คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ROSESSIA :: Chapter 02 : โรเซสเซีย(70%)
ROSESSIA
Chapter 2 : โรเซสเซีย
วันนี้เซลีนตื่นเช้าเป็นพิเศษจากปกติที่ตื่นเช้าอยู่แล้ว หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดที่จัดเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งและเริ่มทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดที่หน้าตามที่ท่านแม่ได้สั่งไว้
‘ถ้าลูกไม่ยอมทาครีมบำรุงพวกนี้แม่ก็จะไม่ยอมให้ลูกฝึกการดาบ ฝึกธนูกลางแจ้งเหมือนกัน รู้ไหมว่าเป็นผู้หญิงน่ะจะต้องรู้จักดูแล บำรุงผิว ลูกจะต้อง....’ เสียงของท่านแม่ยังคงดังก้องอยู่ในหัวมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนเซลีนเองก็คิดว่าแค่การทาครีมก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก แลกกับการฝึกดาบแล้วคุ้มกว่าเห็นๆ แถมยังได้ผิวดีอีกด้วย
หลังจากทาครีมบำรุงผิวเสร็จแล้วเด็กสาวก็คาดเข็มขัดที่มีกระเป๋าหนังใบเล็กๆเหน็บอยู่ด้วย เปิดเช็คความเรียบร้อยของของที่อยู่ในกระเป๋า ทั้งเครื่องเขียนและบัตรประจำตัวสอบ โดยไม่ลืมมีดพกเล็กๆที่พกติดตัวตลอดเวลา
เด็กสาวเดินออกจากห้องไป ผ่านส่วนข้างหน้าที่เป็นชั้นวางรองเท้า หยิบรองเท้าบู๊ตหนังยาวครึ่งแข้งออกมาสวม ก่อนจะเก็บรองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้านเข้าชั้นวางแล้วเดินออกจากห้องไป
เมื่อลงมาที่ห้องอาหารก็พบพ่อและแม่ของเธอนั่งรออยู่แล้ว เด็กสาวกล่าวทักทายก่อนจะนั่งลงบนที่ประจำของตน
“ทำไมวันนี้มากินข้าวเช้าเร็วจังเลยล่ะคะ”
“ก็พ่อกับแม่ตั้งใจจะมากินข้าวเช้าพร้อมลูกน่ะสิ” ท่านแม่ทัพใหญ่ตอบยิ้มๆ
“ใช่จ้ะ ก็วันนี้เป็นวันสำคัญของลูกนี่จ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เซลีนตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
“รถม้าพร้อมแล้วค่ะ” สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาบอกหลังจากที่ทุกคนกินมื้อเช้าไปได้สักพัก เซลีนรีบยกน้ำขึ้นดื่มจนหมดแก้ว หยิบผ้าขึ้นเช็ดปากก่อนจะพูดต่อว่า
“ถ้าอย่างนั้นลูกไปก่อนนะคะ เจอกันตอนเย็นค่ะ”
“ทำให้ดีที่สุดนะจ๊ะ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“พยายามให้เต็มที่นะ พ่อเชื่อว่าลูกทำได้....เพราะลูกคงไม่อยากเข้าไปจิบชาชมสวนในโรงเรียนกุลสตรีหรอก จริงมั้ย” ประโยคหลังผู้เป็นพ่อแอบพูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคน
ฝ่ายลูกสาวได้แต่ทำหน้าสยองขวัญ ยามจินตนาการถึงภาพตัวเองใส่กระโปรงฟูฟ่อง นั่งจิบชา ชมสวนและสะบัดพัดในมือเบาๆ
“ท่านพ่อเล่นพูดซะเห็นภาพอย่างนี้ ยังไงลูกก็ต้องสอบให้ติดสินะคะ”
