ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Security :: [Kris x Baek], [TAOHUN]

    ลำดับตอนที่ #2 : First Code ::

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 56


     



    Code I ::


                  เย็นย่ำอาจจะเป็นเวลาของใครต่อใครที่จะได้กลับบ้านไปพักผ่อน  ผิดกันกับพยอนแพคฮยอน ชายหนุ่มบิดขี้เกียจจากที่นอนนุ่มๆ ที่ใช้นอนมาทั้งวันขณะที่คนอื่นๆ ออกจากบ้านไปทำงานกัน  พอล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวเรียบร้อย  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านก็คว้าเอาจักรยานคันเก่งปั่นไปเข้ากะต่อจากคุณลุงมีอินทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลางานของตัวเอง


    ก็แดดมันร้อนนี่ครับเหตุผลกำปั้นทุบดินตามเคยเมื่อคุณลุงวัยเฉียดหกสิบเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่ชอบมาก่อนเวลาทำงานแล้วไล่คุณลุงให้กลับบ้านไปก่อนเวลา คุณลุงยิ้มให้เด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดู

    ตอนกลางคืนก็หนาว อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ ล่ะไอ้หนู

    แพคฮยอนโค้งเก้าสิบองศารับคำพลางหัวเราะเก้อๆ ไอ้นิสัยขี้หนาวที่ใครๆ ชอบเอามาล้อนี่มันทำให้เค้าดูไม่แมนซักเท่าไหร่(อันนี้รับไม่ได้จริงๆ) แพคฮยอนรับเอาน้ำใจจากคุณลุงเพื่อนร่วมงานเอาไว้แล้วก็จัดแจงเริ่มทำหน้าที่ประจำของทุกวัน


     

     
     

    พี่คริส นัดกี่โมง!!ผู้ชายตัวยาวสะดุ้งจนตุ๊กตา    ชินนามอนโรลที่กองอยู่บนเตียงหล่นกระจายไปทั่วพื้น

    หืม? อะไรนะ?

    ที่นัดไว้น่ะกี่โมง คุณลุงเค้ามารอแล้วนะ คริสวูพลิกข้อมือพลางหยีตามองพรายน้ำที่หน้าปัด

    ชิบหายแล้ว เดี๋ยวจะรีบไปภายใน 15 นาทีนี้แหละ บอกให้คุณลุงรอก่อนแป๊บนึงนะ หากเห็นภาพคนฟังก็คงสามารถสบายใจได้เพราะคริสกำลังลนลานคว้าเอาเสื้อผ้าใกล้มือมาสวมลวกๆแล้วไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะโผทะยานไปยังเบนลี่คู่ใจ

    ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่เกิน 4 นาทีพอดีเป๊ะตั้งแต่ร่างสูงวางโทรศัพท์ลง

     

    คริสวูเป็นคนใจเย็นและรักคน สัตว์ สิ่งของ และสภาพแวดล้อมยิ่งชีพ  ยกเว้นวันนี้ เค้าเกลียดลูกระนาบบนถนนในหมู่บ้านจริงๆ ให้ตาย  ถ้าเป็นไปได้อยากจะลากไปกองรวมกันที่ท้ายซอยแล้วบึ่งออกไปยังร้านให้เร็วที่สุด เค้าไม่ชอบผิดนัดโดยนิสัยแต่วันนี้กลับเสร่อนอนตื่นสาย  เรื่องนี้ขัดใจเค้ามากทีเดียว

     

    ปี๊นนนนนนนนนนนน

     

    เบนลี่เจ้าเก่าที่แพคฮยอนเขม่นดูสง่างามจนไร้ทางสู้อยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์สุดท้ายของวัน วันนี้มันยังเพิ่มเลเวลความน่าหมั่นไส้ด้วยเสียงแตรดังยาวปวดรูหูเพื่อเร่งให้เค้ายกที่กั้นขึ้นให้ผ่านไป รีบนักใช่มั้ย พ่อจะแกล้งเดินเอื่อยๆ ช้าๆ ซะเลย นี่แหน่ะ (ที่จริงก็เดินธรรมดานี่แหละ แต่ขาสั้นเลยไปถึงไม่ไวนัก)

     

    คุณผมรีบ! อ้าวภาพของร่างเพรียวที่ยังคงติดตาทำเอา คริสสงสัยว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรที่ป้อมยาม

    รอแป๊บนะคับ เดี๋ยวผมกำลังจะเปิดให้

    เป็นเจ้าหน้าที่ที่นี่หรือครับ

    เป็นยามน่ะครับ แต่จะดีกว่าถ้าเรียกว่าซีเคียวริตี้การ์ดผู้ชายแสนแมนและมีฟอร์มพูดหยิ่งๆ

