คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2 โง่... (100%)
◊ SQWEEZ
ดูรูปโวคอลหน้าแมววันละนิด จิตแจ่มใสนะฮ้าฟฟฟ><
ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเน้ออ><
Chapter 2
โง่...
ก็ถ้าลองมาเป็นผม
มาลองเป็นจองแดฮยอนคนนี้ดูบ้าง
ถึงจะเข้าใจความรู้สึกนี้
เจ็บ.. แต่ทำอะไรไม่ได้เลย
“จะร้องไห้ให้มันได้อะไรขึ้นมาอีกวะ เงียบๆดิ๊คนจะนอน!” เซโล่ตวาดกร้าวทำให้ผมถึงกับสะอึก คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้ผมกลัวจนต้องทำตามที่เขาสั่งหรอกนะ แต่มันตรงข้ามมันกลับทำให้ผมเริ่มร้องไห้หนักมากกว่าเก่าเสียอีก
“ฮึก.. ฮือ..”
“กูบอกให้มึงหุบปากไงวะ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงแหกปากร้องไห้อยู่ได้ จะนอน!!!” และเขาก็ตวาดใส่ผมอีกครั้งหนึ่ง
ตั้งแต่ที่เขาจับได้ว่าผมแอบคุยโทรศัพท์กับพี่ฮิมชานเพื่อที่จะหนีสรรพนามที่เคยดูสุภาพก็เปลี่ยนไป ไม่มีที่จะมาเรียกแทนตัวเองว่าผม เรียกตัวผมว่านางฟ้าหรือพี่ ไม่มีเลย.. ตอนนี้แทบทุกคำพูดของเขามันหยาบไปเสียหมด
ทั้งตอนที่ผมและเขา … และตอนนี้ก็ด้วย
“แล้วจะให้ทำยังไง? หัวเราะอย่างนั้นหรอ? ฮึก โดนข่มขืนแล้วหัวเราะ ตลกดีนะ”
“แล้วไง? จะแหกปากร้องไห้อยู่อย่างนี้หรือไง ว่างนักหรือไงวะ”
“…”
“โดดตึกตายเลยดีไหมจะได้ไม่ว่าง” ผมสะอึกกับคำพูดนี้จริงๆนะ ต่อให้โง่แค่ไหนก็ต้องเข้าใจความหมายของมันขนาดเด็กอนุบาลยังเข้าใจมันอย่างแจ่มแจ้งเลยมั้ง
ว่า.. เขากำลังไล่ผม
ไปตาย..
---------------5%-----------------
ต่อแล้ววววว~
เขาหันหลังให้กับผมแล้วนอนต่ออย่างไม่ใส่ใจอะไรทำเหมือนคำที่เพิ่งพูดออกมาเป็นเพียงมุขเพื่อให้ผมขำตาม ฮึก.. มันคืออะไรกันแน่นะไอ้อาการอึดอัดเหมือนมีอะไรจุกที่อก มันทั้งเจ็บและจุกเลยล่ะ
กัดปากตัวเองก็แล้ว จิกเนื้อตัวเองก็แล้ว ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวผมลืมความเจ็บปวดที่อัดภายในอก ไม่เลย นอกจากจะไม่สามารถลดความเจ็บในใจแล้วมันยังเพิ่มความเจ็บที่ร่างกายผมอีก นี่ผมเป็นพวกชอบทำร้ายตัวเองแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
ผมควรทำร้ายตัวเองเงียบๆแบบนี้ต่อไปหรือจะเลือกทางที่เขาบอก
กระโดดตึกตายซะ คงลืมความเจ็บปวดทุกอย่างได้และมันทำให้ผมไม่ว่างมานั่งร้องไห้อย่างน่าสมเพชให้เขาเห็นแบบนี้ด้วย
ยังไงซะ เท่าที่พอจะรู้คือบ้านหลังนี้มีสองชั้นและผมเองก็อยู่ชั้นที่สอง.. ถ้ากระโดดจริงๆล่ะก็เคราะห์ดีก็ตาย เคราะห์ร้ายก็รอด หากตายผมก็จะได้ไม่ต้องมาเป็นของเล่นของคนใจร้ายแบบนี้ไง..
