คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เคนอิจิ
เคนอิจิ
“กริ๊งๆ”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“เฮ้ย เคนอิจิ ยังไม่ตื่นอีกหรอไง เป็นประธานคณะแล้วยังขี้เซาอีกนะ” จิโร่พูดกับผมขณะที่ผมยังไม่ทันตื่นดี แต่ก็ต้อง สะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เมื่อสาม-สี่ปีก่อน ผมเป็นคนที่ขี้เกียจตื่น มักจะตื่นสายประจำ แต่ก็ยังไปทันเข้าเรียนอยู่เสมอ ถึงผมจะตื่นสายไปหน่อยแต่ผมก็มีความรับผิดชอบสูง จนได้รับเลือกตั้งเป็นประธานคณะ ผมจงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ แต่นั่นคือสิ่งที่ผมคิดไว้นะ ไม่รู้ว่าจะไปได้รอดไหม
ที่คณะแพทย์ศาสตร์
“ทำไงดีอะ จิโร่”ผมตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แล้วรุ่นน้องจะรู้สึกอย่างไรกับผม
“ก็พูดๆไปเถอะน่า ไม่มีไรมากหรอก”
“เออ เอาก็เอาวะ”
“น้องปี1ทั้งหลาย ฟังผมให้ดี..................................”
เมื่อผมพูดจบลง เสียงปรบมือเกรียวกราวก็ดังขึ้น ผมไม่คิดว่าผมจะทำได้ ผมทำให้ทุกคนที่ฟังผมนิ่ง ไปชั่วขณะ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนผมฝันไปชั่วขณะ โดยไม่แน่ใจว่าผม คือผม
“เฮ้ย สุดยอดเลยเคนอิจิ นายทำได้”เพื่อนๆผมต่างชมผมที่กำลังเหม่ออยู่ที่ด้านหลังเวที
“นี่เคนอิจิ พวกชั้นจะไปฉลองเปิดเรียนกันหน่อย นายไปด้วยกันมั้ย”
“ไม่อะ ฉันต้องดูแลน้องๆอีก”
“ฮิ ฮี้ว จิตวิญญาญรุ่นพี่เข้าสิ้งแล้วโว้ย เฮ”พวกมันกำลังแซวผมอยู่ แต่ช่างเถอะผมชินแล้วละ เรียนหมอกันแท้ๆไม่น่าจะบ๊องได้ขนาดนี้
เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน ผมก็ปล่อยพวกรุ่นน้องไปทานอาหารกัน รวมทั้งผมด้วยหละ ก็กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องนี่ครับ
ณ สวนอาหารของมหาวิทยาลัย
“ป้าครับ ขอข้าวผัดกุ้งจานนึงครับ”
“จ๊ะ”
โรงอาหารคนเต็มไปหมด ผมไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดีเลย ผมเดินไปเรื่อยๆ จนไปพบกับสาวน้อยคนหนึ่ง ผมว่าผมเคยเห็นหน้าเธอนะ เธอคงเป็นน้องใหม่ของคณะผม เธอเป็นคนผมยาวดัด ตัวสูง ผมสีน้ำตาลอ่อน ผมเลือกที่นั่งตรงนั้นหละ อย่างน้อยวันหนึ่งเราก็ต้องทำงานร่วมกันแน่นอน อ่อลืมบอกไปครับ ว่าที่คณะผม รุ่นพี่ต้องช่วยรุ่นน้องทำงานวิชาของอาจารย์บีวอลซ์ อาเกซี่ เพราะแกให้ทำงานยากมากเลยครับ
“เอ่อ นั่งด้วยได้มั้ยครับ”ผมทำดีไปขอเธอนั่งทานข้าวด้วยคน
