คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Everlasting Love : คำสารภาพ [มาอัพแล้วนาจาาาา]
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
Everlasting Love
บทที่เก้า : คำสารภาพ
“พี่จุนเดี๋ยวแจไปรอที่กรงกระรอกนะ”
ยองแจบอกกับคนที่อยู่ปลายสายเสียงใส วันนี้เป็นวันหยุดทั้งที่ยองแจเลยถือโอกาสมาเที่ยวแก้เครียดซะเลย แน่นอนว่ากว่าจะอ้อนพี่จุนโฮได้นี่ใช้เวลาตั้งสามวันกว่าจะใจอ่อนยอมพามา ไม่สิ ต้องพูดมายอมให้มาต่างหากเพราะเจ้าตัวมีนัดกินเค้กกับเพื่อนเก่า แต่ก็ยังสัญญาว่าจะมาเที่ยวกับเขาให้ได้
หลังจากที่คุยเสร็จยองแจก็เดินแบบสบายๆไปที่กรงกระรอกตามที่ได้บอกกับปลายสายไว้ทันที ถามว่าเขาชอบอะไรเขาคงตอบไม่ได้หรอกแต่ก็ชอบพวกสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างเจ้ากระรอกเป็นต้น
“น่ารักชะมัด...”
มือเล็กทั้งสองข้างทาบที่กระจกที่กั้นระหว่างตัวเขากับเจ้ากระรอกน้อยที่ยืนสองขาทำตาหวานใส่อยู่ มีทั้งสีเทาขาวกับสีน้ำตาลที่ส่งความน่ารักผ่านกระจกมายังยองแจ ทำให้เขาแทบอยากจะทุบกระจกแล้วเข้าไปกอด
แต่ดูเหมือนจะมีตัวหนึ่งที่ไม่กลัวคนที่มายืนเกาะกระจกอยู่ข้างหน้าเขา
เหมือนชะมัด...
“ฟันแกเหมือนคนที่ฉันรู้จักเลย เหยินเหมือนกัน…”
“ย่าส์ พูดดีๆหน่อยยองแจ ว่าพี่เหยินเหมือนไอ้กระรอกนี่หรือไง”
เหมือนกับเท้าติดสปริงที่ทำให้ตัวของเขามันเบาและกระโดดออกจากกระจก เสียงทุ้มๆที่เขาได้ยินเมื่อครู่นั่นมัน...ไม่ผิดแน่ จะว่าเสียงคล้ายมันก็ไม่น่าใช่ ยองแจกุมมือทั้งสองข้างแน่นก่อนจะมองไปทางต้นเสียงที่ตัวเองได้ยินอย่างช้าๆ ขอล่ะ เป็นใครก็ได้
อย่าให้ใช่คนคนนั้นเลย...
“…”
ทำไมโชคมันไม่เคยเข้าข้างเขาบ้างเลยนะ
ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าทำให้เขารู้สึกอยากจะกลายเป็นนกแล้วบินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด หนีหน้ามาเป็นอาทิตย์กลับมาเจอกันในที่แบบนี้ ใช่ เขาเจออิมแจบอมเจ้าเก่าที่เหมือนจะมาเที่ยวกับกลุ่มแก๊งซึ่งหนึ่งในนั้นมันได้มีพี่มาร์คเข้าไปรวมด้วย หน้าทุกคนก็ปกติธรรมดาจะมีแค่คนที่ฟันเหยิน(กว่าแจบอม)ที่ยืนยิ้มให้เขาอยู่ตลอดๆ
“ผมไม่ได้เอ่ยชื่อคุณ ขอตัวนะครับ”
พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินเลี่ยงไปอีกด้าน และเขาควรจะได้เดินออกจากตรงนี้เร็วๆแน่หากข้อมือมันไม่ถูกคว้าไว้เสียก่อน
“พี่... อยากคุยด้วย”
“ขอโทษครับ ผมไม่จำเป็นต้องสนทนากับคนแปลกหน้า โอ๊ย! ผมเจ็บ!!”
“อย่าทำตัวแบบนี้ยองแจ... พี่ไม่ชอบ”
“นั่นมันเรื่องของคุณ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ! ช่วยด... อื้อออ!!”
แจบอมไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กได้พูดอะไรที่ฟังแล้วมันขัดหูได้นาน ก็ตัดสินใจประกบริมฝีปากเข้ากับเรียวปากอมชมพูที่ไม่ได้สัมผัสมันมาเป็นอาทิตย์ คนที่เดินผ่านไปผ่านมามีหยุดมองบ้าง ยกมือถือขึ้นมาถ่ายบ้างแต่แจบอมก็ไม่ได้สนใจอะไร ยองแจกัดฟันแน่นไม่ใช้คนตัวสูงได้รุกล้ำเข้าร่างสูงเลยปล่อยให้ปากร่างเล็กเป็นอิสระ ยองแจอ้าปากกอบโกยออกซิเจนเข้าปอดได้ไม่นานร่างสูงก็โน้มลงจูบใหม่และยังรุกล้ำเข้าไปชิมความหวานภายในได้ง่ายเสียด้วย ยิ่งแจบอมไล่ยองแจยิ่งหนี
สุดท้ายยองแจก็ทำได้แค่ยอมร่างสูงเท่านั้น...
และไม่นานแจบอมก็ถอนจูบออกอ้อยอิ่งราวกับไม่อยากจะหยุดชิมความหวาน
เพี๊ยะ!!
“ทำอะไรของคุณ!!”
ยองแจสะบัดมือฟาดเข้าที่แก้มซ้ายของแจบอมไปหนึ่งครั้ง เขามองเห็นใบหน้าของแจบอมไม่ชัดนักเพราะน้ำตาที่เริ่มก่อตัวแต่เขาก็ยังเห็นว่าคนคนนั้นกำลังยิ้มอยู่
“ทำในสิ่งที่คนแปลกหน้าเขาไม่ทำกันไง”
ผัวะ!!!
ใบหน้าคมของแจบอมสะบัดไปอีกครั้งกับแรงที่กระทบเข้าที่ใบหน้า มันไม่ใช่ฝ่ามือแบบของยองแจแต่เป็นหมัดล้วนๆไหนจะเสียงทุ้มหวานที่ตะโกนใส่หน้าแจบอมอีก
“ทำอะไรน้องกูวะไอ้ห่า!!!”
แจบอมยิ้มพลางเช็ดเลือกที่ไหลมุมปากก่อนจะมองหน้าผู้มาใหม่กับยองแจสลับกันอย่างเลือดเย็น เจอแบบนี้ทำเอาเขาพูดไม่ออกเหมือนกัน เหมือนกับที่ทำเมื่ออาทิตย์ก่อนมันไม่มีความหมายอย่างไงอย่างนั้นสิ ก็ในเมื่อยองแจดันเป็นน้องแฟนของศัตรูของเขา
น้องของจุนโฮ...
“หึ หวงอะไรจุนนี่ มากกว่าจูบก็ทำมาแล้วJ”
“ไอ้ห่า ปากมึงนี่เลี้ยงหมาไว้กี่ตัวถามจริง ดูพูดแต่ละอย่างถ้ากูเป็นไอ้จุนโฮกูคงประทานส้นตีนให้มึงแล้วเถอะไม่น่าจะโดนแค่ต่อยเลย”
ฮันบินพูดพลางมองเพื่อนตัวเองที่นอนหน้ามุ่ยอยู่บนเตียงนอนด้วยหางตา วันนี้พวกเขาจะมาเที่ยวกันคลายเครียดสักหน่อยแต่ไอ้แจบอมมันดันปากหมาไปหน่อยพวกเขาเลยไปมาคลายเครียดกันที่โรงพยาบาล ทำไมน่ะหรอ เหอะ ก็ปากหมาอย่างเก่าเลยโดนไอ้จุนโฮเล่นซะสภาพเกือบตาย
ดีหน่อยที่น้องยองแจคอยห้าม ไม่งั้นที่ที่ไอ้แจบอมจะมานอนคงไม่ใช่โรงพยาบาล
แต่คงเป็นในนรก- -
“ก็พูดไปไอ้เสือ นี่ขนาดแค่ต่อยมันยังปางตายขนาดนี้ถ้าตีนนี่ไม่เฝ้าท่านยมเลยอ่อวะ”
“เออว่ะ จุนโฮแม่งอันตรายสัส...”
