอย่าบอกใคร
"เฮ้ยๆ ป๊ามึงเป็นประธานไม่ใช่หรือไงว่ะ" กฤตเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
"บ้านมึงแม่งดีแต่นำเข้า ไม่สนใจใช้ของไทย แย่ว่ะ แย่ว่ะ"วินเริ่มผสมโรงล้อเลียนเบล
" ว่าแต่ ลูกชายเจ้าของธุรกิจร้อยล้านแต่ไม่เอาไหนอย่างมึง คงได้แต่นั่งดูพริตตี้ ป๊าคงภูมิใจ" นัทเสริม
"มึงเรียนจบแล้ว สรชัช ต้องฝากมึงทำงานที่บริษัท ป๊าสรชัช แน่ๆ แต่อย่างมึงคงไม่มีแผนกไหนเอา" ปากกฤตกัดเสียเจ็บ สรชัชที่ว่า ก็พ่อของเบลนี่แหละ
"มีเว้ย แผนกเลือกพริตตี้ไง" วินนึกขึ้นได้
"เย้ดดดดดดดด พี่เบลนี่สร้างความภูมิใจให้ป๊าจริงๆ เลือกพริตตี้" นัทใส่เข้าอีกลูก
" โอ้ยยยยยยยยย แล้วทำไมกูโดนรุมอยู่คนเดียวเลยว่ะ"
เบลเริ่มรู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายโดยรุมสกัมจากเพื่อนๆในกลุ่มอยู่ฝ่ายเดียว ในขณะที่ทุกคนหัวเราะกันท้องแข็ง การแกล้งเบลเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สนุกสนานที่สุด เพราะปกติแล้วปากเบลนั้นร้ายเหลือเกิน แต่พอทุกคนรุม เบลก็จะสู้ไม่ได้ เป็นหนึ่งในความภูมิใจของทุกคนที่ครั้งหนึ่งในชีวิตนั้นสามารถเอาชนะเบลได้
" แหม รักหรอกถึงหยอกเล่น อ่ะตัวเอง" กฤต ยังคงสภาพมุขเกย์ๆของตนเองเอาไว้เช่นเคย
เบลหันไปเห็นน็อตนั่งขำไม่หยุดจึงนึกหมั่นไส้ข้างในใจลึกๆ ว่าเมื่อกี้เขาตั้งใจจะล้อน็อตเรื่อง เอ้กแท้ๆ แต่ไหงทุกคนดันมาลงที่เขาซะได้ " แหม ไอ้น็อต มึงนี่ตัวเปลี่ยนเรื่องเลยนะ"
"แหมพี่น็อตครับ ทำแบบนี้ กูจะฟ้องฟาง" วินได้ยินเบลพูดดังนั้น ก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมารุมเพื่อนอีกคนทันที
"กูจะฟ้อง เนย" นัทผสมโรง
"กูจะฟ้อง น้องบี" กฤตใส่เข้าอีกดอก
"กูจะฟ้อง พี่ไหม" เบลนึกถึงหน้าตาของพี่สาวคนหนึ่ง ณ คอนแวนต์ข้างโรงเรียน ที่รู้จักกัน และดูจะสนิทกับน็อตเป็นพิเศษกว่าคนอื่นในกลุ่ม
"เกย์น็อต เกย์น็อตกล้านอกใจเกย์กฤตหรอ เค้างอนแล้วนะตัวเอง" มุขเกย์ๆอย่างนี้ มีแต่กฤตคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าเล่น และก็ทำให้น็อตหัวเราะได้ทุกครั้ง กับท่าทางตุ๊ดๆที่แสนจะไม่เนียนของกฤต
"ไม่ใช่แล้วโว้ย ไม่ใช่ทั้งหมดแหละ กูไม่ได้เยอะขนาดนั้น" น็อตขำไปแก้ตัวไป
"แก้ตัว" เหล่าเพื่อนพ้องช่างเป็นเพื่อนที่น่ารัก พร้อมกันพูดคำนี้ขึ้นมา