ยองแจกูขอโทษนะ พี่ฮิมชานผมขอโทษนะ..
ผมลงจากเตียงแล้วพยายามฝืนเดินทั้งที่เจ็บจนใจแทบขาดไปหยิบเสื้อของเซโล่มาใส่ไว้ให้ตัวเองมีเสื้อผ้าติดตัวบ้างก่อนจะเหลือบสายตาไปมองที่ที่มีแสงลอดผ่านผ้าม่านที่ฟ้าอ่อน รู้ตัวอีกทีตัวของผมก็ยืนอยู่ที่ขอบระเบียงของหน้าต่างชั้นสองแล้ว ผมปล่อยให้น้ำตามันไหลลงสู่พื้นข้างล่างตามแรงโน้มถ่วงของโลก เสื้อตัวโคล่งที่ผมใส่ก็ปลิวไปตามแรงลม
กลัว.. พี่กลัวจังเลยจุนฮง
ผมหลับตาแน่นก่อนจะปล่อยตัวเองให้เอนตัวลงไปทางฝั่งด้านนอกซึ่งไม่มีอะไรรองรับนอกจากพื้นสนามหญ้าสีเขียว ต่อไปผมคงไม่ต้องมานั่งร้องไห้ทุกคืนแล้วสินะ..
จุนฮง.. พี่รักนายมากนะ
หมับ!!
“ไอ้โง่ซอนซาจองแดฮยอน!” ไม่.. ผมไม่ได้ร่วงลงไปตามที่ผมตั้งใจไว้ ทำไมจะต้องมาช่วยกันด้วยล่ะ
“ฮึก.. เซ เซโล่..”
“มึงโง่หรือโง่วะ!? สมองมึงมีเอาไว้กั้นไม่ให้หูติดกันแค่นั้นหรือไง กูแค่ประชดให้มึงหยุดแหกปากมึงเข้าใจมั๊ย แล้วนี่เหี้_ยอะไรมึงคิดโดดจริง? โง่! จองแดฮยอนมึงมันคนโง่!!”
“ฮึก.. ไม่ต้องมาทำเป็นมาช่วย ในเมื่อ ฮึก คนที่ไล่ให้ไปตายคือ.. นายเองนะ”
“โอ๊ย!! กูตบมึงสักรอบได้มั๊ยวะ โง่แล้วโง่อีก โว๊ย!!!!!!” ผมหลับตาแน่นเมื่อเขาเงื้อมมือขึ้นหมายจะตบผมอย่างที่เขาพูดจริงๆ
แปะ
ไม่ใช่.. มันไม่ใช่สัมผัสแรงๆที่ผมควรจะได้รับแต่มันกลับเป็นการสัมผัสที่นุ่มนวลบนแก้มของผมมากกว่า ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ผมเห็นใบหน้าของผมและเขาอยู่ใกล้กันมาก
เขาค่อยๆเคลื่อนใบหน้าคมนั้นเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆเริ่มจากการที่เขาจูบที่คางของผม ต่อด้วยที่แก้ม ที่จมูก ที่หน้าผากและจบด้วยการแตะสัมผัสอุ่นนั้นที่ริมฝีปากผมเบาๆ
ก่อนที่เขาจะดึงผมเข้ามากอดและกระชับกอดนั้นให้แน่นขึ้นและกระซิบที่ข้างๆหูผม
“ขอโทษ กูขอโทษ กูไม่คิดว่ามึงจะทำจริง” ไม่รู้ทำไมแค่เขาเอ่ยปากขอโทษแค่คำ สองคำมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้นิดหน่อย
“โง่ ฮึก.. โง่เอง แดฮยอนมันโง่เองแหละ”
“อย่าโทษตัวเอง..”