ฮันบินพยักหน้าเออ ออไปกับบาบิแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงติดตลกก่อนที่เสียงร่าเริงทั้งสองจะค่อยๆเงียบไปเมื่อสายตาเรียบๆของเพื่อนอีกคนที่เป็นใบ้มาตั้งแต่เริ่มตอนมองเอา มาร์คเอ่ยไล่คู่หูตัวบีทั้งสองด้วยสายตาเพียงไม่กี่นาทีคู่หูตัวบีก็รีบวิ่งออกจากห้องแทบไม่ทัน
มาร์คลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปที่เตียงคนไข้พลางมองแจบอมที่นอนก่ายหน้าผากอยู่
“มีเรื่องอะไรสำคัญ?”
“กูแค่จะบอกว่าระวังพี่จุนโฮไว้หน่อยก็ดี รายนี้หวงยองแจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดอย่าแตะต้องยองแจต่อหน้าพี่เขาเด็ดขาด เพราะครั้งหน้ามึงอาจไม่โชคดีเหมือนคราวนี้”
“…”
“ยองแจเป็นสิ่งสำคัญที่พี่จุนโฮจะไม่มีวันเสียไปให้ใครทั้งนั้น ถึงจะดูใจดีแบบนั้นแต่มึงก็โดนกับตัวเองแล้วแค่จูบยังโดนซะเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ ลองมากกว่านี้ต่อหน้าพี่จุนโฮสิ...”
“…”
“หวังว่ามึงคงเข้าใจที่กูพยายามจะบอก”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ไอ้แจบอม ถ้ามึงอยากจะทำยองแจเพื่อทำให้เกิดผลกระทบไปเรื่อยๆจนถึงไอ้ชานซอง กูบอกได้แค่ว่ามึงคิดผิด อย่าลืมว่ากูก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับยองแจและพี่จุนโฮ.. ที่กูบอกไปจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่มึง เรื่องที่มึงก่อเอาไว้กับมันก็เล่นแค่มันแต่อย่าเอาคนที่ไม่รู้เรื่องเข้าไปเกี่ยว...”
“แล้วจินยอง...”
“อืม ยังอยู่ที่เดิม เบอร์เดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม… งั้นกูกลับเลยล่ะกันฝากบอกคู่หูนรกนั่นด้วยล่ะกัน พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัย”
“มาร์ค กูขอโทษล่ะกัน ที่...”
“อย่าพูดมากน่า เดี๋ยวปากก็ได้แตกกว่าเดิมหรอก หึ”
พูดจบมาร์คก็หันหลังเดินออกจากห้องไปเงียบๆโดยที่คนบนเตียงได้แต่มองตามหลังด้วยความรู้สึกผิด
ปัง!
เสียงประตูที่ปิดลงเสียงดังทำให้รู้ได้ว่าอีกคนได้เดินออกไปแล้ว แจบอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปภาพที่เขาเคยถ่ายไว้เมื่อตอนที่เขายังคบกับจินยองและตอนที่เขาตัดสินใจพาจินยองไปแนะนำให้มาร์ครู้จัก เป็นรูปที่เราสามคนได้ถ่ายด้วยกันที่ร้านคาเฟ่แมวร้านเดิม
ภาพแรกที่จินยองยิ้มออกมา...
“ตอบพี่มาเดี๋ยวนี้ชเวยองแจ”
ยองแจหน้าซีดหดลงเหลือสองนิ้วเมื่อเจอคำถามกลายๆบังคับจากพี่ชายคนสวย ดวงตากลมก้มหลบสายตาจับผิดของคุณพี่ชายที่รัก พี่จุนโฮทั้งสวยและน่ารักแต่ขณะเดียวกันตอนโกรธนี่ยังกับผีเสื้อสมุทรผสมซาตานเข้าสิง
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เพราะอิมแจบอมแท้ๆเขาถึงต้องมานั่งตอบคำถาม(ทั้งที่เอาแต่เงียบ)กับพี่จุนโฮ แถมพี่จุนโฮยังเอ่ยปากขอห้องมืดอย่างกับรังหนูของพี่ชานซองเพื่อเค้นถามโดยเฉพาะและยังห้ามใครเข้ามายุ่งภายในห้องอีกต่างหาก แล้วถามว่ามีใครฟังไหม?
ตอบเลยว่า... ทุกคนTT^TT
แม้แต่พี่ชานซองที่เป็นดั่งความหวังก็ยังยกธงขาว
“ชเวยองแจ...”
“เป็น... แจกับเขาเป็น...”
“ถ้าโกหกคงจะรู้ว่าจะมีอนาคตยังไงใช่ไหม? ฉะนั้นเป็นเด็กดีแล้วพูดแต่ความจริงมาซะดีกว่าJ”
กลืนความคิดและคำพูดที่จะโกหกแทบไม่ทัน...