“ได้สิคะ ฉันก็ไม่มีใครทานเป็นเพื่อนอยู่แล้วหละคะ ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวเพียงผู้เดียว....เศร้าจัง” เสียงเธอดูน่ารักมากเลยครับ ผมคุณกับเธออยู่ซักพัก ก็ทานข้าวหมดหละครับ เธอชื่อยูริกะ เธอเก่งนะครับ เข้ามาเรียนที่นี่ได้ เวลาที่ผมได้คุณกับเธอ มันผ่านไปเร็วมากเลย ผมเริ่มหวั่นไหวในตัวเธอแล้วหละ
ที่คณะแพทย์ศาสตร์
“ได้เวลาผู้ข้อมือได้ละ เตรียมตัวให้ดีละ” ผมบอกพวกเพื่อนๆผมที่กำลังรีบร้อนเดินเข้ามา
“ขึ้นไปบนเวทีเลย ไอ้เคน เด๋วน้องรอนาน แล้วเรื่องด้วย เราจัดการเอง” จิโร่อาสาจะจัดการเรื่องด้ายให้ ไม่ต้องห่วงมันเลยครับ อีกเดี๋ยวเดียวมันก็วิ่งปรู้ดไปหน้าเวทีแล้ว ห่วงแต่ตัวผมเถอะ จะไปรอดมั้ยก็ไม่รู้
“เอาละนี่ก็ถึงเวลาที่จะรู้จักรุ่นพี่บางคนแล้วละ ผมจะให้พวกพี่ปีเดียวกับผมผูกข้อมือพวกคุณละกัน เพราะรุ่นพี่ปีอื่นก็ไม่มา น้องโปรดให้มาร่วมมือกับผมจัดแถวให้ห่างๆกันหน่อยนะครับ”น้องๆรู้เรื่องกันมากๆเลยครับ พากันเว้นช่องว่าให้พวกผมเดินกันสะดวกๆ ผมยืนอยู่บนเวที พลางมองรุ่นน้องข้างล่าง แต่สายตาผมก็ต้องสะดุดเข้ากับหน้าของคนๆหนึ่ง เธอคือ ยูริ เธอมีท่าทางเซงๆมากเลยครับ เธอคงรอนานมาก ผมว่าผมเข้าไปลัดคิวให้เธอดีกว่า
กว่าผมจะเข้าไปในฝูงชนนั้นได้คงยากลำบากมากเลยแน่ๆ พวกรุ่นน้องคนอื่นๆพากันขอร้องให้ผมผูกข้อมือให้เธอ ผมก็ต้องผูกให้จนครบหละครับ แล้วผมก็เดินไปหายูริกะ
“โธ่ ฉันก็นึกว่าใครซะอีกที่แท้ก็พี่เคนอิจินี่เอง” เธอตกใจมากเลยครับ ผมรู้นะว่าเธอคิดอะไร เธอคงจะหันกลับมาด่าผมแน่ๆเลย แต่พอเห็นหน้าผมเธอคงจะ...ตกใจมากกว่าเดิมมั้ง
“ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ มานั่งอยู่แถวท้ายๆนี่เอง กว่าพี่จะหาเจอก็เล่นเอาเหนื่อย พวกแถวหน้าๆลากพี่ไปผูกข้อมือกันหนะ” ผมถือโอกาสเรียกตัวเองว่าพี่ซะเลย เพราะเธอเองก็เรียกผมว่าพี่อยู่นี่นา
และแล้วงานในวันนี้ก็จบลงอย่างดีครับ ทุกคนมีความสุขโดยทั่วกัน โดยที่ไม่ต้องไปถึงต่างจังหวัดเลยครับ คณะอื่นเขาคงไปแถวชายทะเลกัน แต่ทำยังไงได้ละครับ คณะผมคงไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกครับ แค่จะเที่ยวก็ต้องรอเป็นปีหนะครับ บางปีก็ไม่ได้ไปเลยก็มี โดยเฉพาะปีนี้ ผมต้องช่วยน้องๆผมทำรายงานด้วย ก็คงยากที่จะไปไหนต่อไหน แต่ถ้าน้องๆเค้าทำรายงานที่ต้องไปนอกสถานที่ ผมก็คงไปตามไปเที่ยวบ้างละครับ
หอพักนักศึกษา
“จิโร่ วันนี้ขอนอนด้วยดิ”ผมขี้เกียจกลับบ้านหนะ เลยขอมันค้างสักคืน
