ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END [Fic exo] อู่...บยอน ChanBaek ft.exo

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 18 (rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.81K
      615
      16 พ.ย. 64

    *มีพฤติกรรมของตัวละคร คำพูด ที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*              


    Chapter 18

     

    กรึบ!

    หลังกูวววววววววววววววววววววววว

    ผมกรีดร้องโหยหวนในใจอย่างสุดทน เมื่อได้ยินเสียงกระดูกสันหลังดังลั่นราวกับการบรรเลงเพลงของระนาดเอก น้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง พร้อมกับปากขมุบขมิบด่าไอคนที่มันทำให้ผมต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ เมื่อผมก้มตัวลงเพื่อจะหยิบรองเท้ามาใส่ จนเกิดอาการสันหลังลั่น เนื่องด้วยจากกิจกรรมอย่างว่าสามวันสามคืนติดกันก่อนกลับกรุงเทพของไอคนมักมาก

    อ่อยเหรอ”

    นี้กำลังกวนตีนกูละบ้อ!

    อ่อยบ้า อ่อยบออะไรกู ปวด หลังอึก”ผมถลึงตาด่าเสร็จ ก็ค่อยๆยืดตัวขึ้นอย่างช้าๆ

    หึหึ”

    ยัง ยัง ยังมีหน้ามาขำฉีกหน้ากูอีกนะ อย่าให้ถึงทีมั้งแล้วกัน จะเอาคืนให้ร้องขอชีวิตเลย คอยดู!

    ผมแอบเคี้ยวฟันอยุ่ในใจพร้อมกับคาดโทษไอเด็กยักษ์ตรงหน้าไปด้วย

    ปวดมากไหม”

    เชสเซอร์ที่เหมือนเพิ่งจะสำนึกได้ว่าควรเป็นห่วงผม ก็เดินเข้ามาถามผมอย่างเป็นห่วง ถึงหน้ายังคงมึนจนผมไม่เข้าใจว่า เจ้าตัวกำลังเป็นห่วงหรือกวนตีนผมอยู่กันแน่ เจ้าตัวเดินมาหยุดด้านหลังผม แล้วส่งมือเข้ามานวดเอวให้ผมเบาๆอย่างเอาใจ

    “ดีขึ้นไหม”

    เออแต่มันจะไม่มีครั้งที่สองบอกเลย”ผมถลึงตาพร้อมกับตอกกลับไป

    กูหมายมั่นในใจแล้วว่า กูจะไม่มีทางหลงคารมไอเด็กบ้านี้อีกแน่ๆ แล้วพาตัวเองมายืนจุดนี้ จุดที่เหมือนเป็นคนโรคหลังคดแบบนี้

    “ไม่”เชสเซอร์เสียงเข้มตอบกลับผมมาทันที แต่มือก็ยังคงบีบนวดเอวให้ผมอยู่

    “ไม่มีทาง ไม่ต้องมาทำหน้ามึนใส่”

    “ร้าย”

    “เพิ่งรู้เหรอ”ผมยักคิ้วใส่

    “เดี๋ยวก็รู้”

    “อะไร”

    เชสเซอร์กระตุกยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยพร้อมกับมองผมหัวจรดเท้า แล้วทำหน้าทำหน้าหื่นกาม จนผมเผลอก้าวเท้าทอยหลังด้วยความหวาดระแวงเสียวหลังไปหมด

    คือแบบเชี่ยแล้วไงละ ถ้าไอเด็กยักษ์นั้นโถมเข้ามาหาผมตอนนี้นะ หลังกูไปแน่ๆครับแถมขายังหุบแทบไม่ลงเลย ไอสัดชีวิต! ลำบากลำบนไปไหนวะเนี้ย! เอาไอสามวันที่ผมตามใจไอเด็กนี้คืนมามันไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่! กูโดนเอาเปรียบ! กูต้องแจ้ง กูต้องไปตบโต๊ะเดี๋ยวนี้!

    ผมที่มัวแต่ฟุ้งซ่านหาทางออกให้ตัวเองอยู่ ไม่ได้สนใจว่าอีกคนจะเปลี่ยนจากการบีบนวดเอวมาเป็นโอบกอด และไอมือลามกจกเปรตก็ไต่ลงมาลูบไล้ที่ต้นขาของผมที่มันโผล่พ้นกางเกงยีนส์ขาสั้นออกมา

    “จูบ”

    “อึก แค่จูบนะ”

    ผมเงยหน้าทวนคำพูดของเชสเซอร์อย่างหวาดเสียว เสียวทั้งใจ แล้วก็ทั้งตัวเลยครับ แม่งเผลอแป๊บเดียวแท้ๆ กางเกงยีนส์ที่ผมใส่มันก็ไม่ได้สั้นเสมออะไรมากนะครับ แต่สำหรับผู้ชายอย่างเราๆมันก็สั้นไงผมพลาดเองที่ให้เชสเซอร์เก็บเสื้อผ้า

    ฮื่อๆๆๆ เอาที่ยืนกูคืนมาเดี๋ยวเน้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    โวยวายแหกปากในใจได้ไม่นาน เชสเซอร์ก็เชิดคางผมขึ้นจนตาของเราสบเข้าหากัน แล้วก้มลงมาประกบปากจูบ อือนับวันไอเด็กบ้านี้จะทำให้ผมหลงจนโงหัวไม่ขึ้นมากขึ้นไปเรื่อยๆ แถมจูบแต่ละทีก็เล่นเอาหายใจแทบไม่ทัน ทั้งคว้าน ล้วง ดูด แถมยังกัดปากผมจนเจ็บไปหมด บดบี้จนไม่กลัวว่าปากผมจะเหลวเลย กว่าจะจูบเสร็จแต่ละทีผมแทบขาดใจ

    จ๊วบ!