ยองแจเหลือบมองใบหน้าของพี่ชายตัวเองก่อนจะหลบสายตาไปอีกครั้ง คิ้วสวยมขวดพันกันยุ่งเมื่อคิดว่าจะพูดยังไงให้คนเป็นพี่ไม่เข้าใจผิดหรือว่าไม่โกรธ ไม่ใช่ว่าเขาห่วงความปลอดภัยของอิมแจบอมแต่ห่วงความปลอดภัยของตัวเขาเองเสียมากกว่า หากพี่จุนโฮรู้มีหวังตายแน่ๆ
จะบอกความจริงหรือโกหก
บอกความจริงก็ตาย โกหกก็ไม่รอด
โอ๊ย เกิดเป็นชเวยองแจนี่มันไม่ง่ายจริงๆนะครับบอกเลยTT^TT
“ยองแจ...”
“คือว่าแจกับพี่...พี่แจบอม เราเป็น...”
“สวัสดีครับ อ่า...ไม่ทราบว่า...”
(ดีใจจังที่ยังใช้เบอร์เดิม คิดถึงพี่หรือเปล่า หืม?)
แบมแบมได้ยินเสียงที่ปลายสายพูดแทรกแล้วแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้งลงพื้นหากไม่ติดว่าเครื่องนี้มันแพง เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้ยเคยแบบนี้ไม่ต้องนึกเขาก็รู้ว่าคนปลายสายเป็นใคร ต่อให้เดาเขาก็ยังมั่นใจว่าเขาเดาถูกแน่นอน มือเรียวกำโทรศัพท์แน่นอย่างไม่ตั้งใจ ความทรงช่วงก่อนเขาขึ้นมอปลายมันผุดขึ้นมาในหัวเรื่อยๆจนเขาแทบบ้า!
จะกลับมาทำไมอีก...
(ตัวเล็ก...?)
“ขอโทษนะครับ ผมไม่อยากจะสนทนากับคนแปลกหน้าและกรุณาอย่าเรียกผมว่าตัวเล็ก แค่นี้นะครับ สวัสดี”
แบมแบมรัวใส่ปลายสายราวกับแรปก่อนจะกดตัดสายทันทีที่ตนพูดจบ มือเรียวเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะมองไปที่แก้วโกโก้ที่น้ำแข็งละลาย ร่างโปร่งถอนหายใจก่อนจะโยนแก้วน้ำนั่นทิ้งอย่างไม่ใยดี ปกติเขาจะกินมันแม้ว่าน้ำแข็งจะละลายหมดแล้วก็ตามแต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จริงๆนั่นแหละ
แค่กลับไปนอนเล่นที่หอ
คิดได้อย่างนั้นเรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะหันหลังเตรียมเดินกลับหอแต่วันนี้คงไม่ใช่วันของแบมแบมสักเท่าไหร่เพราะดันชนเข้ากับอกแกร่งของใครบางคนแบบจังๆ เขาคงจะหงายหลังทิ่มถังขยะไปแล้วหากบุคคลตรงหน้าไม่ใจดียื่นมือมารั้งเอาไว้ให้ แบมแบมมองอีกฝ่ายก่อนจะโค้งขอบคุณแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง และเขาคงได้กลับหอไปนอนเล่นหากคนที่เขาชนไม่คว้ามือของเขาไว้
หมับ!
เพียงแค่มือของบุคคลแปลกหน้าสัมผัสชั่วครู่ร่างโปร่งก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก อากาศที่นี่ถือว่ากำลังเย็นสบายแต่ที่ข้อมือเขากลับมาแต่เหงื่อ
ดวงตากลมมองคนที่จับข้อมือของเขาไว้แน่นด้วยสายตาที่หวั่นๆ เขาทำได้แค่ภาวนาในใจขอให้ไม่ใช่คนคนนั้น แบมแบมกลั้นใจก่อนจะกระชากหมวกสีดำที่ปกปิดใบหน้าของอีกฝ่ายออกแต่ก็อย่างว่า...วันนี้มันไม่ใช่วันของเขา เมื่อสิ่งที่เขาขอมันกลับไม่ใช่...
แจ็คสัน หวัง...