“เฮ้ย แล้วพรุ่งนี้ จะเอาไรใส่ไปเรียนละ”
“ลืมไปแล้วหรอว่า ฉันเอาไว้ที่ห้องแกตัวนึงหนะ”พอดีผมมาค้างบ่อยๆ เลยเอาชุดมาทิ้งไว้ที่นี่ แล้วชุดที่ผมใส่อยู่ก็เอามาสลับกับชุดใหม่ โชคดีที่จิโร่มัน ไม่ได้ซักผ้าเองหนะครับ ผมเลยไม่ค่อยเกรงใจซักเท่าไหร่
“เออหวะ ลืมเลย งั้นแกไปอาบน้ำเลยไป”ตัวผมคงเหม็นมากแน่เลยมั้งเนี่ย มันเลยไล่ผมไปอาบน้ำอย่างงั้น
ขณะที่ผมอาบน้ำอยู่นั้น ผมก็มองไปที่กระจกโดยไม่ละสายตา ผมเป้นคนกลัวกระจกมากเลยครับ กลัวอย่างบอกไม่ถูก เพราะตอนเด็กๆผมเคยเจอกับตัวเองมาก่อน ในห้องน้ำบ้านคุณยาย ผมเลยฝังใจมานับตั้งแต่บัดนี้
“เคนจัง หลานไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป แล้วยายจะจัดอาหารไว้ให้”คุณยายเอโกะ เรียกให้ผมไปอาบน้ำโดยที่ผมไม่ค่อยชอบคำที่เธอเรียกผมสักเท่าไร
“คุณยาย ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบอะ”ผมดุเธออย่างเด็กๆคนหนึ่ง ตอนนั้น ผมอายุได้ประมาณ10ขวบ
“เอาเถอะๆ”คุณยายพูด แล้วพวกที่เข้ามาเห็นก็พลางหัวเราะกันใหญ่
ในห้องน้ำบ้านนี้ ไม่มีถังน้ำนะครับ มีแต่อ่างน้ำเวลาจะอาบน้ำทีหนึ่ง ก็ต้องรอให้น้ำเต็มอ่าง แล้วจึงลงไปนอนอาบในนั้นครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมเลยค่าเวลาด้วยการล้างหน้าและแปรงฟัน ผมถือแปรงสีฟันขึ้นมา และบีบยาสีฟันลงบนแปรง แล้วผมก็แปรงฟัน ผมทำแบบที่ผมทำเป็นประจำ
เพียงแค่ไม่กี่วินาที เลือดก็ออกตามรายฟัน ผมคิดว่าเลือดคงออกเป็นธรรมดา ผมจึงมองไปที่กระจกที่อยู่บนอ่างล้างหน้า ทีแรกเลือดก็ออกเล็กน้อย ผมก็แปรงต่อครับ ผมก้มลงไปดูที่อ่างล้างหน้าครับ เลือดก็หยดลงมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ หยดเป็นวงอยู่ทั่วอ่าง ผมตกใจมาก คิดว่าฟันคงจะหัก เชื่อไหมครับแวบแรกที่ผมมองกระจก ผมเห็นปากผมมีแต่เลือดทั่วปาก มันไหลจนอาบหน้าไปได้ครึ่งหน้า ไหลลงมาถึงคอ สภาพมันเหมือนคนถูกถลกหนังปากออกมากกว่าครับ เพราะผมเห็นมันเป็นเหมือนแผล ผมจ้องหน้าผมในกระจกไปซักครู่ ใบหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นคนอายุประมาณ50ครับ เป็นตาแก่คนหนึ่ง ผมขาวโพลน ตาถลนจนเกือบจะออกนอกเบ้าตา ดวงตาสีแดงก่ำนั้นจ้องมองมาที่ผม ปานจะกินเลือดกันเนื้อกัน ผมตั้งสติได้จึงหลบสายตาแกไปมองที่อื่นครับ ผมหันหลังให้กับกระจก แล้วเดินมาที่อ่างอาบน้ำครับ เมื่อน้ำใกล้จะเต็มอ่างผมก็เดินไปปิดน้ำ
