ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 เตรียมการขั้นแรก
Chapter 4
เตรียมการขั้นแรก
เปลวไฟสีเขียวมรกตลุกพรึ่บบนถาดคบเพลิงก่อนที่จะวิ่งไปตามรางใส่น้ำมันที่ทอดตามริมทั้งสองฝั่งของห้อง เผยสภาพห้องโถงที่อาจเคยหรูหรามาก่อนแต่บัดนี้กลับเต็มไปด้วยหยากไย้และคราบฝุ่นที่จับกันหนาเตอะ
ประตูหินบานใหญ่เปิดออกอย่างช้าพร้อมกับร่างของกลุ่มคนในชุดคลุมยาวเก่าๆที่เดินเข้ามาก่อนจะหยุดยืนอยู่นิ่งกลางห้อง
“คิดถึงความหลังเก่าเหลือเกินว่าไหม” เสียงที่แหบแห้งของผู้ที่อยู่หน้าสุด
“มาย ลอร์ด เหตุใดเราถึงมาที่นี่ ” หนึ่งในกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังถามอย่างนบน้อมกับคนตรงหน้าผู้มีฐานะสูงกว่า
ผู้เป็นหัวหน้าหันกลับมา แม้จะไม่เห็นดวงตาที่ซ่อนอยู่ใต้ฮู้ด แต่ทั้งหมดต่างรู้กันว่ากำลังถูกอีกฝ่ายมองอยู่
“ข้าแค่นัดคุยกับใครบางคน ” ผู้เป็นหัวหน้าชะงักชั่วครู่ “ดูเหมือนคนที่ข้านัดจะมาไวกว่าที่คิด”
ประตูหินเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับร่างบางของหญิงสาวในชุดกระโปรงแดงเลือดที่ดูตัดกับผิวที่ซีดขาวเรือนผมยาวสีขาวบริสุทธิ์และดวงตาสีแดงที่แข็งกร้าวประกอบกับท่าทางคล้ายนางพญาทำให้เธอดูน่าเกรงขาม ตามด้วยผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง
“ต้องขออภัยที่ไม่ได้ปัดกวาดสถานที่ไว้รอ คงไม่ถือโทษโกรธกันนะขอรับท่านหญิง” ผู้ถูกเชื้อเชิญบอกอย่างนอบน้อม
“ดูเจ้าไม่เปลี่ยนไปเลยนะ ยังน่าขยะแขยงอยู่เหมือนเดิม” ท่านหญิงพูดเชิงดูถูกเหยียดหยามและชิงชังในตัวคนตรงหน้าอย่างมาก “เจ้ามีเรื่องอะไรถึงเรียกข้ามาเจ้าคนขลาด”
“มิทราบว่าข้าทำอะไรให้ท่านหญิงไม่พอใจหรือ”
“เชอะ ข้าไม่พอใจตั้งแต่เจ้ามารับใช้นายท่านแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเจ้าทำให้พวกเราต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆจากพวกเฮเว่นไนท์*”
__________________________________________________________________________________________
*ยศอัศวินสูงสุดของกองอัศวินสีขาว ซึ่งขึ้นตรงต่อจอมเทพเท่านั้น
“หึๆๆๆ เพิ่งรู้ว่าท่านหญิงที่ผ่านมาทุกสมรภูมิจะกลัวแม้กระทั่งทหารกระจอกๆ” หัวหน้าคนในชุดคลุมกล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้งเหมือนเดิม พลางหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้าย
ด้วยความไวที่แทบไม่มีใครมองทัน ปลายหอกสีดำสนิทก็มาจ่อตรงคอของคนที่กำลัวหัวเราะ ทำให้คนในห้องต่างมองมาที่ชายหนุ่มเจ้าของหอก แม้จะถูกหอกจ่อในระยะประชิดแต่อีกฝ่ายก็ยังหัวเราะในลำคออยู่อย่างไม่แยแส
“สวัสดีท่านราคีออส ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงจังเวลาถูกท่านจ่อคอเนี่ย” ดวงตาสีเทาของชายหนุ่มจ้องอีกฝ่ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อก่อนที่จะขยับปลายหอกเข้าทิ่มเบาบนคอชุดคลุมของอีกฝ่าย ขณะผู้ถูกจ่อคอกลับนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“กรุณารักษามารยาทด้วย ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าไม่เตือน” ชายหนุ่มขู่เสียงแข็งก่อนจะชะงักเมื่อมือบางๆของหญิงสาวกดลงเบาด้ามหอกเบาพร้อมกับส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามปรามอีกฝ่าย “แต่ว่าท่านหญิง...”
