ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END [Fic exo] อู่...บยอน ChanBaek ft.exo

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8(rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.99K
      706
      28 มี.ค. 66

    *มีพฤติกรรมของตัวละคร คำพูด ที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน* 

     

    Chapter 8

     

    New York City

    “อาาาาา~”

    “ดีไหมเรน ชอบรึเปล่า”

    “อือ ชอบที่สุด อึก อืมม”

    ร่างสองร่างกอดรัด โรมรัน มอบความลึกซึ้งให้แก่กันและกัน ทุกท่วงท่าและธรรมนองเป็นไปตามแรงอารมณ์เบื้องลึกของความใคร่ มอมเมาให้แก่กันจนสุขสม เมื่อเสร็จสิ้นก็กอดก่ายกันอย่างมีความสุข ไม่สนว่าเรื่องที่ตนกำลังทำอยู่นั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม

    ร่างเล็กผิวขาว ทิ้งตัวที่เต็มไปด้วยรอยรักมากมายลงบนร่างแกร่ง เมื่อสุขสมในอารมณ์ใคร่ หอบหายใจอย่างหนักหน่วงแต่เต็มตื่นไปด้วยรัก ซุกซบอย่างสุขใจ มือเรียวบางลูบไล้ไปตามแผงอกกว้างอย่างหลงใหล พร้อมที่จะทำทุกอย่างตามที่อีกคนต้องการ เพื่อเป็นการยืนยันในรักนี้

    “เรื่องบราเดลไปถึงไหนแล้วครับคนดี”ร่างสูงกระซิบถามเสียงหวานข้างหู ตาคมปรายมองคนที่หลงใหลตัวเองหัวปักหัวปำนิ่งๆ

    “อือ เรนรู้แล้วครับว่าตอนนี้บราเดลอยู่ที่ไหน”เจ้าตัวเงยหน้า มองใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะเอ่ยตอบ

    “ดีจังเลยครับ เพราะผมคิดว่าเราควรจะตามบราเดลกลับมาแข่งได้แล้ว ไม่งั้นธุรกิจเราพังหมดแน่ๆ”

    “ได้ครับ อีกสองสามวันเรนกะว่าจะลองโทรไปก่อน แต่ถ้าบราเดลยังเรื่องมากไม่ยอมมา เรนจะไปตามถึงที่โน้นเลย เพราะเรนมั่นใจว่ายังไงบราเดลก็ต้องฟังเรน”เจ้าตัวพูดเหยียดๆถึงอีกคน

    ร่างแกร่งเหยียดยิ้มอย่างดีใจ เมื่อตัวทำเงินกำลังจะกลับมา ก่อนจะก้มมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า แต่กลับฉายชัดถึงแววเห็นแก่ตัวชัดเจน

    หึ โง่แล้วยังอวดฉลาดจริงๆ

    ร่างสูงเหยียดยิ้มให้กับคนร่างบางที่โดนหลอกใช้แล้วยังไม่รู้สึกตัวสักนิด แค่ตนทำเป็นเอาอกเอาใจนิดหน่อยก็หลงไปกับความรักจอมปลอมที่ถูกปั่นแต่งขึ้น ซึ่งเมื่อไหร่คนตรงหน้าหมดประโยชน์ เขาก็พร้อมจะทิ้งมันไปทุกเมื่อ แต่นี้ที่ไม่ทิ้งเพราะยังมีประโยชน์ที่สามารถให้หลอกให้ไอบราเดลมันกลับมาทำเงินให้เขาได้อีกครั้ง เขาไม่รู้สาเหตุว่าทำไมมือดีอย่างมันถึงประสบอุบัติเหตุ แต่ก็ช่างเถอะ เพราะมันมีหน้าที่แค่เป็นตัวพนันชั้นดีหาเงินให้เขาเท่านั้นก็พอ

    ร่างแกร่งที่ทำหน้าที่เป็นที่นอนของร่างบางคิดอย่างสุขใจ มือหยาบกร้านลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเปลือยแต่เต็มไปด้วยรอยจูบอย่างอ่อนโยน แต่วาบหวามเพื่อสร้างอารมณ์ใคร่ จะได้ปรนเปรอร่างบางตรงหน้าให้มัวเมา มืดบอดไปกับปลักรักโง่ๆนี้

    “เรนของผมน่ารักที่สุดเลย”ปั้นแต่งหน้ายิ้มหวาน แสดงความรักจนคนร่างบางอายม้วน

    “ก็เพราะเรนรักคุณยังไงละครับ และเรนจะทำทุกอย่างตามที่คุณต้องการ”เจ้าตัวตอบกลับอย่างเขินอาย

    “แล้วแบบนี้ผมจะไปไหนรอด เรนของผมน่ารักขนาดนี้”

    “คุณก็จะต้องอยู่กับเรนแบบนี้แหละครับ เพราะเรนแค่หลอกใช้บราเดลแสดงท่าทีว่ารักมันเท่านั้น เมื่อมันหมดประโยชน์ เราก็แค่หาคนใหม่มาแทนที่มัน”เจ้าตัวพูดเสียงหวาน แต่กลับเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว

    “หึหึ ไอบราเดลมันก็โง่จริงๆไม่รู้เลยสักนิดว่าคนที่มันรัก คิดแค่จะหลอกใช้มันเท่านั้น”เจ้าตัวพูดยิ้มๆ พร้อมกับมอบจูบแสนหวานเป็นรางวัลกับคำพูดที่ถูกใจตนของร่างบาง

    “แน่สิครับ ถ้าไม่เพื่อคุณมีเหรอที่เรนจะไปอยู่ข้างไอคนพรรค์นั้น”เจ้าตัวพูดออกมาอย่างเซ็งๆ

    น่าเบื่อจะตาย วันๆพูดอยู่ไม่กี่คำ เฮอะ!