“ไม่ เพราะแดฮยอนมันโง่ แดฮยอนมันโง่ คนโง่!!”
“ไอ้เหี้_ยเอ๊ย บอกให้หยุดไงวะ!!!”
“ฮึก..”
“มึงไม่ผิด จำเอาไว้ว่ามึงไม่ได้ผิด จำมันเอาไว้ซะจองแดฮยอน” และคำพูดที่อ่อนโยนหลังคำตะคอกนั้นเป็นคำสุดท้ายที่ผมได้ยิน..
---------------45%------------------
วันแรกสอบโหดทั้นนั้นเลย วิทย์เอย คณิตเอย ประวัติเอย อังกฤษเอย ตายแปปTT^TT
Zelo talk
ผมล่ะอยากจะบ้าตายไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เกิดมาจนอายุป่านนี้แล้วผมยังไม่เคยเจอใครที่ทั้งโง่ ซื้อ บื้อได้เท่ากับซอนซานางฟ้าบ้าบอคอแตกอย่างไอ้นี่เลย โง่ซะจนผมสงสัยว่าเอนท์เข้าคณะนี้ได้ยังไง
แค่คำว่าประชดกับพูดจริงๆยังแยกไม่ออกเลย มันน่าส่งไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลหมีน้อยซะจริงๆ ที่พูดตอนนั้นบอกเลยว่าแค่ประชด ก็คนแม่งง่วงจะตายห่านอยู่แล้วยังจะมาแหกปากร้องไห้อะไรของมันก็ไม่รู้ ทำอย่างกับเด็กสาววัยแรกแย้มโดนข่มขืนอย่างนั้นแหละ- -
จะกระโดดลงจากชั้นสองเพื่อตาย โห~ คิดได้เนอะ ตกลงไปอย่างมากแค่พิการ อัมพาตอะไรประมาณนี้ คนอะไรก็ไม่รู้จะตายแล้วยังจะมาร้องไห้อีก..
ผมคิดบ้าอะไรอยู่กันวะเนี่ย
แถมซอนซาตัวปัญหาก็หลับไปแล้วด้วย..
ผมจัดแจงอุ้มเจ้าซอนซาตัวแสบไปนอนที่เตียงอีกครั้งหนึ่ง อ่า.. นี่เพิ่งจะสังเกตนะเนี่ยว่าซอนซาแอบเอาเสื้อผมมาใส่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผม แต่ช่างเถอะ ให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวละกัน
ที่เหลือก็.. รอให้ตื่นอีกครั้งสินะ
ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์แล้วกดเลขค้างไว้ เมื่อปลายสายรับผมค่อยกรอดเสียงลงไป
“ป้า โล่ขอข้าวต้มหนึ่งถ้วยสิฮะ พอดีพี่เขา.. เอาเป็นว่าหนึ่งถ้วยนะฮะ เสร็จแล้วเอาขึ้นมาให้โล่ที่หน้าห้องด้วยนะฮะ อ่า ผมขอกล่องปฐมพยาบาลด้วยนะฮะ แล้วก็ยาแก้แพ้ อ่อ แล้วก็.. แค่นี้ล่ะฮะ ยังไม่ต้องรีบก็ได้ฮะ เขายังไม่ตื่นเลย ขอบคุณป้ามากนะฮะ” ผมวางหูโทรศัพท์นั่นลงแล้วนั่งลงกับพื้นเอาคางเกยเตียงไว้
แล้วมันธุระกงการอะไรของผมที่จะต้องหาข้าวหายาให้ด้วยเนี่ย..
แต่ดูไปดูมาแล้วก็น่าสงสารอยู่หรอก นี่ขนาดนอนยังมีน้ำตาซึมๆออกมาจากหางตาเลย อ่า นี่ผมเผลอทำร้ายคนไม่มีทางสู้แบบนี้ได้ยังไงกันนะแต่.. เพื่อพี่ ผมคงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ๆ
ผมใช้นิ้วโป้งค่อยๆปาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลลงบนแก้มเนียนอย่างเบาๆและบรรจงจูบลงบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบากลัวอีกคนจะตื่นก่อนจะใช้มือเกลี่ยผมที่ปรกหน้าออก
มีคนไม่มากนักหรอกที่จะเห็นมุมนี้ของผม รวมถึงซอนซาด้วยที่จะไม่มีวันได้เห็นมุมนี้..