“อะไรกันจ๊ะพ่อลูกคู่นี้”
“แฮะๆ ไม่มีอะไรหรอกค่า หนูไปก่อนนะคะ” เซลีนเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่และพ่อก่อนจะเดินขึ้นห้องโดยสารของรถม้าไป เด็กสาวโบกมือให้พ่อและแม่ขณะรถม้ากำลังเคลื่อนตัวออก หลังจากที่เคลื่อนตัวออกมาสักพักจึงทรุดตัวลงนั่งบนเบาะ
ห้องโดยสารของรถม้าที่เซลีนนั่งวันนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก พอแค่สองคนนั่งเท่านั้น มีม้าที่เทียมลากแค่สองตัว และสารถีหนึ่งคน บ้านของเธอมีรถม้าอยู่ทั้งหมดห้าคัน ขนาดสองที่นั่งหนึ่งคัน สี่ที่นั่งสองคัน และหกที่นั่งสองคัน ซึ่งจำนวนนี้นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะลำพังคันเล็กๆคันเดียวก็แพงมหาศาลแล้ว
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร มีทั้งชั้นวางของ ตู้เก็บของ ชุดน้ำชา ขนม เครื่องดื่มและของว่างต่างๆ เซลีนหยิบเหยือกนมสดที่ยังเย็นๆอยู่ออกมารินใส่แก้ว แล้วค่อยๆดื่มจนหมด โดยที่คอยมองตามสองข้างทางอย่างสนอกสนใจ
เมื่อเริ่มเข้าสู่เขตชุมชน พื้นถนนปูด้วยอิฐเป็นระเบียบ มีร้านรวงมากมายตามสองข้างทาง ตรอกซอกซอยต่างๆที่รถม้าไม่สามารถเข้าไปได้หนาแน่นไปด้วยผู้คนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย ตลาดโรเซีย[1]ในวันนี้ยังคึกคักเช่นเดิม
กว่ารถม้าจะออกจากเขตตลาดโรเซียได้นั้น ก็กินเวลาไปพอสมควรทีเดียว เมื่อออกจากเขตค้าขายก็จะพบกับทางแยก ตรงไปจะเป็นเขตที่รวมสถานที่ทางราชการของประเทศไว้ หากตรงเข้าไปในเขตนี้เรื่อยๆก็จะพบกับทางเข้าของวังโรเซสเซีย แต่หากจะไปโรงเรียนหลวงนั้นจะต้องเลี้ยวขวาไปเพื่อไปทางทิศเหนือของเมือง
เมื่อใกล้ถึงโรงเรียนหลวงการจราจรก็เริ่มติดขัดอีกครั้ง ด้วยจำนวนผู้เข้าสอบที่เรียกได้ว่ามหาศาล บวกกับการเดินทางภายในเมืองต้องอาศัยรถลากที่มีทั้งให้เช่าและส่วนบุคคล ทำให้ถนนหน้าโรงเรียนหลวงในตอนนี้แออัดไปด้วยรถลากสารพัดรูปแบบ
ทางด้านเด็กสาวผมสีน้ำตาลทองที่ยังนั่งติดแหงกอยู่ในรถลากนั้นเริ่มเกิดอาการอยู่ไม่สุขขึ้นมาหน่อยๆ ด้วยความที่ไม่ชอบอยู่กับที่เป็นทุนเดิม บวกกับเห็นช่องทางที่พอจะไปได้หากลงเดินนั้นทำให้เธอตัดสินใจเปิดกระจกที่กั้นระหว่างคนบังคับม้ากับห้องโดยสารแล้วพูดว่า
“คุณลุงคะ เดี๋ยวหนูลงเดินเองดีกว่าค่ะ น่าจะเร็วกว่า คุณลุงรอวนรถกลับแล้วกันนะคะ ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” พูดพลางยิ้มน้อยๆให้ ปิดกระจกกั้นแล้วเปิดประตูกระโดดออกจากห้องโดยสารไป ฝ่ายคนแก่กว่าก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ด้วยความที่ทำงานกับตระกูลนี้มาตั้งแต่ยังหนุ่ม นายน้อยแต่ละรุ่นเป็นอย่างนี้กันทุกคน เขาเพียงแค่พูดออกไปว่า
