ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Security :: [Kris x Baek], [TAOHUN]

    ลำดับตอนที่ #3 : Second Code ::

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 56


     





    Code II ::


     

    ขณะที่นั่งใจลอยมองเป็ดว่ายน้ำในทะเลสาบจำลองของหมู่บ้าน พยอนแพคฮยอน(ผมเอง)ก็นึกอยากซาลาเปาหมูสับไข่เค็มขึ้นมา ซึ่งหาที่มาที่ไปเกี่ยวกับสระน้ำและเป็ดไม่ได้แต่ประการใดเลย มองซ้ายมองขวาสองขาที่ไม่ได้สั้น แต่ก็ไม่ได้ยาวมากก็ออกตัวถีบจักรยานคันเก่งไปยังร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย

     

    แว้นซ์ผ่านลูกระนาบมาแค่แป๊บเดียวก็ถึงที่หมาย        ร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24ชั่วโมงทอแสงนวลตาอยู่ไม่ไกล  ผมมองหาฟุตบาทที่สูงพอจะเทียบขาแตะพื้นได้ก็จัดการปราดรถเข้าไปขนาบเพื่อทำการจอด (ปกติถ้าไม่มีพี่สูงพอ ผมจะสละจักรยานด้วยการกระโดดออกจากที่นั่งเป็นการจอด ทั้งนี้ทั้งนั้นพยอนแพคฮยอนไม่ได้เตี้ยแต่ประการใด เป็นเพราะจักรยานประจำตำแหน่งยามมันสูงเกินไปต่างหาก)

     

                    “ซาลาเปาหมูสับไข่เค็มลูกดิพนักงานในชุดเขียวอ่อนลายทางยิ้มโชว์ฟันครบ 32 ซี่ เด่นจนแสบตารับออเดอร์อย่างคุ้นเคยแล้วคีบซาลาเปาสีขาวแต้มสองจุดใส่ถุง

    เอามา 2 เลยใครมันบังอาจมาลอกเลียนแบบเมนูของท่านแพคฮยอนฟระ 

    แว้กก ทำไมฟ้าต้องรังแกคนเท่ห์ๆ อย่างผมด้วยการส่งไอ้นี่มาบดบังรัศมีกันด้วย

                    “ใส่รวมไปเลยเนอะคริสอ้าว แล้วชานยอลมันไปรู้จักมักจี่อะไรกะเค้าด้วย   ทำไมต้องมาเหมารวมว่าผมต้องกินน้องซาลาเปากะไอ้หล่อนี่ด้วยล่ะ

    น้ำส้มด้วยใช่มั้ย ผมเลี้ยงนะถึงจะดีใจที่มีคนเลี้ยงซาลาเปาฟรีๆ แต่พยอนแพคฮยอนก็ยังสงสัยอยู่ดีนะครับว่าเลี้ยงตรูทำไม?

    เอาน้ำสตอเบอรี่ดีกว่า วันนี้โครโมโซม X ที่มีในตัวครึ่ง นึงเกิดไม่อยากทำงานขึ้นมาซะอย่างนั้น ขอเลี่ยงไม่กินน้ำนางเอกดีกว่า (น้ำสตอเบอรี่เหมาะสำหรับคนแมนๆ อย่างเรามาก)

     

    ผมกลับมานั่งดูเป็ดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นั่งอยู่เบาะหลังของจักรยานตัวเองที่ถูกไอ้หล่อยึดไปขับ

    การนั่งหันหลังให้คนขับแล้วกัดซาลาเปาไปมันไม่เลวหรอก 

    ล้อเล่นก็ได้  มันจะเลวนิดหน่อยก็ตรงอิลูกระนาบที่ผมมองไม่เห็นนี่แหละ กระแทกไปทีมดลูกแทบเคลื่อน(หมายถึงถ้าผมมีอะนะ)  เอามือเกาะเบาะไว้แทบไม่ทัน ถ้าไอ้หล่อมันขับเร็วกว่านี้อีกนิด ผมอาจจะกระเด้งลงไปดั้งฟาดกับลูกระนาบถนนก็เป็นได้

    วนครบสามรอบแล้วขึ้นเผาเลยมะ?” ผมประชดครับ   ไอ้หล่อนี่มันขับวนรอบทะเลสาบจำลองเลยป้อมผมมาสามรอบพอดิบพอดีแล้ว

    ดีนะที่มันวนซ้าย วนขวานี่ได้ขึ้นเมนพร้อมเผาแหงๆ

    หวงจักรยานเหรอ?”

