คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Step by step - 1
When I talk with you , I can’t stop smiling.
เมื่อฉันคุยกับนาย ฉันไม่สามารถหยุดยิ้มได้เลย.
“พวกห้องเอมันบอกว่าน่ารักมากเลยนะมึง”
“กูอยากเห็นและว้อยย”
ขายาวของคนที่กำลังนั่งฟังบทสนาทนาสุดไร้สาระของเพื่อนทั้งสองเป็นต้องเตะขาเก้าอี้พวกมัน เพราะมันรบกวนเสียงเพลงที่เขากำลังนั่งฟังอยู่
“โว้ว เตะทำไมวะมึง เดี๋ยวมึงเห็นจะตะลึง” เจ้าของเสียงเอ่ยแค่นั้นแล้วชี้หน้าหมายหัวไว้ทิ้งท้าย
.
.
.
.
.
.
“อันยอง ชเวจุนฮงฮะ ฝากตัวด้วยนะฮะ
“เอาละจ๊ะ ดูแลเพื่อนใหม่ด้วยนะ”
ร่างระหงที่ยืนอยู่หน้าห้องกับคุณครูคนสวยฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาคู่สวยก็เหมือนจะยิ้มตามริมฝีปากไปด้วย
“จุนฮงไปนั่งตรงนั้นนะ หลังสุดเลยน่ะ”
“ฮะ”
ร่างบางนั่งลงที่โต๊ะตัวที่คุณครูคนสวยบอก แล้วหันไปทักทายเพื่อนข้างๆ แต่เมื่อโบกมือพร้อมส่งยิ้มหวานให้กลับให้ กลับได้ใบหน้านิ่งๆนั่นกลับมา ร่างเล็กจึงหุบยิ้มทันที คนอะไรมนุษย์สัมพันธ์แย่ชะมัดเลย
ใบหน้าน่ารักที่แต่งแต้มรอยยิ้มจริงใจนั่น ชเวจุนฮงงั้นหรอ ผู้ชายหรือผู้หญิงวะเนี่ย หน้าหวานชิบหาย ยิ่งมานั่งข้างเขาอีก แต่ตัวผมต้องเก๊กหน้านิ่งไว้ก่อน
กลัวจะรู้ว่า....หวั่นไหว
วันนี้เป็นวันที่สองของการเริ่มต้นการเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ เพื่อนๆทุกคนที่นี่นิสัยดีมากๆเลย โรงเรียนแห่งนี้เน้นเรื่องกิจกรรมเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ว่าจะละเลยด้านการเรียน นักเรียนทุกคนในโรงเรียนมัธยมชอนซาต้องมีผลการเรียนที่ดีเช่นกัน
ตอนนี้คุณครูผู้สอนวิชาแรกยังไม่เข้า ถือว่าเป็นโอกาสดีดีที่นักเรียนจะนั่งจับกลุ่มคุยกัน แต่คนข้างๆนี่สิ เงียบตลอดเลย เขาเย็นชาแบบนี้กับทุกคนรึป่าวน้า
“นี่นาย ทำไมครูมาช้าจังอะ” ผมสะกิดแขนคนข้างๆเบา
“นี่ ได้ยินที่ฉันถามรึป่าว” แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่ค่อยสนใจผมแหะ
“นี่ หันมาสิ” เมื่อเรียกหลายครั้งก็ไม่มีการตอบรับ ผมก็เบ้ปากทันที
ก็โทรศัพท์มันหน้ามองกว่าหน้าผมรึไงเล่า... แกล้งสักหน่อยดีกว่า ดูสิจะทำยังไง
“แดฮยอนอา คุณครูไปไหนเหรอ” ผมพูดพลางใช้นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมสีทองของตนเอง
ได้ผลครับ เขาละจากหน้าจอโทรศัพท์มาเป็นหน้าผมแทน แต่หน้าก็ยังนิ่งอีกเช่นเคย
ย่าห์ ผมเริ่มจะโมโหแล้วนะ
“นายเป็นบ้าอะไร ก็นั่งเงียบๆรอไปสิ”
ตอนนี้ผมกำลังทำตัวไม่ถูก รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่กำลังกอบกุมใบหน้าหล่อ หมาน้อยข้างๆผมกำลังทำอะไรอยู่รู้ตัวมั้ยเนี่ย