    ครับคริสจ้องมองร่างเพรียวที่เยื้องย่างอืดอาดอย่างจงใจกวนตีนด้วยสายตาริบหรี่  

    ซีเคียวริตี้การ์ดตัวดีค่อยบรรจงยกไม้กั้นถนนอย่างจงใจและตะเบ๊ะให้ด้วยท่าทางแสนกวน  

    แต่นาทีนี้คุณคนหล่อไม่ได้มีเวลามากพอจะเอาความ  พอไม้กั้นสูงพ้นผู้ชายตัวสูงก็กระชากรถคู่ใจออกไปชนิดหลงเหลือไว้แต่ควันของน้ำมันไร้สารเกรดดี

    โถ่  จะรีบไปหาสาวแล้วทำมาเป็นแอค  น่าเบื่อเนอะ ต้นว่านสี่ทิศข้างป้อมไม่ได้พยักหน้ารับ แต่พยอนแพคฮยอนก็เออออห่อหมกไปว่ามันเห็นด้วยแล้ว พอร่างเพรียวจึงสบายใจขึ้นและเริ่มปฏิบัติหน้าที่ของวันอย่างแข็งขัน

     

     



     

    ตั้งแต่เกิดมาชีวิตน้อยๆ ของพยอนแพคฮยอนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ(ต้องบอกว่าโรยด้วยตะปูเรือใบจะถูกต้องกว่า) แม้จะเกิดมาในครอบครัวที่ดูมีอันจะกินเล็กๆ บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากลำบนอะไรมากนัก 

     

    ไม่ซิ ตอนนี้กำลังลำบาก  

     

    ช่วงวันหยุดปิดเทอมที่ผมควรจะได้ไปซัมเมอร์ที่อิทาลี่หรือลอนดอนถูกเด็ดทิ้งด้วยคำประกาศิตของท่านพ่อที่ยื่นขอเสนอมาให้สองทาง

                    “ไม่ทำงานก็ไปติมอร์หน้าโหดอย่างเดียวไม่พอ นิสัยท่านพ่อของผมยังเหี้ยมสู้สีกับใบหน้าด้วย  ปิดเทอมทั้งทีท่านพ่อยังคงเป็นห่วงเป็นใยการใช้ชีวิตของผม ท่านจึงให้ทางเลือกสำหรับไปฝึกตนมาสองทาง

    ทางแรกคือไปเรียนซัมเมอร์ที่ติมอร์ตะวันออก ใช้ชีวิต ผาดโผนโจนทะยานเคล้ากับกลิ่นดินปืน กลับมาก็จะได้ทั้งความรู้และร่างกายกำยำแข็งแรง(ถ้าไม่เดี้ยงไปก่อน) 

    ส่วนอีกทางคือไปทำงานที่บริษัทของพ่อเองเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตเอาไว้ เผื่อวันหนึ่งไม่มีพ่อแล้ว(คงอีกนานมากทีเดียว พ่อดูหนังเหนียวมากๆ) บริษัทที่บรรพบุรุษของผมสร้างมาจะได้ไม่เจ๊งคามือ 

     

    ครับบ้านผมทำบริษัทรักษาความปลอดภัย

     

                  หลังจากพยายามเอาตรีนก่ายหน้าผากนอนคิด นั่งคิด ยืนคิด ตีลังกาคิดมาร่วมสัปดาห์ผมก็ตัดสินใจเลือกทำงานที่บริษัทที่บ้านตามคำแนะนำของพี่จงอิน(โปรดอย่าสนใจในรายละเอียด) ดังนั้นพอปิดเทอมผมเลยเริ่มต้นมาทำงานอารักษ์ขาหมู่บ้านที่นี่

     

                    ที่จริงการทำงานกับบริษัทที่บ้านมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกครับ  สำหรับคนที่เท่ห์ แมน และเฟอร์เฟคอย่างผมแล้วเรื่องแค่นี้สิวๆ  ผมจะออกจากบ้านทุกวันช่วงเย็นๆ วันไหนฟิตก็จะไปเร็วขึ้นนิดนึงเพราะว่าสงสารลุงมีอินที่ต้องอยู่กะมาทั้งวัน  ในช่วงกลางวันอากาศมันร้อนครับ ผมนอนหลับเย็นๆ อยู่ในห้องแอร์มาทั้งวันแล้ว  ถ้าจะไปเร็วหน่อยเพื่อให้ลุงแกได้กลับมาพักบ้างก็ไม่หนักหนาอะไรเท่าไหร่