    ไม่ได้หวง แต่ชั้นต้องกลับไปทำงานแล้ว ขอบคุณที่เลี้ยงซาลาเปานะเอ้าฮึบ! ด้วยทักษะเจ๋งๆ ผมกระโดดผล็อยลงจากจักรยานได้อย่างสวยงาม

     

    ทักษะอะเจ๋งจริง แต่คนเรามันก็มีพลาดพลั้งกันได้บ้าง พอเท้าแตะพื้นเท่านั้นแหละ แรงกระแทกบวกกับแรงจีทำเอาข้อเท้าผมเจ็บปลาบ โอ๊ะ เจ็บจนต้องลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นเลยทีเดียว

     “เป็นอะไรทำไมมันอิมเมจผิดกันจังวะ ตอนหมอนั่นบิดจักรยาน 180 องศา แล้วกระโดดทิ้งตัวลงมาอย่างเท่ห์มาประคองผมให้ลุกขึ้น

                    “อ๊ะ เจ็บนะ!พอผมพยายามจะยืนขึ้น ข้อเท้าก็ปวดจี๊ดๆ จนแทบยืนไม่ไหว ไม่ได้สำออยนะครับแต่ตอนนี้ผมต้องรบกวนให้ไอ้คุณชายมันประคองผมเอาไว้ซะแล้ว

    ไม่น่ากระโดดลงไปเลย มันอันตรายรู้มั้ยครับ กูเข้าใจว่ากูผิดครับ ทำไมต้องดุด้วยฟระ

    ใครมันจะไปรู้ว่ากระโดดแล้วเจ็บล่ะ  แล้วก็ปล่อยด้วย ชั้นเดินเองได้ไอ้เดินเองน่ะเดินได้ครับ แต่มันกะเผลกๆ นิดๆ ราวกับพิการชอบกล

    ไปหาหมอกันเฮ้ย!! ชีวิตนี้ไอ้หล่อมันเคยหยุดฟังอะไรรอบตัวมันบ้างครับ ตอนแรกก็แย่งจ่ายค่าซาลาเปา แย่งจักยาน แถมยังแย่งเอามือผมไปกุมแล้วประคองไปทิศตรงข้ามกับป้อมยามอีก

    ฟังตรูบ้าง!!

    อย่างน้อยขอกลับไปเอากระเป๋าที่ป้อมยามบ้างก็ยังดี


     

     

     

    ไอ้รถยนต์คันหรูมันก็นั่งสบายอยู่หรอก แต่ผมตะขิดตะขวงใจนิดหน่อยตอนขึ้นตอนลงรถนี่แหละ ย้ำนิดนึงนะครับว่าผมข้อเท้าเจ็บ ไม่ได้พิการ จะขึ้นจะลงก็ตะกายเองได้

    คังอินอัปป้าสอนมาให้อดทนเข้มแข็งมีชั้นเชิงกล้าแกร่ง  โคบาล โคบาล~ (ร้องทำไม??) 

    ไม่ต้องอุ้มขึ้นอุ้มลงก็ได้ ตรูเขิ๊นนนน

    ต้องผ่าเลยหรือครับหมอ!!เวรของกรรม ของความซวยอะไรกันนี่ ทำไมผู้ชายที่มีอิมเมจหล่อเหลา ร่างกายกำยำล่ำสันและแข็งแรงอย่างผมต้องมาเข้าโรงพยาบาลเพราะกระดูกข้อเท้าร้าวจากการโดดลงจากจักรยานด้วยเนี่ย

    มันจะขี้โรคเป็นนางเอกเกาหลีเกินไปมั้ย?

