ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 จดหมายเชิญ
Chapter 3
จดหมายเชิญ
“นี่พวกลูกไม่รีบทำความเคารพท่านอาร์คบิชอปล่ะ”เสียงของท่านจ้าวชานีลเรียกสติของทั้งสองให้กลับมา ฮาเทียรีบโค้งตัวก่อนที่ครีโอจะย่อตัวเป็นการทำความเคารพเช่นกัน อาร์คบิชอปหนุ่มยิ้มที่เป็นมิตรให้ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ลูกสาวท่านน่ารักดีนะครับ”อาร์คบิชอปพูดขึ้น “เห็นแล้วน่าอิจฉา”
“งั้นแกก็สึกซะ แล้วไปหาสาวสวยมาเป็นเมีย” คำแนะนำที่ทำให้นักบวชชั้นสูงต้องยิ้มฝืนๆให้
“คงไม่ได้หรอกครับชานีล ผมทำพิธีสาบานตนบวชตลอดชีวิตไปแล้ว”
“งั้นก็ไม่ต้องบ่น”ท่านจ้าวพูดอย่างไร้เยื่อใย “เอ้า มานั่งก่อนสิครีโอ เจ้าก็ด้วยฮาเทีย”เด็กสาวและเด็กหนุ่มมองหน้ากับอย่างงงๆก่อนจะนั่งลงบนที่ของตัวเอง
“ครีโอ นี่อาร์คบิชอปเกรเกอรี่เพื่อนรักสมัยเรียนของพ่อเอง ลูกคงเพิ่งเจอเป็นครั้งแรกสินะ ก็ไม่แปลกหรอกเพราะร้อยวันพันปีเจ้านี้ไม่เคยที่จะออกจากโบสถ์ อยากรู้จังว่าในโบสถ์มีอะไรสำคัญกว่าเพื่อน”ประโยคที่ท่านจ้าวชานีลกล่าวสุดท้ายทำให้เพื่อนที่เห็นโบสถ์สำคัญยิ้มอย่างแห้งๆก่อนที่จะพูดแก้ตัว
“ชานีลพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ บัตรเชิญมากี่งานกี่งานผมก็ไปแทบทุกงาน”
“ก็ถ้าฉันไม่ส่งไปพร้อมกับทหาร แกก็ไม่มาหรอกจริงไหม”
“ทะเลาะกับเรื่องไร้สาระอีกแล้วนะ น่าเบื่อ” เสียงหวานของผู้เข้ามาพบทำให้คนถูกว่าชะงัก ก่อนที่จะหันมาทางต้นเสียง
หญิงสาวผู้มาใหม่เจ้าของเรือนผมลอนยาวสีเหลือง นัยน์ตาคู่สีน้ำตาลที่ประดับอยู่บนดวงหน้าที่งดงามกว่าหญิงใด จึงไม่ต้องสงสัยทำให้ท่านจ้าวชานีลถึงไม่ชายตามองสตรีนางอื่นเลย
“ไม่ได้เจอตั้งนานนะครับคุณเอริม”อาร์คบิชอปหนุ่มทักทาย
“นี่ถ้าฉันไม่มาเอง คงไม่รู้ว่าแกรี่มานะเนี่ย”สตรีอันดับหนึ่งแห่งเซราคิวส์กล่าวพลางส่งสายตาตำหนิมาให้ท่านจ้าว ซึ่งเล่นเอาคนถูกมองและคนที่ถูกเรียกชื่อเล่นขนลุกไปตามๆกัน
“แหม ก็เห็นวันนี้เธอดูเหนื่อยๆก็ไม่อยากรบกวน จริงไหมเกรเกอรี่”ท่านจ้าวแก้ตัวพลางส่งสายตาของความช่วยเหลือจากเพื่อนรัก
“ครับ อ้อ ! ผมลืมซะสนิทเลย”อาร์คบิชอปหนุ่มรับ ก่อนจะอุทานเหมือนคิดอะไรออกแล้วล้วงหาของในเสื้อ “มีจดหมายจากอาเทลมาร์ถึงครีโอกับฮาเทีย”
“จดหมายจากอาเทลมาร์ !!”ทั้งท่านจ้าวและราชินีร้องพร้อมกัน
ครีโอมองผู้เป็นพ่อแม่อย่างงงๆก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า
“อะไรเหรอค่ะท่านแม่”
ผู้เป็นแม่ไม่พูดอะไร อยู่ๆก็พรวดเข้ากอดลูกสาวแล้วร้องไห้ยิ่งทำให้ครีโองงยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับท่านพ่อที่แม้จะนิ่งวางมาดไว้แต่ดวงตากลับส่องประกายบางอย่างให้เห็นได้ชัด
