คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ROSESSIA :: Chapter 01 : เซลีน่า แคร์เดส
ROSESSIA
Chapter 1 : เซลีน่า แคร์เดส
เด็กสาวร่างสูงระหงเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลทองทิ้งตัวยาวสลวยถึงบั้นเอว ร่างบางแต่มีส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างที่ผู้หญิงหลายคนคงอิจฉาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาลและรองเท้าบู้ต ด้วยรูปร่าง หน้าตาและส่วนสูงที่โดดเด่นทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเหลียวหลังมามองได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจเรื่องนั้นสักเท่าไหร่ เพราะนิ้วเรียวยังคงเขี่ยลูกปัดหินในถาดไปมาอย่างสนใจ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มหรี่ลงเล็กน้อยเพื่อพิจารณาลูกปัดในถาด เด็กสาวยืนหาอยู่สักพักก็ยังไม่เจอสิ่งที่ต้องการเสียที จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงพูดคุยจากร้านข้างๆ...
“คุณลุงคะ ลูกแก้วเวทมนตร์[1]นี่ใช้ได้จริงๆใช่มั้ยคะ” เสียงใสๆถามขึ้นอย่างไร้เดียงสา
‘ลูกแก้วเวทมนตร์งั้นเหรอ...’ คิ้วสวยของคนที่แอบฟังอยู่เลิกขึ้นอย่างสนใจ
“ใช้ได้จริงๆสิแม่หนู อย่างเวทย์ลมเนี่ย มีพลังมากพอที่จะลอยตัวได้สูงสิบเมตรเชียวนะ” คนขายยังคงโฆษณาสินค้าของตัวเองต่อไป
“สิบเมตรเลยหรอคะ!!” เสียงใสถามอย่างตื่นเต้น “ราคาเท่าไหร่คะ” เธอถามต่ออย่างสนใจ
ทางด้านคนแอบฟังเริ่มหลับตาลงช้าๆ และเปิดสัมผัสพลังธาตุและพลังเวทย์ แม้ที่นี่จะเป็นตลาดที่มีคนพลุกพล่านทำให้สัมผัสได้ถึงพลังธาตุมากมายในตัวของแต่ละคน แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเด็กสาวแม้แต่น้อย เธอยังคงเพ่งสมาธิไปยังลูกแก้วที่คนขายติดป้ายไว้ว่า ‘ลูกแก้วเวทมนตร์’
“เจ็ดพันโรส..พี่ลดให้เหลือหกพันห้าเลยเอ้า” คนขายยังคงพูดอย่างใจป้ำ
“หกพันห้า...ก็ด้ะ...” เสียงใสยังพูดไม่จบ เด็กสาวผมสีน้ำตาลทองก็เข้ามาคว้าข้อมือที่กำลังจะล้วงหยิบกระเป๋าเงินก่อนจะพูดแทรก
“เดี๋ยวก่อน” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มฉายแววจริงจังก่อนจะพูดต่อ “ลูกแก้วนั่น...” เธอชี้ไปยังลูกแก้วที่วางอยู่เต็มตู้โชว์ของร้าน “สร้างลมให้ผมปลิวยังไม่ได้ด้วยซ้ำ” เด็กสาวเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะหันมาจ้องหน้าเจ้าของร้าน
“พะ..พูดอะไรพล่อยๆ! ถ้ามันใช้ไม่ได้ข้าจะมาตั้งขายได้ยังไงล่ะ” คนขายเอ่ยขึ้นอย่างลุกลี้ลุกลน
“ฉันจับสัมผัสพลังเวทย์จากลูกแก้วนั่นแทบจะไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วไม่ต้องมาหาว่าฉันมั่ว เพราะประสาทสัมผัสของฉันยังใช้ได้ดี” เด็กสาวโน้มตัวไปกระซิบเสียงเบาเพราะไม่อยากให้คนรอบข้างได้ยิน แต่คำพูดนั้นทำเอาคนขายและเด็กสาวที่กำลังจะซื้อเบิกตากว้าง
จับสัมผัสพลังเวทย์เนี่ยนะ! มันเป็นสิ่งที่น้อยคนมากๆถึงจะทำได้ แค่ทำได้ก็เก่งแล้ว ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าสามารถแยกแยะได้ในที่ที่คนพลุกพล่านแบบนี้จะเก่งขนาดไหน