     

    ด้วยประวัติการใช้ชีวิตของผมห่างไกลจากโรงพยาบาลหลายกิโลแม้ว อยู่ๆ ต้องมาผ่าตัดเพราะกระโดดลงจากจักรยานผิดท่าเลยทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่  หวังว่าตอนท้ายเรื่องผมคงไม่อยู่ๆ ก็เป็นลูคีเมียขึ้นมาอีกอย่างนะเฟร้ย

    ไม่ใช่เพราะการล้มครั้งนี้เพียงอย่างเดียวหรอกครับ แต่เพราะอาการมันสะสมจากการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแพคฮยอนอยู่แล้ว  พอมาประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยมันเลยแสดงอาการออกมาทันที  หมอแนะนำให้รักษาเพื่อให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ปกติเร็วที่สุดจะดีกว่าครับหมอหล่อนะครับ แต่คำพูดคำจานี่โหดชะมัด   ไอ้หล่อก็พยักหน้ารับหงึกๆ ท่าเดียว ไม่ยักกะออกความเห็นอะไร

    ขอผมโทรบอกคุณพ่อก่อนได้มั้ยฮะ พ่อผมคงตกใจขนาดผมยังตกใจเลย พ่อผมคงตกใจด้วยแหละ ผมเป็นลูกสุดที่รักคนเดียวของพ่อนะ

     .
    .
    .
    .
    .

    พ่อว่าไงครับ

    ผ่าเลยสะเทือนใจมากด้วย ไอ้คนหล่อยิ้มกริ่มแล้วก็จูงมือแถมสอดแขนเข้าประคองผมกระแด๊กๆ ไปรายงานหมอ

    นอกจากจะไม่ตกใจแล้ว พ่อผมยังแนะนำให้ผ่าซะให้เรียบร้อยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ อีก นี่ผมเป็นลูกพ่อน้า~

     

    โชคดีนิดนึง(?) ที่ต้องรอคิวรับการรักษาพยาบาลครับ ผมมีนัดผ่าอีกทีก็อาทิตย์หน้า แต่หมอกำชับว่าผมต้องมาให้หมอดูใจทุกวันเพื่อเช็คสภาพเท้าของผม

    เรื่องน่าตกใจถัดมาคือผมเหลือบเห็นเอกสารการรักษาตัวของผมลงชื่อ คริสวู เป็นเจ้าของไข้

     “ชั้นเซ็นต์เป็นเจ้าของไข้ตัวเองหรือไม่ก็รอให้พ่อเซ็นต์ก็ได้ นายไม่ต้องลำบากหรอก

                “ถ้าผมไม่บังคับเอาจักรยานคุณมาขี่ คุณก็คงไม่ต้องเจ็บตัวหรอกครับ อย่าเกรงใจเลย มันเป็นความผิดของผมเองพระเอกมากๆ  ใครก็ได้เรียกคุณแดง  หรือเจ๊จิ๋มมาเอามันเข้าสังกัดที

                    ตลกน่า หมอบอกแล้วว่ามันเป็นสะสมมา ไม่ใช่เพราะนายซะทีเดียวหรอก

                    “ครับคริสรับคำยิ้มๆ แต่ก็ไม่ยอมทำอะไรต่อ ปล่อยผมยืนพิการเอาไว้หน้าห้องจ่ายยาแล้วก็เดินอมยิ้มไปเอารถเข็นซะงั้น  เฮ้ย แน่จริงกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนเด่ะ

     

     

    นรกรังแกผม  ไม่เลย ไอ้หล่อต่างหากที่รังแก  มันขับรถช้านรก   ถามมันมันก็บอกไม่กล้าขับเร็วเพราะกลัวขาผมกระเทือน ขอบคุณมาก แต่ขอย้ำผมไม่ได้บอบบางขนาดนั้น

    แถมแทนที่จะกลับบ้านเลยไอ้หล่อมันดันเลี้ยวกลับมาแถวที่ทำงานผมก่อนอีก  เสียบรถไว้หน้าเซเว่นที่เดิมที่เจอมันก็วิ่งแท่ดๆ ลงไปให้ผมงงเล่นอีก