“ท่านแม่ ท่านพ่อเป็นอะไรไปกันหมดน่ะลูกงงหมดแล้ว”
“ครีโอแม่ดีใจจังเลยไม่นึกว่าเวลานั้นมาถึงแล้ว จริงไหมชานีล”ราชินีเอริมพูดพลางปล่อยโฮออกมา
“ดะ...เดี๋ยวก่อนสิ ท่านพ่อช่วยอธิบายก่อนได้ไหมค่ะ”
เวลาต่อมา
“หา ! นี่จะให้ลูกไปเรียนที่อาเทลมาร์เหรอ”เด็กสาวร้องเสียงหลงทันที
“ด้วยพันธสัญญาระหว่างจักรวรรดิทั้ง12ที่ต้องส่งเหล่าราชนิกุลเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้ซึ่งเราก็ปฏิบัติตามมานานแสนนานแล้ว และอีกอย่างนะครีโอในอนาคตลูกก็ต้องขึ้นเป็นท่านจ้าวต่อจากพ่อ การไปเรียนที่นั้นจะทำให้ลูกเข้าถึงหัวใจของกษัตริย์อย่างแท้จริงและนำความรู้ในด้านต่างๆมาใช้บริหารจักรวรรดิเซราคิวส์ของเรา รู้ไหมพ่อกับแม่รวมทั้งท่านนาริสก็จบจากที่นี้ทั้งนั้นและยังไม่รวมถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อีกมากมายนะ”ผู้เป็นพ่อกล่าวอธิบายพลางวางท่าอย่างภาคภูมิใจ “ อ้อ ! ฮาเทียก็ได้จดหมายเชิญด้วยไม่ใช่เหรอ ยินดีด้วยนะไม่เสียแรงที่ท่านนาริสรับประกันฝีมือ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ฮาเทียคงต้องเหนื่อยเพิ่มแล้วจ๊ะ นอกจากต้องช่วยปลุกแล้วดีไม่ดีต้องช่วยครีโอทำการบ้านอีก”ราชีนีเอริมพูดเสริม
“ท่านแม่ก็ ลูกไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”ผู้เป็นลูกว่าพร้อมกับทำท่าค้อนใส่ผู้เป็นแม่ ส่วนคนยั่วก็หัวเราะกับท่าทางของลูกสาวแล้วหันมาถามเกรเกอรี่ว่า
“จริงสิว่าแต่แกรี่จะไปพักที่นี้สักคืนสิ เดี๋ยวให้คนขึ้นไปจัดห้องให้”
“ไม่ล่ะครับ”เกรเกอรี่ปฏิเสธอย่างสุภาพ “เดี๋ยวต้องไปธุระแทนท่านอธิการอีกหน่อยน่ะครับ”
เมื่อสิ้นแสงตะวันถูกแทนที่ด้วยแสงจันทร์และหมู่ดาวน้อยใหญ่ ท้องนภาเหนือผืนดินมืดลงบอกถึงช่วงรัตติกาลได้มาเยือนแล้ว บรรยากาศรอบๆพระราชวังเริ่มหนาวเย็นประกอบกับลมทะเลที่พัดผ่าน
“ยิ่งดึกยิ่งหนาวนะครับ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”เด็กหนุ่มบอกอย่างเป็นห่วง ก่อนจะปลดเสื้อคลุมแล้วคลุมไหล่นายหญิงของตนที่กำลังนั่งเหม่ออยู่บนราวระเบียงหลังจากที่จัดของเสร็จ
“ฉันว่านายไปนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องไปหาท่านนาริสแต่เช้าไม่ใช่เหรอ” คำพูดที่ส่อแววไล่ เรียกรอยยิ้มของฮาเทียก่อนที่จะเอ่ยขึ้นว่า
“มีองครักษ์ที่ไหนบ้างนอนก่อนเจ้านายครับ”แล้วผู้เป็นองครักษ์ก็นั่งลงข้างๆทำให้เด็กสาวมองอย่างงงๆก่อนจะยิ้มบางให้ “นายไม่ตื่นเต้นบ้างเหรอ”
“เรื่องอะไรเหรอครับ อ๋อ เรื่องโรงเรียนเหรอครับ มันก็ตื่นเต้นอยู่แล้ว ใครจะไปคิดว่าจะได้มีโอกาสขนาดนี้ล่ะครับ”ฮาเทียตอบเสียงร่า “ดูท่าท่านครีโอจะตื่นเต้นมากเหมือนกันนะครับ”