    “แฮ่กๆๆ อึก พอแล้ว”ผมยันอกเชสเซอร์ออกเบาๆ แล้วหอบหายใจตัวโยน

    “แผลบหวาน”เจ้าตัวเลียปากตัวเองที่เปื้อนน้ำลายผม ก่อนจะก้มลงมากระซิบเสียงแผ่ว แล้วเลียหูผมอย่างหยอกล้อ

    “อืออย่าน่า~~”ผมห้ามเสียงอ่อนพยายามยันอกเชสเซอร์เอาไว้ แต่เจ้าตัวก็สามารถโน้มตัวมาแกล้งผมได้อยู่ดี

    โอ๊ยไม่ได้ตั้งใจจะอ่อยเลยนะครับ แต่มันเป็นไปตามธรรมชาติ งือ >///<

    “ห้ามได้แค่นี้”

    “อือโอ๊ยพอแล้วไหมละ เดี๋ยวก็ไปขึ้นเครื่องไม่ทันกันพอ มัวแต่ลามกอยู่นั้นแหละ”

    โอ๊ย กูเขินครับ ตัวจะระเบิดแล้วเนี้ย ยังมีหน้ามายิ้มโชว์ฟันอีก คิดว่าหล่อมากมั้ง แม่ง! เออ! มึงหล่อ! โว้ย

    สักวันหรืออาจจะเร็วๆนี้ กูต้องพาตัวเองไปปรึกษาหมอเรื่องอาการผีเข้าผีออกของตัวเองแล้วละ ไม่ไหวกับตัวเองละบางทีก็เกินไป

    “รักนะ”

    “ฮะ!!!!! OO

    “ตกใจอะไร”

    คือ ผมเหวอมากเอาจริงๆมันไม่ใช่แค่ตกใจธรรมดานะครับ เพราะถึงขั้นเหวอแดกเลยคิดดูดิ มีอย่างที่ไหนจู่ๆก็มาบอกรักกัน แต่บอกรักอะไม่เท่าไรเว้ย! แต่อันที่พีคจนขนหลังคอชูชันก็คือเชสเซอร์แม่งเล่นขยิบตาซ้ายหนึ่งที มาพร้อมกับหัวใจน้อยๆจากนิ้วโป้งและนิ้วชี้ประกบกัน!

    เวรเอ้ย! ใจกูไม่เป็นของกูอีกต่อไปแล้ว

    “รับยาไหม”ผมถาม สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

    “ไม่ชอบ”เจ้าตัวหมุนคิ้วสงสัย

    เออ จะให้พูดยังไงดีวะครับ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก สำลักน้ำลายไปหมด

    “ปะ เปล่า ไปขึ้นเครื่องเถอะ ปะๆๆ”

    ผมรีบดันหลังเชสเซอร์ให้เข็นกระเป๋าเดินทางออกจากห้องพักทันที โดยที่เจ้าตัวยังคงทำหน้ามึน แต่คิ้วผูกโบแบบไม่ค่อยจะบ่อจอยเท่าไร แต่ผมอะดิแอบยิ้มจนแก้มจะแตกแล้วอะ แม่ง ใจเต้นโครมครามเหมือนจะทะลุออกมาจากอกเลยครับ งือ ใครสั่งใครสอนให้มาทำตัวแบบนี้วะ มันน่ารักจนหนีไปไหนไม่รอดแล้วเว้ย!

    ผมกับเชสเซอร์ก็ทำตามขั้นตอนต่างๆของสนามบิน ก็ขึ้นเครื่องจากภูเก็ตมาลงยังสนามบินดอนเมืองใช้เวลาไม่นานสำหรับการบินในประเทศ ผมกับเชสเซอร์และกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ก็พาตัวเองมาถึงยังประตูทางออกของขาเข้ากรุงเทพเรียบร้อย

    “เดี๋ยวรอเซฟ”เชสเซอร์บอกแล้วหันมามองผมผ่านแว่นกันแดดแบรนด์ดัง

    “อือ”

    “ง่วง”

    “นิดหน่อย ปวดหลัง ปวดขาด้วย”ผมบ่นพร้อมกับแบะปากออกมาอย่างหงุดหงิด

    “ไปสนามไหวไหม”

    “ไหวดิ ไม่ปล่อยให้ไปคนเดียวหรอกน่า”ผมเงยหน้ายิ้มบอกกับเชสเซอร์

    “เฮ้เชส”

    ผมกับเชสเซอร์หันไปตามเสียงเรียกชื่อของเจ้าตัวทันที ก็เจอกับผู้ชายผมดำหัวยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งลุกจากเตียง แต่กลับโคตรหล่อมากของมากที่สุด อิจฉาเว้ย! แถมสูงอย่างกะเสาไฟฟ้า มาในเสื้อยืดกางเกงยีนส์ และข้างๆก็มีผู้ชายหน้าสวยผิวน้ำผึ้ง เดินตามการจูงของผู้ชายขาวออร่าที่เรียกเจ้าเด็กยักษ์เสียงดังลั่นสนามบิน ที่ถ้าป้าข้างบ้านมาได้คงตาขวางใส่