    ความงงของผมยังไม่กระจ่าง  คริสออกมาคุยนอกร้านกับชานยอลงุบงิบๆ ไอ้ครั้นจะลงไปขอเสือกอย่างเป็นทางการด้วยก็ติดว่ามันคาดเข็มขัดล็อกผมไว้แน่นหนา หรือเหตุผลจริงๆ ก็คือผมขี้เกียจเดินกะเผลกลงไปนั่นเอง ไอ้ตอนลงเองน่ะผมลงได้ไม่มีปัญหา

    แต่อีขาขึ้นเนี่ยโดนไอ้หล่อมันหิ้วขึ้นรถอีกรอบแน่ๆ

     

    คิดได้ดังนั้นผมก็เลยนั่งมองมันคุยกับชานยอลไปพลางๆ ก่อนละกัน

     

     

     

     

     

    การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี  ต้องขอขอบคุณวิวัฒนาการทางการแพทย์สมัยใหม่บวกกับยาสลบและยาชามากๆ ครับ

    ผมตื่นมาแหกปากร้องครวญครางในสายของอีกวันนึง (ซึ่งจริงๆ แล้วผ่าตัดเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตอะไร) คุณพยาบาลส่งยิ้มโหดๆ มาให้ผมทีนึงแล้วก็ทิ้งผมไว้กะทีวี

    ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจว่าเธอไม่อยากจะอยู่กับผมสองต่อสองมากไปกว่านี้ ไอ้ความหล่อความเท่ห์ของพยอนแพคฮยอนมันเคยปรานีใครเสียที่ไหน ใช้อากาศร่วมกันหายใจแล้วมาหลงผมง่ายๆ ล่ะก็แย่เลย

     

                    นอนดูการ์ตูนเน็ทเวิร์คอยู่ชิลๆ ประตูห้องผมก็ถูกรบกวนด้วย  ด้วย  ด้วย.......

     

    ฟิคฯเรื่องนี้มีภูตผีปีศาจมั้ยครับ?

    ถ้ามีผมจะได้สบายใจว่าไอ้ที่อยู่หน้าห้องมันเป็นปีศาจปากคลองตลาด!!  ตะกร้าดอกไม้บ้าอะไรเนี่ยทั้งใหญ่ทั้งสูงเกินไปแล้วนะ

                    “หายปวดรึยังเบื้องหลังปีศาจดอกไม้คือไอ้หล่อครับ วันนี้มันหล่อมากกว่าเดิมอีกเพราะมีแบลคกราวน์เป็นป่าดอกกุหลาบสีขาวที่มันหิ้วมา

    มะ  เอ่อ...ไม่ปวดแล้ว..

    มีใครบอกมันรึเปล่าครัวว่าผมกลับมาปวดอีกแล้ว  แต่ไม่ได้ปวดตรีนนะ ตอนนี้มันปวดใจ ใครสั่งใครสอนให้มันยิ้มละมุนแบบน้านนน   โอ๊ย ใจเต้นซะม้ามกระเทือนเลย

    ยังไม่ทานข้าวอีกหรือ  แล้วอย่างนี้ก็ยังไม่ได้ทานยาซิวิญญาณนายแพทย์เข้าสิงมันทันทีครับ ไอ้ที่ผมยังไม่ได้กินข้าวน่ะไม่ใช่ว่าไม่หิวนะครับ  แต่ครั้นจะกดโฟนเรียกคุณพยาบาลมาเข็นรถอาหารที่ตั้งอยู่มุมห้องโน่นก็กะไรอยู่  เลยนอนมองตาปริบๆ อยู่บนเตียงเพราะไอ้พี่จงอินมันว่ามันจะมาเยี่ยมตอนบ่ายโมง

    นั่นไงว่าแล้ว ไอ้หล่อมันลากเอาโต๊ะกับข้าวมาแล้วจัดการเซ็ทติ้งเตียงให้หลังผมตั้งตรงเสร็จสรรพด้วยนะ เอาเล้ย ไม่มีอะไรจะเสียแล้วพยอนแพคฮยอน  ป้อนข้าวตรูด้วยเลยเป็นไงล่ะ