    “ทำไมละครับ ไอบราเดลมันไม่ถึงใจเหรอ”ถามอย่างสงสัย เพราะเท่าที่รู้มาบราเดลโชกโชนเรื่องพวกนี้มาก

    “บ้าเหรอ เรนไม่มีทางให้มันได้เห็นแม้แต่ขาหรอก อย่างมากก็แค่จูบเท่านั้นแหละ แถมมันบอกว่ามันรักเรนมากเลยไม่อยากจะทำอะไรเรน ฮ่าๆๆๆ โง่จริงๆ”

    คิดแล้วก็ขำกับดวงตาคมสีฟ้าอมเทานั้นที่มันแสดงถึงความรักที่มีต่อเขา แต่เขากลับเห็นว่ามันน่าตลกสิ้นดี แล้วเขาก็เกลียดตาคู่นั้น และเขาก็ชอบสีเขียวมากกว่า

    “มันก็แค่เด็กที่คิดว่ามีทุกอย่างเอาไว้ในมือนั้นแหละครับ”

    “ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่บันไดเอาไว้ให้เราสองคนเหยียบย้ำเท่านั้นเอง”

    ก่อนคนทั้งสองจะส่งเสียงหัวเราะชอบใจกับความคิดของตน ไม่มีความรู้สึกผิดในมโนสำนึกกับการกระทำของตนเลยสักนิด

     

    ......................................

     

    เพนเฮ้าส์กลางกรุงฯ

    โอยยยยยยย จะบ้าตายครับตื่นมาแล้วเห็นตัวเองตัวลายเป็นตุ๊กแก แต่จะไปโทษใครได้นอกจากความใจง่ายและไม่เล่นตัวของตัวเอง พร่ำบอกตัวเองว่ากูเนี่ยแหละแมน อึก อึก แต่ทุกอย่างมันเริ่มสั่นคลอนแล้ว ฮื่อๆๆ ไม่อยากจะยอมรับมันจริงๆ เพราะไอเบคนนี้ยังทำใจมิได้

    “เชสสสสสสกินข้าว”ผมลากเสียงแห้งๆเรียกคนตัวโต ที่นั่งดูข่าวเช้าอยู่หน้าทีวี

    อ่อ เชส นี้เป็นชื่อย่อเจ้าตัวเขา เนื่องจากผมขี้เกียจเรียกยาว เจ้าตัวเลยบอกให้ผมเรียกแบบนี้แทน

    เจ้าตัวหันมาเลิกคิ้วใส่ผม คงสงสัยกับท่าทีและอาการแห้งเหี่ยวของผม ก่อนลุกเดินเข้ามาในครัวแล้วตรงเข้ามาหอมหัวผมอย่างกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของตัวกูเสร็จ ก็ลงไปนั่งที่โต๊ะ

    อยากโวยวาย อยากด่านะครับ แต่เช้านี้เหนื่อยเกินจะทานทนฮื่อๆๆ ร้องไห้แพรบ

    “เป็นไร”

    เชสเซอร์ถามผมด้วยท่าทางมึนๆ ซึ่งเจ้าตัวนั่งโชว์อกแน่นแปดก้อนอย่างไม่คิดจะหยิบเสื้อขึ้นมาใส่ และไม่อายที่ผมกำลังมองนมเจ้าตัวอยู่

    อะไร! ก็มันไม่มีที่ไว้สายตาไหมละ

    “ก็เรื่องเดิมไหมละ”ผมตาขวางใส่ โคตรเคือง

    “เลือก”

    ฮะผมนี้ขมวดคิ้วเลยครับ พร้อมกับยกข้าวต้มหมูใส่ตับไปวางตรงหน้าเชสเซอร์ เดี๋ยวนี้ผมเริ่มทำอาหารไทยให้เชสเซอร์ได้ลองบ้างแล้วครับ พร้อมกับบังคับให้กินข้าว ซึ่งถ้าไม่ใช่อาหารทะเลเชสเซอร์จะทานได้เกือบหมดทุกอย่าง ไม่ค่อยเลือกกินเท่าไหร่