    พระเจ้าในที่สุดผมก็เจอเพื่อนร่วมยีนสายขาสั้นเหมือนกันแล้ว โฮ! น้ำตาไหลพรากๆ

    “เออ”เชสเซอร์ส่งเสียงทักผู้ชายตรงหน้าทันที

    “อะไรวะ เพื่อนอุสามารับ”เจ้าตัวบ่น ก่อนจะหันมาทางผม

    ผมยิ้มให้กับทั้งคู่ ก่อนจะส่งเสียงทักทาย

    “หวัดดี”

    “หวัดดี เราลูน่านะ เรียกน่าเฉยๆก็ได้ ส่วนนี้แฟนเราชื่อเซเบรียล เรียกเซฟ ง่ายกว่า ยินดีที่ได้รู้จักนะ”คนสวยยิ้มทักทายผม พร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า

    “เช่นกันนะ เราชื่อเบ...”

    “เบบี๋”

    ผมหันไปถลึงตาใส่เชสเซอร์ทันที เมื่ออีกคนส่งเสียงบอกชื่อแสนขัดหูขัดจังหวะการแนะนำชื่อแสนเท่ของผมกับน่า หน็อยแล้วดูดิ พอน่ากับเซฟได้ยินชื่อบ้าๆนั้นก็ยิ้มแซวผมใหญ่ โดยเฉพาะกับเซฟ แม่ง ไอเด็กยักษ์มันฉีกหน้าผมอะ ฮื่อๆๆๆๆ

    “เอาไง”เซฟดลิกคิ้วถามผม ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าปลงตกกับชื่ออยู่

    เฮ่อ ถอนหายใจแรงๆหนึ่งทีพร้อมเบ้ปาก แต่ก็ยอมพยักหน้าตามนั้น ไม่งั้นไม่เลิกแน่ๆ

    “เบบี๋ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”น่ายิ้มหวานพร้อมกับส่งเสียงคุยกับผม

    “เช่นกันนะ”

    ผมกับน่าเขย่ามือกันสองสามทีเรียบร้อย ผมก็เปลี่ยนมาทักทายเซฟบ้างและกำลังจะยื่นมือไปจับ แต่เชสเซอร์ก็ฉวยมือผมเอาไว้ก่อนแล้วยื่นมือตัวเองไปจับแทน ทำเอาผมงงขมวดคิ้วไม่เข้าใจทันทีว่าเจ้าตัวต้องการอะไรจากการกระทำนี้ของตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต่างจากเซฟครับแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะขำกับท่าทางของเชสเซอร์มากกว่าผมที่งงในงงไปหมด

    “อะไรของมึงเนี่ยเชส แค่ทักทายไหมเพื่อน”

    “ไม่ได้”

    “งก”

    “ไปจับน่าโน้น”

    “เออ ดีจริงๆเพื่อนกู เราไปกันดีกว่าครับน่า”

    “อือ”

    จากนั้นเราทั้งสี่ก็ขึ้นรถตู้ที่เซฟจ้างมา ตรงกลับเพนท์เฮาส์ของผมกับเชสเซอร์ทันที และผมกับเชสเซอร์ก็เพิ่งมารู้ว่าเซฟก็ซื้อเพนท์เอาส์ที่นี้เหมือนกันครับ ซึ่งก็คือชั้นล่างของผมกับเชสเซอร์พอดีเลย

     

    .................................

     

    ตอนนี้ผมกำลังแยกเสื้อผ้าอยู่โดยมีน่ามาช่วยผมแยกด้วยอีกแรง ทีตอนแรกผมโคตรจะเกรงใจเลยครับ อีกทั้งอายสารพัดชุดที่เชสเซอร์หอบหิ้วไปที่โน้นจริงๆ เก็บไปหน้าแดงไปจนน่าส่งเสียงขำผม ซึ่งเจ้าตัวก็เอ่ยปลอบผมเสียงหวาน พร้อมกับส่งยิ้มให้ ราวกับว่าเจ้าตัวได้เจอเพื่อนร่มชะตาเดียวกัน

    “ไม่ต้องอายหรอกน่าก็ใส่เหมือนเบบี๋นั้นแหละ เฮ่อ มีแฟนโรคจิตก็ต้องทำใจ”เจ้าตัวถอนหายใจยิ้มๆ แต่ตาหวานๆนั้นกลับเต็มไปด้วยความรักใคร่

    “โรคจิตจริงๆนั้นแหละ อันนี้เห็นด้วยอย่างแรงเลย”ผมพองลมเข้าแก้มบอก

    “ของเบบี๋ยังธรรมดานะ ของเราอะ..”แล้วน่าก็ก้มหน้าแยกผ้าเขินแก้มแดงเลยครับ

    อ้าว ปล่อยให้อยากแล้วจากไปได้ยังไงกันละน่า ปากนี้คันยิบๆอยากเสือกเลยทีเดียว

    “อะไรละ เล่าหน่อยจิ”ผมขยับเข้าไปใกล้ๆน่าแล้วเอาไหล่กระแซะเจ้าตัวด้วยความอยากรู้

    แถวบ้านก็เรียกเสือกนั้นแหละครับ

    “ก็แบบว่า”เจ้าตัวเล่าอึกๆอักๆ ปากสั่น แก้มแดงไปหมด เขินจนตัวจะบิดเป็นน๊อตแล้ว

    “แบบว่าๆๆๆ”

    “แต่ก่อนน่าเคยเป็นเลขาทำงานให้กับเซฟ...”