     

     

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าไปท้ามันครับ ไอ้หล่อมันลากเก้าอี้มาขนานกะเตียงนอนแล้วก็จัดการจ้วงช้อนลงในข้าวต้มเป่าแล้วเตรียมป้อนจริงๆ ผมล่ะอ่อนใจ

    แค่กระดูกขาร้าว ไม่ได้เป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย ไม่ต้องป้อนก็ได้นะ

    งั้นก็กินเยอะๆ นะ จะได้หายไวๆกินเยอะอาจจะไม่ได้หายไวหรอก

    ระดับท่านแพคฮยอนแล้วกินเยอะไปอาจจะอ้วนได้นะครับมึง 

     

    อาหารโรงพยาบาลไม่อร่อยเลย บวกกับอาการปวดขาหนึบๆ แล้วทำให้ผมกินไป 3คำถ้วนก็เบื่อ คริสที่จัดดอกไม้ใส่แจกันอยู่คงสังเกตเห็นมันเลยวางดอกไม้ในมือ

    ยังไม่หมดเลย กินอีกหน่อยซิ

    ไม่เอาแล้ว ไม่เห็นอร่อยเลย

    อย่าดื้อซิ ทานให้หมดนะ จะได้หายเร็วๆ

    เอ่อ สังเกตมั้ยครับว่าบทสนทนามันดูเหมือนอาจารย์ประจำชั้นกับเด็กอนุบาล 2 อายุ 5 ขวบชอบกล

    ผมมองสีหน้าอ่อนโยนที่คนปกติชอบให้กับเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงด้วยสีหน้าหวาดระแวงก่อนจะลงมือกินๆ มันให้หมดๆไป

    ยอมกินของไม่อร่อยดีกว่าทนมองสีหน้าอ่อนละมุนละไมของมัน นานกว่านี้ไม่ไหว เสียแน่ๆ... ไม่ใจก็ตัวและว้า

    ผมกระเดือกอาหารอ่อนจนเกลี้ยงในที่สุด พยาบาลสวยดุก็กลับเข้ามาอีกครั้งแล้วจัดแจงให้ยา ครั้งนี้ชีอ่อนโยนกว่าเดิมขึ้น 785 เท่า ไม่แน่ใจว่ายอมใจดีกับผมแล้วหรือเพราะออร่าไอ้หล่อ  ทำให้ชีว่านอนสอนง่าย

     
     



     

    มวลเถาวัลย์ป่าใบเขียว คดลดเลี้ยวพันเกี่ยวคบไม้ใหญ่  ฝูงมัจฉาว่ายแหวกน้ำใส เวียนวนไปภายในสายวารี มวลบุปผชาติ ดาษเนินเขางาม แลสะพรั่งแทรกตามหินทุกก้อนมี สาวแม้วแฉล้ม แก้มสดสี กายใจพลีให้ชายเชื้อชาติไทย

                    “ไม่จินตลีลาประกอบเพลงด้วยล่ะ

    ไอ้ผู้ชายพวกนี้ ผมบอกแล้วว่าอย่าท้าครับ มันทำท่าจะเอาจริง เห็นหล่อๆ อย่างพี่จงอินอย่างนี้ก็เหอะ  

    พอเหอะ อุบาทว์ เดี๋ยวกระเทือนเข้าแผลที่ขาเป็นบาดทะยักทั้งนี้ทั้งนั้น จินตลีลาของพี่จงอินมีอนุภาคพอๆ กับน้องจ๊ะ วงเทอร์โบ  เห็นแล้วปวดแผลสิ้นดี

    ใครแม่งยกป่าเบญจพรรณมาไว้ในห้อง คริสมึงหรือ?” มันเลยครับพี่ มันยกเอากุหลาบพวกนั้นมา ไม่นับต้นสนสามใบของเมื่อวานแล้วก็ต้นไร้ก็ไม่รู้ในกระถางวันก่อนด้วย

    เออ กูเอง

    นอนดีๆ ล่ะแพคฮยอน เดี๋ยวละมั่งเดินหลงออกมาขวิด

    ไอ้ตลกน่ะก็ตลกอยู่ แต่ผมไม่ได้ขำ พี่จงอินก็เลยจบมุขลงด้วยการเดินไปหยิบแอปเปิ้ลมากินแทน

     




     

    สรุปว่าห้องกรูเป็นมีทติ้งรูมของผู้ชายตัวสูงหรืออย่างไร?