“เฮอะ! จะให้ข้าเชื่อที่เจ้าพูดพล่อยๆเหรอ ข้าขายของข้ามาตั้งนาน ย้ายไปตั้งหลายที่ ยังขายได้อยู่เลย แม่หนูจะเชื่อคนคนนี้งั้นเหรอ เขาอายุเท่าไหร่เอง” คนขายยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ถ้าอยากให้เชื่อก็ลองพิสูจน์ให้ดูสิ ถ้าทำได้อย่างที่ปากว่าจริงฉันจะยอมขอโทษและจ่ายเงินค่าลูกแก้วให้ แต่ถ้าไม่ ก็สัญญามาซะ ว่าจะเลิกขายของปลอมแบบนี้” พูดจบก็ลังเลเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจทำบางอย่างออกไป “ขอโทษนะ...” มือเรียวคว้าลูกแก้วลมแล้วปาเข้าไปในร้าน เด็กสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆเบิกตากว้างอย่างตกใจในการกระทำอุกอาจนั้น แต่ที่กลัวมากกว่าคือ ถ้ามันเป็นลมที่ทำให้ลอยสูงได้สิบเมตรจริง ร้านเล็กๆนี้คงพังพินาศแน่
แต่แล้วเธอก็ต้องผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เมื่อลูกแก้วที่แตกออกนั้น ทำให้เกิดเพียงลมพัดฝุ่นที่พื้นปลิวเท่านั้น เด็กสาวที่เพิ่งปาลูกแก้วมูลค่าเจ็ดพันโรสลงพื้นหันไปพูดกับเจ้าของร้านที่จ้องเธอด้วยสายตาแค้นเคือง
“คราวหลังอย่าขายของแบบนี้อีกนะคะ ได้กำไรมากก็จริงแต่ก็ไม่ยั่งยืน สุดท้ายแล้ว สิ่งที่จะทำให้เราอยู่ได้ก็คือความซื่อสัตย์ ฉันให้เงินไว้เป็นค่าลูกแก้วแล้วกันนะคะ อย่างน้อยก็น่าจะได้ต้นทุนบ้าง” เด็กสาวเปิดกระเป๋าสตางค์แล้วหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาวางไว้ก่อนจะคว้าข้อมือเด็กสาวข้างตัวเดินออกไป
“ต่อไปจะซื้ออะไรก็ระวังหน่อยแล้วกันนะ โดยเฉพาะของแบบนี้เนี่ย” เด็กสาวร่างสูงพูดขึ้น หลังจากเดินออกจากเขตตลาดได้ระยะหนึ่ง
“ค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ถ้าไม่ได้พี่สาวฉันต้องแย่แน่ๆเลยค่ะ” เด็กสาวโค้งตัวให้เล็กน้อยอย่างถูกต้องตามหลักมารยาทที่เรียนมาเป๊ะแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวคงถูกอบรมเรื่องพวกนี้มาดีไม่น้อย
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ต่อไปก็ระวังให้มากๆแล้วกันนะ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ อ้อ! ฉันชื่อเลนีล่า โดโรเวน เรียกสั้นๆว่าเลนี่ ปีนี้จะอายุสิบสี่แล้วค่ะ” เด็กสาวผมสีน้ำตาลทองเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ฟังนามสกุลของคนตรงหน้า...ห้องเสื้อโดโรเวน ห้องเสื้อชื่อดังของโรเซสเซีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งอาณาจักร และยังคงความเป็นผู้นำด้านแฟชั่นมาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญคือ เป็นห้องเสื้อที่ผูกขาดการตัดเย็บเสื้อของโรงเรียนหลวงโรเซสเซีย
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็เป็นน้องพี่ปีเดียวสินะ...ฉันชื่อเซลีน่า เซลีน่า แคร์เดส ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ”
หลังจากแยกกับเลนี่แล้ว เซลีน่าก็มุ่งไปทางตะวันออกของเมืองเพื่อกลับบ้าน บ้านของเธอตั้งอยู่นอกเขตชุมชน เนื่องจากเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่และมีอาณาบริเวณกว้างขวาง บริเวณบ้านรวมกับพื้นที่รอบๆกินพื้นที่ของภูเขาทั้งลูกเลยทีเดียว