แก้มยุ้ยๆนั่น ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงที่เผยอขึ้นมาเล็กน้อย น่ารักเกินไปแล้ว
“นายเป็นบ้าอะไร ก็นั่งเงียบๆรอไปสิ”
ก่อนที่หน้าของผมจะแดงไปมากกว่านี้ ก็ต้องเก๊กไปก่อน หน้าหวานๆนั่นยู่ทันทีเมื่อได้ยินผมตอบ
...ขอโทษนะตัวเล็ก
มีใครเคยบอกรึเปล่าว่าจุนฮงนะเหมือนตุ๊กตาหมาน้อยๆที่เจ้าของเป็นต้องนอนกอดทุกคืน ผมก็อยากจะเป็นเจ้าของซะด้วยสิ
แต่หมาน้อยจะยอมให้ผมเป็นเจ้าของรึเปล่า
ผมน่ะชอบนั่งเงียบๆแบบมีคนนั่งข้างๆ
ในที่สุดอาจารย์ที่สอนคาบแรกก็ไม่เข้า แต่อยู่ๆก็มีรุ่นพี่เข้ามาประกาศบางอย่าง
“แด้ ยงกุก ยองแจ เทอมนี้มึงลงแข่งบาสมั้ย” พี่แจบอมตะโกนมาจากหน้าห้อง คือพี่ครับ เดินมาคุยกับพวกผมที่โต๊ะก็ได้ครับ
“เออๆ” ผมปัดมือเชิงเบื่อหน่าย ผมเป็นนักกีฬาบาสครับ เพื่อนๆผมก็เป็นกันทุกคน และก็ไม่แปลกที่ทุกเทอมผมต้องลงแข่ง และต้องชนะกลับมา แต่มีเพียงครั้งเดียวที่ทีมพวกผมแพ้
“นายเล่นบาสเป็นด้วยหรอ” คนข้างๆดูเหมือนจะมีความสงสัยมากกว่าความงอน จึงลืมตัวหันมาพูดกับผม
“หายงอนแล้วหรือไง J” ผมยกยิ้มมุมปากนิดๆกับท่าทางตกใจว่าตัวเองลืมตัวว่างอนผมของหมาน้อย แต่เค้าไม่ม่ทางได้เห็นหรอก
“ก็ป่าว ให้อภัยก็ได้ ม๊าเคยบอกว่าการให้อภัยเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก” ดวงตาใสซื่อจ้องมาที่ตาคู่คมของผม
“....”
“....”
“หมายความว่า.. นายกำลังจะรักฉันอย่างงั้นหรอ”
“หาาา!”
“ก็นายพูดเอง ว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก”
“มันก็ใช่ แต่ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนั้นสักหน่อย ฮื่ออออ” เมื่อคนตัวเล็กไม่รู้จะปฏิเสธแบบไหน ก็รีบจ้ำอ้าวเดินออกจากห้องไปทันที
เวลาจุนฮงเขินเนี่ย น่ารักเป็นบ้าเลย
เวลาผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เปิดเทอมมา ตอนนี้ผมกำลังนั่งเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้อยู่
“แดฮยอน นายสอนฉันทำโจทย์เลขหน่อยสิ”
“หืม?”
“สอนฉันหน่อยน้า อีกอย่างอาจารย์บอกว่า ตัวอย่างมันอยู่ในหนังสือของปีที่แล้ว ฉันไม่มีอ่า”
“มีข้อแลกเปลี่ยน”
“อ..อะไร”
“นายต้องกลับบ้านกับฉันทุกวัน”
“ห้ะ?”
“แต่ก่อนกลับบ้านฉันต้องซ้อมบาส”
“....” คนตัวเล็กตั้งหน้าตั้งตาฟังสิ่งที่อีกคนกำลังจะพูด
“เพราะฉะนั้น นายจะต้องไปให้กำลังใจฉันที่ยิม”
“....” คนตัวเล็กเกมือนกำลังครุ่นคิดในความคิดของตนเอง ผมจึงทำให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้นในการยอมรับข้อเสอนนี้
“จะให้คนหล่ออย่างฉันช่วยติวเนี่ย มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันนะ”
“....”
