คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ครีโอ เดอ นีโรว์
บทที่ 1
ครีโอ เดอ นีโรว์
10 ปีต่อมา
ดวงตะวันทอแสงแรกริมขอบฟ้าแล้วจึงสะท้อนไปทั่วผืนดินเบื้องล่าง ปลุกทุกสรรพชีวิตให้ตื่นจากห้วงภวังค์ขึ้นมาต้อนรับเช้าวันใหม่และดำเนิน กิจวัตรประจำวันอย่างแรกของตน เช่นเดียวกับภายในเขตพระราชวังแห่งเซราคิวส์เหล่าข้าราชบริพารทั้งชายหญิง ต่างเริ่มกุลีกุจอไปทำงานประจำของตนก่อนเหล่าราชนิกุลจะตื่น
เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำสั้นปะต้นคอ ดวงหน้าที่คมคายเข้ากับนัยน์ตาคู่สีนิล ประกอบกับชุดที่แสดงถึงคนมียศพอสมควร แต่อาจสูงไปสำหรับเด็กหนุ่มวัยสิบสี่
“มาทำงานเหมือนเคยนะเจ้าคะท่านราชองครักษ์”นางกำนัลวัยกลางคนเอ่ยถามทันทีที่เด็กหนุ่มเดินมา
“ครับ มันเป็นหน้าที่ประจำผมอยู่แล้ว”เขาตอบ พลางส่งยิ้มที่เป็นเสน่ห์ประจำตัวของเขาให้หญิงวัยกลางคนก่อนเดินต่อไป
ราชองครักษ์หนุ่มเดินมาเรื่อยๆตามทางเดินในปราสาทก่อนจะเข้าสู่เขตห้องบรรทม ของบุคคลสำคัญลำดับที่สามของจักรวรรดิเซราคิวส์ แล้วหยุด ณ.ประตูห้องที่หมาย
ก๊อกๆๆ
“ท่านครีโอครับ ท่านครีโอ”
ไร้เสียงตอบกลับ เด็กหนุ่มก็รู้ด้วยสัญชาตญาณว่า คนข้างในยังไม่ตื่น เขาจึงบิดลูกบิดเปิดประตูออกอย่างง่ายดาย แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
บอกกี่ครั้งก็ไม่เคยล็อกประตูซะเลย
ห้องที่ปูด้วยพรมชั้นดีทั่วห้อง เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงจัดวางอย่างเป็นสัดส่วน ประกอบกับของสัพเพเหระที่แขวนอยู่บนผนังไม่ว่าจะเป็นไม้เท้า ดาบ ปืน บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของห้อง
เด็กหนุ่มสาวเท้าเข้ามา ก่อนจะหยุดข้างเตียงนอนสี่เสาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง เสียงนิ้วดีดดังพร้อมกับผ้าม่านที่หน้าต่างค่อยๆรูดเปิดออกปล่อยให้แสงสว่าง ส่องผ่านบานกระจกขับไล่ความมืดในห้อง จนร่างที่ยังนอนอยู่เริ่มขยับเล็กน้อย ก่อนจะซุกตัวลงใต้ผ้าห่มหนา
ราชองครักษ์หนุ่มที่ยืนอยู่ถึงกับส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจก่อนที่เขาจะดึงผ้าห่มออก เผยร่างของเจ้าของห้องที่ยังคงนอนอย่างสบายใจ เรือนผมสีน้ำเงินแผ่ปกคลุมหมอน ดวงหน้าขาวนวล ริมฝีปากเล็กได้รูป แม้ยามหลับก็มีเสน่ห์น่าหลงใหล ประกอบกับชุดนอนสีฟ้าน่ารักยิ่งเพิ่มเสน่ห์จนสามารถทำให้ชายใดที่เจอใจละลายได้
ทันทีที่ผ้าห่มถูกดึงออก มือบางๆก็เริ่มไขว่คว้าไปมาหาผ้าห่มที่ถูกดึงออก เมื่อมือนั้นจับชายผ้าห่มได้ เด็กสาวก็ทำในสิ่งที่เด็กหนุ่มไม่ทันคิด
ร่างทั้งล้มลงนอนด้วยแรงดึง ดวงหน้าที่เคยขาวของเด็กหนุ่มกลับขึ้นสีแดงระรื่อ เมื่อใบหน้าของเด็กสาวอยู่ห่างกับเขาไม่ถึงคืบ ร่างทั้งร่างแข็งราวกับโดนมนตร์สะกดและหายนะก็บังเกิดเมื่อแพขนตาสีน้ำเงิน จะปรือขึ้นเผยนัยน์ตาคู่สีฟ้าครามคู่งาม
เด็กสาวมองภาพตรงหน้าด้วยอาการสลึมสลือสักพัก แล้วทันที่สมองตื่นเต็มตัว นัยน์ตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจ เช่นเดียวกับดวงหน้าที่ขึ้นสีแดงไม่แพ้ใบหน้าที่คมคายตรงหน้า ก่อนที่จะ...