     

    ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะแอดไวเซอร์ของผมครับ   "คิมจงอิน"   พี่จงอินอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ผมดูแลนี่แหละ เย็นหลังเลิกงานและหลังจากพาแฟนเด็กไปส่งบ้าน พี่แกก็จะมาเจ๊าะแจ๊ะกับผมก่อนออกไปกินเหล้า ไม่ก็เข้าบ้านนอนตามอารมณ์ของแก 

    อะไรอีกล่ะ ไปจอดรถตรงนู้นเลย ขวางทางเข้าออกชาวบ้านเค้าผู้ชายหล่อเฟอร์เฟคที่มีแฟนเป็นเด็กม.ปลายยักคิ้วแล้วเลื่อนรถตัวเองไปจอดในมุมหนึ่งก่อนจะอันเชิญตัวเองมายืนค้ำป้อม 

    สิ่งเดียว(นอกจากนิสัยกวนตีน) ที่ผมไม่ชอบในตัวของพี่จงอินก็คือไอ้สรีระยาวๆ นี่แหละ  อะไรกัน เรามันคนเอเชียนะ จะสูงไปไหนกันนักหนา ไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไรเลย (คังอินอัปป้า!!! ทำไมอัปป้าไม่ให้ผมสูงอย่างพี่จงอินบ้าง  แย่ๆๆๆ)

    วันนี้เป็นไร  โดนพวกเด็กท้ายซอยแกล้งอีกแล้วเหรอ

    ตลกแล้วเฮีย นั่นมันสิวๆ เด็กพวกนั้นเป็นลูกกระจ๊อกผมไปหมดแล้ว

    แล้วที่แปลงร่างจากหน้าเป็นตูดนี่เพราะอะไร

    เจอมลภาวะทางทางกายภาพ อย่าให้เล่าเลย เซ็งเป็ดเรื่องมันไร้สาระจริงๆ ผมไม่อยากเล่าหรอกว่าผมมีปากมีเสียงกับผู้ชายตัวสูงพอๆ กับพี่จงอิน ไม่ซิ รายนั้นดูจะสูงกว่าเยอะเลย  แต่คุยเรื่องอื่นดีกว่า

                      “
    แล้วทำไมวันนี้กลับเร็วจัง ไม่ไปส่งแฟนเด็กของพี่เหรอ


     “ไม่ได้ไปส่ง แต่เดี๋ยวจะไปรับ  คืนนี้น้องจะมานอนบ้านเลยกลับไปเก็บของ อิคู่นี้ก็สวีทกรี๋กรี้ดี๊ด๊ากันเหลือเกิน ผมพยักหน้าอย่างหน่ายๆ

    เต็มที่นะคิมจงอินไม่ได้ตอบผม ซึ่งผมรู้ครับว่ามันใช้ชีวิตเต็มที่เสมออยู่แล้ว

     


    พอไล่พี่จงอินไปได้ (ปาดเหงื่อสองที) ผมก็เข้าโหมด     ผู้พิทักษ์หมู่บ้านอย่างแข็งขันตามเดิม  อย่างที่ว่าแหละครับ โซลเป็นเมืองที่เจริญแล้ว ขโมย ขโจรอะไรไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่

    ผมนั่งฟังวิทยุของลุงมีอินไปเรื่อยๆ (เพลงช่วงหัวค่ำนี่   แซ่บอย่าบอกใคร) จะลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้างก็ตอนได้ยินเพลงต่างชาติอย่าง “same birth place” (คนบ้านเดียวกัน) ซิงเกิ้ลดังของไผ่ พงศธร หรือเพลง “Where’s my bear?” (เห็นหมีหนูไหม?) ของวงดีปลีนี่เต้นกันป้อมสะเทือน  ช่วงนี้มันเป็นกระแสครับ เด็กอินเทรนด์อย่างผมก็เลยฮิตมาอินไทยป๊อบ(คันทรี่)กับเค้าบ้าง

     

     

    ลมเย็นยังกับจะเข้าช่วงหน้าหนาว  ผมคว้าเอาแจ็คเก็ตสีดำมาสวมทับแล้วพาจักรยานคู่ใจไปตรวจตราซอกซอยตามเวลาดีตีสอง  หมู่บ้านเงียบสงัดตามปกติ จะมีก็แต่เด็กๆ ที่เดินออกมาทักทายหรือเอาขนมขบเคี้ยวมาแบ่งให้บ้างตอนผมร้องตะโกนให้ระวังฟืนไฟเป็นระยะ
     