    “สั้นไปไหมละประโยคอะ”ผมถามเซ็งๆ แล้วทิ้งตัวนั่งข้างเชสเซอร์

    “ระหว่างใส่กับไม่ใส่จะเอาอันไหน”เจ้าตัวพูดพลางตักข้าวต้มหมูเข้าปากด้วยท่าทางมึนๆ

    งงเว้ย ใส่กับไม่ใส่เกี่ยวอะไรกับชุดนอนส้นตีนนี้วะ

    “เกี่ยวไหมเนี้ย”ผมขมวดคิ้วงง

    “หิวน้ำ”

    กูมองบนเลยครับสกิลการเปลี่ยนเรื่องไวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดทั้งมวล ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาผมเริ่มศึกษาความเป็นแม่งอย่างจริงจังแล้วครับ ได้ความมาพอสังเขปดั่งนี้ สิ่งมีชีวิตที่ประกอบสารขึ้นมาเป็นเชสเซอร์นั้นมึนมาก!! บอกเลย เอาแต่ใจในระดับที่ว่าดวงดาวต้องศิโรราบกราบกรานพ่อคุณพ่อมหาจำเริญ ชนะทุกอย่างด้วยความเงียบ! ที่ร้ายที่สุดคือเปลี่ยนเรื่องเร็วจนผมงง จนบางครั้งก็ตามไม่ทันเลยทีเดียวครับ

    ความคิดเหมือนไม่ซับซ้อน แต่มันไม่ใช่เลยสักนิด เซสเซอร์แม่งเป็นตัวร้ายชัดๆ

    พวกคุณสงสัยไหมว่าทำไมเช้านี้ผมไม่โวยวายเหมือนทุกที พูดแล้วก็อย่างจะทิ้งตัวลงไปร้องไห้กับพื้นแล้วขุดดินฝังตัวเองมันซะเลย เมื่อเช้าผมตื่นมาพบว่าตัวเองใส่เพียงแค่ชุดนอนบางๆตัวเดียว แต่พีคกว่านั้น เชี้ยกว่านั้นคือเชสเซอร์ครับ แม่งโคตรอหังการหนังจีนไม่ใส่เชี้ยอะไรเลยตัวเปลือยโชว์หมดทุกอย่าง ใหญ่จนผมอยากจะก่นด่าตัวเอง แล้วยอมมอบกายเป็นเมียแม่งเลย เพราะผิดหวังกับความเป็นชายของตัวที่ เอ้อ! นั้นแหละ แม่ง

    ซึ่งก็ผมโวยวายเหมือนเดิมตามสเต็ปจนหมดแรงแต่ไอชีเปลือยข้างๆก็ไม่มีทีท่าจะตื่นครับ กูโคตรจะสงสัยเลยเพราะเสียงก็ไม่ใช่เบาๆ สุดท้ายเลยรองเอามืออังจมูกดู เพราะนอนขนาดนี้ผมคิดว่าแม่งซ้อมตายไปยมโลกกับยูสึเกะซะละ แต่เปล่าเว้ยแค่หลับแต่สาบานให้เมืองไทยหิมะตก นี้แม่งหลับแน่ใช่ปะ สุดท้ายเลยลองเขย่าตัวดู ก็ตื่นนะสะลึมสะลือพร้อมกับค่อยๆดึงเอียปลั๊กตัวเล็กๆสีส้มออกจากหู

    ไอสัดเอ้ย!! นี้ไงครับสาเหตุที่กูหมดแรง ฮื่อๆๆๆ กูรู้ว่ากูโวยวายทุกวันมันไม่ได้ช่วยอะไร แต่อย่างน้อยมึงก็ฟังกูบ้างดิ ไม่ใช่ทิ้งให้กูโวยวายคนเดียว ส่วนมึงเสือกใส่เอียปลั๊กนอนสบายเฉย

    คิดไปถึงเมื่อเช้าก็อดหัวร้อนกับแม่งไม่ได้ เพราะแม่งทำให้กูกลายเป็นคนโง่2018 ไปเลย

    “หงอยอะไร”เจ้าตัวถาม

    “แล้วมันเพราะใครละ”ผมย้อน

    “โกรธ ?”เจ้าตัวถามงงๆ เหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

    นี้ไง นี้ไงละออกมาอีกแล้วความเชสเซอร์เนี่ย มึน!

    “เออดิ แม่งคนโมโหฉิบหาย ด่าไปโคตรเยอะ เสือกใส่เอียปลั๊กนอน”

    “ชอบโวยวาย”เจ้าตัวพูด

    “แล้วจะไม่ให้โวยวายไงวะ ดูชุดดิ แล้วดูทำ”

    งุ้ย! รมณ์เสีย ว่าแล้วก็จ้วงข้าวใส่ปากรัวๆ เพื่อระบายอารมณ์ออกบ้าง อ่า ฝีมือใครวะ อร่อยโคตรๆ

    “ขอได้ไหมละ”

    หืม จะมาขออะไรอีกวะ

    ผมเงยหน้าจากชามข้าวต้มขึ้นมามองหน้าเชสเซอร์ เจ้าตัววางช้อนข้าวที่กินเสร็จลงข้างๆถ้วย ก่อนจะใช้ตาสีฟ้าอมเทาจ้องมาที่ผม แต่มันเหมือนตาผมฝาดหรือมีปัญหากับการรับรู้ภาพที่จอประสาทตารึเปล่าไม่แน่ใจ เหมือนเห็นเชสเซอร์ส่งสายตามาอ้อนอ้อนอะอ้อน ไม่ใช่มึนใส่อย่างทุกที