“บ้า ! ใครตื่นเต้น ฉันน่ะเฉยๆเลยล่ะ” เด็กหนุ่มเหล่มองคนปากแข็งก็อดขำไม่ได้ ปากน่ะบอกว่าไม่ตื่นเต้น แต่นี้ถึงไม่หลับไม่นอนเลย “แล้วพรุ่งนี้กำหนดเดินทางเมื่อไหร่ล่ะ”
“ท่านจ้าวว่าให้เราเดินทางไปพร้อมกับเรือเที่ยวแรกตอนแปดโมงแล้วไปให้ถึงเมืองหน้าด่านทางเหนือก่อนค่ำ” เด็กสาวขมวดคิ้วทันทีก่อนจะถามว่า
“ทำไมเราไม่ใช้เกทล่ะสะดวกกว่ากันเยอะ”
“มันเป็นข้อตกลงมาตั้งแต่ครั้งก่อตั้งโรงเรียนแล้วครับที่ผู้เข้าทดสอบทุกคนต้องเดินทางด้วยตนเองห้ามให้สิ่งช่วยย่นระยะทางใดๆทั้งสิ้นเพราะมันถือว่าเป็นบททดสอบข้อหนึ่งแต่ว่าไม่มีข้อห้ามเรื่องยานพาหนะในการเดินทางนะครับซึ่งผมลองคำนวณดูแล้วถ้าเดินทางด้วยบอร์ดคงใช้เวลาไม่ถึงสองวันหรอกครับ”
“อืม”เด็กสาวตอบอย่างเข้าใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสามจันทราที่ลอยอยู่กลางหมู่ดาวนับล้าน “พระจันทร์คืนนี้ดูสวยผิดหูผิดตานะนายว่าไหม”
“ครับ”
‘ใกล้แล้วเหรอ’
เสียงใสดั่งระฆังแต่แฝงความเศร้าเอ่ยขึ้น ในความมืดก่อนที่แสงจันทร์จะส่องผ่านช่องว่าง เผยร่างของเด็กสาวผมยาวสยายสีเงินที่กำลังนั่งกอดเข่าก้มหน้าซุกอยู่คนเดียว
‘รีบมานะ ข้าจะรอเจ้า’
สายลมพัดผ่านพาใบไม้และกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้แรกบานก่อนจะพาออกไปโพรงไม้
“ครีโอจ๊ะ อย่าลืมเสื้อหนาวด้วยนะ”
“ค่า”
“ครีโอจ๊ะ อย่าลืมติดต่อหาแม่ทุกคืนด้วยนะ”
“ค่าท่านแม่”
“ครีโอจ๊ะ แม่เตรียมขนมไว้ในกระเป๋าลูกแล้วนะ”
“...”
“ครีโอจ๊ะ ...”
“......”
“ครีโอ”
“.............”
“ครีโอ”
“ท่านแม่!!!”เสียงที่แสดงว่าเส้นอารมณ์ของคนเป็นลูกขาด “ลูกแค่ไปเรียนนะไม่ได้ไปออกรบ”
“โธ่ ครีโอน้อยของแม่ไม่เข้าใจ” ผู้เป็นแม่กล่าวพลางดึงตัวลูกสาวเข้ามากอด “เตรียมพร้อมไว้ก่อนใครมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วนะ”
“นี่ที่รักลูกเขาต้องรีบเดินทางนะเดี๋ยวตกเรือเที่ยวแรกหรอก” เสียงของผู้เป็นพ่อบอกขัดจังหวะทำให้หญิงสาวส่งตาขวางมาให้ก่อนจะปล่อยลูกสาวสุดที่รักออกจากอ้อมแขน
“ดูแลสุขภาพด้วยนะ ฮาเทียฝากดูแลครีโอด้วยนะจ๊ะ”
“ครับ”เด็กหนุ่มรับแล้วโค้งตัวให้หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ก่อนที่มือหนาของท่านจ้าวชานีลจะขยี้ผมของเขาจนยุ่งอย่างเอ็นดู
“เจ้าก็รักษาตัวด้วยล่ะ”
“เยส ยัวร์ มาเจสตี้ ” ฮาเทียตอบก่อนจะหันไปจัดสัมภาระทั้งของเขาและครีโอขึ้นรถลาก
“ฝ่าบาทเรือจะออกแล้วนะขอรับ”มหาเสนาอำมาตย์นาริสบอกแล้วเด็กหนุ่มก็เดินขึ้นรถลากตามด้วยครีโอที่เพิ่งหนีจากแม่ผู้หวงแหน
“ขอเทวีแห่งท้องทะเลอวยพรนะ”องค์เอริมกล่าวก่อนที่รถลากจะเคลื่อนตัวออกจากหน้าวังหลวง