    วนครบรอบก็ได้เวลากลับป้อม เส้นทางตรงๆ ยาวๆ นี่ของโปรดเลย ขากลับผมจะใส่สปีดเร็วชนิดสามารถไปแข่งตูเดอร์ ฟรองซ์ หรือปารีส-ดักกาได้เลย

    แต่ลูกระนาบจะเยอะไปไหน? ถ้าขับไม่ดีข้ามผิดจังหวะอาจะมีกายกรรมเปียงยางหรือยิมนาสติกลีลาเกิดขึ้นได้ซึ่งผมไม่ถนัดกีฬาสองประเภทนี่จริงๆ

    นอกจากลูกระนาบ ผมเจออีกปัญหาแล้วครับ ปัญหายืนทะมึนอยู่หน้ารั้วกั้นหน้าหมู่บ้าน ผมสไลด์จักยานเข้าซองแล้วเดินมาเปิดรั้วตามหน้าที่อย่างรวดเร็ว  ถ้าไม่ติดเสียงแว้ดๆ เสียก่อนนะ

    มาช้ามากกกกกก  ไม่มาเอาพรุ่งนี้เลยล่ะเอ้า ไอ้หน้าสวยนี่มันอะไรกันวะ

    เซฮุนอย่าใจร้อนซิอ้าวนี่มันรถไอ้หล่อนี่หว่า ทั้งหมู่บ้านมีเบนลี่คันเดียวทำไมจำไม่ได้นะ  ข้างตัวของผู้ชายสูงหล่อ(แต่น้อยกว่าผมหน่อยนึง) มีตุ๊กตาแสนสวยหน้าตาเชิดนั่งประดับอยู่  เราก็นึกว่าไปรับสาว ที่ไหนได้ ไอ้เจ้าหล่อนี่มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันนี่เอง ชิส์ 

    อุ๊ย ชิส์ดังไม่ได้  เรื่องรักใครชอบใครมันเป็นเรื่องปกติ     พี่จงอินมันก็เป็นนี่หว่า

    ก็เค้ามาเปิดช้า ผมง่วงแล้วนิเวลาอ้อน เจ้าหน้าสวยนี่มันก็น่ารักดีอยู่หรอกแต่ไม่ได้อ้อนผม ผมเลยไม่เห็นว่ามันน่ารัก

                    “เปิดให้แล้วครับรีบๆ ไปซะทีซิ  อิประโยคหลังนี้อยากจะพูดอยู่หรอก แต่ด้วยหน้าที่การงาน พยอนแพคฮยอนลูกพ่อคังอินจะระงับใจเอาไว้ก่อน

     

    รถยนต์คันใหญ่จากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ควันจางๆ ของน้ำมันไร้สารที่เผาไหม้หมดจด


    ผมมองฟ้าในคืนที่เงียบสงัดอีกครั้ง

     

    ใจผมโหวงแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้

     


     



     

     

     

     

     

     

    ชีวิตสุขสันต์กลับมาเมื่อยามรุ่งสางและจบลงเมื่อตะวันส่อง วันนี้เป็นวันหยุดครับ(ผมได้หยุดอาทิตย์ละ 2 วัน แต่ไม่ค่อยจะได้ติดกันหรอกนะ) อาการเจ็ทแลคถามหาเมื่อผมฝืนตื่นแต่เช้าขึ้นมาเพื่อใช้ชีวิตปกติประจำวัน 

    สาเหตุของการตื่นเช้าก็คือพี่จงอินกับลู่หาน คู่รักแห่งปีชวนมาผมเป็นก้างระหว่างเดทกันครับ

    เสี่ยวลู่โทรมาอ้อนว่าอยากเจอผมมากๆ ฮยองมาหาลู่หานหน่อย ผมคิดถึง ผมเลยยอมออกมา(ผมแพ้สิ่งมีชีวิตน่ารักๆ และขี้อ้อนครับ)

    เรานัดเจอกันช่วงบ่ายแก่ๆ แก่มากประมาณลุงอีทึก  วงซูเปอร์จูเนียร์นั่นแหละครับ  และเริ่มต้นด้วยการไปหาข้าวเย็นทานก่อนจะมีกิจกรรมร่าเริงทั้งคืน


    ลู่หานยังเข้าผับไม่ได้ แต่เราสามคนยืนอยู่หน้าผับแห่งหนึ่งใจกลางโซล  พี่จงอินเรียกเด็กมาคุยสองสามคำเด็กนั่นก็พาผมกับเสี่ยวลู่เข้าไปในร้าน 