“ตอนนี้ก็ติดอยู่แค่นายจะยอมรับข้อเสนอของฉันรึเปล่า”
“....”
“ 1”
“2”
“เอ่ออ.. ก..ก็ได้ ฉันยอมแล้ว”
“ดีมาก”
“งื้ออ”
“งั้นเริ่มจากวันนี้เลย แต่วันนี้ฉันไม่มีซ้อม”
“อ่า อาจารย์ออกไปแล้ว กลับเลยได้ไหม ฉันหิวอ่ะ” ร่าเล็กส่งยิ้มแหยๆให้ผม
“ก็ไปสิ”
พอผมพูดจบก็เดินนำอีกคนไปก่อน แต่จุดหมายไม่ใช่ลานจอดรถ ใช่แล้วครับลานจอดรถ โรงเรียนนี้ไม่ได้ให้นักเรียนขับรถมาโรงเรียนหรอกครับ ถึงแม้นชั้นเรียนพวกผมจะเป็นมัธยมปลายปีสองแล้วนักเรียนก็ไม่สามารถขับรถส่วนตัวมาโรงเรียนได้
แต่ว่ากลุ่มของพวกผมสามารถขับมันมาได้
“นี่ นายจะไปไหนอะ ทำไมไม่เดินไปทางหน้าโรงเรียน “
ผมไม่ได้สนใจคำถามนั้น แต่นิ้วของผมกำลังเลื่อนไปกดลิฟต์ เพื่อไปชั้นแปด
ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับคนสองคนที่มีคนตัวเล็กทำหน้าสงสัย ขายาวหยุดที่หน้าห้องๆหนึ่งที่มีป้ายเขียนว่า
‘ ผู้อำนวยการ’
“ย่าห์ นายมาห้องทำงานผ.อ.ทำไมเนี่ย”
“พูดมากน่า มานี่”
ผลั่ก
คนร่างหนาผลักประตูเข้าภายในห้อง แล้วก้าวเข้าไปในห้องนั้น ทำให้เห็นชายวัยกลางคนภายในชุดสูทดูหน้าเกรงขามนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ดูรวมๆแล้วน่าจะเป็นผู้บริหารโรงเรียนชอนซาแห่งนี้ แล้วนายนี่เข้ามาอย่างนี้โดยไม่เคาะประตูจะไม่โดนหมายหัวรึไง แล้วความสงสัยของคนตัวเล็กก็หายไปทันที เมื่อเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“พ่อ ผมเอาตั๋วเที่ยงยุโรปที่ให้จองสำหรับการฮันนีมูนของแม่กับแม่รอบที่ล้านมาให้”
มือหนาเลื่อนไปหยิบซองสีน้ำตาลที่ภายในบรรจุตั๋วเที่ยวยุโรปสองใยออกมาแล้วยื่นให้ชายวักลางคน
เดี๋ยวนะ พ่องั้นหรอ หรือว่า นายนี่เป็นลูกเจ้าของโรงเรียน เมื่อฉุกคิดได้ว่าทำอะไรไม่ดีกับลูกเขาไว้เยอะ มือเล็กเลื่อนขึ้นมาปิดปากด้วยความตกใจทันที
“ขอบใจมากไอ้ลูกชาย แล้วนี่ใครละ เพื่อนใหม่หรอ”
“เด็กโต๊ะข้างๆครับ สติไม่ค่อยดี” เมื่อสติกลับมาคนตัวเล็กก็โค้งให้กับชายน่าเกรงขามทันที
“หน้าตาน่ารักดีนะ”
“ขอบคุณครับ” ผมเกาท้ายท้อยเล็กนอยแก้เขิน ชมกับแบบนี้ก็เขินสิครับ
“ผมไปละพ่อ เจอกันที่บ้าน”
สิ้นเสียงทุ้มขายาวก็ก้าวออกจากห้องทันที จุดหมายครั้งนี้ก็คือรถยนต์คันหรูนั่นเอง
ขายาวหยุดที่แลมโบกินีสีขาวที่จอดอยู่ในลานจอดรถของโรงเรียน
“ขับรถมาโรงเรียนได้ด้วยหรอ”
“สำหรับลูกผู้บริหารและผองเพื่อน”
“จ่ะ” ร่างเล็กเบ้ปากด้วยท่าทีหมันไส้
รถยนต์คันหรูแล่นไปตามท้องถนนเพื่อพาอีกคนกลับบ้านตามที่อีกคนยอมรับข้อเสนอ
“ที่ขับไปเรื่อยๆเนี่ย รู้รึไงว่าบ้านฉันอยู่ไหน”