Daehyun talk
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองไปทางหน้าต่างที่ตอนนี้เริ่มไม่มีแสงแดดลอดผ่านเข้ามา นี่ผมนอนจนถึงเย็นเลยหรอ อ๊ะ บ้าจริงแดฮยอนบ้าจริงๆเลยทำไมถึงได้นอนกินบ้านกินเมืองแบบนี้นะแถมตื่นมาแล้วยังรู้สึกหนักๆที่ช่วงท้องและแขนอีกด้วย
หนักๆที่ท้องและแขนหรอ?
ผมไล่สายตามองตั้งแต่คอไปเรื่อยๆจนถึงช่วงท้องของผมก่อนจะเจอหน้าหล่อๆของคนใจร้ายที่นอนพาดแขนแกร่งบนตัวของผมอย่างไม่เกรงใจแถมยังถือวิสาสะเอามือของผมไปกุมไว้อีก ตอนนี้เหมือนเขากำลังเฝ้าผู้ป่วยที่เป็นลูคีเมียนอนอยู่โรงพยาบาลเลย
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก..
สะ เสียง เสียงอะไรเนี่ย ใครมาเปิดเพลงที่ไม่เป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอแบบนี้กัน!
“อื้อ~ อ่าว ตื่นแล้วหรอ” เขาตื่นแล้ว.. คนใจร้ายตื่นแล้ว
“อะ อรุณสวัสดิ์..” โอยตายจองแดฮยอน นี่พูดอะไรออกไปเนี่ย ก็เพิ่งคิดไปหยกๆเองนะว่าตื่นมาเย็นแล้วน่ะยังจะมาพูดอรุณสวัสดิ์บ้าอะไรอีกเล่า!
เซโล่เลิกคิ้วมองผมแล้วควานหาโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะกดเปิดภาพหน้าจอแล้วดูนาฬิกาก่อนจะหันมันมาให้ผมดู
17:35น.
“มาอรุณสวัสดิ์บ้าอะไรตอน5 โมงเย็นวะพี่ เพ้อหรือไง ฮ่ะๆๆ” ผมว่าผมคงเพ้อจริงๆนั่นแหละ เซโล่ยิ้ม เซโล่หัวเราะ ผมก็ไม่รู้ว่าเขายิ้มและหัวเราะให้ใครแต่เท่าที่ผมมองรอบห้องแล้ว ในห้องมีแค่ผมกับเขาเท่านั้น
เขายิ้ม หัวเราะ
ให้ผมอย่างนั้นหรอ..?
“อะไรของพี่วะ ทำหน้าเหมือนเห็นผีไปได้ แน่ะ~ เกิดมาเพิ่งเคยตื่นมาแล้วเจอคนหล่อใช่ไหมล่ะ” ถึงคำพูดจะดูห่ามๆไม่เคารพใครพี่ใครน้อง.. แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีคำว่ากูมึง
“เซ เซโล่.. เซโล่หรอ?”
“ก็เออดิ เห็นเป็นใครล่ะ” ผมว่า.. เขาตอบได้กวนตรีนผมจังเลย
“นายกินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า.. ทำไมถึงพูดดีด้วยแบบนี้”
“ไม่ชอบอ่อ..? ช่างเหอะ อะไรที่พี่ไม่ชอบผมก็จะทำ เออใช่ ผมบอกให้ป้าทำข้าวต้มมาให้แล้วกินให้หมดห้ามเหลือ! กินเสร็จแล้วก็กินยาแก้แพ้ด้วยล่ะ ถ้าไม่กินพี่ตายแน่J” แล้วเขาก็ออกไปเอาข้ามต้มที่ว่ามาให้ผม ยื่นให้และวางยาเม็ดสีขาวไว้หัวเตียงสองเม็ด
ผมเกลียดยาเม็ดที่สุดเลยL
“ทำไมต้องกินยาแก้แพ้ด้วยล่ะ” ผมถามออกไป อย่างน้อยผมอาจจะได้รู้เหตุผลที่ผมต้องกระเดือกไอ้ยาสีขาวขมๆนี่ก็ได้ แล้วทำไมเซโล่ถึงได้มองผมแบบนั้นล่ะ
“จะให้บอกจริง?”