    นานแล้วที่ผมไม่ได้มาเที่ยวกลางคืน อย่างน้อยก็ก่อนทำงาน  ผมไม่ค่อยชอบผับเท่าไหร่ ไม่ใช่อะไรนะ เค้ามักจะเปิดเพลงไม่ถูกสเป็คผมเท่าไหร่ พวกฮิปอป, พ็อพ, ร็อค, แดนซ์, เกาหลีและอเมริกันมันไม่มันส์เหมือนไทยป็อบ(คันทรี่) ของผมนะครับ 

    เฮ้ออออ ทำไมไม่เอาเพลง ขอใจแลกเบอร์ มาเปิดให้แดนซ์กันบ้างนะ

     

    เพราะพี่จงอินมีเส้นสายกับเจ้าของผับที่นี่เลยพาแฟนเข้ามานั่งเด่นทั้งๆ ที่อายุยังไม่ถึงได้  ส่วนตัวแถมอย่างผมนอกจากมาเนียนกินเหล้าฟรีก็ได้โอกาสหลีหญิงไปพลางๆ ด้วย

    เสียงเพลงดังอึกทึกแต่ไม่ได้สบอารมณ์ทำเอาผมอยากกลับบ้าน  แต่ด้วยสปิริตคนหล่อผมเลยกระดกแอลกอฮอลนั่งเป็นก้างคู่รักแห่งปีต่อไปก่อน  ผับนี่รสนิยมดีนะครับคนมาเที่ยวสวยหล่อทุกคน(รวมผมเข้าไปแล้ว) ขณะที่ผมกำลังชื่นชมคนหน้าตาเทียบเคียงกันกับตัวเองอยู่  สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างเพรียวสวยเฉี่ยวของตุ๊กตาหน้ารถไอ้หล่อ

     

    เดสทินี่!!! (Destiny)

     

                มองซ้ายไม่มี มองขวาไม่เห็น ผมขยับลุกจากโต๊ะ สละตำแหน่งก้างชั่วคราวพร้อมออกรบ เจอกันเกินครั้ง จะปล่อยไปก็ กะไรอยู่

    มาเที่ยวคนเดียวหรือครับ” คนสวยเฉี่ยวละสายตาจากแก้วมาตินี่มาปรายตามองผมหัวจรดเท้าอย่างที่แม่พระเอกชอบใช้มองว่าที่ลูกสะใภ้เปี๊ยบๆ

    ไม่ได้มาคนเดียว มากับแฟนก็น่าอยู่หรอก สวยอย่างนี้คงมีแฟนแล้วแน่ๆ แฟนก็คงจะหมายถึงไอ้หน้าหล่อเจ้าของรถคันโตนั่นซินะ   เชอะ ผู้ชายอย่างนั้นมีอะไรดี ก็แค่หล่อ ขายาว รวย แค่นั้นเอง จิ๊บๆ (อัปป้า  หนูขอความสูงกะขอตังหน่อย~)

    แล้วแฟนไปไหนล่ะครับ ทำไมมานั่งอยู่คนเดียว

    คนเค้าก็ต้องมีธุระบ้างซิ ใครจะมาว่างจีบชาวบ้านเค้าไปเรื่อยล่ะ

    อื้ม....  ด่ากูนิ

    เพราะว่าเจอคนน่ารักก็เลยต้องสละเวลามาว่างครับพูดไปก็เสี่ยวตัวเอง ไอ้นิสัยไม่ยอมแพ้ใครนี่มันซึมเข้าสายเลือดจริงๆ

    พี่คริสแฟนมันเดินตัวยาวโท่งๆ มานู่นแล้ว เหมือนงานจะเข้าพยอนแพคฮยอนซะละมัง พอแฟนมาก็เปลี่ยนร่างจากนางพญาเป็นลูกแมวเชียวนะ หมั่นไส้

    ว่าแต่กูจะไปหมั่นไส้เค้าทำไมวะ เค้าเป็นแฟนกันนิ

    หายไปไหนมาตั้งนาน พี่คริสไม่อยู่มีคนอื่นเข้ามาวุ่นวายเลยเห็นมั้ยวุ่นวายตัวหรือวุ่นวายใจล่ะ อย่าบอกนะว่าที่จริงแล้วคนสวยก็หวั่นไหวกับหน้าหล่อๆ ของผมเหมือนกัน

    คนอื่นที่ไหน นี่แพคฮยอนเพื่อนของจงอิน พี่ยังไม่ได้แนะนำใช่มั้ยอ้าว ไอ้นี่รู้จักชื่อผมได้ไงวะ เอ่อ แต่โพรไฟล์ที่เหลือมันถูกนะ อย่าบอกว่า...

