คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 สอบสัมภาษณ์
Chapter 6
สอบสัมภาษณ์
บานประตูใหญ่ค่อยๆปิดทันทีที่ผู้มาเยือนผ่านเข้ามาภายในห้องซึ่งมีเพียงกระถางซึ่งมีเพลิงสีฟ้ากำลังลุกอยู่ตรงกลางทำให้ห้องสว่างด้วยแสงไฟสลัวๆ
“สวัสดีครับ” เสียงทักทายที่ทำให้ร่างบางสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันไปทางประตูที่ตนเพิ่งเข้ามา ซึ่งตอนนี้มีร่างของเด็กหนุ่มผมยาวรวบหางม้าสีทองในชุดนักบวชแบบเต็มยศยืนส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้แก่ทั้งสอง
“ขออภัยที่ทำให้ตกใจครับ ผมเซอร์รัส อาริเธียร์ ยินดีรู้จักครับองค์รัชทายาทลำดับหนึ่งแห่งเซราคิวส์” นักบวชหนุ่มกล่าวทักทายพร้อมโค้งตัวทำความเคารพอย่างนบน้อม “ผมได้รับคำสั่งให้มารับท่านแทนท่านอาร์คบิชอปครับ เชิญตามเถอะครับ แต่เราต้องรีบหน่อย ตอนนี้สายมากแล้ว การสอบสัมภาษณ์ใกล้เริ่มแล้ว”
พูดจบ เสียงโซ่สีกระทบกันดังขึ้นจากเพดานสูง ก่อนที่ลิฟท์แก้วทรงกระบอกจะเลื่อนลงมาตามปล่องอย่างช้า
นักบวชหนุ่มเดินนำเข้าไปก่อน ขณะที่ผู้มาทดสอบทั้งสองยังยืนมองอย่างลังเล
“นี่ คนอื่นคอยเราอยู่นะครับ” คนบนลิฟท์ร้องเรียก ครีโอกับฮาเทียจึงเดินตามเข้ามาในลิฟท์ ทันทีที่เท้าก้าวสุดท้ายของเด็กหนุ่มผู้รั้งท้ายแตะพื้นลิฟท์ ประตูแก้วก็เลื่อนปิดก่อนที่โซ่ข้างบนจะดึงลิฟท์แก้วขึ้นอย่างช้าๆ
“ฮาเทีย ไอ้สอบสัมภาษณ์เนี่ย เขาทำอะไรกันบ้างเหรอ” ครีโอกระซิบถาม
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ให้ผู้เข้าทดสอบแสดงไหวพริบนิดน้อยด้วยคำถามต่างๆ” เซอร์รัสชิงตอบแทน “เพื่อจัดนักศึกษาเข้าประจำสังกัดที่เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งมีด้วยกัน 4 กลุ่ม คือ รูฟัส อัลบัส ไนเกอร์ และ พาริดาส ”
“แล้วคุณเป็นนักศึกษาของอันเทลมาร์เปล่า” ฮาเทียถามอย่างสุภาพ
“ผมเป็นนักบวชฝึกหัดของวิหารอันเทียร่าเท่านั้นครับ” เซอร์รัสตอบ “ขึ้นตรงกับท่านอาร์คบิชอปเกรเกอรี่เท่านั้นครับ”
“แต่ดูจากตราบนไหล่เสื้อ คุณคงไม่ใช่นักบวชฝึกหัดชั้นธรรมดา แต่เป็นนักบวชฝึกหัดที่จะขึ้นมาเป็นอาร์คบิชอปคนต่อไป ใช่ไหมครับ”
รอยยิ้มบางๆฉายบนดวงหน้าที่ขาวเนียน ก่อนที่อีกฝ่ายจะหัวเราะเบาๆ “แหม ดูออกด้วยหรือครับ ช่างรอบรู้จังนะครับ สมกับฉายา ‘นักดาบอัจฉริยะ’ ถือเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสได้พูดคุย”