    ตึก ตึก ตึก

    ไม่ใช่ละ แล้วจะมาใจเต้นหน้าร้อนเพื่อไอตรงหน้ามึงเป็นผู้ชายนะเว้ย มีดุ้น มีกระเดือก ถึงมันจะฟัดมึงจนน่วมก็อย่าได้หลุดออกจาวิถีคนแมนเกินร้อยนะเว้ยไอเบ

    บอกกับตัวเองเสียงเข้ม แต่ใจกูเนี่ยไม่ได้เข้มตามเสียงเลยสักนิด พร้อมจะอ่อนใส่แม่งตลอดเวลา

    “จะขออะไร”พยายามนิ่งสุดๆแล้ว แต่ได้เท่านี้จริงๆ

    ฮื่อๆๆๆ ไม่นะ ม่ายยยยยย กลัวแล้วววววว อย่าทำแบบนี้

    โอดครวญในใจแทบบ้า ไม่อยากให้เชสเซอร์ส่งสายตาแบบนั้นมาอีกแล้ว ผมกลัว ผมไม่สู้

    “ตามใจนะ”ลงหางเสียงด้วยสกิลสุดน่ารักน้ำเสียงทุ่มนุ่ม ชวนเคลิบเคลิ้ม

    ตายไหมละตอบ!

    ~1 ชั่วโมงต่อมา~

    ตาแก่ ช่วยผมด้วยฮื่อๆๆๆๆ ร่ำไห้ปานจะขาดใจตอนนี้ เลเวลการโดนกระทำทางร่างกายของผมเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามสถานการณ์และอารมณ์ของเราทั้งคู่ย้ำว่าของเราทั้งคู่ ไม่อยากจะยอมรับแต่ก็เริ่มทำใจได้ว่า ผมนั้นเอนเอียงแล้ว ไม่มากก็น้อยเพราะตามใจอีกคนได้อย่างง่ายดาย หลังจากถูกโน้มน้าวแค่นิดเดียว

    กูอยากจะบ้าตายรายวัน แต่ผมก็ไม่อยากให้มันไปจนถึงคำว่ารักชอบ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะความไม่มั่นคงในหลายๆอย่างไงละ

    เฮ่อปวดตับ

    กลับสู่ความเป็นจริงที่ผมยังคงแมน แต่มันก็ไม่เต็มร้อยแล้วครับ พลางบี้หน้ากับหมอนไปมาอย่างไม่อยากจะยอมรับ แต่ก็ต้องยอมเพราะไอมือใหญ่ๆที่กำลังลูบๆบีบๆก้นผมอยู่ มันทำให้ผมตื่นจากมารับความจริงที่ว่า อนาคตอันใกล้นี้ ถ้าผมยังยอมไอเด็กมึนนี้อยู่ กูเสร็จแน่!

    “ไอเด็กมึนไอเด็กหื่น ไอลามก!

    พยายามสร้างสรรค์แล้วนะ แต่ได้เท่านี้จริงๆ ฮื่อๆๆ

    ด่าไปเจ็บกระดองใจไปครับ เพราะสู้หน้าหล่อๆของไอเด็กมึนนี้ไม่ได้เลยสักครั้ง ซึ่งถ้าหันไปยังไงผมก็ต้องเสร็จไอเด็กนี้ เหมือนเมื่อชั่วโมงที่แล้วแน่ๆ สู้ซุกหน้าอยู่กับหมอนแล้วด่าดีกว่า

    “ชอบนะ”เจ้าตัวยืดตัวขึ้นมาบอกข้างๆหูผม

    ฮื่อชอบบ้าชอบบออะไรเล่า กูนี้เสียเปรียบทุกอย่าง ควาย!

    “ไม่ต้องเลย ไปไกลๆเลยนะไอเด็กหื่น!”ผมโวยวายอู้อี้กับหมอน

    “หึหึ”

    ยังจะมาหัวเราะกวนตีนข้างๆหูกูอีก เดี๋ยวเถอะ คอยก่อนเถอะไอฝรั่งยักษ์ กูหายเขินเมื่อไหร่มึงเจอดีแน่ๆ

    เพียะ!

    “โอ๊ยไอเด็กมึน!!! ก้นนะเว้ยไม่ใช่หัวปลา ตีอะไรแรงขนาดนี้ อูยยยยย”

    ผมสะดุ้งสุดตัวหันไปโวยวายทันที ลืมไปว่าตัวเองมีแค่กางเกงในสีขาวโชว์แก้มก้นสองข้างของตัวเองเท่านั้น ที่เหลือก็มีแต่ตัวล้วนๆกับรอยแดงเต็มไปหมด โดยเฉพาะต้นขาด้านในทั้งสองข้าง ลามเกือบมาถึงน้องชายสุดหวงของผม

    “หายยัง”ยังมาเลิกคิ้วยิ้มใส่กูอีกนะ

    “โมโหหนักกว่าเดิมอีกเว้ย!”ผมโวยหน้ายับยู่อย่างไม่สบอารมณ์

    “ทำไง”

    “ทำไงอะไร ? 