    แพคฮยอนหนีมานี่เอง  เสี่ยวลู่ง่วงนอนแล้วพี่เลยว่าจะพาไปส่งบ้าน เราอยู่รอไอ้จื่อเทาแป๊บนึงดิ มันเกือบจะถึงแล้วอ้าว แล้วทิ้งให้กูอยู่กะสองปั๋วเมียเนี่ยนะ แม้ว่าปกติผมจะชินชากับการเป็นก้างของเสี่ยวลู่กับพี่จงอินก็เหอะ

    แต่จะให้เป็นก้างให้กับบุคคลที่สามนี่ไม่สนิทใจจริงๆ นะ

    พี่อ่ะ ช่างหัวพี่จื่อเทามันเหอะ กลับด้วยคนดิ

     

    หึ!

     

    เสียงหึดังมาจากผู้ชายตัวสูงที่ท่าทางค่อดจะขี้เก๊กคนนั้น   ทำไม แค่ผมอ้อนที่ชายที่รู้จักกันกลับบ้านมันน่าหัวเราะเยาะในลำคอนักเรอะ ชิส์

    รอมันอยู่นี่แหละ พี่นัดมันมาเดี๋ยวมันด่าเอา รายนั้นยิ่งปากจัดๆ อยู่ ก็จริง

    แต่อยากกลับด้วยคนนิถ้าไม่เกรงใจลู่หานผมจะดึงชายเสื้อพี่จงอินกระตุกๆ แล้วนะ   แต่รายนั้นก็ค่อดจะรับมุกผมด้วยการเมินผมสนิท ต้อนเจ้าเด็กตัวผอมไว้ในกรงไหล่แล้วโบกมือให้ฝากผมไว้กับเพื่อนใหม่ที่ไม่คิดจะแนะนำด้วย
                       
                      เฮ้ย กูจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง

     

    ขณะที่สถานการณ์อยู่ในช่วงตกผลึก อัศวินขี่ม้าขาวก็เข้ามาช่วยชีวิตพยอนแพคฮยอนได้ทันท่วงที ไอ้พี่จื่อเทามันเดินสโหลสเหลเข้ามานั่งที่ข้างๆ แถมเอาตรีน เอ๊ย เท้าหน้าของมันมาพาดขาผมอย่างไม่เกรงใจประชาชี 

    ใช่ซี๊ ขาเมิงยาวนิ!!

     
     

    ไอ้จงอินอ่ะมาถึงพี่จื่อเทาก็เรียกหาเมียมันทันที

    จงอินมันขอตัวไปส่งเสี่ยวลู่แป๊บนึงเดี๋ยวมา ไม่ทราบว่าเมิงจะดื่มอะไรระหว่างรอดีครับผู้ชายหน้าหล่อตัวสูงคงมีศักดิ์เป็นเพื่อนของไอ้พี่จื่อเทามันถามทันท่วงที

    เอาไรมาก็ได้  ว่าแต่เมิงกับแพคฮยอนนี่รู้จักกันตั้งกะเมื่อไหร่

    ยังไม่รู้จัก / รู้เมื่อกี๊อะ” คำตอบไปในทิศทางเดียวกันมาก ผมกับไอ้หล่อมองหน้ากัน

    เอ่อ พี่ครับ ผมยังไม่ทราบว่าพี่กับผมมักจี่กันอีท่าไหน ผมเพิ่งจะรู้ว่าพี่ชื่อคริสเมื่อตะกี๊

    สรุปว่ารู้จักหรือไม่รู้จักเฮียมันถามเสียงเข้ม วันท่าทางจะอารมณ์ไม่ดี นี่กูคิดถูกหรือคิดผิดวะที่ออกมาเที่ยว ท่าทางไม่สนุกเลย เซิ้งสามช่าอยู่ที่ป้อมเสียก็ดี

    ก็รู้จักนิดนึง แต่ยังไม่เป็นทางการดีนะที่ตรูลื่น 

    แต่ไอ้พี่จื่อเทามันจะถามเอาโล่ไรวะ ถามแล้วก็ไม่รอคำตอบ  ผมอุตส่าห์คิดหาคำตอบแทบแย่  ดูมันทำ มันสนที่ไหน นู่น เดินฉับๆ ตามแฟนไอ้หล่อมันไปนู่น  

    ขอเล่านิดนึงครับ  ระหว่างที่ท่านพี่จื่อเทามันเสด็จมาถึงเนี่ย แฟนของไอ้คุณคริสก็ออกอาการแปลกๆ จะอึดอัดก็ไม่เชิง จะร่าเริงก็ไม่ใช่  พอพี่จื่อเทาหันไปทิ้งตาใส่ทีก็ลุกพรวดก้าวฉับๆ ไปนู่นเสีย 