"อาทิตย์ที่แล้วไปกับเนย วันนั้นไปกับฟาง วันต่อมาไปกับน้องบี เมื่อวานก่อนไปกับพี่ไหม เมื่อวานไปกับสาวใหม่" เบลล้อเลียนน็อต เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้แก้ตัวทีไรไม่เคยขึ้น
"ไม่ใช่แล้ววววว" น็อตยังคงปฏิเสธ
"มาเลยมา แก้ตัวมาเลย" กฤตบอกเพื่อนหนุ่มอย่างขำๆ
"ฟาง ก็เขาบอกให้กูไปเป็นเพื่อน
น้องบี น้องไอ้โอ๊ตแท้ๆมันเคยดูแลไหมล่ะ วันๆเอาแต่ไปหาแฟน ต้องให้กูไปดูแทน น้องเขามีทอมมาจีบ เขาไม่ชอบเว้ย เขาโทรหาไอ้โอ๊ตแล้วไงมันไม่รับ เลยโทรหากู
เนยตอนนั้นพวกมึงก็ไปด้วยหมดไม่ใช่หรอว่ะ
พี่ไหมกูไปยืมนิยายเขามาอ่าน
ส่วน เอ้ก พ่อกูให้กลับบ้านด้วยเฉยๆ พอๆ เลิกๆ" น็อต เริ่มอธิบาย รายชื่อสาวๆโผล่ออกมาจากปากเขายาวเหยียด
แต่แล้วทุกคนก็ยอมรามือให้กับเรื่องนี้ เพราะซักน็อตต่อไปก็เท่านั้น เด็กหนุ่มคนนี้ไม่เห็นจะสนใจผู้หญิงคนไหนเลยสักคน ยกเว้นก็แต่ ฟางนั่นแหละ ที่พวกเขาล้อกันมาเป็นปีๆ ถึงแม้ว่าน็อตจะปฏิเสธทุกครั้งก็ตาม
"น็อต มึงไม่เอา กูว่ามึงก็อย่าทำแบบนี้เลยว่ะ" เบลโพล่งออกมาเฉยๆ ใส่น็อตที่ยังไม่ทันตั้งตัว
หลังเลิกเรียน น็อตแยกกับเพื่อนๆที่โรงเรียน มานั่งกับเบล ที่ร้านอาหารใจกลางสยามสแควร์
"คนอื่นอ่ะ กูไม่รู้นะเว้ย เนย น้องบี พี่ไหมไรงี้ ถึงดูติดๆมึงหน่อยๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะชอบมึงหรอก อาจจะเล่นๆก็ได้ แต่ฟางอ่ะ กูชัวร์ แล้วมึงทำแบบนี้อ่ะ มึงไปให้ความหวังเขา"
น็อตมองหน้าเบล คิดตามคำพูดของเพื่อนสนิท ที่มีสีหน้าจริงจังกว่าปกติ
"กูไม่ได้ให้นะเว้ย" น็อตรีบแก้ตัวทันที เมื่อได้ยินคำตำหนิจากปากของเบล
"ไม่ได้ให้อะไรละ ใครเขาดูไม่ออกก็ควายแล้ว ไปโดดตึกตายได้เลย เขาชวนมึงไปนู้นไปนี้ มึงก็ไปด้วยตลอด ตอนไปเที่ยวกันทั้งกลุ่ม มึงก็อยู่กับฟางคนเดียว แถมมึงยังโทรไปหาเขาก่อน ถ้ามึงกะแค่ม่อเล่นๆ ระวังจะเสียเพื่อนเหอะ" ปากเบลกัดได้คม ลึก และ จี้ น็อตจนเขารู้สึกแย่
ได้แต่เงียบลงอย่างเถียงไม่ออก
มันก็จริงอยู่ เขาไม่เคยปฏิเสธฟางเลยแม้แต่น้อย แต่เอาจริงๆก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าชอบดีหรือเปล่า เขาไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าคิดว่าฟางจะต้องเลิกสนใจเขา เขาก็รู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูก แต่ถ้าจะให้เขาเป็นอะไรกับฟางมากกว่านี้ เขาก็ไม่อยาก
มันก็จริงอยู่.....