    ผมลุกขึ้นมาดีๆ พร้อมกับคว้าหมอนมากอดแนบอก เพื่อปกปิดร่างกายตัวเองที่ไม่มีอะไรเลยให้พ้นจากสายตาหื่นๆฟ้าอมเทา ที่มักจะทำให้ผมไม่สามารถต่อต้านคนตรงหน้าได้เลยสักครั้ง ก่อนจะเงยหน้าคุยกับคนมึน ที่มักชอบพูดประโยคสั้นๆ ที่ฟังแล้วแม่งแทบไม่เข้าใจอะไรเลย

    “โกรธไง”เจ้าตัวพูด แล้วโถมตัวลงนอนหนุนตักผมอย่างมึนๆ

    “เห้ยไม่ใช่ละ!”ผมโวยวายพยายามดันเจ้าตัวออก

    แม่งโคตรจะล่อแหลมเลย กางเกงในแบบว่า กูไม่อยากจะพูดแม่งทำมาเพื่อห่าอะไรไม่รู้ปิดอะไรไม่มิดนอกจากไข่สองใบควายจริงๆ

    “หอม”

    มาละไงสกิลการเปลี่ยนเรื่อง กูอยากจะบ้าตายวันละหมื่นรอบ T^T ฮื่อๆๆๆๆ

    “อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ทุกวันนี้มันก็มากพอแล้วนะเชสเซอร์”ผมเสียงเข้ม

    เรียกชื่อตเมแม่งเลยนี้กูจริงจังนะครับ

    ผมรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ผู้หญิง แต่ผมก็ไม่ได้ขายแล้วก็ไม่ได้โง่ขนาดที่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับการใกล้ชิดของเราสองคนในทุกๆคืน เออ ยอมรับว่าถึงจะแมนมันก็หวั่นไหวนะเว้ย ก็คนมันไม่เคยมีแฟนมาก่อนอะ

    “ไม่ได้เหรอ”เจ้าตัวเปลี่ยนมานอนหงาย เงยหน้ามองผม ส่งสายตาอ้อนๆมาให้

    โว้ยส่งสายตาอ้อนมาขนาดนี้ เดี๋ยวเจอกูจิ้มตาแตกแน่ไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะ

    “ไม่มีผู้ชายคนไหนยอมที่จะมาเป็นของเล่นกันขนาดนี้หรอกนะเชสเซอร์”ผมพูดนิ่งๆ พลางลูบหัวเจ้าตัวไปมา

    “เบบี๋”คราวนี้มาเป็นเสียงอ่อยเลย

    บางครั้งการกระทำของเชสเซอร์มันก็มากเกินไปครับ จริงๆมันมากเกินไปมาตั้งนานแล้ว ทีแรกขำๆก็ได้นะเพราะผมคิดว่าผมโอเค แต่นานวันกลับไม่ใช่ ผมรู้ตัวผมดี และมันเกินขอบเขตออกไปไกลมากแล้ว

    เฮ่อกูขอถอนหายใจแรงๆหนึ่งทีเห็นแม่งทำหน้าหงอยแล้วใจร้ายไม่ลง แม่งเอ่ย เสียตัวให้แม่งฟรีกูจะไม่แปลกใจเลยครับ

    “อย่าทำหน้าแบบนั้น”

    ผมถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะก้มหน้าลงไปยิ้มให้คนนอนหนุนตัก เมื่อวานนอกจากที่ผมจะได้คุยกับแก๊งปลาสวายแล้ว ผมก็ลองไปหาข้อมูลของคนตรงหน้ามาดู ชีวิตวัยเด็กของเชสเซอร์แม่งโคตรแย่ครับ เชสเซอร์เกิดในพื้นที่สีแดงของอเมริกาครับ เรียกง่ายๆก็สลัมนั้นแหละก่อนถูกรับเข้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ชื่อที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็มาจากครอบครัวบุญธรรมที่รับเจ้าตัวมาเลี้ยง ที่รู้นี้เพราะเจ้าตัวเล่ากับนักข่าวตอนไปบริจาคเงินที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

    “กอดหน่อย”เจ้าตัวพูดเสียงเบาๆ

    มาแปลกเว้ยหรือแม่งจะเปลี่ยนจากมึนมาอ้อนแทน แล้วจะขออะไรแผลงๆอีกเปล่าววะเนี้ย กูเริ่มกลัวอีกละครับ(อาการไบโพล่ากำเริบ)

    “เป็นไร”ผมถามแต่ก็ก้มลงกอดเจ้าตัว

    “หอมหน่อย”

    กูว่าแล้วไง ได้คืบแม่งจะเอาเอเคอร์มึงพลาดแล้วไอเบอึย

    “อย่าเยอะ!”พูดพลางยีหัวเจ้าตัวแรงๆ จนผมนุ่มยุ่งไม่เป็นทรงจนเป็นที่น่าพอใจนั้นแหละถึงหยุด

    แต่ไอสัดหัวยุ่งยังกับนกตีกันบนหัว แม่งยังหล่อกูยอมเลย

    ตาคมสีฟ้าอมเทาภายใต้ผมสีเข้มที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงนั้น มันกลับมีพลังทำร้ายล้างโคตรๆ สุดท้ายผมก็ต้องเสียปากให้เด็กมึน นั้นดูด เลีย กิน จนพอใจ และสุดท้ายก็มานอนหมดแรงหายใจเอาอากาศเข้าปอดอย่างหมดท่า และยังโดนแม่งดูดนมจนเจ็บไปหมด เปียกด้วยควายแท้ๆกู

    จุ๊บ!