    เอ๊ย งี้ตรูก็โดนทิ้งให้อยู่กับไอ้หล่อนี่สองคนอะดิ

     

    สรุปว่าเราสองคนรู้จักกันรึยังผมถามมันด้วยน้ำเสียงกวนๆ แบบที่คนหล่อเค้าชอบทำกัน(ที่จริงหาเรื่องชวนมันคุยครับ)  มันหล่อมาผมต้องหล่อข่มครับ

    คิดว่ารู้รึยังล่ะขอร้องอย่าถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงแบบนั้น  ใจมันสั่นนะเว้ย

    ชั้นชื่อแพคฮยอน เป็นน้องที่รู้จักของพี่จงอินแล้วก็พี่จื่อเทา ท่าทางนายก็รู้จักพี่ๆ เค้าดีเหมือนกัน” 

    ผมชื่อคริสวู เป็นเพื่อนไอ้จงอินแล้วก็ไอ้จื่อเทาที่คุณรู้จักมันตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าเป็นมิตรครับ  ท่าทางไม่เลวเท่าไหร่หรอกถ้าเราจะเปิดใจยอมรับมิตรภาพที่ถูกหยิบยื่นมาให้ คนหล่อแฟร์ๆ ครับ (ยักไหล่)

     

     
     

    คริสวูเป็นผู้ชายที่โคตรหล่อ โคตรสุภาพ โคตรแสนดี โคตรของโคตรจริงจัง   นานๆ ผมถึงจะนึกชื่นชมเพศเดียวกันในฐานะผู้นำเสียทีนะครับ ถ้าผมเป็นผู้หญิง ป่านนี้โทรไปขอให้คังอินอัปป้ามาหมั้นมันเอาไว้แล้ว 

    สรุปความว่าคริสวูเพื่อนพี่จงอินและพี่จื่อเทาที่มหาลัย  ตอนนี้เปิดผับเป็นงานอดิเรก  ส่วนงานประจำเป็นสถาปนิกที่ยังไม่ได้เริ่มงาน อื้ม ผมอยากถามจริงๆ ว่าชาติที่แล้วเค้าทำบุญด้วยอะไรถึงเกิดมาเฟอร์เฟคขนาดนี้ ติดนิดนึงก็ตรงที่ยังไม่กล้า ยังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น


    แล้วทำไมถึงต้องเป็นยามด้วยล่ะอา~ หมอนี่จำได้ด้วยว่าผมประกอบอาชีพเป็นซีเคียวริตี้การ์ด เท่ห์จริงๆ

    ก็ธุรกิจที่บ้านน่ะเค้าจะฮามั้ยอ่ะถ้าผมเล่าให้ฟังว่าพ่อบังคับให้มาเป็นยามเนี่ย

    ตอนดึกๆ มันอันตราย ที่จริงน่าจะหาเพื่อนมาอยู่ด้วยซักคนสองคนนะที่จริงพ่อก็บอกอย่างนั้นแหล่ะ แต่ไอ้ผมน่ะมันรักสันโดษ อยู่กับคนอื่นทั้งคืนก็กลัวจะได้เค้าเป็นเมียเอา ขอทำงานคนเดียวดีกว่า เวลาดิ้นแก้เบื่อจะได้ไม่อายใคร

    อยู่คนเดียวก็ดีแล้ว หมู่บ้านไม่ได้กว้างมากด้วย ทางเจ้าของโครงการเค้าไม่ได้ให้งบมาเพิ่มซักหน่อย

    คุยอะไรกันมันกลับมาแล้วผู้ชายที่ทอดทิ้งผมหน้าตาเฉย

    คุยเรื่องพิธีปิดเอเชี่ยนเกมส์ที่ปักกิ่ง สนใจจะเม้าท์ด้วยมั้ยล่ะ อ๊า~” คิมจงอินทอดทิ้งผมอย่างเดียวไม่พอยังทำร้ายร่างกายกันด้วยการบิดจมูกผมอีกด้วย จำไว้เลย ไม่เกิดก่อนมั่งให้รู้ไป

    “แล้วจื่อเทาล่ะมาถึงก็ถามหาเมียหลวงทันที (ระหว่างคู่นี้ผมว่ามันเป็นเมียของกันและกันทั้งคู่ครับ ถ้าไม่ติดว่าพี่จงอินมีเสี่ยวลู่นะ  สิ้นเดือนพวกมันสองคนคงแจกการ์ด เลี้ยงโต๊ะจีนลพบุรีไปแล้ว)