    “อือๆ งานหนักไหม”ผมถามน่า แล้วหยิบเอากางเกงในลูกไม้สีขาวค่อยๆเอามาคลี่ออกจากกันเพราะคราบน้ำของไอเด็กยักษ์นั้นมันแห้งติดอยู่อย่างลำบากลำบน

    หมดกัน! ภาพลักษณ์ของคนแมนอย่างพี่เบ กูจะบ้าตายรายวันจริงๆ

    “โดนเซฟแกล้ง งือ น่าเขินอะเบบี๋ไม่เล่าแล้วได้ไหม”เจ้าตัวก้มหน้างุด ขยำชุดนอนซีทรูสีดำของผมแก้เขินไปมาแทบขาด!

    เออ ลูน่าใจเย็นๆนะ เดี๋ยวมันขาดอะ

    “นิดเดียวๆ”ยังไม่เลิกเสือกครับ

    “ก็ได้ เห็นว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ”

    ในที่สุดลูน่าก็ยอมเล่าแล้วววววววววว ดีใจเหมือนได้ถ้วยรางวัลครับบอกเลย

    “เซฟน่ะชอบแกล้งน่า โดยการเอาของเล่นมาใส่ในก้นของน่า งือ! >///<

    พอเจ้าตัวเล่าเสร็จ ก็รีบเอาชุดนอนผมขึ้นมาปิดหน้าปิดตาตัวเองทันทีครับ

    O////O อู้ว!!!!

    ผมนี้หันควับมองไปทางเซฟกับกับไอเด็กยักษ์ ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยกันหน้าเครียดอยู่ที่ห้องนั่งเล่นทันที แล้วเผลอยกมือขึ้นมาลูบก้นตัวเองอย่างเสียวๆ แล้วยังขมิบก้นรัวๆหลายครั้งเพราะดันอยากลองบ้าง มันจะรู้สึกยังไง จะรู้สึกดีไหม จะเสียวรึเปล่า จนต้องรีบส่ายหัวส่ายหน้าผมกระจาย เพื่อสลัดความคิดบ้าๆนั้นให้ออกจากหัวไปอย่างไว

    บ้ากูไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นเว้ย น่าอายจะตาย ท่องไว้ไอเบอย่าได้คิดจะลอง เว้ยนี้กูเป็นอะไรไปวะเนี้ย

    แต่ปากกลับเผลอถามน่าออกไปซะงั้น ฮื่อๆๆๆๆๆ

    “แล้วไงต่อเหรอ”

    ลูน่าที่ตอนนี้ยังคงมีร่องรอยของความเขินอายจากการเล่าเรื่องส่วนตัวให้ผม เม้มปากนิดๆก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

    “ดี”เจ้าตัวตอบผมก่อนจะเม้มปาก แก้มแดงสุดๆ

    ดีงั้นเหรอ น่าลองมั้งจัง มันจะสนุกเหมือนโดนจู๋อุ่นๆเย็ดใส่รูไหมนะ

    ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มึงบ้าไปแล้วรึไอเบ! ไอประสาทกลับ

    กว่าจะจัดการกับความรู้สึกอยากรู้อยากลองของตัวเองได้ ป้าแม่บ้านประจำคอนโดก็มาเอาเสื้อผ้าไปซักให้แล้วครับ ส่วนพวกชั้นในผมจะต้องซักเองเท่านั้นก็เล่นมีแต่คราบอะไรต่อมิอะไรขนาดนี้ ผมไม่ได้ใจหมาขนาดให้แม่บ้านเอาไปซักหรอกนะครับ หรือต่อให้ไม่มีอะไรผมก็เกรงใจป้าแกอยู่ดีนั้นแหละ แถมบางตัวนี้ขวบยานจากน้ำมือไอเด็กบ้านั้นด้วย

    แม่ง อะไรจะรุนแรงขนาดนั้น งือ แต่แซ่บลืม

    ผมเดินเข้ามาในโซนที่เอาไว้ซักผ้าและตากผ้า ทั้งๆที่แม่งก็จ้างแม่บ้านซักเอาแต่ก็สมกับราคาที่จ่ายไปนั้นแหละครับ มันเป็นโซนที่อยู่ด้านข้างของเพนท์เฮาส์ต้องเดินทะลุห้องครัวออกมา โดยมีลูน่าเดินตามหลังมาด้วย เพราะเจ้าตัวเสนอจะช่วยผมซึ่งผมค่อนข้างเกรงใจมาก! แต่เจ้าตัวกลับยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไร

    ห้องซักผ้ามันเป็นห้องโล่งๆค่อนข้างกว้างครับ มีหน้าต่างติดกันหลายบานเพื่อเอาไว้เปิดรับลมร้อนของเมืองไทยซึ่งตากผ้าแห้งดีจังเลยละ มีราวตากผ้าอยู่สามสี่ราวค่อนข้างใหญ่ ส่วนฝั่งติดกำแพงก็มีเครื่องซักผ้าแบบฝาเดียว แล้วก็พวกอุปกรณ์ซักผ้าต่างๆ

    “บี๋ บี๋รู้เรื่องของเรนรึยัง”

    ลูน่าที่เดินถือตะกร้าผ้าตามหลังมาส่งเสียงถามขึ้น ส่วนผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หันไปเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพยักหน้า เพราะไอเด็กยักษ์เพิ่งเล่าให้ฟังสดๆร้อนๆเลย ไม่มีทางลืมและตอนนี้บราเดล เทรย์ เชสเซอร์ ก็ไม่ใช่ของผู้จัดการทีมจอมหักหลังนั้นอีกต่อไปแล้วเพราะตอนนี้เจ้าเด็กนั้นเป็นของผมชัดไหม ต้องย้ำอีกรึเปล่าว่า

    นั้น ผัว กูละอยากจะเกาลิ้นจริงๆให้ตายเถอะ!

