คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : SH : จะสืบสวนผู้ต้องสงสัยอย่างไร?
ภาค 1 ทักษะของนักสืบ :
จะสืบสวนผู้ต้องสงสัยอย่างไร?
“พูดตรงไปตรงมากับผม
แล้วเราอาจจะได้ทำบางสิ่งดี ๆ ด้วยกัน แต่ถ้าเล่นตลก
หรือทำลวดลายกับผม ผมจะบดคุณให้แหลกละเอียดไปเลย”
(เชอร์ล็อค โฮล์มส์ The Abbey Grange)
เป็นเป้าหมายอันเป็นวัตถุประสงค์หลักในการสอบซักถามผู้ต้องสงสัย มิใช่กระทำเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับอาชญากรรม บรรดานักสืบต่างได้รวบรวมโครงร่างของเหตุการณ์อย่างครบถ้วนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ จะต้องพยายามให้ผู้ต้องสงสัยที่ถูกสอบนั้นได้พูดออกมา ซึ่งข้อเท็จจริงเมื่อ ถึงจุดนั้น สิ่งที่ผู้ต้องสงสัยพูดออกมาไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ากิริยาท่าทางที่เขาได้กล่าวเน้นออกมา โฮล์มส์ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การเกร็งหรือกระตุกของกล้ามเนื้อ หรือการกลอกตา” จะทำให้นักสืบที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างได้ สามารถหยั่งลึกเข้าไปในความคิดของผู้ต้องสงสัยได้ ทำให้เจตนาที่จะหลอกลวงของคนผู้นั้น กลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้
§ ทำการบ้านให้ดี
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคดีและผู้ต้องสงสัยไว้ในตัวคุณให้มากที่สุด ก่อนที่จะเริ่มการสอบสวน ถ้าคุณมีข้อมูลที่เป็นความจริงอยู่ในมือมากเท่าใด คุณก็จะอยู่ในสถานภาพที่จะวินิจฉัยได้ดีกว่าระหว่างความจริงกับคำให้การเท็จ
§ เริ่มต้นด้วยคำถามที่อยู่ภายใต้ “การควบคุม” ให้ได้
อาจจะเริ่มต้นด้วยคำถามง่าย ๆ เกี่ยวกับประวัติสังเขป ของผู้ถูกสอบ ซึ่งอาจจะเป็นการปูพื้นที่ให้เกิดบรรยากาศของความเห็นอกเห็นใจ ทำให้ผู้ถูกสอบคลายความตื่นกลัวให้ลดลง อีกทั้งยังทำให้ผู้ถูกสอบเกิดความรู้สึกว่า คุณรู้คำตอบดีอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงเป็นเพียงขั้นตอนของการเรียบเรียงความจริง ทั้งหมดของผู้ต้องสงสัย ในช่วงนี้ต้องสังเกตพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยให้ละเอียดถี่ยิบ จับตาดูอากับกิริยาการเปลี่ยนแปลงของการตอบแต่ละคำถาม ซึ่งจะนำไปสู่คำถามกับคำตอบอื่น ๆ ที่จะตามมา
§ จงหลีกเลี่ยงคำถาม ใช่ หรือ ไม่ใช่
ควรถามคำถามที่ผู้ตอบต้องตอบด้วยการบรรยายถ้าผู้ต้องสงสัยจะต้องใช้รายละเอียดในการตอบถี่ถ้วน โอกาสที่คำเท็จจะหลุดออกมาขัดกับความจริงย่อมมีมากว่า หรือไม่คำตอบอาจขัดแย้งกันในตัว “ใน The Valley of Fear โฮล์มส์เกิดความแน่ใจที่สอง” ผู้ต้องสงสัย “ได้ถักใยสร้างคำโกหกใหญ่โตอย่างไม่อาจจะยอมรับได้” เพราะรายละเอียดเรื่องราวทั้งหมด มิอาจจะเบนทิศทาง เข้ามาสู่ความรู้ด้านอาชญากรรมที่มีอยู่ของเขา “ผมรู้ได้ยังไงว่าพวกเขากล่าวเท็จ ก็เพราะว่าคำพูดที่พวกเขาสร้างมันขึ้นอย่างทุลักทุเลนั้น จะเป็นความจริงไปไม่ได้ คิดดูสิ มันกุเรื่องขึ้นมาบอกว่า ฆาตกรมีเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีในการถอดแหวนวงหนึ่งซึ่งซ้อนทับอยู่ภายใต้แหวนอีกวงหนึ่งจากมือของผู้ตาย ในขณะเดียวกันสวมทับด้วย แหวนอีกวงหนึ่งเข้าไปแทนที่ เพียงแค่นี้เราก็เห็นได้ชัดแล้วว่า มันเป็นคำโกหกทั้งเพ เพราะทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เสร็จภายในหนึ่งนาที”