เสียงโซ่เหล็กเงียบลงแสดงว่ามาถึงชั้นที่หมายแล้ว ก่อนที่ประตูแก้วเปิดออก ว่าที่อาร์คบิชอปเดินนำก่อน ตามด้วยรัชทายาทลำดับหนึ่งของเซราคิวส์และราชองครักษ์ไปตามทางเดินยาวที่ปูด้วยพรมแดง
เดินมาได้ไม่นานนัก ทั้งสามก็มาถึงบานประตูบานสุดทางเดิน เซอร์รัสผายมือออก
“ถึงแล้วครับ ตอนนี้หน้าที่ของผมก็หมดแล้ว หวังว่าเราคงได้เจอกันใหม่นะครับ” พูดจบว่าที่อาร์คบิชอปก็โค้งตัวเช่นเดียวกันเด็กหนุ่มก็โค้งตัวตอบ ก่อนที่คนมาส่งจะเดินจากไป
เมื่อเห็นหลังของคนในชุดนักบวชขาวไปสุดสายตา ฮาเทียก็เอื้อมมือผลักประตูออก และการทดสอบด่านแรกของทั้งสองก็เริ่มขึ้น
หลังบานประตูนี้คือ ห้องโถงที่ถูกประดับอย่างเรียบง่ายแต่ดูมีมนตร์ขลังซึ่งเต็มไปด้วยเด็กหนุ่มสาวซึ่งกำลังหันมามองคนมาสายเป็นตาเดียว ทำให้สองคนที่มาถึงเป็นคณะสุดท้ายต้องก้มหน้าเดินไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่
ไม่นานนัก ดวงไฟบนโคมระย้าที่แหวนอยู่บนเพดานก็พร้อมใจกันดับ เหลือเพียงแสงจากสปอร์ตไลท์ที่ส่องมาที่เวที ทันใดนั้นเปลวควันสีขาวก็โพยพุ่งจากพื้นไม้กระดานก่อนที่ร่างของชายชราเจ้าของผมยาวสีขาวโพลนและหนวดเครายาวสีขาวแซมดำ ดวงตาคู่สีเทาและท่าทางที่ดูทรงอำนาจและน่าเลื่อมใสเรียกเสียงฮือฮาในหมู่คนข้างล่าง
“สวัสดีนักศึกษาหน้าใหม่ทุกคนสู่การทดสอบแรกของพวกเจ้า” ชายชรากล่าวเปิด “ข้าโปรเฟสเซอร์เซซาริอาห์ ซารูมานรับหน้าที่ดูแลการทดสอบเข้าเรียนในสถานศึกษาแห่งนี้”
เสียงฮือฮาที่ดังกว่าครั้งแรก ก็ช่วยไม่ได้นี่เพราะบุคคลที่ยืนอยู่บนเวทีจัดได้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ไม่ใช่เพียงสมญา ‘พ่อมดขาว’ซึ่งมีเพียงสองคนในวัลเนอเฮมแต่วีรกรรมต่างๆมากมายที่เขาเคยทำคือตำนานที่ได้จดบันทึกลงบนหน้าประวัติศาสตร์นี่แหละที่สร้างชื่อเสียงจากเจ้าตัว
“เพื่อมิให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” ทันทีที่เสียงดีดนิ้วดังขึ้น เปลวไฟสีฟ้าลุกพรึ่บที่ริมชายผ้าม่านด้านหลังพ่อมดขาวก็จะไล่ขึ้นเผาไหม้อย่างรวดเร็ว เผยซุ้มประตูสีทองที่ตั้งอยู่เปล่า แล้วมือในแขนเสื้อยาวหลวมโบกก่อนจะกางมือออก ลูกไฟสีฟ้าปรากฏเหนือฝ่ามือและค่อยระเบิดออกเบาๆ เหลือเพียงม้วนกระดาษสีทอง “เดี๋ยวข้าจะอ่านตามรายชื่อแล้วจงเดินลอดซุ้มประตูแห่งอันนันเทียร่า”
“แชริลน่า เดอ กรีเดียน” ชื่อแรกถูกเรียก แล้วเด็กสาวผมยาวเป็นลอนสีดำในชุดแบบสตรีชั้นสูงก็ยืนขึ้นก่อนจะก้าวเดินขึ้นเวทีด้วยท่าทางที่ดูสุขุมไม่แพ้บุรุษ