ผมจ้องมองลงไปในอ่างนั้นแล้วผมก็เห็นเงาของตาแก่คนนั้น มันเหมือนมาจากข้างบนนะครับ ผมเลยเงยหน้าไปดูก็ไม่มีสิ่งใดอยู่บนนั้นครับ ผมได้โล่งใจไม่ถึงเสี้ยววินาทีหรอก เงานั้นก็โผเข้ามาจับคอผมแล้วกระชากผมลงไปในน้ำ ตู้ม...เสียงน้ำกระจายไปทั่วทุกทิศ เขากระชากผมลงไปแรงมากเลยครับ ราวกลับว่าจะเอากันให้ถึงตาย สุดสิ้นเสียงการแตกกระจายของน้ำ ร่างนั้นก็หายไป สิ่งรอบข้างนั้นก็กลับกลายเป็นเหมือนเดิม ผมรีบเดินไปดูที่อ่างอาบน้ำครับ มันไม่มีเลือดสักหยด จะมีก็แต่ฟองยาสีฟันที่ผมแปรงไว้หนะครับ ผมไม่กล้ามองไปที่กระจกเลย รีบวิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งออกไปเลยครับ พลางคิดว่ากลับไปบ้านคุณแม่แล้วจะไปเล่าให้ท่านฟังหนะครับ ผมกลัวเขาตามผมกลับบ้านด้วยหนะ
“เคนอิจิ............ เคนอิจิ.............”เสียงเรียกชื่อผม โหยหวนมาแต่ในห้องของจิโร่ ผมเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วหละ
ผมรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ แล้วก็ต้องมาเจอกับ...ไอ้จิโร่เองครับ มันหลอกผม มันรู้ว่าผมกลัวผีขนาดไหน มันคงรู้ใจหละครับ เมื่อก่อนห้องน้ำมันไม่มีกระจกแต่พอผมเล่าให้มันฟัง มันก็ไปซื้อกระจกมาติดไว้ในห้องน้ำเลยครับ มันจงใจจะแกล้งกันชัดๆ
“ไอ้บ้าเอ้ย ไอ้........”ผมด่ามันสารพัดเลยครับ เท่าที่ผมจะสรรหามาด่ามันได้ แล้วผมก็เต่งตัวแล้วพากันเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ผมนัดกับอาจารย์บีวอลซ์ เรื่องรายงานน้องๆแต่เช้าเลยครับ
ห้องพักอาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์
“สวัสดีครับ อาจารย์”ผมเข้าไปพบอาจารย์ที่ห้อง
“ทำไมมาช้าจัง”ผมมาช้าหนะครับ ท่านเลยถามผม
“คือ...ผมขับรถมาเจอรุ่นน้องคณะเราเป็นลมหนะครับ เลยช่วยเอาไว้”ก็เมื่อเช้ายูริกะ เด็กคนมะวานนี้ เดินมาดีๆก็หน้ามืด เป็นลมอยู่หน้ารถผม
“ดีจังเลยนะ ถ้าทุกคนเป็นแบบนี้ก็คงดี”
“คงงั้นครับ”
“ฉันมีเรื่องมาให้คุณช่วยหน่อย คุณคงรู้นะว่าคุณต้องทำอะไร ไปบอกให้เพื่อนๆเธอจับกลุ่มกันกลุ่มละสามคนนะแล้วเมื่อถึงวิชาฉัน ฉันก็จะเข้าไปอีกที ตกลงนะ”เธอก็พูกให้ผมเลือกเท่านั้นหละครับ ขัดใจเธอได้ซะที่ไหนกันผมคงทำได้แต่
“ตกลงครับ”
ตึกเคมีชั้น4
“เพื่อนๆครับ ครูบีวอลซ์สั่งผมมาว่า ให้พวกเราแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ3คนนะครับ แล้วชั่วโมงบ่าย ครูจะเข้ามาบอกว่าตั้งทำอะไรบ้าง”