"มึงทำเหมือนเขาเป็นของเล่นว่ะ พอเบื่อแล้วมึงก็ไม่สน พอเขาเริ่มไม่สนมึง มึงก็มาให้ความหวังเขาอีก แล้วเขาก็กลับมาหามึงอีก มันก็เป็นวงกลม วนเวียน ไปเรื่อยๆ" เบลพูดเฉยๆ เรียบๆ หวังให้เพื่อนสนิทคิดได้ เขาแอบดูพฤติกรรมของเพื่อนมานาน อยากจะสั่งสอนมันเสียหน่อย เบลเห็นท่าทีหวงก้าง เก้ๆกังๆ ค้างๆคาๆ เดี๋ยวก็สน เดี๋ยวก็ไม่สน จนเขาชักจะงงไปหมดว่า น็อตจะเอายังไง กับฟางกันแน่
ทั้งฟาง หรือ น็อตก็เพื่อนเขาทั้งนั้น ไม่อยากให้ใครเสียใจ
เบลเป็นที่ปรึกษาของเพื่อนๆอยู่เยอะ เขาเป็นที่รักของเพื่อนๆ ด้วยความพูดเก่ง เป็นผู้นำ ชาติตระกูลดี ถึงแม้จะเกิดในตระกูลนักธุรกิจที่รวยล้น แต่เบลก็เป็นคนค่อนข้างติดดิน ไม่ตัดสินคนด้วยฐานะ นั่นทำให้เพื่อนๆยิ่งรักเขามากขึ้นไปอีก
"อืม" น็อตได้แต่ตอบกลับไปเรียบๆ ไม่คิดจะเถียงกลับแม้แต่น้อย
เบลเหลือบมองเพื่อนนิดหน่อย จนรู้สึกว่ามันชักจะเริ่มคิดมากตามประสาน็อตๆเสียแล้ว
"เฮ้ยมึงอย่าคิดมาก มีไรก็บอกกู"
น็อตเป็นเพื่อนที่ทุกคนต้องเอาใจใส่ เขาเป็นคนจะว่าเงียบก็เงียบ ก็ไม่เชิง เบลเองก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร น็อตเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยระบายอารมณ์ ไม่ว่าจะหงุดหงิดหรือโมโห มากที่สุดที่เคยเห็นน็อตแสดงออกมาก็แค่ คำพูดบอกว่า "กูไม่ชอบ"แถมสีหน้าตอนมันพูดคำนั้นในตอนนั้นยังดูยิ้มๆด้วยซ้ำ จนไม่มีใครรู้เลยว่านั่นแหละ คือ อาการโมโห ของน็อต มันช่างตรงข้ามกับเขา เบลที่มีแต่พูดตรงๆ
"เบล มึงถามแต่กู แต่คนอื่น ทำไมมึงเองอ่ะ มึงไม่มีแฟนว่ะ ถ้ามึงจีบสักคนอ่ะ ผู้หญิงเขาคงชอบมึงแหละ คารมอย่างคมคาย" น็อตเริ่มถามเบลขึ้นมาบ้าง
"กูมีเรื่องให้ทำอีกเยอะว่ะ แล้วอีกอย่าง กูอยากใช้เวลากับเพื่อนให้มากที่สุดว่ะ เดี๋ยวมหาลัย ป๊าคงส่งกูไปเรียนเมืองนอกแล้ว ก็คงไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว" เบลยังคงท่าทางจริงจังเช่นเคย อย่างเช่นทุกครั้งที่พูดถึงครอบครัวของเขา
"ทำเป็นซึ้งนะมึง" น็อตหัวเราะหน่อยๆ
"นี่ กูพูดจริงๆนะเว้ย " เบลยิ้ม
ความเงียบเข้ากลืนกลินบรรยากาศรอบข้าง ในขณะที่เบลมองเห็นน็อตซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาจัดการ อาหารข้างหน้าเขาอย่างมีสมาธิยิ่งกว่าตอนเรียนหนังสือ
"แล้ววันนี้มึงนัดใครไว้ว่ะ ถึงไม่กลับบ้าน" เบลเพิ่งจะมาถามน็อต ทั้งๆที่น่าจะถามตั้งแต่แยกกับเพื่อนคนอื่นๆเพื่อมาสยามแล้ว
"นัดน้องกู" น็อตจิ้มสเต็กเข้าใส่ปาก
เบลพยักหน้าเป็นเชิงว่ารู้แล้ว ก่อนจะปล่อยให้เพื่อนนั่งกินอาหารต่อไป