    จ๊วบ!

    “อ๊ะ อือ~ พอได้แล้วเชส”

    ผมส่งเสียงห้ามอย่างกระท่อนกระแท่น ยกแขนที่ไร้เรี่ยวแรงพยายามดันหัวเจ้าตัวออก เพื่อให้เลิกดูดนมผมสักที เพราะไม่งั้นผมจะไม่เหลือสติห้ามแล้ว แล้วจากโคตรเสียวมันก็จะกลายเป็นเสียตัวแทนแน่นอน

    “อร่อย”

    “อือ! ปล่อยนะ”

    “หึหึ”

    ในที่สุดเจ้าตัวก็ยอมปล่อยนมผมให้เป็นอิสระพร้อมกับความชื่นแฉะ และน้ำลายยืดๆจากปากมัน แถมยังมีหน้ามาบอกว่า อร่อยอีกด้วยแต่กูเนี่ยจะตายครับ สุดท้ายก็ได้แต่นอนหมดแรง อ้าขากว้างอยู่บนเตียงอย่างเซ็งจิต

    อย่าให้ถึงตากูบ้างนะกูจะเอาคืนเป็นร้อยเท่า ฮื่อๆๆๆๆ ทำได้แค่นี้ได้แต่เจ็บใจอยู่ในใจเท่านั้นครับ กูเฟียดหลาย

    ผมนอนหมดแรงอยู่บนเตียง หอบหายใจถี่ๆเพื่อระงับอารมณ์ที่มันมวนอยู่ในท้องน้อยในสงบลง เพราะเจ้าตัวต้นเรื่องหน้ามึนอย่างเชสเซอร์หันไปสนใจสายเรียกเข้าของโทรศัพท์ แทนที่การรังแกนมผมแล้ว ซึ่งกูอยากจะขอบคุณคนที่โทรเข้ามาจริงๆเลยครับ

    ฟอดดดดดดดด

    “เดี๋ยวมา”

    “ไปเหอะ!

    จากนั้นเจ้าตัวก็เดินออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกทันที ส่วนผมก็เหนื่อยโคตรๆสุดท้ายก็ค่อยๆหลับตาลงแล้วเข้าสู่การหาเลขอย่างขมักเขม่นทันทีงวดนี้ขอสามสิบล้านนะ 

    เชสเซอร์ที่เห็นว่าคนที่ตัวเองฟัดจนสุขใจนอนหลับลงไปแล้ว แววตาคมเปลี่ยนจากอ่อนโยนกลับมาเป็นปกติติดจะเย็นชาทันที และยิ่งได้เห็นชื่อของปลายสายว่าเป็นใคร ใบหน้าหล่อเหลาก็เพิ่มความมึนตึงขึ้นไปอีก

    เรน!

    “มีอะไร”

    เชสเซอร์กดรับสายก่อนกรองเสียงเรียบนิ่งถาม แล้วเดินไปนั่งลงที่เตียงนอนเล่นตรงระเบียงด้านนอก เพื่อกันให้คนที่เขาแน่ใจว่านอนไปแล้วไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นอีกชั้น

    “ทำไมทำเสียงเย็นชาใส่เรนจังเลยละบราเดล”ปลายสายส่งเสียงตัดเพ้อออกมาอย่างเศร้าสร้อย

    “รีบพูดมาเรน”

    “งุ้ยบราเดลใจร้าย นอกจากจะหนีออกจากโรงพยาบาล ไปไหนไม่บอกทีม พอเรนโทรมายังมาทำเสียงแข็งใส่อีกนะ โกรธนะเนี้ยรู้ไหม แถมทุกคนในทีมก็เป็นห่วงบราเดลมากด้วย”เจ้าตัวจีบปากจีบคอเสียงหวาน ร่ายยาว

    ส่วนร่างสูงทำเพียงรับฟังเงียบๆ ก่อนจะยกมุมปากยิ้มอย่างสมเพชกับคำกล่าวของปลายสาย เสียงหวานที่เขาเคยหลงใหลมันฟังดูน่าสะอิดสะเอียดจนอยากจะวางสายมันเดี๋ยวนี้ แต่มันกลับทำไม่ได้เพราะเขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนตรงหน้าจะทรยศเขาแบบไหนอีก