“โห่......ก็เรื่องที่แกเคยบอกหละ พวกเธอต้องช่วยน้องทำรายงาน”เพื่อนคนหนึ่งทำเสียงเลียนแบบอาจารย์บีวอลซ์
“ครูมาแล้ว”
“บีวอลซ์อะหรอ”
“ไม่ใช่ ครูประจำวิชานี้ไงละ จะบ้าหรอไงแกเนี่ย”เสียงเล็กๆลอดผ่านโพรงประสาทหูของผม
เมื่อผ่านวิชานี้ไปก็ตอนเที่ยงผมลงไปกะว่าจะทานข้าว แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินชายคนหนึ่งพูดอะไรบางอย่าง
“นี่นาย รู้สึกผิดบ้างมั้ยเนี่ย”เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
“รู้สึกสิผิดมากเลยด้วย”เด็กชายอีกคนที่เดินมาด้วยกันพูด
“งั้นนายก็ไปขอโทษยูริกะที่ห้องพยาบาลซะ”ยูริหรอ ใช่ยูริรึปล่าวนะ ผมคิดพลางเดินไปเรื่อยๆ คนกลุ่มนั้นเดินหายไปแล้วหละ ผมว่าผมไปดูที่ห้องพยาบาลให้แน่ใจดีกว่า
ห้องพยาบาล
ผมเปิดประตูเข้าไปแล้วส่งเสียงเรียกออกมาว่า “สวัสดี ยูริ เธอเป็นยังไงบ้างอะ”ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยครับ เธอกอดกับชายคนที่ผมเห็นเมื่อครู่ ผมอึ้งไปนานมากเลยครับ จนชายคนนั้นเขาขอตัวกลับไปก่อน
เราพยายามจะปรับความเข้าใจกันครับ ผมตัดสินใจสารภาพว่าผมชอบเธอ เธอชอบผมเธอว่าอย่างนั้น เราสองคนตกลงจะลองคบกันดูไปซักพักหนึ่ง
2 สัปดาห์ต่อมา
“เอาละชั่วโมงนี้จะให้พวกเธอจับฉลาก ฉลากพวกนี้เป็นรายชื่อของกลุ่มต่างๆของเด็กปี 1 เริ่มที่กลุ่มแรกเลยนะโชคดีละ”เธอถือกล่องใบหนึ่งมา แล้วก็พูดๆๆ
กว่าจะถึงกลุ่มผม ก็นานหละครับ กลุ่มที่20เลย ก็คงได้แต่รอ รอแล้วก็รอ กลุ่มผมมีสมาชิก3คน ตามที่อาจารย์สั่ง ก็มีผม จิโร่ และ วีเจ โดยมีผมเป็นหัวหน้ากลุ่ม
“ในกล่องนั้นมีอะไรหรอ”วีเจถาม
“ก็รายชื่อของน้องปีหนึ่ง ที่เราจะต้องไปช่วยเขาไง”ผมตอบ
“อืมใช่”จิโร่พูด
“แล้วเราจะได้อะไรละ”วีเจถามขึ้นมาอีกครั้ง
“อ้าว นายไม่รู้จริงๆหรอ รายงานพวกนี้จะถูกนำไปประกวดด้วยนะ ถ้ารายงานของน้องกลุ่มใดชนะเลิศ รุ่นพี่ที่เข้าไปช่วยก็จะได้คะแนนเก็บของงานนี้ เป็นสองเท่าไงละ แล้วโดยธรรมเนียมแล้วเนี่ย เงินรางวัลก็จะถูกแบ่งให้รุ่นพี่ครึ่งหนึ่งเลยหละ”ผมอธิบายให้วีเจฟัง แต่ดันไปเข้าหูของเพื่อนทั้งห้องเลยสิ พวกเขาเลยฮือฮากันใหญ่ ผมเลยตกลงกับวีเจว่าเมื่อจบคาบนี้จะเล่าให้ฟังอีก
“กลุ่มของนายเคนอิจิ”อาจารย์เรียกกลุ่มผมแล้ว
“ครับ อาจารย์”ผมรับขานอาจารย์
“กลุ่ม6ครับ”ผมได้กลุ่ม6ครับ เธอบอกว่าให้ผมไปดูในสมุดเอาว่าเป้นกลุ่มของน้องคนไหน
กลุ่ม6เป็นกลุ่มของซามิริน ผมไม่รู้จักเธอเลยละ เธอเป็นใครกันนะ แล้วหน้าตาเธอเป็นยังไง อ่อนั่นไงเบอร์โทรของเธอ ผมหยิบมือถือมากดเบอร์เธอแล้วบันทึกเอาไว้ กะว่าคืนนี้ผมคงโทรไป