§ ค้นหาเงื่อนงำที่มิได้มาจากคำให้การ
ผู้ต้องสงสัยจะเก่งสุดยอดในการล่อลวงแค่ไหนก็ตาม แม้แต่ศาสตราจารย์มอริอาร์ตี้ ศัตรูคู่ปรับตัวเอกของเชอร์ล็อค โฮล์มส์ เป็นคนซึ่ง “มีคำพูดคำจาที่อ่อนโยน มีน้ำเสียงน่าฟัง น่าเชื่อถือ เหมือนเป็นคนจริงใจ” แต่กิริยาภาษาทางกาย ก็ยังทำให้เขาต้องเพลี่ยงพล้ำ มันเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ละเอียดอ่อนเป็นอากัปกิริยาสัญชาติญาณที่คนโกหกต้องแสดงออก เราสามารถตรวจจับได้ ถ้าสายตาที่เราจ้องจับได้รับการฝึกฝนบ่มเพาะประสบการณ์ ยกตัวอย่างเช่น การหลบสายตา โดยไม่กล้าสบสายตา การแสดงออกซึ่งความอึดอัด มองไปทางอื่นหรือเบนสายตาจ้องไปทางอื่น หรือเอียงหัวไปทางใดทางหนึ่งขณะตอบคำถาม สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่อให้เห็นถึงการกระทำที่หลอกลวง ถ้าสายตามองลงไปในที่ต่ำส่อให้เห็นถึงความไม่จริงใจ และมีความพยายามในการปรับแต่งข้อมูล การผ่อนคลาย ปล่อยมือส่อไปในทางให้ความสัตย์ แต่ถ้ามีการกำมือแน่น จะส่อให้เห็นเป็นการตรงข้าม การใช้มือกอดอกแสดงออกให้เห็นถึงความอึดอัดไม่สบายใจ ถ้ามีการใช้มือลูบแก้มหรือคาง ตีความได้ว่าผู้ต้องสงสัยไม่เชื่อในสิ่งที่เขากำลังได้ยินหรือเผชิญอยู่ นักจิตวิทยาร่วมสมัย พอล เอ๊กแมน ได้เขียนบรรยายไว้อย่างละเอียด และมีผลในการช่วยทำให้เจาะเข้าหาเงื่อนงำเหล่านี้อยู่
§ ทำเหมือนกับว่าคุณรู้ความจริงหมดทุกอย่างแม้ว่าคุณจะยังไม่รู้ก็ตาม
ระหว่างการสอบถาม ความรอบรู้คือพลังสำคัญ ถ้าผู้ต้องสงสัยเชื่อว่าคุณรู้ความจริงเกือบทั้งหมดแล้ว คนผู้นั้นจะมีแนวโน้มคล้อยตามทุกสิ่งที่จะตามมาใน “The Mazarin Stone” โฮล์มส์ได้ใช้กลเม็ดของยอดอัจฉริยะลวงคนเจ้าเล่ห์อย่าง เคานต์ ซิลเวียส จนมุมถึงกับยอมรับสารภาพ โดยโฮล์มส์ทำเป็นว่าเขารู้จักแหล่งที่เก็บหินมีค่าที่หายไป บีบจนท่านเคานต์ยอมคายข้อมูลที่ซ่อนของหินมีค่านั้นโฮล์มส์ยืนยันว่าเขาจะรักษาความลับนี้โดยไม่แพร่งพรายให้ผู้อื่น จนในที่สุดท่านเคานต์ยอมรับความผิดที่กระทำไว้ทุกประการ
§ พยายามในการต่อรอง
ถ้าคุณต้องการดูดข้อมูลความจริงจากผู้ต้องสงสัย หรือพยานที่ดื้อรั้นมีพยศ พยายามหาช่องทาง เสนอทางออกอันเป็นทางหนีทีไล่ที่เลวร้ายน้อยกว่า โฮล์มส์เคยใช้วิธีต่อรองนี้กับท่านเคานต์ โดยยื่นข้อเสนอที่ยากนักสำหรับท่านเคานต์จะปฏิเสธโดยย้ำว่า “เราต้องการหินนั้น ถ้าท่านยอมในส่วนของผม ท่านจะสามารถหลุดพ้นเป็นอิสระได้” หรือมิฉะนั้นโฮล์มส์ข่มขู่ว่า ท่านเคานต์อาจจะต้อง “ถูกติดคุก 20 ปี”
ความคิดเห็น