“โชคดีนะครับคุณหนู”
“ขอบคุณค่า” เซลีนที่ยืนอยู่ข้างล่างหันมาพูดขณะวิ่งเข้าข้างทาง
เมื่อเท้าสัมผัสกับฟุตบาท เซลีนก็ออกตัววิ่งทันที ด้วยความเร็วที่มากกว่าคนทั่วไปบวกกับความคล่องแคล่วเฉพาะตัว วิ่งลัดเลาะอยู่ไม่นาน ร่างระหงก็มายืนอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ที่มีตราสัญลักษณ์ของอาณาจักรโรเซสเซียสีทองติดอยู่ รอบข้างเธอเต็มไปด้วยเด็กวัยเดียวกันที่มีจุดมุ่งหมายคือการเข้าไปเรียนในโรงเรียนนี้เหมือนกัน เสียงรอบข้างแลดูวุ่นวายไม่น้อยแม้จะยังไม่ถึงเวลาเปิดประตู เซลีนยกกำไลข้อมือสายหนังขึ้นมาดู
“อีกสิบห้านาที...” เธอใช้เท่าเขี่ยดินทรายแถวนั้นเล่นไปเรื่อยด้วยไม่รู้จะทำอะไร บางครั้งก็เงยหน้าขึ้นมองผู้คนไปเรื่อย จนในที่สุดลานกว้างใหญ่หน้าประตูอันทรงเกียรตินี้ก็เต็มไปด้วยผู้คน
ไม่นานก็มีอาจารย์หนุ่มเจ้าของเรือนผมสีทองยาวที่ถูกมัดไว้หลวมๆกระโดดลงมาจากที่ไหนสักแห่งท่ามกลางความตกใจของทุกคน ดวงตาสีเขียวใสอยู่ภายใต้กรอบแว่นเล็ก สวมเสื้อคลุมสำหรับอาจารย์ที่มีสัญลักษณ์ของโรงเรียนปักไว้ด้านซ้าย และด้วยหน้าตาที่จัดอยู่ในเกณฑ์ดีมากจนทำเอาเด็กสาวหลายคนหน้าแดงเพียงแค่มองนั้นทำให้สามารถดึงดูดความสนใจจากคนนับพันได้อย่างง่ายดาย
“ยินดีต้อนรับทุกคนสู่การสอบคัดเลือกของโรงเรียนหลวงโรเซสเซีย” อาจารย์หนุ่มกล่าวด้วยท่าทางสบายๆและรอยยิ้มผ่านเครื่องขยายเสียง[2]ที่ถืออยู่ในมือ “ผมเนโร ซีเกล รับหน้าที่ชี้แจงเกี่ยวกับการลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์การเข้าสอบ จากที่ทุกคนได้ส่งใบสมัครผ่านลูกแก้วรับสมัครแล้ว ทุกคนจะได้รับรหัสประจำตัวสอบห้าหลักไป ให้ทุกคนเข้าแถวตามรหัสของตัวเองโดยดูจากป้ายที่อยู่ด้านหน้านี้...”
เป๊าะ! เสียงดีดนิ้วดังขึ้น จากนั้นก็มีป้ายยี่สิบใบโผล่ขึ้นมาลอยอยู่กลางอากาศ เขียนรหัสประจำตัวสอบห้าหลักเรียงไปเรื่อยๆ
“ใจเย็นก่อนครับทุกคน ฟังคำอธิบายให้จบก่อน เมื่อผมพูดเสร็จขอให้พวกคุณเดินไปเข้าแถวตามรหัสของตัวเอง เมื่อเป็นระเบียบแล้ว ประตูก็จะเปิด ที่พวกคุณต้องทำมีเพียงแค่เดินตามแถวนี้ไปยังโต๊ะที่วางลูกแก้วอยู่ ทางนั้นจะมีรุ่นพี่ดูแลอีกที ให้วางมือขวาลงบนลูกแก้ว เมื่อลูกแก้วทำการยืนยันเรียบร้อยแล้วจะเปล่งแสงสีเขียวออกมา จากนั้นก็รอให้ถึงเวลาสอบข้อเขียน สามารถไปรอหน้าสนามสอบได้เลย ที่ลานโรเซีย ตึกโรเซสเซีย เข้าไปถึงจะมีป้ายบอกทางอยู่นะครับไม่ต้องกังวล... หน้าที่ของผมตอนนี้ก็หมดเพียงเท่านี้ ขอให้โชคดีในการสอบครับ” จากนั้นอาจารย์หนุ่มก็กระโดดลอยตัวหายไป
...ช่างเป็นโรงเรียนที่ชอบสร้างความประหลาดใจเสียจริง...