แน๊ตเดินเอ้อระเหยมาจากโรงเรียน หลังจากที่นัดกับพี่ชายไว้แล้วว่าจะมาเจอกันที่ร้านนี้ เธอนึกถึงเรื่องพี่ชายที่ชวนเธอไปดูผ่าศพตั้งแต่เมื่อวานก่อนที่โรงพยาบาล อะไรของเขากัน จะมาชวนน้องทั้งทีดันชวนไปดูผ่าศพซะได้
แน๊ตนึกถึงพี่ชายแท้ๆ
พี่น็อตไม่ค่อยสนิทกับพ่อ ความจริงภายนอกก็ดูรักกันดีอยู่หรอก แต่เหมือนพี่น็อตจะไม่สนิทใจกับพ่อสักเท่าไร จริงๆแล้วก็ไม่ต่างจากเธอที่ไม่สนิทใจกับแม่ บางทีอาจจะเป็นเพราะพ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่เธอยังเด็กนัก เลยไม่ผูกพันกับแม่ ต่างจากพี่น็อต ตั้งแต่แม่เสีย พ่อเลยใส่ใจพี่น็อตมาก มากกว่าเธอมาก จนบางครั้งก็รู้สึกน้อยใจพ่ออยู่นิดๆ ที่อะไรอะไรก็พี่ชาย
แต่เท่าที่เห็นพี่น็อตนั้นได้แต่พยายามโยนความใส่ใจของพ่อมาที่เธอแทน ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ว่าเธอน้อยใจพ่อ หรือ เพราะเขาไม่อยากได้รับความใส่ใจจากพ่อกันแน่
แน๊ตเดินไปคิดไป พี่ชายเป็นเรื่องหนึ่งที่เธอให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ จะว่าไป เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่เธอมี พี่น็อตอาจจะไม่ได้ทำตัวเป็นพี่ที่ดี ที่คอยแนะนำน้อง ดูแล แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ที่เธอสามารถเล่าเรื่องทุกเรื่องให้ฟังได้
เมื่อเข้ามาถึงที่ร้าน เด็กหญิงก็พบว่ามีคนอยู่เต็มร้าน แต่เครื่องแบบกางเกงสีน้ำเงินสดของน็อต ทำให้แน๊ต หาเขาเจอได้อย่างง่ายๆ แต่ก็พบว่ามีเด็กหนุ่มอีกคนนั่งอยู่ด้วย
"หวัดดี พี่เบล" เด็กหญิงจำเบลได้ทันที เบลเป็นเพื่อนสนิทของน็อต หน้าจีนๆ ขาวยิ่งกว่าผู้หญิง บุคลิกไฮเปอร์ๆ อย่างนี้ ก็มีอยู่คนเดียว
"หวัดดีครับ น้องแน๊ต" เบลหันไปยิ้มให้น้องสาวของเพื่อนสนิท แน๊ตยิ้มรับ
แน๊ตเปิดกระเป๋าตังค์ของตนเองขึ้นมาดู พลางเหลือบมองหน้าพี่ชาย ด้วยรอยยิ้ม
"อะไร จะให้เลี้ยงหรอ ไปสั่งเองไป แล้วค่อยมาเบิก" น็อตตอบน้องสาวอย่างไม่ใส่ใจ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เลี้ยงหรอก แต่แค่ขี้เกียจหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาเท่านั้นเอง
"เชอะ" แน๊ตแกล้งงอนเล่นๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าสตางค์ของตนเอง เดินไปที่เคาเตอร์สั่งอาหาร
เบลมองตามแน๊ตที่ค่อยๆเดินไป
"น้องแกนี่ โตขึ้นมาก็น่ารักดีนะเนี่ย"
"อย่าๆ อย่า ไอเด็กนี่ ไม่ไหว ปากกรรไกรเกินไปแล้ว" น๊อตหันมามองหน้าเพื่อนตรงๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"หวงน้องอะดิ" เบลจับท่าทีของน็อตได้
"ไม่ได้หวง แต่ห่วงเว้ย โดยเฉพาะกับคนอย่างมึง" น็อตแก้ตัว แต่ในสายตาเบลแล้วดูก็รู้ว่า หวงน้อง
"เรามีอะไรจะถามแกมานานแล้ว น็อต" เบลเอ่ยขึ้นมา
"อ้าวน้องกูมาเนี่ย มึงหยุดพูดกูมึงอ่อออ" น็อตแซว เมื่อพบว่า กู-มึง หายไปจากคำพูดของเบล