    ตามคติที่ว่าที่ใดมีคิมจงอิน ที่นั่นมีหวงจื่อเทา ใช้เวลาไม่นานเมียหลวงของพี่จงอินมันก็เสด็จมาแย่งอากาศหายใจในห้องพักของผม  แต่รายนี้ยังมีน้ำใจนิดนึงตรงมันหิ้วขนมมาฝากด้วย ไม่ใช่แค่มาเนียนกินฟรีอย่างบางคน(เหล่ตาไปมองคิมจงอิน)

     

    กำลังเข้าสู่ช่วงให้ศีลให้พรเพื่อให้ผมห่างหายจากโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้าอยู่ ประตูห้องก็เปิดผัวะออกแล้วปรากฏร่างที่เหมือนจะคุ้นตา

    แต่ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่เพื่อนผม 

    ตัวละครสวยดุกลับมาแล้วครับ

     

    พี่คริส! พี่หายไปตั้งหลายวันเพราะอย่างนี้ใช่มั้ย

    เซฮุน นี่โรงพยาบาลนะ ลดเสียงลงหน่อย รบกวนคนไข้

    ผ่าขานี่ ไม่ได้ผ่าหู จะได้ต้องการความสงบ

    โอเซฮุน!คนดุไม่ใช่ไอ้หล่อครับ (แม้ผมจะแอบเชียร์ให้มันตวาดมนุษย์นกหวีดบ้างเล็กๆ ก็ตาม) พี่จื่อเทาเขกกะบาลด้วยกำปั้นหลวมๆ อีกทีทำเอาคนสวยดุหน้าเหวอไปเลย

    อย่าทำแบบนี้อีก ถึงจะเอาแต่ใจมันก็ต้องมีขอบเขตบ้าง  กับพวกพี่นายอาจจะคิดว่าเอาแต่ใจได้ แต่ในห้องนี้มีแพคฮยอนอยู่ด้วย เราเป็นคนนอกต้องให้เกียรติเค้า พี่ดุเราเพราะไม่อยากเห็นเราเป็นเด็กไม่ดี   แพคฮยอนจะเอาไปนินทาลับหลังได้ประโยคของไอ้พี่จื่อเทา   แม่งค่อดจะแมน แต่หักคะแนนความเลวตรงประโยคสุดท้ายนิดนึงนะครับมึง
     

    ไม่นินทาเว้ย”  

    แต่ก็เป็นเพราะประโยคปราม(เกือบ)เท่ห์ของพี่จื่อเทานั่นแหละที่ผมต้องอมยิ้ม เพราะโอเซฮุนเด็กดีของพี่จื่อเทาพึมพำคำ     ขอโทษออกมาด้วยสีหน้ากระเง้ากระงอด อิดออดแต่จริงใจ

    ผมยิ้มให้แล้วบอกไม่ถือสาหรอกกลับไปด่าผมเหมือนเดิมก็ได้ พี่ๆ ก็หัวเราะกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ไอ้หล่อ(ที่ไม่รู้ว่ามันแก่กว่าผมรึเปล่า  คงแก่กว่าแหละถ้ามันรุ่นเดียวกับพี่จื่อเทากับพี่จงอินอ่ะนะ)

     
     

    โอเซฮุนและหวงจื่อเทาจากไปแล้ว(มาเร็วเครมเร็วยิ่งกว่าศรีสวัสดิ์ เงินติดล้ออีก) คิมจงอินก็กำลังจะจากไป

    ผมยืนยันว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในห้องได้ (กรูเป็นยามมาก่อนนะเว้ย) แต่คริสก็ไม่ยอมไปไหนเสียที เวียนว่ายตายเกิดไปตามจุดต่างๆ ของห้องจนหมอเข้ามาดูอาการ