เด็กสาวเดินออกจากเขตชุมชนไปได้ไม่นาน ทิวทัศน์จากตึกรามบ้านช่อง ร้านรวงต่างๆก็เปลี่ยนเป็นต้นไม้ใบหญ้า รอบข้างมีแต่เสียงของธรรมชาติ แต่สักพักจากจิตสังหารที่เด็กสาวจับได้รางๆมาตลอดทางก็ทวีความรุนแรงขึ้นเหมือนเป็นสารท้ารบ!! รอบตัวถูกรุมล้อมด้วยชายฉกรรจ์ห้าคนที่ถือดาบชี้มาทางเธอ
คมดาบสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นประกาย แต่ร่างบางที่ถูกล้อมอยู่กลับไม่มีท่าทีหวั่นเกรงใดๆ ตรงกันข้าม...มุมปากกลับกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ออกมาได้ซักทีนะ เปิดโอกาสให้ออกตั้งหลายครั้งแล้วก็ไม่ยอมออก” ชายทั้งห้าคนหันมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่ชายที่คงเป็นหัวหน้าทีมส่งสัญญาณบุก ทั้งห้าคนจึงพร้อมใจกันพุ่งเข้าหาเด็กสาว เซลีนใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที ดาบคู่กายก็ปรากฏอยู่ในมือ
ดาบเล่มยาวที่อยู่ในมือเรียว มีด้ามจับสีเงินตกแต่งด้วยอัญมณีพลังเวทย์ ใบดาบบางเฉียบและยาวกว่าดาบทั่วไป คมดาบแป็นมันปลาบสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นดูคมกริบ
ห้ารุมหนึ่ง ดูเอาเปรียบอยู่ไม่น้อย ยิ่งคนที่ถูกรุมนั้นเป็นเพียงเด็กสาวร่างบาง แต่หากใครได้มาเห็นสถานการณ์ตอนนี้ คงไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า สิ่งที่ชายทั้งห้าคนทำอยู่นี้เป็นการเอาเปรียบเด็กผู้หญิง
คมดาบจากชายทั้งห้าไม่สามารถสัมผัสได้แม้แต่ปลายผมของเด็กสาว เพลงดาบที่เน้นความรวดเร็ว และชัดเจน แม้แรงจะไม่สามารถสู้แรงของผู้ชายได้ แต่เด็กสาวกลับสามารถพลิกแพลงโดยใช้แรงของคู่ต่อสู้มาเป็นแรงของตัวเอง แล้วสะท้อนการโจมตีกลับไป
เพราะความสามารถทางเพลงดาบของเด็กสาวทำให้ชายฉกรรจ์จากห้าคนลดเหลือเพียงสองในเวลาไม่นาน ส่วนชายอีกสามคนที่สลบลงไปนั้น เด็กสาวก็เลือกที่จะไม่โจมตีจุดตาย ทั้งที่มีโอกาสและใช้แรงไม่มาก เพราะเธอเห็นว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีความโกรธแค้นกับเธอ ที่ทำก็เป็นเพราะถูกจ้างมาเท่านั้น
แต่แล้ว เด็กสาวที่กำลังประดาบกับอีกสองคนที่เหลือก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อเห็นชายที่ลงไปนอนสลบทั้งสามคนค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมาช้าๆ ดวงตาของทั้งหมดกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มเลื่อนลอย เรี่ยวแรงที่น่าจะหายไปหมดแล้วกลับมีเพิ่มขึ้น และดูเหมือนจะเพิ่มมากกว่าที่เคยมีเสียอีกยามลงดาบมาตรงๆที่ตัวของเด็กสาว แม้เพื่อนร่วมงานจะดูงุนงงอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาซักไซ้ไล่เรียงอะไรจึงปล่อยเลยตามเลย ดีเสียอีก จะได้มีโอกาสทำงานสำเร็จมากขึ้น