    ก็ได้แต่ปากดีในใจตัวเองเท่านั้นแหละ เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วก็ไม่กล้าพูดออกมาหรอก ฮื่อๆๆๆ T^T

    “อือ เรนน่ะ...ร้ายนะ”ลูน่าเอาผ้าลงเครื่องแล้วย่นคิ้ว ก่อนหันมามองหน้าผมแล้วแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจน

    ร้าย คงไม่ขนาดเจอหน้าผมแล้วตบคว่ำหรอกมั้งนะครับ แหะๆ ชักเสียวๆแล้วดิ ไม่ดิวะเรนนั้นก็ผู้ชาย กูก็ผู้ชายเปล่าวะ กลัวไร ตัวๆต่อยกันเปล่าละ หึหึ

    “ไม่หรอกมั้ง”ผมพูด แล้วยิ้มแหยๆ

    “อือๆๆๆ น้อยไปน่ะสิ ขนาดน่าแทบจะไม่ค่อยดุ้ยกับเชส แถมน่าก็มีเซฟอยู่แล้วแท้ๆ เขายังเข้าใจผิด คิดว่าน่าจะมาเกาะแกะเชส บ้าจริงๆ”ลูน่าบ่นพร้อมกับทำหน้าขยาดเมื่อพูดถึงผู้จัดการทีมหรืออดีตแฟนเก่าของเชสเซอร์

    พอได้ฟังน่าเล่าแบบนั้นผมนก็อดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ครับ ใจปอดไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยชีวิตนี้เดินแต่วิถีคนแมนสายธรรม ไม่เคยละลานใครก่อน เพราะถือคติปากดีไปวันๆให้พี่ๆแก๊งปลาสวายดูแล เลยอดกลัวนิดๆไม่ได้

    ไม่รู้ละ นาทีนั้นสู้ไม่ได้ ก็ซบอกไอเด็กยักษ์ฟ้องแม่งเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ ดีกว่าลงมือเองเป็นไหนๆ แถมไม่เจ็บตัวอีกต่างหาก

    “แต่น่าก็ยังโชคดีที่มีเซฟนะ แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงคนอื่นๆ”

    “ขนาดนั้นเลย ดูบ้าบอดี”ผมพูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าโลกนี้มีคนแบบนี้อยู่ด้วย

    “อือ ทั้งๆที่ตัวเองก็แอบมีคนอื่นอยู่ตั้งนานแล้วแท้ๆ เฮอะน่าละไม่ชอบเลย ให้ตายก็ไม่อยากจะหายใจร่วมด้วยเลยจริงๆนะ”ลูน่าพองลมเข้าแก้ม สลับกับทำท่าหน้าไม่พอใจ

    โคตรน่ารักเลยครับ แต่ถ้าผมเรียนแบบบ้างอาจจะมีการผิดพลาดได้ และจากน่ารักอาจกลายเป็นหน้าปลาสำลักน้ำแทน อนาถชีวิตจริงๆกู

    “บี๋จะระวังตัว โอเช”

    ผมตั้งเครื่องซักผ้าเสร็จ ก็หันมาขยิบตาให้ลูน่าแล้วยกยิ้ม แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าตื้นตันผสมกับมันเขี้ยวซะงั้น

    “อื่อ!!!! บี๋โคตรน่ารักเลย แก้มยุ้ยๆ ปากชมพู ตัวขาวๆแถมตัวก็หอมมาก ถึงว่าเชสติดหนึบไปไหนไม่รอด อ่า น่าฟัดสุดๆ”

    “เหวอ!

    ผมร้องเสียงหลงตกใจแทบหงายหลังเลยครับ เพราะจู่ๆ ลูน่าก็เอาแก้มตัวเองมาถูไถแก้มผม สลับกับฟัดหอมแก้มผมไปมาอย่างมันเขี้ยว พลางเหวี่ยงตัวผมไปมาจนเวียนหัวไปหมด เห็นตัวเล็กๆอย่างงี้แรงเยอะใช่ย่อย ไหนจะบีบแก้มผม ดมซอกคอผมอีก งุ้ยแล้วบรรยายสรรพคุณผมซะเขินตัวเองเลย ง่อก็นะเชสเซอร์ดูแลหัวจรดเท้าเลยนิน่า ถึงวันๆจะเอาแต่หื่นก็เถอะ แต่บำรุงร่างกายผมโคตรดี ครีมทาผิวเอ่ยครีมอาบน้ำเอ่ย น้ำหอม วิตามิน ผู้ชายบ้าอะไรไม่รู้ดูแลตัวเองโคตรดี!