หลังจากที่อาจารย์หนุ่มหายเข้ากลีบเมฆ(??)ไป ผู้เข้าสอบก็เริ่มมองหาแถวที่ตนต้องไปยืน ด้านเซลีน่าที่ดูเอาไว้ก่อนแล้วและแถวที่ต้องเข้านั้นคือที่ที่เธอยืนอยู่ทำให้เธอเดินมาเป็นคนต้นๆของแถว ใช้เวลาไม่นานผู้เข้าสอบที่เคยกระจัดกระจายก็เข้าแถวเป็นระเบียบ และประตูบานใหญ่ก็เปิดออก...
สิ่งที่อยู่เบื้องหลังบานประตู จะเรียกว่าอลังการก็คงไม่ผิดนัก เพราะถึงแม้เซลีนจะเคยเข้ามาดูการประลองเวทย์เมื่อหลายปีก่อนแล้ว แต่เธอก็ยังคงตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าอยู่ดี
มองจากหน้าประตูที่เธอยืนอยู่เข้าไป จะเห็นยอดแหลมของอาคารที่ทำจากหินอ่อน อาคารตรงกลางนี้คืออาคารโรเซสเซีย ถ้ามองจากภายนอกในระยะไกลจะเห็นเพียงส่วนยอดหอคอยสองฝั่งของอาคารนี้ ทางเดินภายในปูด้วยอิฐเป็นระเบียบ เล่นลวดลายและสีสันได้อย่างลงตัว มีต้นไม้และดอกไม้ทำให้สถานที่กว้างขวางนี้ดูร่มรื่น นอกจากอาคารที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางแล้ว จะมีอาคารสี่หลังอยู่ตามทิศต่างๆทั้งสี่ทิศ คือหอทั้งสี่หอของโรงเรียนนี้ โดยตั้งชื่อตามประเทศในอาณาจักรโรเซสเซีย คือ ทีเลเนีย ทางทิศเหนือ ไฮเดรนท์ ทิศตะวันตก เซเฟียร์ ทิศใต้ และออเคเดีย ทางทิศตะวันออก[3] ซึ่งถ้ามองจากตรงนี้จะไม่เห็นหอทั้งสี่นั้น
เซลีนเดินตามคนข้างหน้าไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าประตูฝั่งภายในโรงเรียน บนโต๊ะมีลูกแก้วขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กวางเรียงกันไป แต่ละโต๊ะมีนักเรียนของโรงเรียนในชุดเครื่องแบบสีต่างๆตามหอที่อยู่คอยทำหน้าที่ดูแลและให้คำแนะนำอยู่
“วางมือขวาลงไปบนลูกแก้วเลยจ้ะ นี่เป็นหมายเลขที่นั่งนะ เดินไปรอหน้าห้องสอบได้เลย เดินออกไปทางขวานี้แล้วเลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้วล่ะ ขอให้ได้มาเป็นรุ่นน้องพี่นะจ๊ะ” รุ่นพี่หน้าตาน่ารักพูดด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” เซลีนยิ้มตอบก่อนจะเดินไปตามทิศที่รุ่นพี่คนนั้นบอก ทางเข้าด้านหน้าคือส่วนที่ตั้งโต๊ะลงทะเบียน ทำให้เซลีนต้องเดินอ้อมขวาของอาคารโรเซสเซีย ตามทางเดินมีป้ายบอกทางเป็นระยะ ไม่นานก็ถึงหน้าทางเข้าขนาดใหญ่ที่มีป้ายติดด้านบนว่าลานโรเซีย