กรี๊ดดด!!!
โครม!!!
5 นาทีต่อมา
“โอ๊ย ! เจ็บ ทาเบาๆหน่อยสิครับ”เสียงโอดครวญดังขึ้นทำให้เด็กสาวชะงัก
“เป็นผู้ชายซะเปล่า แค่นี้ทำเป็นร้อง”เด็กสาวว่าพลางมองใบหน้าที่ฟกช้ำของเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ท่านครีโอก็ใจร้าย”
“ก็ใครใช้ให้นายมานอนข้างกันแล้วอีกอย่างนายก็ไม่รีบอธิบาย คนเขาก็ตกใจเป็นนะยะ”ครีโอพูดโยนความผิด
“ก็ท่านไม่เปิดโอกาสให้พูดเลย พอลุกได้ก็ต่อยเอา”เด็กหนุ่มผู้ถูกประทุษร้ายพูด ขณะที่เด็กสาวทายาให้เขาอย่างเบามือที่สุด
“โอเค ฉันผิดเอง ขอโทษอย่างอนกันสิฮาเทีย”ฮาเทียมองครีโอก่อนจะถอนหายใจอย่างปลง
“จริงสิแล้ว” ครีโอเอ่ยขึ้น “ท่านพ่อกับท่านแม่ล่ะ”
“ออกไปทรงงานกันในเมืองทั้งคู่ครับ”
แล้วรอยยิ้มบางๆก็ฉายบนดวงหน้างาม เท่านั้นฮาเทียก็สัมผัสถึงพลังชั่วร้ายบางอย่างที่แผ่จากตัวเด็กสาวนาม ‘ครีโอ’
“ฮาเทีย”
“คร้าบบบ”
“ไปเปลี่ยนชุดซะ แล้วไปคอยที่เดิม”
“เอ่อ คือว่า ท่านครีโอ”
“ฮาเทียนี่ไม่ใช่คำสั่ง แต่มันเป็นคำบัญชาเข้าใจไหม”
“Yes your highness”เขาตอบเสียงอ่อย
ร่างของเด็กสาวในชุดทะมักทะแมงเหมือนผู้ชายไต่ลงจากต้นไม้อย่างชำนาญโดยมีเด็ก หนุ่มที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดลำรองคอยอยู่เบื้องล่าง ทันทีที่เท้าของครีโอสัมผัสพื้น ฮาเทียก็เอ่ยขึ้นว่า
“แล้วท่านครีโอจะไปไหน ในเมืองตอนนี้คงมีทหารเต็มไปหมด”
“หึหึหึ ก็อย่าให้พวกนั้นเห็นสิ”ว่าแล้วเด็กสาวก็ก้มลงไปล้วงอะไรบางอย่างใต้พุ่มไม้ก่อนจะดึงกล่องไม้ใบพอเหมาะออกมาแล้วเปิดมันออก
“ผมนึกว่าท่านนาริสเก็บหมดแล้วซะอีก”ฮาเทียพูดพลางรับผ้าคลุมโทรมๆที่ครีโอหยิบออกจากกล่อง
“พูดมากจัง รีบไปกันเถอะ”ครีโอเอ่ยหลังจากสวมชุดคลุมทับร่าง