“เคน แล้วนายรู้มั้ยอะว่าเงินที่ได้มันเท่าไรกัน”วีเจถามผมเมื่อหมดคาบ
“ก็ประมาณ500เหรียญดอนล่าของอเมริกามั้ง”
“โห ถ้าเป็นเงินของประเทศเราก็เยออยู่นะ”วีเจตื้นเต้นเมื่อทราบจำนวนเงิน
“อืมใช่”
“ขอใจนะที่เล่าให้ฟัง เราไปเรียนพิเศษก่อนนะ”วีเจพูด
“ครับ โชคดีนะ”
บ้านเคนอิจิ
ผมเข้าบ้านแล้วก็ต้องพบว่าแม่ของผมและพ่อต้องไปสัมมนาวิชาการแพทย์ที่เมืองจีน ผมก็อยู่บ้านกับน้องชาย และน้องสาว เพียงลำพัง แต่ก็คงไม่แย่ขนาดนั้นหรอก ยังคงมีแม่บ้านอยู่ พวกเราเรียกเธอว่า มาม่า เธอเป็นคนทำกับข้าวอร่อยมาก ผมเลยไม่ต้องกลัวหิวเลยครับ
ผมอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปทานข้าวที่ห้องอาหาร...น้องๆของผมรอผมทานข้าวอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
“ว่าไงเด็กๆ วันนี้มาม่าทำอะไรให้พวกผมทานครับเนี่ย”ผมถาม
“คุณหนู วันนี้ป้าทำอาหารญี่ปุ่นให้ทาน ก็มีข้าวห่อสาหร่ายหน้าต่างๆหละคะ แล้วก็ทาโกยากิ หรือจะทานอาหารไทยก็มีนะจ๊ะ แกงจืดเต้าหู้ใส่สาหร่ายที่คุณหนูทั้งสามชอบยังไงละ”
“ว้าว...มาม่ารู้ใจจังเลย”น้องสาวของผมเธอชอบครับ เราทุกคนเลยชอบตามเธอ เพื่อไม่ให้เธอน้อยใจ
สักพักผมก็อิ่ม จึงขอตัวไปก่อน..
ผมนั่งเล่นมือถือซักพัก ก็นึกขึ้นมาได้ว่าบันทึกเบอร์ของรุ่นน้องไว้ จึงโทรไป
“สวัสดีคะมิรินพูดคะ”
“ครับ ผมเคนอิจิ เป็นคนที่ต้องช่วยกลุ่มน้องทำรายงานครับ”
“เคนอิจิ คนไหนอะ คงไม่ใช่พี่ประธานหรอกนะ”ผมหัวเราจนเธอเองคงได้ยินหละเธอก็ถามผมว่า
“หัวเราะทำไมละ”
“ก็ผมเนี่ยหละ ประธานคณะ”ผมพูดแล้วหัวเราะใส่เธอ
“จริงดิ แน่ใจหรอว่าใช่อะ ตลกรึปล่าว”เธอพูด
“ผมเนี่ยแหละประธาน ถ้าคุณไม่เชื่อพรุ่งนี้คุณก็มาพบผมที่หน้าตึกเคมีละกัน”ผมวางสายใส่เธอ แล้วก็มาหัวเราะกับความเปิ่นของน้องคนนี้ จนผมนอนหลับไป
ตึกเคมี
ผมมานั่งรอเธออยู่ที่หน้าตึกเคมี ตามที่ผมบอกกับเธอเอาไว้ ผมเห็นเธอมาแล้วหละ เมื่อครู่นี้ เธอคงคิดไม่ถึง ว่าผมคือผมจริงๆ เธอเห็นผมแล้วเธอก็คงจะตกใจมาก วิ่งอายๆหนีไปเลย ผมเห็นเธอไม่ชัด ผมเธอสีดำ ผมเห็นแค่นั้น โดยที่ไม่เห็นหน้าเธอเลยสักนิด
ตื้ด...ตื้ด เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น
“คือฉัน ฉันขอโทษนะที่ไม่เชื่อคุณหนะ คุณเป็นพี่ประธานจริงด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“ขอโทษนะคะ”
แล้วเธอก็วางสายไป ..............
ความคิดเห็น