    หมอบอกว่าแผลผมดีขึ้นแล้ว จะออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้เลยก็ได้ ผมเซย์เยสทันทีเพราะเบื่อที่นี่จะตายอยู่แล้ว แต่ออกไปได้หมอก็สั่งห้ามผมเดินเต็มเท้าหรือวิ่งเล่นไปก่อนซักสัปดาห์ ผมเซ็งนิดหน่อยแต่อย่างน้อยก็ได้ออกจากโรงพยาบาล  แหละน่า

     
     

     
     

    สวัสดีครับเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ท่านพ่อของผมเองครับ!! ท้าดา คังอินอัปป้า~ (ในที่สุดก็มีบท) พ่อเปิดห้องเข้ามาตอนหมอมาตรวจพอดี คุณหมอเลยต้องเสียเวลาอธิบายลักษณะอาการของผมให้หมอฟังอีกรอบ

    อาการที่แท้จริงก็คือกระดูกข้อเท้าของผมร้าวครับ ถึงจะลึกไม่มากแต่อยู่ในขั้นที่ปล่อยเอาไว้จะเป็นอันตรายถึงขั้นแตกหักได้  คุณหมออธิบายว่าการผ่าตัดเพื่อรักษาเบื้องต้นผ่านไปด้วยดี  ให้ทุกคนที่ห่วงใยผมเข้าใจ

    แล้วจะเดินได้เหมือนเดิมมั้ยครับ ท่านพ่อที่เลี้ยงดูผมมาแต่อ้อนแต่ออกถามอาการคุณหมอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

    ครับ แผลเล็กนิดเดียว (แต่ค่าผ่าแพงสาหัส) แค่อาทิตย์เดียวก็กลับมาวิ่งซนได้เหมือนเดิมครับ เอ๊ะ ทำไมหมอต้องว่าผมซนด้วย ผมเป็นเด็กดีจะตาย

    งั้นก็ไม่ต้องซื้อวิลแชร์เนอะ

    จะซื้อทำไม ผ่าแค่นิดเดียวเองพ่อ

    ว้า~ อดซื้อมาปั่นเล่นเลยเนอะ นี่ล่ะครับพ่อผม  -*-  ตัวโตเป็นคิงคองก็จริง แต่ลุงแกขี้เล่นมาก (ลูกถึงได้โตมาร่าเริงสดใสอย่างนี้) ทำสีหน้าเสียดายที่ผมไม่ต้องซื้อวิลแชร์จริงจังด้วย

     

    หลังจากกำชับให้ผมทานยาและออกกำลังกายตามสมควร คุณหมอก็ออกไปตรวจคนไข้รายอื่นต่อ เหลือแต่ผม พ่อ และว่าที่ลูกสะใภ้ (จะดีเร้อ?) อยู่กันตามลำพัง

    ตามนิสัยพ่อแล้ว พ่อเป็นคนชอบมองคนตั้งกะกะบาลยันปลายเท้าด้วยสายตาโคตรจะดุ ผมว่าคริสก็คงกลัวไม่น้อย   ขนาดตอนพี่จงอินเจอพ่อผมครั้งแรก มันสารภาพว่าฉี่แทบเล็ดแน่ะ (ลูกชายหล่อก็เงี้ย พ่อหวงเป็นเรื่องธรรมดา)

    สวัสดีครับ ผมคริสวู ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการครับ

    นายน่ะเหรอที่เป็นธุระเรื่องการผ่าตัดของเจ้าแพคฮยอน

    ครับพ่อ คริสเป็นเพื่อนของพี่จงอินกับพี่จื่อเทาด้วยครับ เราเลยรู้จักกัน

    แล้วรู้จักกันถึงขั้นไหนล่ะ ถึงมาเป็นเจ้าของไข้ให้

    โอ้ว นั่นซิ รู้จักกันขนาดไหนฟระเนี่ย ผมกับไอ้หล่อนี่นับญาติกันจริงๆ ก็เพิ่งจะเจอกันไม่เกิน 8ครั้งถ้วน แถมแต่ละครั้งก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันซะขนาดนั้นด้วยซิ 