“ก็จริงสิ”
“ก็.. เรื่องเมื่อวานไง ผมว่ามันก็น่าจะหนักอยู่นะเลยคิดว่ามัน..” ผมว่าห้องนี้มันร้อนไปหน่อยมั้ง.. หน้าผมมันร้อนอย่างกับอบซาวน่าอยู่อย่างนั้นแหละ
“เงียบไปเลยนะ!!”
“พี่หน้าแดงด้วย น่ารักจังJ”
“ย้า!! จะกินข้าว นายเงียบไปเลยนะ เงียบเดี๋ยวนี้เลย_///_”
“โอเคครับคุณเมียJ” แล้วผมก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มโดยไม่สนใจคำพูดที่เซโล่พูดเลยแม้แต่น้อย ผมว่าผมอาจจะเป็นโรคหัวใจก็ได้นะ.. มันเต้นแรงมากเลย เต้นแรงจนผมกลัว
จนกระทั่งผมกินข้าวต้มหมด เซโล่หยิบยาเม็ดสองเม็ดนั่นพร้อมน้ำมาให้ผมอย่างรู้งาน อ่า ไม่อยากจะกินมันเลยอ่ะ ถึงเซโล่จะพูดแล้วก็เหอะว่ามันแก้แพ้ที่ไหน-///-
“ไม่กิน~ ไม่เอา ไม่กินๆๆๆๆๆ”
“พี่อย่ามาดื้อกับผมนะ กินๆไปเถอะน่า”
“ไม่เอา เซโล่! ก็บอกว่าไม่กินไง ไม่กินนนนนนนนนนนนนน!!!”
“ผมชักจะหมดความอดทนกับพี่แล้วนะ ผมบอกให้กินยา”
“ไม่เอา ไม่กิน!!!”
“แดฮยอน.. ผมขอสั่งให้กินยา ถ้ายังไม่กินผมจะให้แดฮยอนกินด้วยวิธีของผมนะ”
“ก็บอกว่าไม่กินก็ไม่กิ.. อุ๊บ!!” ปากผมหยุดทำงานทันทีเมื่อเซโล่เชิดคางผมแล้วประกบปากอย่างรวดเร็วและยังสอดยาแก้แพ้บ้าบออะไรนั่นให้ผมอีกด้วย ผมทำอะไรไม่ได้เลยจะคายออกก็ไม่ได้ จะให้ยามันกลับคืนอีกคนก็ทำไม่เป็นอีก สุดท้ายก็ต้องจำใจกลืนมันลงไปอยู่ดี
เซโล่ถอนจูบ (เคลือบยาแก้แพ้) ออกแล้วเลียริมฝีปากตัวเอง
“หวาน”
“หวานบ้าอะไรของนาย ขมจะตาย”
“หึ ผมหมายถึงปากพี่น่ะหวาน หวานมากๆเลยล่ะ” โอ๊ย ตอนนี้ผมล่ะอยากจะบินไปที่ทวีปแอนตาร์กติกาหรือขั้วโลกเหนือหนีไปอยู่กับเพนกวินหรือหมีขั้วโลกเลย ผมร้อนมาก ณ เวลานี้
“โรคจิต”
“เอาล่ะ เหลืออีกหนึ่งเม็ด พี่จะกินเองหรือจะให้ผมป้อนอีกบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าให้ผมป้อนคราวนี้ผมไม่หยุดแค่ป้อนแน่ๆ”
เฮือก! บอกมาแบบนี้ใครจะกล้าเลือก
“อาจจะจบที่เตียงก็ได้ใครจะรู้”
ผมไม่มีทางให้หมอนี่ป้อนอีกแน่ๆ ไม่มีทาง
“หรือจบที่ข้างระเบียงก็น่าสนุกJ”
ผมตรัสรู้แล้วว่าไอ้นี่มันหื่น โรคจิตของแท้เลย!