“เฮ่อ”ครีโอถอนหายใจอย่างโล่งใจ “ท่านนาริสไม่ไปส่งเราที่โรงเรียนเหรอ”
“คงไม่ได้หรอกขอรับ เดี๋ยวกระหม่อมต้องไปดูงานแทนท่านจ้าว”ขุนนางเฒ่าบอกพร้อมให้เหตุผล
รถลากแล่นผ่านตัวเมืองอย่างรวดเร็วเพื่อนำผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายให้ทันเวลา ไม่นานนักพวกครีโอก็มาถึงท่าเรืออย่างฉิวเฉียด
“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะขอรับ”นาริสอวยพรเมื่อรัชทายาทคนสำคัญขึ้นเรือเรียบร้อย เด็กสาวชะโงกหน้าจากกราบเรือพร้อมเอ่ยว่า
“ท่านนาริสก็ดูแลสุขภาพบ้างนะ ท่านน่ะแก่แล้วนะ” เมื่อได้ยินขุนนางเฒ่าก็ถึงกับหัวเราะก่อนที่จะหันมาหาเด็กหนุ่ม
“ฝากที่เหลือด้วยนะฮาเทีย”
“เยส มาย ลอร์ด”
เรือโดยสารลำใหญ่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากท่าเทียบอย่างช้าๆก่อนที่จะเร่งความเร็วเมื่อออกสู่ทะเล กลิ่นเกลือทะเลพัดมาตามสายลม
“ฮาเทียเมื่อไหร่เราจะถึงแผ่นดินใหญ่”อยู่ๆครีโอก็ถามขึ้น
“ก็ประมาณสิบโมงน่ะครับ” แล้วรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยก็ฉายบนดวงหน้าของคนที่มีดีกรีความแสบจนเด็กหนุ่มรู้สึกสังหรณ์ใจ
“แล้วถ้าเราไปถึงเมืองท่าเร็วกว่านี้ล่ะ”
“ก็จะไปถึงเมืองหน้าด่านเร็วขึ้น ดีไม่ดีก็อาจจะเลยไปถึงเมืองใดเมืองหนึ่งของเฟทมอร่า”
แต่ยังพูดไม่ทันจบ เด็กสาวก็ทิ้งตัวสู่ผืนทะเลจนคนที่พูดอยู่ตกใจ ฮาเทียชะโงกหน้าหาผู้เป็นนายที่อยู่กระโดดลงน้ำโดยไม่บอกกล่าว
เสียงแหวกน้ำดังขึ้นในเวลาต่อมาพร้อมกับร่างของเงือกสาวที่กระโจนขึ้นเหนือผืนน้ำ
“รีบตามมาเร็วสิฮาเทีย” ครีโอตะโกนบอก ฮาเทียมองภาพนั้นก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ราชองครักษ์หนุ่มเสกสัมภาระทั้งหมดให้หายไปกับอากาศก่อนจะหยิบการ์ดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเทาออกมาแล้วพึมพำเบาๆ
การ์ดในมือเรืองแสงขึ้นก่อนจะเกิดวงเวทย์บนพื้นกระดานเรือพร้อมกับกลุ่มควันที่โพยพุ่งจากวงเวทย์ เรียกเสียงฮือฮาของผู้โดยสารคนอื่นบนดาดฟ้า ม้ามีปีกสีดำปรากฏขึ้นตรงหน้าเด็กหนุ่ม ฮาเทียลูบหัวของมันเบาๆก่อนจะกระโดดขึ้นค่อมหลัง
ทันทีที่เจ้านายจัดท่านั่งได้เหมาะสมแล้ว เจ้าม้าเปกาซัสก็พุ่งตัวจากขอบเรือ ปีกคู่คล้ายค้างคาวกางออกแล้วค่อยโฉบลงเรียดผิวน้ำทำให้น้ำกระเซ็นใส่หน้าเด็กสาว
“ว้าย !! แกล้งฉันเหรอฮาเทีย” ครีโอร้องแล้วมองคนแกล้งที่บินอยู่เหนือหัวอย่างอาฆาต
“เปล่าซะหน่อยครับ” คนแกล้งตอบอย่างใสซื่อก่อนจะกระตุกบังเหียนให้เจ้าพาหนะบินไปข้างหน้า
“หนอย คิดหนีเหรอ อย่าให้จับได้นะ” คนถูกแกล้งว่าอย่างหงุดหงิดก่อนจะออกว่ายน้ำตามไปทันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น