    ทั้งๆที่เคยรักมากแท้ๆ

    “อยากพัก ยังไม่กลับช่วงนี้ รอไม่ได้ก็หาคนใหม่ไปเลย”ร่างสูงตอบกลับอย่างไม่ใสใจ พลางเอนหลังนอนมองพระอาทิตย์ยามเย็นด้วยท่าทางสบายๆ

    “อย่ามาพูดบ้าๆนะบราเดล ใครจะมาแทนคุณได้ละ”เรนเผลอตะโกนขึ้นอย่างตกใจ แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเดิม จนคนฟังอดเลิกคิ้ว

    “งั้นก็รอ”ยังคงสั้นจนคนปลายสายพยายามอดกลั้นความโกรธเอาไว้ ไม่ให้เปลอสบถคำด่าออกมา

    “อย่านานสิ เรนคิดถึงบราเดลนะ”เจ้าตัวอ้อนมาตามสายอีกครั้ง

    หึ คิดถึงงั้น

    “ไม่หาใหม่ก็รอ แค่นั้น”

    “บราเดลใจร้าย เย็นชา ไม่คิดถึงใจเรนบ้างรึไง อย่างน้อยก็บอกเรนหน่อยว่าบราเดลอยู่ไหน เรนจะได้ไปหา”เจ้าตัวพยายามหลอกถามร่างสูง เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าคนที่คุยกับตัวเองนั้นอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้

    “ไม่มีอารมณ์”

    “ใจร้าย กลับมาจะไม่ยอมให้นอนด้วยแล้วนะ”เจ้าตัวแสร้งพูดงอนๆ

    “ซื้อเอาก็ได้”

    เรนที่ได้ฟังปลายสายตอกกลับมาเหมือนไม่แคร์ตน ก็รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก จนอยากจะตะโกนด่าอีกคนกลับไป แต่นั้นก็เป็นได้แค่ความคิดในหัว เพราะจำต้องง้องอนอีกคนอยู่

    หน็อยมันจะมากไปแล้วนะคิดว่าอยากจะง้อรึไง ถ้าไม่ติดว่าแกยังมีประโยชน์อยู่ ก็อย่าหวังว่าคนอย่างฉันจะมาง้อ

    เสียเวลาจริงๆ

    เรนที่พยายามระงับอารมณ์โมโหอยากจะด่าคนปลายสายให้ได้มากที่สุด ซึ่งมันก็มาพร้อมกับสัมผัสหวานๆที่ซอกคอจากคนที่ตนรักเป็นกำลังใจให้

    “บราเดลใจร้ายคิดจะนอกในเรนเหรอ”เจ้าตัวขยับปากขอบคุณร่างสูงอีกคน ก่อนจะกลับไปโต้ตอบกับปลายสายอีกครั้ง

    “ก็ไม่เห็นเป็นไร”ยังคงสบายๆสไตล์คนมึน

    “บราเดลแปลกไปนะ หรือว่าจะนอกใจเรนจริงๆ เรนไม่ยอมนะ”เจ้าตัวโวยวาย

    “แล้วแต่คิดเถอะ”

    “งอนแล้ว โกรธด้วย กลับมาจะไม่ให้กอด ไม่ให้หอมแล้ว แต่ถ้ายอมบอกว่าอยู่ไหนจะยกโทษให้”

    “แล้ว”

    “บราเดลบอกเรนมานะว่าตอนนี้อยู่ไหน!

    “แค่นี้”

    “เดี๋ยวก่อน!!

    หมดประโยคร่างสูงก็กดตัดสายทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนจะยกแขนขึ้นมาก่ายหน้าผากอย่างหมดท่า ในอกแกร่งเจ็บหน่วงๆ พร้อมกับโหวงเหวงข้างในอย่างเสียดๆ

    “พอกันที”

    เชสเซอร์ลุกจากเตียงนอนเล่นตรงระเบียงกลับเข้าไปในห้องนอนทันที เห็นคนที่เขาคิดว่าน่าจะนอนอยู่ตื่นขึ้นมานั่งทำหน้าตาหน้างัวเงีย ก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปดูดปากแดงๆของอีกคนอย่างมันเขี้ยว

    “อือเชสเซอร์”

    “ไม่นอนต่อ”

    “หิว”

    คนมันหิวเว้ย อุสาว่าจะเป็นเศรษฐีสักหน่อย เสียงท้องดันมาทำให้เสียเรื่องหมดเลย สุดท้ายก็ต้องแหกตาตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ

    “อือ”

    “แล้วเชสหิวไหม”

    ผมถามเจ้าตัวแล้วลุกออกจากเตียง จูงมือคนอายุน้อยกว่าแต่สูงเป็นเปรตออกมาจากห้องนอน นาทีนี้ไม่ต้องอายมันแล้วละ มีเหมือนๆกันจะอายทำไมครับ หึ กูชินแล้วเว้ย!

    “นั่งรอแป๊บ เดี๋ยวทำอะไรให้กิน”

    “ครับ”

    หือเพิ่งเคยได้ยินเว้ย เป็นบุญหูไอเบฉิบหายเลยวะ กูนี้ยิ้มปากแตกเลยครับ

    “อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”

    ผมหันมาถาม พร้อมกับสวมผ้ากันเปื้อนเตรียมตัวทำมื้อเย็น

    “เบบี๋”

    “ฮะ!