“กรุณาปล่อยผมด้วยครับ”
แบมแบมพูดเสียงสั่นก่อนจะพยายามบิดข้อมือของตนออกจากการเกาะกุมของแจ็คสัน แต่เหมือนว่ายิ่งเขาพยายามขัดขืนมากเท่าไหร่แจ็คสันก็ยิ่งเพิ่มแรงจับไว้เท่านั้น ก็แน่ล่ะ เรื่องแรงน่ะเด็กอย่างเขาจะไปสู้อะไรกับพวกมาเฟียได้ล่ะ ยิ่งเป็นหัวหน้าแล้วล่ะก็...
คงไม่มีหวัง
“พี่อยากคุยกับตัวเล็กนะครับ คุยกับพี่ก่อนนะ”
“ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับคุณ ปล่อยผมก่อนที่ผมจะตะโกนให้คนอื่นช่วย”
“ตัวเล็ก...ให้โอกาสพี่ได้ไหม พี่ขอโทษสำหรับเรื่องนั้น พี่สัญญาว่ามันจะไม่มีอีก ขอร้องล่ะตัวเล็ก”
แววตาและน้ำเสียงที่ดูจริงจังของแจ็คสันทำให้แบมแบมนิ่งไปชั่วครู่ แต่ก็ไม่นิ่งตลอดไปเมื่อแจ็คสันเผลอผ่อนแรงที่จับข้อมือเล็กนั่นร่างโปร่งก็ใช้โอกาสนั้นสะบัดข้อมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายทันที
แจ็คสันมองคนตัวเล็กด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังก่อนจะล้วงหยิบสร้อยสีเงินที่มีจี้ที่ทำด้วยเงินแท้รูปกุญแจออกมาก่อนจะยื่นมันให้กับร่างเล็กตรงหน้า แต่มันก็ถูกมือเรียวปัดออกอย่างไม่ใยดีพร้อมกับสายตาที่เจ็บปวดของแบมแบมที่ถูกส่งมาให้
“คุณจะมาขอโอกาสอะไรกับเด็กอย่างผม ในเมื่อคุณเป็นคนบอกเองว่าเด็กอย่างผมมันก็แค่เซ็กส์เฟรนไม่ได้สำคัญเท่ากับผู้หญิงคนนั้น ทางใครทางมันเถอะ... ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
มือเรียวผลักอกแกร่งออกจนแจ็คสันถึงกับเซไปข้างหลังก่อนที่แบมแบมจะเดินออกไปอีกทางทิ้งให้ร่างแกร่งยืนมองตามหลังตาละห้อย มือหนากำแน่น ทั้งคำพูดและท่าทางของคนตัวเล็กของเขามันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าตัวเล็กของเขาหมดรักเขาแล้ว
แจ็คสันวิ่งไปทางที่แบมแบมเดินไปก่อนจะออกแรงกระชากคนตัวเล็กเข้ามาจูบตรงนั้น แต่เขาไม่ได้รุกล้ำอะไรมากแค่ปากแตะปากเฉยๆ เพราะเขาไม่ถนัดแบบนั้นสักเท่าไหร่แต่ชอบอะไรแบบหนักหน่วงแค่นั้น
“อย่าหมดรักพี่ได้ไหมแบมแบม...”
เพี๊ยะ!
ใบหน้าคมสะบัดไปตามแรงที่กระทบลงที่แก้มข้างซ้ายก่อนจะเซล้มไปตามแรงผลักที่หน้าอกอีกรอบ ดวงตาคมมองใบหน้าที่เรียบนิ่งของร่างโปร่ง แบมแบมทิ้งคำพูดไว้ให้เขาแค่ประโยคเดียวก่อนจะวิ่งหนีเขาไป
ประโยคที่ทำให้เขาแทบไม่มีแรงลุกขึ้น...
“นั่นคือสิ่งที่ผมให้คุณไม่ได้...”
Everlasting Love
.................................
เฮ้ๆ มาอัพให้แล้วนะครับ^^
จากนั้นอาจจะหายไปอีกนานแสนนานเลยแหละ55
ไม่ได้แต่งนานจนแทบจะลืมพล็อตของเรื่องนี้แล้ว เอาจริงๆ อาจจะต่อแต่อ่านแล้วอาจจะงงก็เป็นได้...
โอเค...
5เม้นนะครับ
จะว่าไป...ชื่อตอนมันเกี่ยวกับเนื้อหาตรงไหนหว่า=[]=
ความคิดเห็น