มาดนิ่งสมกับเป็นคนของเดอ กรีเดียน 1 ใน 12 ตระกูลศักดิ์สิทธิ์* ฮาเทียมองพลางคิดในใจ
__________________________________________________________________________________________________
*ใน 12 จักรวรรดิแห่งวัลเนอเฮม ถูกปกครองโดยตระกูลเก่าแก่ที่สุด 12 ตระกูลและทั้ง 12 ตระกูลนี้จะใช้ ‘เดอ’ นำหน้าสกุล
เด็กสาวผู้มาจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่หน้าซุ้มสักพักก่อนจะสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ แล้วค่อยก้าวเดินผ่านซุ้มไป ทันทีที่เธอก้าวข้ามธรณีประตู ร่างบางก็หายไปก่อนอากาศ และพ่อมดขาวก็เลือกชื่อต่อไป
“เขาทำได้ไงน่ะฮาเทียหรือว่าซุ้มนั้นเป็นวาร์ปเกท” อีกหนึ่งคนจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์เอ่ยถาม
“ประตูแห่งอันนันเทียร่าไม่ให้วาร์ปเกทหรอกครับ” ผู้เป็นราชองครักษ์ตอบ “เพียงแค่มันมีคุณสมบัติคล้ายๆกัน ประตูบานนี้ถือเป็นโบราณวัสถุเลยนะครับ ว่ากันว่าเทพผู้สร้างประทานแก่ดินแดนเรา”
“โห งั้นก็ราคาแพงมากสิ” ครีโอพูดพลางทำตาเป็นประกาย
“ท่านครีโอครับ อย่าคิดเชียวนะครับ” ฮาเทียเน้นเสียงอย่างรู้ทัน
“คิดอะไร เปล่าซะหน่อย” คนถูกรู้ทันแก้ตัวก่อนเบนหน้าไปทางอื่น นัยน์ตาสีไพลินมองดูคนถูกเรียกชื่อคนแล้วคนเล่าเดินหายไปในซุ้มประตู
“ฮาเทีย แอนริงค์ตั้น” ชื่อที่ทำให้เด็กสาวหันไปมองเจ้าของนาม เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนลุกขึ้นแล้วก้าวเดินออกไป
“โชคดีนะ” เสียงใสอวยพรจากด้านหลัง ทำให้เขาหันกลับมายิ้มรับก่อนเดินต่อไปและหายไปในซุ้มประตูเหมือนคนอื่นก่อนหน้าเขา
“และสุดท้าย ครีโอ เดอ นีโรว์” ครีโอถึงกับสะดุ้งสุดตัวก่อนกวาดสายตาไปรอบๆก็พบว่าในห้องเหลือเพียงเธอกับผู้เรียก
“ครีโอ เดอ นีโรว์” ซารูมานเรียกย้ำพลางส่งสายตามาให้นักศึกษาคนสุดท้าย เมื่อเจ้าของชื่อรู้ตัวว่าถูกอีกฝ่ายมอง เธอจึงส่งยิ้มแห้งก่อนจะเดินออกจากที่นั่ง
รัชทายาทหญิงถึงกับเกร็งอย่างกล้าๆกลัวๆอยู่หน้าซุ้มประตู นัยน์ตาคู่งามมองไปที่ช่องว่างของซุ้มประตู ซึ่งมันกลับสะท้อนร่างของเธอราวกับเป็นกระจกเงา แล้วมือบางค่อยๆยื่นเข้าใกล้ซุ้มประตูเรื่อยๆ แต่อยู่ๆเหมือนมีบางอย่างฉุดเธอเข้าไปโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้เธอถึงกับหลับตาปี๋
“ครีโอ เดอ นีโรว์”