“คฤหาสน์ตระกูลชเวใครไม่รู้จักบ้างน้า”
“นายเป็นสโตกเกอร์หรือไง”
“ทำนองนั้นแหละมั้ง ฮะฮ่า”
“บ้าไปแล้วแน่ๆ” คนตัวเล็กพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ฉันได้ยิน”
ร่างสูงขำกับท่าทางเหมือนลูกหมาโดนขัดใจของจุนฮง น่ารักอีกแล้ว ตั้งแต่เจอกันผมชมเขาไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย
ระหว่างทางก็มีบทสนทนาเล็กๆเกิดขึ้น
“ทำไมนายชอบทำหน้านิ่งจัง เหมือนคนไม่มีชีวิตเลย”
“ไม่รู้สิ ถ้าอยากให้ฉันยิ้ม ก็ทำให้ฉันยิ้มสิ”
รถคันหรูหยุดอยู่หน้าบ้านของคนสวย ไม่นานคนใช้ก็มาเปิดประตูให้ พร้อมทักทายด้วยสีหน้าแจ่มใส
“เข้าไปในบ้านก่อนมั้ย”
“อืม”
“สวัสดีครับคุณน้า ผมจองแดฮยอนครับ” ร่างหนาทักทายแม่ของผมแล้วโค้งเก้าสิบองศา
“ลูกชายคุณชายจองนี่เอง เข้ามาสิจ๊ะ” ทำไมแม่รู้จักละเนี่ย ผมไม่เห็นจะรู้เลย”
“ม๊ารู้จักได้ไงอะ”
“ทานบิงซู*ก่อนมั้ยจ๊ะ แม่เพิ่งให้เด็กไปซื้อมาจากร้านดังอร่อยๆมากเลย”
“รบกวนด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ” คุยกันเหมือนรู้จักกันมานาน ม๊าไม่สนใจลูกแท้ๆเลยอะ ฮื่อออออ
“ม๊า ยัยเจ้กลับมารึยัง”
“อยู่บนห้องแล้วลูก”
ดูเหมือนแดฮยอนจะสงสัยแหะ ทำหน้างงเลย ไม่บอกหรอกแฮ่
“พี่ชายเจลโล่นะลูก” อ่าว ม๊าไปบอกเค้าทะมายยยย
เมื่อกินเสร็จก็คุยกันต่อนิดหน่อย แล้วนายนั่นก็ขอตัวกลับบ้าน ผมก็ต้องมาส่งที่รถตามมารยาท ถึงจะหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ต้องรักษามารยาท
“กลับละนะ เจลโล่อา” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูของผม ทำไมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันทีเลย ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมาจับใบหน้าที่หวานเกินผู้ชายของตนเอง
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้ จอง แดฮยอนรู้ว่า เขากำลังค่อยๆเข้าไปในชีวิตของอีกคน ทำให้รู้จักตัวตนของหมาน้อยน่ารักมากขึ้นมาในระดับหนึ่ง
{100%}
#ฟิคลองคุย
Talk!
ฮาโหลลล เรามาอัพตอนแรกแล้ววว ตอนนี้อาจจะสั้นไปนิดขออภัยด้วยน้า ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ช่วยเม้นให้เราด้วยน้า จะได้มีกำลังใจในการแต่ง แล้วจะอัพเร็วมากๆ สำหรับคนที่มีทวิตเตอร์เราคิดแท็กไว้แล้วนะ ใครที่ชื่นชอบฟิคเรื่องนี้แบ่งปันความฟินกันในทวิตเตอร์แล้วติดแท็ก #ฟิคลองคุย ด้วยนะคะ แล้วเจอกันในตอนหน้านะค้า .โค้ง
ชี้แจง* บิงซู คือ น้ำแข็งใสของเกาหลีคะ
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ความคิดเห็น