“จะเลือกช่วยตัวเองหรือให้ผมช่วยดีล่ะ?”
“ช่วยตัวเองดิ!
“ถ้าอย่างนั้นก็ถอดเสื้อออกแล้วทำเลยสิครับพี่แดฮยอนJ”
“หมายถึงกินยาเองต่างหากเล่า!” ผมคว้าแก้วน้ำและยาเม็ดที่เหลือมาถือไว้ในมือ แง พูดง่ายแต่ทำยากนะ จะให้จองแดฮยอนคนนี้กินยาเม็ดนี่มันยากยิ่งกว่าศึกษาภาษามดอีกนะ
“หรือให้ผมช่วยดี?” จริงๆ.. มันก็ไม่ยากหรอกTT^TT
เอาล่ะ กลั้นหายใจ.. โยนยาเข้ามาปาก ดื่มน้ำตาม เคี้ยวงับๆและกลืน!
ความรู้สึกเหมือนตกนรกเลยTT^TT
“พี่กินยาเม็ดเป็นไหมวะเนี่ย มีใครเขากินแล้วเคี้ยวบ้าง- -” เออ ก็เกลียดยาเม็ดไงเลยกินไม่เป็น
“กินไม่เป็น”
“อะไรนะ?”
“ก็กินไม่เป็นไง ปกติกินแต่ยาน้ำ..”
“แล้วก็ไม่บอกกันตั้งแต่แรก ผมก็มียาน้ำ” เซโล่ชูขวดยาน้ำแก้แพ้รสองุ่นขึ้นมา
“ไม่ชอบองุ่น”
“มีรสส้มกับสตอเบอร์รี่ด้วย”
“เอาสตอเบอร์รี่”
“งั้นคราวหน้าจะให้เป็นยาน้ำล่ะกัน วันนี้พี่ไปนอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปเที่ยว” ฮะ? นี่ผมได้ยินอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย เซโล่เนี่ยนะจะพาผมไปเที่ยว
“พรุ่งนี้ไปเดทกัน ที่สวนสนุก คืนนี้นอนให้สบายแล้วพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไปเดทกันเนอะ” ผมว่าโลกคงหมุนกลับด้านแล้วล่ะ เซโล่จะพาผมไปเดทพรุ่งนี้ เดททั้งๆที่ผมและเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง ผัวเมียเดทกันไม่ได้หรือไง”
“เปล่า..”
“อืม~ ผมใบ้ให้นะพรุ่งนี้ผมมีเซอร์ไพรซ์พี่ด้วย ตกลงเดทกับผมนะ” ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน อาจเป็นเพราะแรงโน้มถ่วงของโลกก็ได้ที่ทำให้ผมพยักหน้าตกลงไปกับเขาพรุ่งนี้
แล้วอะไรบังคับปากให้พูดทั้งรอยยิ้มนะ?
“ได้ ไปก็ได้”
----------------100%-----------------
สอบวันนี้แทบทำอาร์มตายคาห้องสอบเลย ทั้งวิทย์ คณิต ไทย แอคแทคใส่ซะตั้งตัวไม่ทันเลย
55 ตอนนี้เลยออกมาแบบงงๆตามวิญญาณที่ล่องลอยของอาร์มเน๊อะ
โล่จะพาแด้ไปเดทในตอนหน้าล่ะ!!
ไรต์ว่าโล่เหมือนคนผีเข้าผีออกเลยเน๊อะ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
ความคิดเห็น