    จากนั้นผมก็โดนไอเด็กบ้านี้ประชิดตัว ช้อนผมขึ้นมาจูบแบบกะเอากูตาย ควานลิ้นไปทั่วทั้งปากจนผมแทบจะสำลักน้ำลาย พร้อมกับเจ้าตัวที่กวาดของทุกอย่างลงจากเคาเตอร์ครัว แล้วเอาก้นผมวงลงบนเคาเตอร์หินเย็นๆแทน

    มือแกร่งบีบ ขยำไปทั่วทั้งตัวผม ส่วนผมก็เคลิ้มไปกับจูบหวานๆนี้ ผ่อนปรนการป้องกันเป็นการโอบรัดรอบคอแกร่งอย่างโหยหาแทน สลับระบายความอึดอัดไปกับการลากไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้างของอีกคน

    “เซ็กซี่”

    เจ้าตัวปล่อยปากผมเป็นอิสระ แล้วกระซิบชิดริมฝีปากบวมๆของผม กัดปากล่างไปที ก่อนใช้นิ้วเกี่ยวผ้ากันเปื้อนออก เผยให้เห็นยอดอกสีสวยของผม ที่ยังคงมีร่องรอยสีอ่อนจากเจ้าตัว ที่สุดท้ายก็ก้มลงไปบดขยี้ความเปล่งปลังนั้นด้วยปากร้อนอีกครั้ง ผมสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัวหัวสมองขาวโพลนไปหมด

    “เชส อืม~”ผมเรียกเจ้าตัวเสียงสั่น ตาปรือปรอยพร่ามัวไปหมด เพราะอารมณ์วาบหวิวที่ถูกอีกคนปรนเปรอให้

    “อือ”เจ้าตัวเพียงครางรับ เพราะปากไม่ว่าง เพราะยังคงดูดเลียหัวนมผมไม่เลิก

    ส่วนผมก็มีหน้าทีแค่ซึมซับความสุขนี้ แอ่นอกเปิดเปลือยให้คนร่างสูงได้ลุกล้ำเข้ามาอย่างตามใจ อ้ารับความอุ่นร้อนที่เข้ามาครอบครองใจกลางตน ตัวสั่นสะท้านหอบหายใจไปกับท่วงท่าลุกล้ำที่แสนเอาแต่ใจ และมือแกร่งที่บีบขยำแก้มก้นผมแทบเหลว กับปลายนิ้วร้ายที่ล่วงล้ำเข้าไปหยอกล้อกับรอยแยกแนวก้นผม จนต้องอ้าขาแอ่นตัวแทบหัก ส่งเสียงร้องอย่างเสียวซ่านไปกับความวาบหวิวนี้ จนยากจะระงับไว้ได้

    “ไม่ไหวแล้ว แฮ่กๆ”ผมบิดตัวไปมาอย่างต้องการ

    “อีกนิด”

    บ้าแล้วไม่ไหวแล้วนะเว้ย

    แต่มันกลับเป็นแค่เสียงที่อยู่ในใจของผมเท่านั้น เพราะที่ตอบกลับไปมันเป็นแค่เพียงเสียงครางแผ่วเบา กับมือตัวเองที่ลูบไล้ไปตามไหล่หนาและรอยสักเพื่อระบายอารมณ์เท่านั้นเอง สุดท้ายผมก็ปลดปล่อยออกมาทั้งหมดโดยฝีมือของเจ้าเด็กนี้คาห้องครัวเลย

    “ดีไหม”

    ยังมีหน้ามายิ้มอีก กูนิจะตายครับ เพราะเสียวฉิบหายเลย

    ผมไม่ตอบ ตาซบหน้าลงบนไหล่หนา

    “ยังไม่พอ อือ!

    ควายเอ้ยกูพูดอะไรออกไปเนี้ย

    “อะไร”

    “ปะ ปเปล่า”

    ดีนะแม่งไม่ได้ยิน แล้วกูเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย ไม่พอบ้า ไม่พอบออะไร ทุกวันนี้ก็แทบตายอยู่แล้วนะเว้ยมึงอย่าลืมดิวะว่าจุดยืนมึงคืออะไร มึงแมนเข้าใจไหมไอเบ!!

    ร่างบางเอาแต่เอะอะกับตัวเองในใจ โดยไม่รู้เลยว่าถูกร่างสูงอุ้มแนบอกทั้งๆผ้ากันเปื้อนเดินออกจากห้องครัวเข้ามาในห้องนอนแล้ว ทั้งยังได้ยินคำพูดแสนแผ่วเบาของร่างบางที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนานั้นแต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งร่างสูงก็แอบยกยิ้มอย่างพอใจให้กับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยที่คนตัวบางไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ

    ค่อยๆสอน ค่อยๆเรียนรู้ และสุดท้ายก็จมลงไปพร้อมๆกันในความสุขนี้ 


    #อู่CB


















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×