    “พอแล้วๆลู่ เดี๋ยวบี๋อ้วกใส่นะ”ผมขู่ ไม่งั้นไม่เลิกแน่ๆและตอนนี้ผมก็เริ่มเวียนหัวแล้วด้วย

    “ก็ตัวบี๋หอมอะ”

    “เอาเปรียบนี้น่า ตัวเองเอาแต่หอมเขาอยู่คนเดียวเลย มาให้เขาหอมมั้งจิ”ผมพูดเสร็จก็กดจมูกหอมแก้มลูน่าอย่างมันเขี้ยวเหมือนกัน

    อือ อย่าว่าแต่ผมเลย ลูน่าก็ตัวนิ่ม ตัวหอมเหมือนกันครับ หลงเลยอะ ตัวนิ่มโคตรๆ ดีกว่าตัวแข็งๆเต็มไปด้วยกล้ามของไอเด็กยักษ์เอลนั้นอีก

    เราสองคนมองหน้ากันแล้วก็ขำ ก่อนจะเปลี่ยนกันฟัดแก้มขาวใสของกันแหละกันไปมาอย่างสนุก โดยลืมไปว่าเราสองคนไม่ได้อยู่ห้องนี้กันแค่สองคน แต่ยังมีไอเด็กยักษ์จอมขี้หวงอีกสองคนเหมือนกัน

    “อะแฮมไม่เบี้ยนครับสาวๆ”

    เสียงไอขัดจังหวะผมกับน่า มาพร้อมกับประโยคชวนน่าเอาปะแจทุบหน้าผมหันควับไปถลึงตาใส่คนพูดขัดจังหวะอย่างเซฟทันที แต่เราสองคนก็ยังไม่เลิกอดกันนะครับ

    “เบี้ยนอะไรกันเซฟ น่าแค่กอดบี๋เอง ตัวบี๋หอมมากเลยน่าชอบ ฟอด!

    ไม่พูดเปล่าจ้า หอมโชว์ด้วยและแถมหันกลับไปยิ้มเย้ยใส่เซฟอีกต่างหาก โดยที่น่าน้อยไม่ได้รับรู้ถึงรังสีขี้หวงของไอเด็กยักษ์ตรงหน้าเลยสักนิด เฮ่อ! สงสัยคืนนี้เพื่อนใหม่ของผมคงโดนจัดหนักลุกไม่ขึ้นแน่ไ และเรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะคราบบบบบบบบ

    “ลูน่า!

    ลูน่าเพื่อนใหม่ช่างไม่รู้อะไรเลย หึหึ ส่วนเซฟก็คือคิ้วยุ่งจนผูกกันเป็นปมภูเขาละ เห็นละมันก็อดที่จะแกล้งไม่ได้ ผมเอามั้งดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ

    “ใช่ๆ แก้มน่าก็หอมมากเลย ฟอด!

    นาทีนี้ เบี้ยนไม่เบี้ยนไม่รู้ครับรู้แต่ว่าอยากแกล้งคนแถวนี้เว้ย!

    จังหวะที่ผมผละออกมาจากแก้มของน่าท่ามกลางเสียงหัวเราะของเจ้าตัว แล้วหันมายักคิ้วใส่เซฟ ที่ทำได้แต่ยืนถลึงตาขมวดคิ้วใส่ผมอย่างหวงแหนลูน่าเท่านั้น

    “มากไป”

    ชะอุ้ยเสียงนิ่งโคตร

    “อุ้ยๆๆๆ เจ้าของใครมา”เซฟอุทานได้ตอแหลน่าเอาเท้ายันน่ามากครับ

    ผมค่อยๆหันหน้าไปด้านหลัง ก็เจอเข้ากับหน้ามึนๆ แต่สายตากลับเอาเรื่องมากๆของเจ้าเด็กยักษ์ นั้นทำให้ผมต้องรีบผละตัวออกจากลูน่าเหมือนโดนของร้อนทันที เลยเป็นจังหวะให้เซฟสามารถเข้ามาคว้าเอวลูน่าเข้าไปกอดไว้อย่างหวงแหน ก่อนเจ้าตัวจะฝังจมูกโด่งลงไปฟัดแก้มทั้งสองข้างขอลูน่าอย่างลงโทษและมันเขี้ยว เช่นเดียวกับเชสที่เดินตรงเข้ามารวบกอดและหอมแก้มผมเหมือนกัน ซึ่งผมกับน่าก็ไม่วายขยิบตาให้กัน เพราะผมกับน่าแค่อยากจะแกล้งเจ้าเด็กยักษ์สองคนนี้ที่มัวแต่คุยกันเองอยู่ตั้งนาน ไม่สนใจเราสองคนต่างหาก

    เชอะงอนนะรู้เปล่า อ้าว แล้วกูเป็นไรฟะเนี้ย อึ้ยงงตัวเองเว้ย

    หมดเรื่องเบี้ยนไม่เบี้ยนแล้ว ผมก็เลยชวนลูน่าเข้าครัวมาทำกับข้าวต่อ แต่กว่าจะแยกเจ้าเด็กยักษ์ตัวโตออกไปได้ก็เล่นเอาเหนื่อยแทบหมดลม ซึ่งระหว่างทำกับข้าวไหงบทสนทนากลับมาเป็นเรื่องของเล่นใส่ก้นกันอีกแล้ววะ มีทั้งหางแมวที่ใส่แบบแท่ง แบบกลมๆ ห่วงใส่โคนตรงนั้น ปลอกอลูมิเนียมสวมตรงนั้นไม่ให้ถึงจุดสุดยอด หลอดเสียบปลายจู๋งี้ โดยเฉพาะหางแมวที่เป็นแบบเชือกลูกกลมๆ น่าเล่าว่ามันเสียวมากยิ่งอีกฝ่ายดึงออกทีเดียวหมดทั้งเส้น หรือใส่เข้าไปสองเส้นแล้วดึงทีเดียว มีนเสียวจนเยี่ยวแตกขาสั่นเลย