การต่อสู้ดูเหมือนจะเข้มข้นขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ตึงมือแต่ก็มีโอกาสที่จะพลาดได้สูง และในที่สุด...โอกาสนั้นก็มาถึง ยามเด็กสาวตวัดขาเตะชายคนหนึ่ง ก็พลาดเสียหลักเล็กน้อย แม้จะไม่ถึงกับล้ม แต่นั่นก็มากพอที่จะอาศัยจังหวะนั้นในการเงื้อดาบขึ้นเพื่อฟันลงมาบริเวณแขน ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้น แต่ยังไม่ทันที่คมดาบจะโดนแขนของเด็กสาวอย่างที่เจ้าของตั้งใจ ก็รับรู้ได้ถึงแรงถีบจากทางด้านข้างที่ทำเอาชายร่างใหญ่เซไปเลยทีเดียว แต่เด็กสาวก็ไม่ได้หันไปมองผู้ช่วยเหลือด้วยซ้ำ เพราะต้องหันไปจัดการกับคนที่เหลือ
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็สามารถจัดการชายทั้งห้าคนได้ โดยที่เด็กหนุ่มผู้มาใหม่ใช้เพียงแค่ฝักดาบเท่านั้น
คนตรงหน้าเธอเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูง รูปร่างได้สัดส่วนอย่างคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่ในชุดรัดกุมสีดำ เส้นผมสีดำแซมแดงเป็นประกายถูกตัดเป็นรองทรงสั้น ดวงตาสีดำวาวเรียบเฉยแต่ก็ยังดูคมกริบ ราวกับว่าแค่ปรายตามองก็เฉือนเนื้อคนได้สบายๆ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักลึก และเมื่อนำเครื่องหน้าที่จัดได้ว่าสมบูรณ์แบบมารวมกันแล้ว เซลีน่าก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเด็กหนุ่มคนนี้ ‘หล่อลาก’
เอาล่ะ...ข้ามประเด็นเรื่องหน้าตาหมอนี่(???)ไป ประเด็นหลักๆคือ คนตรงหน้าเธอเป็น...
“ขอบคุณที่มาช่วยเหลือเพคะ องค์ชายรัชทายาท” เด็กสาวย่อตัวลงเล็กน้อยพร้อมกับส่งรอยยิ้มกวนๆไปให้
คิ้วหนาเลิกขึ้น “จำได้ด้วย?"
"แน่นอน ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง...คาเซส" พูดแล้วก็ฉีกยิ้มกว้างให้
"ยินดีเช่นกัน...เซลีน" แม้ใบหน้าคมจะยังเรียบเฉยตามนิสัย แต่ประกายสดใสที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนักในแววตาของรัชทายาทผู้เย็นชาคนนี้แสดงให้เห็นว่าเด็กสาวคนนี้คงมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย
"เจอกันอีกครั้งในรอบห้าปี มีคนจัดสถานการณ์ให้ซะตื่นเต้นเลยเนอะ" เด็กสาวพูดด้วยสีหน้าและรอยยิ้มกวนๆ โดยที่คาเซสเพียงแค่ส่ายหน้าอย่างระอากับนิสัยเดิมๆที่แก้ไม่หายของเพื่อนสมัยเด็กคนนี้ จากนั้นทั้งคู่จึงเริ่มสำรวจสภาพของชายทั้งห้าที่นอนอยู่ที่พื้น
"สองคนนี้ปลอดภัย(??)ดี" เซลีนพูดขณะลุกขึ้นยืน ตั้งใจข้ามเรื่องที่ชายสามคนที่สลบไปแล้วฟื้นกลับขึ้นมาใหม่
"ยังไม่มีใครตายเหมือนกัน" เซลีนเลิกคิ้วขึ้นกับคำตอบที่ได้รับก่อนจะหัวเราะร่าออกมา
"เอาเถอะ ฉันต้องรีบกลับบ้านแล้วเดี๋ยวท่านแม่จะเป็นห่วง เสียดายจัง ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีแต่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกัน เจอกันพรุ่งนี้แล้วกันนะ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือ"
"ไม่เป็นไร...เจอกัน" เด็กหนุ่มยกมือขึ้นโบกตอบร่างบางที่หันมาโบกมือให้อีกรอบเล็กน้อย
สิบนาทีต่อมา เซลีน่าก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลแคร์เดส ทันทีที่เข้าไปในบ้าน สาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ก็หันมาโค้งให้เล็กน้อยก่อนจะหันไปทำงานต่อ