"ไอ้กฤต มันชอบฟางหรอว่ะ" เบลไม่ใส่ใจกับคำแซวของน็อต
น็อตก้มหน้า มองช้อนที่ตักอาหาร แกว่งไปแกว่งมา เขาไม่รู้ว่าควรตอบเบลอย่างไร
"แกอยากรู้ก็ไปถามมันเองดิ"
"ทำไมแกคิดงั้นว่ะ" น็อตถามเบลกลับ
บางทีบอกเบลไปอาจจะดีขึ้นมาก็ได้ เบลเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เขาไว้ใจ ไม่ใช่แค่เขา กฤตเองก็เช่นกัน น็อตไม่เข้าใจเหตุผลที่กฤตไม่ยอมบอกเพื่อน เพื่อนยังไงก็พร้อมจะช่วยอยู่แล้ว หรือกลัวว่าต้องแข่งกับเขากันแน่
เบลเงียบไปสักพักไม่ตอบ
"อะไรกัน คุยกันไม่สนสาวสวยเลย" แน๊ตเดินถือถาดยกอาหารเข้ามาวางตรงที่นั่งข้างๆพี่ชาย แต่เด็กหนุ่มทั้งสองกลับไม่รับรู้ว่าแน๊ตได้นั่งลงที่โต๊ะแล้ว
"เออ แน๊ตซื้อโค้กให้หน่อยดิ" น็อตว่า หวังจะให้แน๊ตไปไกลๆจากโต๊ะในตอนนี้
"แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกห้ะ ขี้เกียจลงไปใหม่นะเนี่ย" เด็กหญิงท้วง
"ใครเลี้ยง" น็อตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"โหย ก็เอามาจากเงินพ่อเหมือนกันนั่นแหละ" แน๊ตว่างอนๆ แต่ก็ยอมไปซื้อน้ำให้แต่โดยดี
เมื่อเห็นว่า แน๊ตเดินออกไปจากโต๊ะแล้ว เบลก็เริ่มพูดสิ่งที่ตนเองคิด
"ก็ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่รู้จักฟางแรกๆแล้ว ตอนม.1 เราอยู่ห้องเดียวกับมันไง ก็สังเกตว่าไอ้กฤตมันดูจะชอบๆมองฟางว่ะ ตอนแรกมันสนิทกับฟางที่สุดเลยนะ แต่พอฟางเริ่มโตเป็นสาว ผู้ชายมาจีบเยอะ ก็เริ่มห่างๆกับไอ้กฤตมัน"
"แล้ว"
"พอแกมาเข้ากลุ่มด้วย ตอนม.2 ฟางก็คบกับเด็กโรงเรียนนั้นอยู่ จำได้ใช่ป่ะ"
น็อตพยักหน้าเพื่อให้คำตอบเบลว่าจำได้
"พอฟางเลิกกับคนนั้น แล้วก็เหมือนไปกิ๊กกับอีกคน ไอ้กฤตมันดู เศร้าๆยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูกว่ะ ดูซึมๆ ทุกครั้งที่ฟางไปสนคนอื่น แต่ตอนนั้นแกคงไม่สังเกตว่ะ เพราะตอนนั้นแกแม่งประสาทเอะอะก็กลับบ้านๆ พ่อมารับ โรงเรียนก็ไม่ค่อยมา จะไปรู้อะไร"
"หลอกด่านี่หว่า" น็อตหัวเราะขึ้นมา แต่เบลยังทำสีหน้าจริงใจใส่
"พอแกเริ่มมาอยู่กลุ่มพวกเราเต็มตัว ตั้งแต่ตอนม.3 กฤตมันยิ่ง ไม่รู้ว่ะ ตามความรู้สึกเรานะเว้ย มันเหมือนชอบๆฟาง แกไม่คิดเหมือนกันหรอ ทำไมไอ้วินไอ้นัท ไม่เห็นสงสัยบ้างเลยว่ะ หรือว่ามันรู้อยู่แล้ว นี่กูตกข่าวหรอนี่"
เบลสาธยายความคิดของตนเองต่อไปเรื่อยๆ
"ยิ่งตอนม.4 กฤตมันชอบทำตัวห่างๆฟาง ไม่เหมือนตอนแรกๆเลย"
น็อตนึกในใจ ถ้าเขาบอกเบลไป เขาอาจจะเข้าใจตนเองมากกว่านี้ก็ได้
"กฤตชอบฟาง มันบอกเรา"
"แล้วมึงปล่อยให้กูเล่าจนจบเนี่ยนะ อีโธ่" เบลมองน็อตตาถลึง รู้สึกเสียเวลาที่อุตส่าห์ย้อนอดีตเล่ามาตั้งนาน เพียงเพื่อให้น็อตบอกว่า เป็นอย่างที่แกคิดนั่นแหละ