ลานโรเซียนี้ มีลักษณะเป็นลานกว้างที่อยู่ระหว่างตึกโรเซสเซียสองฝั่ง เป็นเหมือนลานอเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่างๆก็ว่าได้ มีหลังคาที่สามารถสั่งเก็บเมื่อไม่ต้องการใช้ ในวันนี้ลานกว้างมีโต๊ะยาวแบบไม่มีลิ้นชักวางเรียงเป็นระเบียบอยู่ทั่วทั้งลาน โดยผู้เข้าสอบยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในตอนนี้ หน้าป้ายชื่อสถานที่จึงเต็มไปด้วยผู้เข้าสอบที่ยืนรอด้วยความตื่นเต้น หลายคนจับกลุ่มพูดคุยกัน บางคนหลับตาพร้อมกับพึมพำอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“เอ่อ...สวัสดีจ้ะ” เสียงใสๆดังมาจากด้านข้างของเซลีน
“หวัดดีจ้ะ” เซลีนหันไปทักด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน
ข้างหน้าเธอคือเด็กสาวท่าทางเรียบร้อย ผมสีชมพูอ่อนทิ้งตัวยาวลงมาโดยปลายเป็นลอนน้อยๆ ดวงตาสีเดียวกับผมแลดูจริงใจ ส่วนสูงมาตรฐานของชาวโรเซสเซียที่น้อยกว่าเซลีนนิดหน่อย เซลีนหันไปยิ้มให้เด็กสาวเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าที่อยู่ด้านหลังของเด็กสาวผมชมพู ผมสีเงินถูกปล่อยยาวเช่นเดียวกัน ดวงตาดูเป็นมิตรและขี้เล่น ตัวสูงพอๆกับเซลีน เธอคนนั้นจึงพูดขึ้นว่า
“ฉันฟารีน่า แฟร์เซียร์ ยินดีที่ได้รู้จักจ้า” ฟารีน่าพูดพร้อมกับยิ้มให้ ดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย
“ฉันเชอร์ริเซีย คาร์วินด์ไลน์ ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” เชอร์ริเซียคือเด็กสาวผมชมพูอ่อนท่าทางเรียบร้อยและเป็นมิตร
“ฉันเซลีน่า แคร์เดสจ้ะ เรียกเซลีนเฉยๆก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
[1] ตลาดโรเซีย ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโรเซสเซีย กินพื้นที่กว่าครึ่งของเขตค้าขายของเมืองหลวงโรเซีย ของที่ขายมีตั้งแต่เครื่องประดับชิ้นเล็กๆไปจนถึงรถม้าคันใหญ่ มีของจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาขายมากมาย เปรียบเสมือนหัวใจหลักของเศรษฐกิจโรเซสเซีย
[2] เครื่องขยายเสียง มีลักษณะเป็นทรงกรวย เป็นการคิดค้นได้โดยบังเอิญของนักมายากลเวทมนตร์คนหนึ่งที่ได้ทำการทดลองใช้เวทย์เกี่ยวกับเสียงใส่ลงไปในสิ่งของต่างๆ เครื่องขยายเสียงนี้จะช่วยให้เสียงที่พูดออกมาดังขึ้น จะขยายเสียงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ ว่าจะเข้ากับเวทย์ได้มากน้อยเพียงไร มีขนาดมาตรฐานประมาณ1ฟุต
[3] อาณาจักรโรเซสเซีย ประกอบด้วยห้าประเทศคือ ทีเลเนีย ประเทศทางตอนเหนือ ไฮเดรนท์ ประเทศทางตะวันตก เซเฟียร์ ทางตอนใต้ ออเคเดีย ทางตะวันออก และโรเซสเซีย ประเทศที่อยู่กึ่งกลางของทวีป เป็นศูนย์รวมอำนาจของประเทศทั้งหมดอีกทีหนึ่ง
ความคิดเห็น