เป็นจริงอย่างที่ฮาเทียคาดไว้ ทั่วท้องถนนไม่เว้นกระทั่งตรอกซอยเล็กๆของเมืองหลวงอันโตรม่า-เรย์ เต็มไปด้วยทหารทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบที่ยืนกระจัดกระจายปะปนไป กับผู้คนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอย ทำให้พวกเขาต้องระวังทุกฝีก้าวเพราะถ้าพลาดโอกาสที่จะถูกจับได้มาถึง 99.99% เพราะทหารแถบทุกนายของกองทัพรู้จักเขาหมดและก็ไม่ต้องพูดถึงครีโอที่เป็นถึงองค์รัชทายาทลำดับหนึ่ง
ทั้งสองเดินปะปนไปกับผู้คนก่อนจะเดินเข้าไปในร้านขายวัตถุมนตราร้านหนึ่ง เมื่อสำรวจแล้วว่าในร้านไม่มีทหารสักนาย ทั้งคู่ก็ถอดฮู้ดลงแล้วเดินไปที่หน้าเคาเตอร์
“แหม มาตรงเวลาเหมือนเดิมนะเจ้าค่ะ”หญิงร่างท้วมเอ่ยทันทีที่เห็นหน้าลูกค้า
“ของที่สั่งไว้ได้ยังค่ะมาดาม”ครีโอพูดอย่างสนิทสนม ก็ใช่สิก็เธอซื้อของร้านนี้เป็นประจำ
“อ๋อ เพิ่งมาถึงเมื่อวานเย็นเอง คอยแปปนึงนะเจ้าค่ะ”เจ้าของร้านบอกก่อนจะหันไปสั่งลูกจ้างหลังร้าน ไม่นานนักหญิงร่างท้วมก็เดินมาพร้อมกล่องใบเล็กๆในมือ
“นี่เจ้าค่ะ เชิญเช็คของได้เจ้าค่ะ”
ครีโอแกะกล่องออกแล้วหยิบของที่อยู่ภายในออกมา ปืนสั้นโบราณขนาดเหมาะมือ ลวดลายที่แกะสลักแล้วลงสีทองสวยงาม เด็กสาวมองแล้วยิ้มอย่างพอใจก่อนจะวางมันกลับลงในกล่อง
“โอเคไหมเจ้าค่ะ”ครีโอพยักหน้าแทนคำตอบ “งั้นขอคิดเงินนะเจ้าค่ะ ค่ามัดจำหนึ่งพันไดมอนด์ชำระแล้ว เหลืออีกสองพันห้าร้อยไดมอนด์กับอีกเจ็ดสิบซิลเวอร์เจ้าค่ะ”
เด็กสาวมองดูใบเสร็จก่อนจะควักเงินจากกระเป๋าส่งให้เจ้าของร้าน
“หนีออกมา ไม่กลัวท่านจ้าวกริ้วเหรอครับเจ้าหญิงน้อย”เสียงพูดที่คุ้นหูทำให้ผู้หนีออกมาทั้งสองสะดุ้งโหยงก่อนจะหันกลับไป
ชายวัยห้าสิบในชุดขุนนางเต็มยศ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย ผมสีน้ำตาลเข้มมีสีขาวแซมอยู่บ้าง ชายผู้เป็นทั้งพี่เลี้ยงและอาจารย์ของทั้งสอง มหาเสนาอำมาตย์นาริส ซูไลมาน
“ท่านนาริส!!” ทั้งคู่อุทานเป็นเสียงเดียวกัน
...........
ความคิดเห็น