ชื่อของเธอถูกเรียกอีกครั้ง ทำให้เจ้าตัวตัวสะดุ้งจากภวังค์และค่อยๆลืมตาขึ้น มันเป็นครั้งแรกในชีวิตของครีโอที่เห็นชายชราที่มีทั้งผมและหนวดเคราสีเงินยาวมากขนาดนี้ เธอยอมรับว่าทั้งตื่นเต้นและประหลาดใจ นัยน์ตาที่เบิกกว้างของเธอนั้นทำให้ชายเบื้องหน้านึกขบขันจนเผลอยิ้มออกมา
“ค...ค่ะ” ครีโอตอบรับตะกุกตะกัก ก่อนจะถอนหายใจลึกๆเรียกความเชื่อมั่นคืนมา นึกในใจว่าชายชราตรงหน้าในชุดคลุมสีขาวแบบเดียวกับเซซาริอาห์ ซารูมานนี่คงเป็นพ่อมดขาวอีกคน เพราะดวงหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นแต่กลับดูไม่น่าเกลียดเหมือนคนแก่ทั่วไป นัยน์ตาสีทองฉายประกายฉลาดและอ่อนโยนอย่างแจ่มชัด ชวนให้รู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตร แต่ก็ชวนให้รู้สึกหวาดเกรงในเวลาเดียวกัน
“ยินดีที่รู้จัก ฉันโปรเฟสเซอร์*โอดิน เรนดาร์ฟ อธิการโรงเรียนอันเทลมาร์ เชิญนั่งก่อนสิ” คำเชื้อเชิญอย่างสุภาพ ทำให้เธอเริ่มวางตัวไม่ถูกจนออกอาการประหม่าจนเผลอเกร็งตัวสุดๆ ผู้กล่าวเชื้อเชิญมองสักพักก็หัวเราะออกมาจึงทำให้เด็กสาวยิ่งทำอะไรไม่ถูก
___________________________________________________________
*โปรเฟสเซอร์ คือ คำที่ใช้นำหน้าชื่อของอาจารย์ผู้สอนในโรงเรียนหลวงทั่วไป อาทิ ในอันเทลมาร์
“ไม่ต้องเกร็ง ฉันไม่กัดใครหรอก” อธิการบอก ทำเอาคนกำลังเกร็งหน้าแดงก่อนจะค่อยๆนั่งลง เมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งเรียบร้อย ชายชราก็ส่งถ้วยชาให้ทันที “ดื่มชาสิ จะได้รู้สึกดี”
ครีโอพยักหน้าแล้วยกถ้วยชาขึ้นดื่มอย่างว่าง่าย เรียกรอยยิ้มบางๆบนริมฝีปากของโปรเฟสเซอร์เรนดาร์ฟ “นี้หรือท่านจ้าวผู้ครองนครแห่งท้องสมุทรเซราคิวส์คนต่อไปสินะ เป็นเกียรติของอันเทลมาร์ที่ได้อบรมว่าที่คนสำคัญแห่งวัลเนอเฮมอีกคน”
“เช่นกันค่ะ” เด็กสาวตอบด้วยใบหน้าที่แดงนิดน้อยกับคำพูดที่ดูเป็นทางการสุดๆของอธิการเรนดาร์ฟ ชายชราหัวเราะในลำคอเบาก่อนจะคว้าแว่นตากลมขึ้นสวมแล้วมองเอกสารตรงหน้า
“เธอพร้อมสำหรับการสอบสัมภาษณ์หรือยัง”
“ค่ะ”
“งั้นฉันขอเริ่มด้วยคำถามแรกนะ สำหรับเธอแล้วในวันแรกหลังจากสถาปนาตนขึ้นเป็นท่านจ้าว เธอจะทำอะไรก่อนและหลัง ระหว่างเชิญขุนนางและผู้ครองต่างแคว้นมาแสดงความยินดีหรือเสด็จออกให้ประชาชนแสดงความยินดี”
ครีโอนิ่งคิดทันทีที่ฟังคำถามจบ ในหัวของเธอตอนนี้มีตอบอยู่แล้วเมื่อเธอคิดจะตอบก็มีบางอย่างชะงักให้เธอไม่ตอบด้วยคำตอบแรกแต่กลับการตอบด้วยคำตอบอีกคำตอบที่เธอเองรู้สึกไม่มั่นใจ