    อูยยยย แค่ได้ฟังน่าเล่า ผมก็เสียววูบมวนท้องน้อยแล้วครับ เผลอขมิบรูรัวๆเลย งือโอ๊ยแล้วไอที่อดใจไว้ มันจะรอดไหมเนี้ย อ๊าค

    “แบบเป็นแท่งพลาสติกขนาดเท่าของจริงก็ดีนะบี๋”ลูน่าเล่ายิ้มๆ แล้วหยิบส้มเขียงมีดมาเพื่อทำน้ำผลไม้

    ผมที่มัวแต่เหม่อคิดอะไรลามกๆ ขานรับไปอย่างงงๆปนตกใจจนลูน่าหัวเราะเบาๆ

    “ฮะ อะไรนะ”

    “งุ้ย ตั้งใจฟังเราหน่อยสิ”เจ้าตัวพองลมเข้าแก้มอย่างน่ารัก แต่แม่งโคตรจะไม่เข้ากับเนื้อหาที่พูดเลยครับ ฮื่อๆๆๆ

    “ฟังอยู่ ตะ แต่เราไม่เคยลอง”ตอบไปก็แก้มแดงไปอะครับ ทั้งเขิน ทั้งอายว่ะ บอกไม่ถูกเลย

    แต่ผมชอบแบบปลอกสวมแบบตุมมากกว่า เสียวสุดยอด ว๊ากไม่ๆๆๆๆ ไม่นับๆๆ ไม่เอาๆ แต่แค่คิดก็มวนท้องแล้วเหมือนมันจะแฉะๆแล้วด้วย ฮื่อๆๆ อยากโดนเย็ดแล้ว!

    ผมคงทำหน้าหื่นมากเกินไป จนลูน่าจับได้เลยส่งเสียงแซวเลยครับ

    “คิคิ ดูทำหน้าเข้า อยากลองอะจิ”ลูน่าที่กำลังหั่นส้มเงยหน้าขึ้นมาหลิวตาใส่ผมอย่างล้อเรียน

    “ปะ เปล่าสักหน่อย!”ปฏิเสธเสียงสั่นเลยครับกู แต่ท้องน้อยนี้ หวิวๆอะ งือ

    “ตื่นเต้นดีนะ บี๋เคยใส่ไข่สั่นออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์ไหม”เจ้าตัวเข้ามากระแซะถามเสียงเบา

    พอผมได้ยินเจ้าตัวถามแบบนั้นก็ตาโต แก้มร้อนผ่าวหันไปมองคนหน้าสวยข้างๆทันที ตอนนี้ร่างกายมันวูบวาบไปหมด ด้านล่างเริ่มรู้สึกแฉะมากกว่าเดิม ยิ่งตากวางกลมหวานจับจ้องมาผมยิ่งมวนท้องไปหมด จินตนาการต่อในคำพูดของอีกคนทันที

    “น่าเคยนะ แถมเป็นตอนเพิ่งทำเสร็จกันใหม่ๆด้วย น้ำเต็มตรงนั้นไปหมด เซฟใส่ไข่สั่นเข้ามาตั้งสามอันแน่นมาก บังคับให้น่าใส่ยีนส์ขาสั้นโชว์ก้นกางเกงในก็ไม่ได้ใส่ด้วยละ”

    ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก จิตนาการไหลลื่นมากกว่าเดิม ซ้ำร้ายยังเอาตัวเองไปซ้อนทับตัวลูน่าอีกด้วย ทั้งยังถามตัวเองว่า ถ้าโดนแบบนั้นจะรู้สึกยังไง

    มันคงรู้สึกดีแทบบ้าแน่ๆ

    “ตอนนั้นนะ น่าทั้งเสียว ทั้งกลัวใครเห็น ขาก็แทบไม่มีแรงเดิน แถมเซฟก็เปิดไข่สั่นรัวๆ จนน่าต้องขมิบรัดเอาไว้แน่น มันก็ยิ่งเสียว ปากก็ครางไม่ได้อีก...แต่ว่านะ มันรู้สึกสุดยอดไปเลยละ เป้าน่านี้เปียกไปหมด พอกลับขึ้นรถได้ น่าก็รีบถอดกางเกงเบ่งเอาเจ้าพวกนั้นออกมาทั้งหมดเลย...ตลอดทางกลับบ้านเซฟก็แหย่ดิลโด้ให้น่าไม่หยุด”

    ว๊ากไม่ไหวแล้ว อยากโวยยยยยยย ฮื่อๆๆๆๆ น่าบ้าที่สุดเลย

    “งือ ไม่เอา”ผมส่ายหัวไปมาอย่างไม่ยอมรับ แต่ใจนี้เต้นไม่เป็นจังหวะเลยครับ แถมด้านหลังก็รัวขมิบไม่หยุดเลย

    “แต่หน้าบี๋ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยน่า”ลู่หานยังแซะไม่เลิกครับ