“เซลีน แม่คิดว่าลูกจะกลับมาไม่ทันมื้อเย็นเสียแล้ว”
“สวัสดีค่ะท่านแม่ พอดีเกิดเรื่องวุ่นวายนิดหน่อยน่ะค่ะ” เซลีน่าหันไปย่อกายให้แม่ของเธอ
คุณหญิงซีรีเน่ แคร์เดส เป็นหญิงวัยกลางคนที่แม้อายุจะแตะเลขสี่แล้วแต่ก็ยังดูสวยไม่สร่าง รูปร่างที่ยังดูดีกระฉับกระเฉงยิ่งทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ลงกว่าอายุจริง เส้นผมสีทองเป็นลอนล้อมกรอบดวงหน้ารูปไข่ ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววอ่อนโยน
“มีเรื่องอะไรเหรอลูก แล้วลูกเป็นอะไรรึเปล่า ไหนดูซิ” ผู้เป็นแม่จับตัวลูกหมุนซ้ายขวา สำรวจตามเนื้อตัวเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ได้ของขวัญเป็นรอยแผลเป็นใดๆ
“หนูไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน” พูดแล้วก็ฉีกยิ้มร่า โดยเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“เอาเถอะ ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร แม่รู้ว่าลูกของแม่จะไม่ไปทำอะไรเสื่อมเสีย ไม่เป็นอะไรกลับมาก็ดีแล้วจ้ะ ป้ะ...ไปกินข้าวกันเถอะ พ่อเราเพิ่งกลับมาเหมือนกัน”
“ค่ะ” จากนั้นสองแม่ลูกก็เดินไปยังห้องอาหารที่อยู่ทางปีกซ้ายของบ้าน
"สวัสดีค่ะท่านพ่อ งานเป็นยังไงบ้างคะ" เด็กสาวถามขึ้นก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งซ้ายของพ่อเธอ
ท่านแม่ทัพใหญ่แห่งโรเซสเซีย[2] มิคาเอล แคร์เดส เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีน้ำตาลเข้มตัดสั้น ใบหน้าคมกร้านแดด แววตาสีเดียวกับผมฉายแววใจดี
"ในวังก็ยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะ แล้วลูกล่ะ งานที่พ่อมอบหมายให้น่ะ เป็นยังไงบ้าง" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามถึงธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าที่เป็นธุรกิจของตระกูลแคร์เดสมาตั้งแต่ยุคก่อตั้งอาณาจักร และสืบทอดต่อมาเรื่อยๆจนมาถึงรุ่นนี้ และเขาเพิ่งมอบหมายให้เซลีน่าเป็นผู้ดูแลเมื่อปีที่แล้วในวันเกิดครบสิบหกปี
"ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้สูงกว่าที่คาดไว้ค่ะ คงเป็นเพราะปีนี้ทีเลเนีย[3]มีฝนตกมากกว่าปีก่อน ผลผลิตพวกสมุนไพรเลยเพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องการส่งออกเครื่องหอมของท่านแม่ไปยังไฮเดรนท์[4]ได้ผลตอบรับน่าพอใจมากค่ะ โดยจะตีตลาดตั้งแต่ระดับกลางถึงระดับสูงตามที่วางแผนงานไว้" เซลีนตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆก่อนจะเริ่มกินสลัดที่สาวใช้เพิ่งยกมาเสิร์ฟ
"เก่งมากลูก แล้วเหนื่อยรึยังล่ะเรา" ผู้เป็นพ่อถามด้วยรอยยิ้ม
"ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ สนุกดี"
"ถ้าสนุกก็ดีแล้วล่ะ แล้วพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้หรือยัง" นายหญิงของบ้านถามต่อ
"พร้อมอยู่แล้วค่ะ อ้อ! พูดถึงเรื่องวันพรุ่งนี้ วันนี้หนูเจอคาเซสด้วยค่ะ"