ดวงตาของหญิงสาวแข็งกร้าวทันทีที่ถูกอีกฝ่ายขัดขืน ทำให้ชายหนุ่มนาม ‘ราคีออส’ กัดฟันข่มอารมณ์ไว้ก่อนจะลดหอกลงด้วยความจำใจแล้วค่อยถอยไปรวมกลุ่มกับผู้ติดตามฝ่ายหญิงสาว ผู้เป็นเจ้านายถึงกับแอบลอบถอนหายใจ
“มีเรื่องอะไรจะคุยกับข้ารีบว่ามา” หญิงสาวรีบเปิดประเด็นก่อนที่คนของเธอจะก่อเรื่องอีก หัวหน้าคนในชุดโค้งตัวพร้อมผายมือไปที่โต๊ะเล็กตรงมุมของห้อง ท่านหญิงเลิกคิ้วขึ้นพลางมองอีกฝ่ายด้วยความไม่ไว้ใจ
“คุยไปด้วยพร้อมเล่นหมากรุกเหมือนเมื่อก่อนไงขอรับ หวังว่าท่านหญิงคงให้เกียรติเล่นสักกระดาน”
ในห้องเล็กๆที่มีแสงไฟสลัวๆแห่งหนึ่ง ชายชราในชุดคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกปิดใบหน้าครึ่งบนแต่ที่รู้ว่าเป็นชายชราเพราะหนวดเคราสีเงินที่ยาวออกมา มือกำลังเคาะตัวหมากรุกสีขาวกับโต๊ะที่ตนนั่งอยู่ ก่อนจะหยุดเคาะเมื่อเกิดแสงสว่างตรงหน้า เท่านั้นรอยยิ้มบางๆก็ฉายบนริมฝีปากของเขาทันที
“เป็นเกียรติมากที่ท่านอุตส่าห์แวะมาเยี่ยมเยียนคนแก่” ชายชราเอ่ยขึ้น พร้อมกับเงยหน้าร่างที่เปล่งแสงสว่างจนมองเห็นตัวไม่ชัด
“ไม่ได้เจอตั้งนาน สบายดีเปล่า” เสียงที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นชายหรือหญิงถาม
“ก็เหมือนเดิมน่ะครับ เชิญนั่งก่อนเถอะจอมเทพ” ชายชราตอบก่อนจะโบกมือเบาๆ เก้าอี้เบาะที่อยู่มุมห้องก็เลื่อนตัวเข้ามาแล้วผู้เป็นจอมเทพก็ย่อตัวลงนั่ง
“ข้ามีเรื่อง...”
“ถ้าเป็นเรื่องจากพวกโนร์นน่ะ ข้ารู้หมดแล้วล่ะ” ชายชราพูดแทรก
“สามผู้นำสารมาหาท่านหรือ”
“เปล่าหรอก ข้ารู้ด้วยตัวข้าเอง” ชายชราวางตัวหมากรุกในมือลงพร้อมกับถอนหายใจ “ โอกาสที่ข้าจะได้แก่ตัวอีกครั้งใกล้มาถึงแล้ว ไหนๆท่านก็อุตส่าห์มาเยี่ยม ข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วย”
“ก็ว่ามาสิ” ชายชราล้วงมือเข้าในแขนเสื้อ หยิบม้วนกระดาษสีทองออกมาแล้วส่งให้จอมเทพ มือที่เรืองแสงยื่นออกมารับมันก่อนจะคลี่ออกอ่าน
“ท่านคงไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่ไหม”
“นี่คือภารกิจแรกของท่าน”
“ถึงเวลาเราจะกลับมาเกรียงไกรอีกครั้ง”
“แล้วเจ้าต้องการให้เราทำอะไร”
หัวหน้าคนในชุดคลุมหัวเราะในลำคอ พร้อมกระแทกม้าสีดำใส่บิชอปสีแดง “ฝ่ายนั้นคงเริ่มเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆ”
คิ้วงามขมวดขึ้นอย่างไม่เข้าใจในความหมายที่อีกฝ่ายพูด ก่อนจะเดินหมากของตน
“แล้วไยเราถึงยังต้องหลบๆซ่อนๆอยู่อีกล่ะจริงไหม”