    “ขอเถอะน่า นะ นะ นะ อย่าพูดอีกเลย”ตัวจะแตกแล้ว

    “คิคิ โอเคๆไม่ล้อแล้วก็ได้ แล้วบี๋จะทำอะไรให้พวกเรากินเอ่ย”ลูน่าเปลี่ยนเรื่องพร้อมกับส่งเสียงถามผมอย่างสงสัย เมื่อมองไปที่ของสดที่กองอยู่บนเคาเตอร์ในครัว

    “ก็ต้องเมนูยอดฮิตอย่างต้มยำกุ้ง คะน้าน้ำมันหอย ปลาสามรส แล้วก็ตบท้ายก็สลัดละกัน โอไหม”ผมมองไปที่ของสดแล้วคิดเมนูทันที

    ลูน่าพยักหน้าหงึกหงัก แล้วชวนผมเตรียมของทำข้าวเที่ยงทันที เพราะเชสเซอร์ยังต้องเข้าสนามแข่งในตอนบ่ายวันนี้อีก

    ผมกับลูน่าช่วยกันเตรียมอาหารเที่ยง สองสามอย่าง น้ำผลไม้สด มีสลัดผักด้วย พอทุกอย่างเสร็จก็ยกไปจัดเรียงบนโต๊ะทานข้าวจนเรียบร้อย ถึงส่งเสียงเรียกให้เด็กยักษ์ทั้งสองมากินข้าว

    “ทำเองเหรอ”

    เซฟเดินตรงเข้ามาหอมแก้มลูน่าเอ่ยถาม ไม่สนใจสายตามองอย่างตกตะลึงของผมเลยสักนิด แถมยังมีหน้ามายักคิ้วส่งยิ้มกวนตีนให้อีกด้วย

    นี้ยังไม่หายแค้นจากเรื่องเมื่อกี้อีกรึไงวะ

    “อือ ก็ที่บ้านมีแต่ผู้ชายไม่ได้เรื่องน่ะสิ แล้วถ้าเอาแต่ซื้อข้าวกินก็ไม่ไหว เลยหัดทำเองเลย”ผมอธิบาย แล้วตักข้าวให้เชสเซอร์ไปด้วย

    “น่าตื่นเต้นมากเลย ไม่เคยทำอาหารไทยเลย”ลูน่าหันไปเล่าให้เซฟฟังตากลมวาววับอย่างดีใจ

    “ดีครับ เดี๋ยวเรากลับสเปนแล้ว น่ากลับไปทำให้ผมทานที่โน้นนะ”

    “อือ เซฟรอกินได้เลย”

    แม้รักกันหวานชื่นจริงๆสองคนนี้ ผมเลยแอบเหล่มองคนข้างๆ

    “ป้อน”

    ฮะแต่ก็ต้องยอมจำนนครับ เพราะคนหน้ามึนทำท่าทางงอน สงสัยจะยังไม่หายเคืองเรื่องเมื่อกี้ หึหึ อย่างงี้ก็เข้าทางผมอะสิ

    ผมยิ้มหวานตาวาววับ ใจสั่นหวิวๆ พยายามระงับอาการเขินอาย เพราะความต้องการมีมากจนล้นอก จนตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะตกใจไปกับความเปลี่ยนในด้านอารมณ์ความต้องการทางเพศของตัวเอง ยิ่งได้ฟังเรื่องของลูน่าผมก็ยิ่งวูบวาบเสียวซ่านไปกับรสนิยมเฉพาะทางนั้นสุดๆ

    “ได้ แต่มีข้อแม้นะ”ผมกระซิบเสียงเบา

    เชสเซอร์หันมาเลิกคิ้วมองผมนิ่งๆ แต่แววตาคมกลับเป็นประกายอย่างชอบใจ คงจะจับทางผมได้เหมือนเดิมนั้นแหละครับ

    “คืนนี้ขอแบบสุดเหวี่ยงนะ...แล้วก็เบบี๋อยากลองของเล่นด้วย”

    ผมกระซิบข้างหูเชสเซอร์ไม่คิดเขินอายเซฟกับลูน่าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะทั้งสองก็เข้าสู่โลกส่วนตัวของตัวเองไปแล้วเช่นกัน

    นับวันความต้องการของผมจะยิ่งเฉพาะทางไปเรื่อยๆแล้วครับ

    “แล้อยากได้ถึงขนาดไหนละครับ”

    “ของเล่น”ผมเม้มปากตอบเขินๆ

    “ได้สิ ถ้าคุณกลั้นเสียงเก่ง ผมจะยัดไข่สั่นเข้าไปใน...Pussy ของคุณ แล้วใช้คุณไปซื้อถุงยางในร้านสะดวกซื้อ โยที่ยังมีน้ำของผมอยู่เต็มรูของคุณ”มา



    #อู่CB     

     

      

    ..................

         มาแล้วค่าาาาาาาาาาาาาา เนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา ไรต์ไปฉีดวัคซีนมาค่ะ แล้วโดนนางเล่นงานอย่างหนักหน่วง ทำให้เพิ่งส่างไข้เมื่อวานนี้มาหมดๆ วันนี้มีแรงแล้วเลยกลับมารีฯพี่อู่กันต่อยาวๆไปเลยค่า เม้น เม้าท์ มอย กันได้เหมือนเดิมค่า เจอกันใหม่ตอนหน้า บะบาย ^^








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×