"หืม? องค์ชายน่ะเหรอ ไปเจอได้ยังไงล่ะ" เมื่อคนเป็นแม่ถามเสียงเย็นเยียบขนาดนั้น เซลีนเลยได้แต่หันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากพ่อทั้งที่ยังงงๆอยู่
"นี่ คุณ ไม่ต้องทำเสียงเย็นขนาดนั้นก็ได้น่า ลูกแค่เจอเพื่อนเอง"
"ฮึ! ถ้ายายชาร์มอยากให้เป็นแค่นั้นก็ดีน่ะสิ"
"???" พอเห็นหน้าลูกสาวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ท่านแม่ทัพใหญ่เลยถึงกับหัวเราะร่วน
"คุณก็กลัวเกินเหตุ สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับลูกเราอยู่ดีนั่นแหละ" มิคาเอลพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปถามลูกสาวต่อ "คาเซสก็ไปสอบด้วยสินะ"
เซลีนพยักหน้าแรงๆหลายทีก่อนจะตอบว่า "ใช่ค่ะ กษัตริย์ทุกรุ่นของโรเซสเซียก็จบจากโรงเรียนหลวงนี่คะ แต่ปีนี้มีคนมาสอบเยอะมากเลย ถ้าหนูไม่ติดก็คงจะไปสอบที่โซเดเวีย" ผู้เป็นแม่ย่นจมูกทันทีเมื่อได้ยินลูกสาวพูดถึงโรงเรียนการทหาร
"แม่ว่าลูกไปสอบที่เลโคเช่ก็ดีนะจ๊ะ เป็นโรงเรียนเก่าแม่ด้วย" แต่คนเป็นลูกกลับส่ายหน้าพรืดทันที
"โรงเรียนกุลสตรีน่ะเหรอคะ หนูว่ามัน...เอ่อ...ไม่ค่อยเหมาะกับหนูเท่าไหร่ แล้วอีกอย่างท่านแม่ก็สอนได้นี่คะ เหมือนที่ท่านแม่สอนมาตลอดน่ะ" เด็กสาวพูดพร้อมกับฉีกยิ้มเจื่อนๆ
"แต่ถ้าเข้าไปเรียนในโรงเรียนก็จะได้มากกว่านี่จ๊ะ"
"เอ่อ..."
"เอาล่ะๆ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ขอให้ลูกทำให้ดีที่สุด ติดไม่ติดค่อยมาว่ากัน ดีมั้ย"
"เยี่ยมค่ะ ท่านพ่อ" เด็กสาวพูดพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
"ก็ได้ค่ะ" จากนั้นมื้ออาหารของบ้านแคร์เดสก็ดำเนินไปด้วยเสียงพูดคุยสนุกสนานดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา
[1] ลูกแก้วเวทมนตร์ เป็นลูกแก้วขนาดประมาณหนึ่งกำปั้น ใช้เพื่อเก็บสะสมพลังเวทย์ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ลูกแก้วเวทมนตร์สร้างได้แค่เวทย์เล็กๆน้อยๆ เช่น สร้างไฟ สร้างฝน สร้างบ่อน้ำ สร้างลม ไม่แนะนำให้ใช้เป็นอาวุธหลักในการต่อสู้ เนื่องจากมีเวทมนตร์ไม่มากนัก นักเวทย์ในสมัยก่อนสร้างขึ้นเพื่อเป็นเวทย์กับดัก และใช้หลอกล่อศัตรูเพื่อหลบหนี ในสมัยที่ยังมีคนรู้จักลูกแก้วนี้ไม่มาก นักมายากลใช้ในการแสดงกลของพวกเขา
[2] ประเทศโรเซสเซีย ประเทศที่เป็นศูนย์กลางของทวีปโรเซสเซีย อยู่กึ่งกลางของทวีป โดยอีกสี่ประเทศล้อมรอบทุกด้าน ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่มีการทำสนธิสัญญาใช้อาณาเขตน่านน้ำของอีกสี่ประเทศมาตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรทำให้ไม่มีปัญหาด้านการค้าขาย
[3] ประเทศทีเลเนีย ประเทศทางตอนเหนือของทวีปโรเซสเซีย มีอากาศหนาวเย็น ฝนตกชุก เหมาะแก่การปลูกสมุนไพรและพืชพันธุ์บางชนิด
[4] ประเทศไฮเดรนท์ ประเทศทางตะวันตกของทวีปโรเซสเซีย พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น แต่ทางตะวันตกสุดขอบแผ่นดินโรเซสเซียเป็นทะเลทรายเนื่องจากมีเทือกเขาเฮเดนที่เป็นเทือกเขาสูงตั้งขวางกั้นทิศทางลมที่พัดมาจากฝั่งตะวันออก
ความคิดเห็น