“เยี่ยมเยียนประชาชนก่อนค่ะ” คิ้วสีเงินเลิกขึ้นด้วยความสงสัยและแสดงสีหน้าเหมือนขอคำอธิบาย “ท่านพ่อเคยสอนหนูไว้ค่ะว่าจ้าวที่ดีต้องเห็นประชาชนของตนอยู่ในสายตาเสมอก่อนที่จะชายตาไปมองคนของแคว้นอื่นคะ แต่ไม่ได้หมายถึงคนต่างถิ่นไม่สำคัญนะคะ”
โปรเฟสเซอร์เรนดาร์ฟถึงกับเผลอยิ้มอย่างชอบใจ แต่ครีโอกล่าวรู้สึกเหมือนเธอพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
“ต่อไปคำถามที่สองนะ เมื่อถึงวันที่เธอขึ้นเป็นท่านจ้าวหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของเซราคิวส์ คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนตั้งข้อกังขาต่างๆนานา เธอคิดว่าจะจัดการกับคนเหล่านั้นยังไง”
แค่คำถามเดียวก็เล่นอยากแทรกแผ่นดินหนีแล้ว ยังมีคำถามที่สองอีก โอ๊ย!! อยากตาย
“คงทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเขามีอคติกับเราแล้ว ต่อให้ทำตัวดียังไงเขาก็หาข้อเสียได้อยู่ดี แต่ถ้าเราเลือกทำในสิ่งที่ถูกไปเรื่อยๆ เวลาคงทำให้เขาค่อยๆยอมรับเราทีละนิดๆ”
ความเงียบบังเกิดขึ้นทันทีที่เด็กสาวพูดจบ มันทำให้ครีโอยิ่งรู้สึกเหมือนปล่อยไก่ตัวโตอออกไปเลย ในขณะที่นัยน์ตาสีทองกลับฉายแววบางอย่างที่อ่านยาก แล้วไม่นานชายชราก็ถอดแว่นออกก่อนจะพูดขึ้น
“ดีมาก ขอบคุณสำหรับคำตอบ” เด็กสาวพยักหน้าก่อนแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก “เอาล่ะต่อไปก็เรื่องสังกัดของเธอ ตอนแรกฉันว่าเธอควรไปอยู่อัลบัสนะ แต่พอฟังคำตอบเมื่อกี้ฉันคิดว่าเธอเหมาะจะอยู่รูฟัสมากกว่า ขอแสดงความยินดีด้วยนะ อ้อ แล้วพ่อหนุ่มน้อยที่มากับเธอน่ะ”
“ฮาเทียเหรอค่ะ” ครีโอเอ่ยอย่างสงสัย
“ใช่แล้ว ดีจังนะที่พวกเธอไม่โดนแยกสังกัดกัน”
แสดงว่าฮาเทียก็อยู่รูฟัสเหมือนกัน เท่านี้เด็กสาวแทบจะร้องด้วยความดีใจสุด
อยู่ๆม่านสีแดงที่เป็นฉากหลังของอธิการก็เปิดออก เผยร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มแว่นผมสีเขียวเข้มจนเกือบดำในชุดสูทเรียบร้อยที่กำลังยืนอยู่อย่างสงบ
“มารับเด็กเหรอยารีฟ” ชายชราเอ่ยถาม
“ครับท่านอธิการ ถ้าไม่ว่าอะไรผมขอตัวเธอไปนะครับ” ชายหนุ่มพูดอย่างนอบน้อม
“เชิญตามสบาย ตอนนี้ก็หมดหน้าที่ฉันแล้วล่ะ”
“งั้นหนูไปก่อนนะค่ะ” ครีโอบอกพร้อมย่อตัวแสดงความเคารพก่อนจะเดินมาหาคนมารับ ชายหนุ่มโค้งตัวให้เธอเล็กน้อยแล้วผายมือไปทางม่านที่เปิดออก
“คุณครีโอ เดอ นีโรว์ครับ ขอต้อนรับสู่คฤหาสน์เลอ เฟย์ครับ”
ความคิดเห็น