"อ้ะ น้ำโค้ก" แน๊ตเดินกลับมาที่โต๊ะ พร้อมกับแก้วโค้กแก้วใหญ่ และหลอดสามหลอดที่ใส่มาไว้ให้กินกันสามคน
"ขอบคุณๆ เชิญกินต่อไปได้เลยนะแน๊ต อย่าเพิ่งพูดอะไร" น็อตพูดใส่น้องสาว อย่างไม่ใส่ใจ เขาอยากคุยกับเบลต่อโดยไม่มีน้องสาวช่างเม้าท์มาขัดอะไรระหว่างทาง
"เบล ก็มันบอกว่าไม่ให้เราบอกใคร แต่บอกมึงคงไม่เป็นไรมั้ง ยังไงมึงก็คิดงั้นอยู่แล้ว แล้วอีกอย่าง เราก็ไม่ค่อยเข้าใจมันว่ะ ทำไมเรื่องแค่นี้บอกเพื่อนไม่ได้หรอว่ะ" น็อตพูดออกไปตามที่คิด
"แล้วทีมึงละ เคยบอกไรเพื่อนบ้างว่ะ" เบลพูดเบาๆ ให้ได้ยินแต่ตนเอง แต่ดูเหมือนน็อตจะได้ยินไปด้วย
"จริงดิว่ะ ห่า แล้วแกจะทำยังไงเนี่ยน็อต หนึ่งหญิง สองชาย เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" เบลหันมาเปลี่ยนเรื่องพูด ทำให้กลายเป็นเรื่องสนุกแทน
"แกอย่าไปบอกมันนะเว้ย ว่าเราบอกเนี่ย ความจริงบอกแกก็ดีว่ะ จะได้ช่วยคิดหน่อย" น็อตเริ่มรู้สึกกังวล ที่ตนเองตัดสินบอกความลับของกฤตกับเบลไป ถ้ากฤตรู้อาจจะโกรธเขามากก็ได้ แต่การบอกเบล
ก็ไม่น่าจะทำให้อะไรแย่ขึ้น น่าจะทำให้ดีขึ้นเสียอีก
"แล้วตลอดมาเนี่ยมึงเอ้ยแก ทำไงมาได้ตลอดว่ะเนี่ย" เบลเผลอ
แม้เด็กหนุ่มทั้งสองจะกำลังพยายามให้คำหยาบไม่หลุดออกจากปาก ขณะอยู่ต่อหน้าผู้หญิง แต่ก็เหมือนจะหลุดออกมาเป็นระยะๆอยู่ดี
เด็กหนุ่มหน้าตี๋อีกคนยักไหล่ตอบเพื่อน
"พี่เบล เผาพี่น็อตให้ฟังหน่อย" แน๊ตเอง ก็คุยเล่นกับเบลอยู่บ่อยๆ ทุกครั้งที่เจอ เพราะเบลเป็นคนคุยง่าย ทำให้ไม่กลัวที่จะพูดคุยกับเขา
"เอาดิ้ พูดเลย เผาเลย เผาเลย" น็อตทำหน้า ถ้าแกพูดเรื่องฟางนะ ตายแน่
"ไม่ค่อยมีเรื่องในห้องเรียนอ่ะ อยู่คนละห้องกัน แต่เรื่องนอกห้องอ่ะเยอะ " เบลมองหน้าเด็กหญิง พร้อมกับรอยยิ้มที่ริมฝีปาก
"เออ อยากรู้เหมือนกัน เล่ามา" น็อตเริ่มสงสัยว่าเบลตั้งใจจะพูดเรื่องอะไรกันแน่
"พี่ชายเธออ่ะ ชอบตกบันได เดินตกบันได ไม่ว่าจะเป็นบันไดเลื่อน บันไดธรรมดา ทุกบันได พี่แกตกมาแล้ว แต่เรื่องของเรื่องคือ วันนั้น คือลงไปแคนทีนกันใช่ป่ะละ"
แน๊ตฟังเบลเล่าอย่างตั้งใจ ในขณะที่น็อตหลุดฮาก๊ากออกมาแล้ว
" แล้วลิฟต์มันเต็ม แต่จะออดขึ้นคาบแล้ว ก็เลยเดินขึ้นบันได ทีนี้แข่งกันขึ้น แล้วไอ้น็อตมันเสียหลัก ตกบันได ล้ม แต่ดันดึงพี่ ไปด้วย แล้วจึงสะดุดตกบันไดกันหมด ล้มทับต่อๆ แต่มัดเซ่อดันโผล่มาพอดี เลยล้มทับมัดเซ่อไปด้วย เลยโดนทำโทษกันทั้งกลุ่ม ขอบคุณมาก ไอ้น็อต"
"ฮาโคตรๆอ่ะ วันนั้น มัดเซ่อ แบบ ตกใจมาก เหวอมาก เราก็เหวอ เหวอกันหมด แต่เบรคแตกไปแล้ว"
เด็กหญิง กับอีกสองเด็กหนุ่มนั่งหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
ความคิดเห็น