    ผมเป็นต้นเหตุทำให้กระดูกขาของแพคฮยอนร้าวน่ะครับ ต้องขอโทษคุณคิมด้วยที่ดูแลลูกชายคุณไม่ดีและทำให้บาดเจ็บ ผมอยากจะชดใช้ในส่วนนั้นจริงๆ ก็เลยขอเป็นเจ้าของไข้ของแพคฮยอนครับดีมาก รู้จักสำนึกบ้างนะว่าทำให้ท่านแพคฮยอนเจ็บ แบบนี้ค่อยฟังขึ้นหน่อย

    ไอ้เรื่องเจ็บตัวน่ะไม่เท่าไหร่หรอก ลูกชายชั้นมันก็ทโมนเป็นลิงเป็นค่าง เรื่องที่จะมารับผิดชอบน่ะถือว่ามีสปิริตดี   แต่ลูกชายชั้นเค้ามีพ่อ ชั้นดูแลลูกชายชั้นในส่วนนี้ได้เอาแล้วไง สวมวิญญาณเหี้ยมอำมหิตแล้วพ่อตรู กรี๊ด ถ้าผมเป็นคริสวูนี่ไม่ขรี้ไป 4 วันเลยนะ น้ำเสียงน่ากลัวค่อดๆ

    ต้องขอโทษด้วยครับที่ผมก้าวก่ายดีมากไอ้หล่อ รู้จักอ่อนน้อม ขอโทษขอโพยผู้ใหญ่ไว้ก่อน เก่งมากๆ (เอามือลูบหัว)

    ได้ยินว่านายทำงานกลางคืน

    เปิดร้านกลางคืนน่ะครับ” พ่อครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยฟระ

    ทำธุรกิจแบบนี้มันมีความเสี่ยงนะ แถมยังอันตรายอีก

    โถ่พ่อคนเราต้องกินต้องใช้ อาชีพอะไรก็ทำๆ ไปเถอะ อันตรายนิดหน่อย หน้าอย่างไอ้หมอนี่มันรอดอยู่แล้วแหละ

    ผมทราบครับ

    ทำงานกลางคืนแถมยังเป็นที่อโคจรน่ะมันต้องระวังตัวมากๆถึงจะดูเป็นงานไม่ดี แต่คริสก็เป็นคนดีนะพ่อ(อันนี้ผมเชียร์คริสมันอยู่ในใจนะครับ)  ไปขู่เค้าแบบนี้ เค้าจะหาว่าเราเป็นมาเฟียได้ ดูซิ ไอ้หล่อมันยิ้มซีดแล้ว

    มีคนคุ้มกันไว้ก็ดี ทางบ้านเราเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย ทางร้านน่าจะต้องการ โทรมาจ้างด้วยละกัน นี่นามบัตร”  

    !!!! ขายของกันดื้อๆ แบบนี้เลย 

    คริสที่หน้าซีดๆ อยู่หวอไปเลย (ตรูก็เหวอ) ไรฟระพ่อ นึกว่าจะโหด จะเหี้ยม จะหวงลูก ที่ไหนได้ ไปขายของเค้าอีก

    ขอบคุณครับ แล้วผมจะโทรติดต่อไปนะครับคุณคิม

    ช่วงอาทิตย์นี้ยังไม่ต้องโทรมาหรอก จะไม่อยู่น่ะ ว่าจะไปช่วยเพื่อนดูงานที่ลิเบียซะหน่อย อ้อ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ฝากดูไอ้แพคฮยอนมันด้วยละกัน ไอ้นี่ถึงจะซนไปหน่อยนึงแต่ก็ไม่ถึงขั้นเลวร้าย  ถ้าดื้อมาก ชั้นอนุญาตให้ตีได้

    พ่อ!!!!แง่มมมมมม นี่มันจะมากไปแล้วน้า เค้าไม่ซนซะหน่อย

    ครับผมไม่ต้องมายิ้มรับเลยไอ้หล่อ  


    โว้ยยยยย ขัดใจ!!!!





    TBC..

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×