“รีบๆเข้าเรื่อง ข้าไม่อยากฟังเจ้าพร่ำนาน” ท่านหญิงพูดตัดบทด้วยเสียงที่แสดงถึงขีดสุดของอารมณ์ ขณะที่อีกฝ่ายเริ่มก่อสงครามประสาทด้วยเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอทำให้คนถูกกดดันทุบโต๊ะอย่างแรงให้คนก่อสงครามรู้ว่าเธอไม่เล่นด้วย
“เมื่อถึงคืนจันทร์ซ้อน** เราจะไปทะทาร์รัสกัน” หมากในมือท่านหญิงหลุดหล่นทันที นัยน์ตาสีแดงฉายแววตื่นตระหนกทันที เสียงฮือฮาดังขึ้นในหมู่ผู้ติดตามของเธอเอง
ม้าสีดำกระแทกคิงสีแดงอย่างแรง แล้วตัวหมากฝ่ายแดงที่เหลืออยู่ก็สลายไปเป็นฝุ่นธุลี เจ้าของหมากสีดำลุกขึ้นพร้อมกับกรีดร้องเสียงแหลมอย่างผู้มีชัย
“มาเถิด ท่านหญิงอิคนอร์แลนเทีย” คนชนะกล่าว “ไปรับผู้นำของเรา แล้วร่วมกันเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของไตรทวีปอีกครั้งและครั้งนี้จะไม่มีใครมาขัดขวางเราได้ นั่นคือ สิ่งที่ข้าพญาโหงทมิฬแองมาร์ นายเหนือหัวแห่งเหล่านาซกูลปรารถนา”
เมื่อผู้เป็นหัวหน้าประกาศจบพร้อมกับหัวเราะอย่างชั่วร้าย เหล่าสาวกผู้ติดตามก็กรีดร้องเสียงแหลมพร้อมๆ กัน กลิ่นไอของความชั่วร้ายเริ่มอบอวล ทำให้ท่านหญิงอิคนอร์แลนเทียและเหล่าผู้ติดตามของเธอนิ่งอึ้งกับสิ่งที่อีกฝ่ายหมายถึง
“แล้ว 12 สัตว์เทพพิทักษ์***ล่ะ” จอมเทพเอ่ยถาม
“ตอนนี้ทุกคนล้วนกำลังทำหน้าที่ที่ตนสามารถทำได้ในตอนนี้” ชายชรากล่าวพลางยกถ้วยชาดื่ม “เราช้าไม่ได้แล้วจอมเทพ ข้าเชื่อว่าฝ่ายนั้นคงอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว เราต้องรีบลงมือก่อน ข้าอยากรู้ว่าตอนนี้ที่ทะทาร์รัสเป็นไงบ้าง”
“อย่าห่วงเลย” จอมเทพบอก “ไม่เคยมีนักโทษหรือคนนอกที่บุกทะทาร์รัสได้ตั้งแต่ก่อตั้งมา”
“แต่ว่า...” ชายชราแย้ง ก่อนที่ถูกผู้เป็นจอมเทพพูดขัดขึ้นว่า
“ท่านน่ะอยู่เฉยในที่ของท่านเถอะ” แล้วจอมเทพลุกขึ้น “ข้าขอตัวก่อนล่ะ ไว้เจอกันใหม่ท่านโปรเฟสเซอร์”
พูดจบ ปีกสีขาวสามคู่กางออกจากหลังของจอมเทพ แล้วค่อยหุบลงห่อร่างที่เรืองแสงไว้ก่อนจะหายไปกับอากาศโดยทิ้งไว้เพียงขนนกสีขาวที่ฟุ้งไปทั่วห้อง
__________________________________________________________________________________________
**ปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ดวงจันทร์ทั้งสามดวงโคจรมาในแนวเดียวกัน
***สัตว์อสูรชั้นเทพ ซึ่งเป็นชั้นที่สูงสุดของสัตว์อสูร มีทั้งหมด 12 ตัวและแต่ละตัวก็เป็นสัตว์ผู้ปกปักษ์นครทั้ง12ของวัลเนอเฮม
ชายชราส่ายหัวก่อนเปิดฮู้ดคลุมศีรษะ เผยผมยาวสีเงินและใบหน้าของชายชรา นัยน์ตาสีทองซึ่งตอนนี้แฝงความกังวลไว้ก่อนจะเหลือบไปมองกรอบรูปเล็กๆบนโต๊ะข้างๆ แล้วค่อยถอนหายใจ
ข้าจะคืนสิ่งที่ข้าพรากจากเจ้าเอง ข้าสัญญา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น