    ตามเซฮุนไปทางนู้นแหน่ะ นั่นไงพูดถึงก็มาพอดี อ้าวเป็นไรอ่ะเราคนสวยตอนนี้เหวี่ยงมาเลยครับ ก้าวฉับๆ มาถึงก็คว้ากระเป๋าแล้วจิกตาใส่พี่จงอินทีนึง

    บอกเพื่อนพี่ทีว่าเลิกยุ่งกับผมได้แล้วเนื้อหอมชะมัด    นี่โมโหพี่จื่อเทามารึนี่

    เลิกได้ไง ใครอนุญาตล่ะ  อ้าวจะกลับแล้วเหรอ   ป่ะ  ไปกัน

    เอ่อ ไอ้พี่ชายอีกคนของผมก็ออกตัวแรงเสียเหลือเกินครับ เค้าด่าอยู่หยกๆ ก็คว้าแขนเค้าลากไปซะงั้น   เฮ้ย แล้วแฟนเค้าล่ะ

    ไม่อ๊าววว ใครเค้าจะกลับกะ.... พี่ล่ะคนสวยโดนสายตายตาดุๆ ของพี่จื่อเทาปรามให้ชะงักคำเรียกพี่เค้าเอาไว้ได้ชะงัด เป็นตรู ตรูก็กลัวนะ สายตาแบบนั้น

    โอเซฮุนคนดีไง  เรามีเรื่องต้องคุยกันไม่ใช่หรือ

    จะกลับกับพี่คริส

    คริส  มึงยังไม่กลับใช่มั้ยผู้ชายตัวสูงพยักหน้าอย่างรู้คิวทันที  สงสารก็แต่โอเซฮุนคนดีของพี่จื่อเทามัน ในที่สุดก็โดนลากออกไปจากร้านทั้งๆ ที่ยังคงโวยวายอยู่ แต่ไม่เห็นมีใครคิดจะช่วยเลย

    เอ่อ นี่พวกพี่นัดกินเหล้ากันจริงๆ หรือแค่มั่วมาเจอกันอะพี่จงอินหัวเราะร่วนได้น่าไซส์โป้งมาก ผู้ชายตัวสูงที่ตอนนี้ไร้พันธะแล้วกระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกอึก   ผมถอนหายใจยาว เผลอนึกว่าวันนี้จะผ่านไปแบบเรื่อยเปื่อยไร้แก่นสาร พี่จงอินก็ลุกขึ้นหนีผมไปโทรศัพท์อีกครั้ง

    เบื่อหรือเปล่า?” ตรงหน้าผมเหลือแต่ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันหมาดๆ   อยู่ๆ ก็ถามผมด้วยเสียงสุภาพ(อีกแล้ว) ผมเลยยอมรับว่าเบื่อและอยากกลับนิดๆ ทั้งที่ยังไม่เมาเลย ให้ตาย

    งั้นกลับกัน  เดี๋ยวไปบอกเด็กที่ร้านแป๊บอะไรนะ!! ผมจะกลับแล้วไอ้คุณชายมันจะไปบอกที่ร้านทำไม ผมไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นนะ แม้ว่าจะหล่อเริ่ดก็ตามเหอะ

    ไปกัน

    ไปไหน

    กลับบ้านไงครับงง.. กรูงงครับ ไล่กลับไปอ่านดูซิ มีประโยคไหนผมชวนมันกลับบ้าง ไม่มี๊(เสียงสูงปรี๊ด)

    เอ่อ ผมกลับเองได้ไม่รบกวนคุณคริสหรอกครับสุภาพใส่มันซะเลย

    ไม่รบกวนหรอกครับ น้องของจงอินก็เหมือนน้องของผม มาที่ร้านแล้วจะปล่อยให้กลับคนเดียวตอนมืดๆ ได้ยังไง

    ผมประกอบอาชีพเป็นยามนะครับคุณ เรื่องที่มืดนี่ใครจะเชี่ยวชาญเท่า

    ทำเป็นเก่ง นั่นมันถิ่นคุณ ส่วนที่นี่ไม่คุ้นทาง ปล่อยให้ผมดูแลเถอะทำไมผู้ชายแมนๆ เท่ห์ๆ อย่างผมต้องให้ไอ้หล่อมันมาดูแลวะ(ครับ)


     

    ข่าวดีต่อมาคือพยอนแพคฮยอนกลับบ้านโดยมีราชรถไปเกยให้ท่านพ่อสงสัยเล่น





    TBC..

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×