ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Super Star (มายา...) [HanTeuk] & [KyuTeuk]

    ลำดับตอนที่ #17 : Super Star มายา - 16

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 115
      0
      9 ก.ย. 56


     

    ตอนที่ 16




     

    ตาสวยกวาดมองสำรวจรอบๆร้านอาหารหรูและหันมองผู้จัดการหนุ่มข้างๆที่ออกอาการตื่นเต้น เด็กหนุ่มก้มเปิดเมนูเล่มหนาก่อนจะเบิกตากว้าง

    พี่! ดูราคาดิ ต่อจานราคาแถบซื้อบ้านได้เลยอะ”

    เว่อร์ไปไอ้นี่”

    จานนี้ราคาเกือบเท่าค่าตัวพี่เลย” 

    โห้...อย่าเอาค่าตัวฉันไปเปรียบกับของกินสิว้อยยย!”

    อยากกินอะ” ซึงฮยอนแอบกลืนน้ำลาย

    เขาต้องรวยมากแน่ๆ ถึงนัดเรามาที่นี่” ร่างบางกวาดสายตามองเพดานวิจิตรศิลป์สไตล์จีนโบราญ “เขาเป็นใครกันนะ?”

    เป็นซีอีโอนิตยาสารแฟชั่นชื่อดังของปักกิ่ง ชื่อคุณอะไรน้า” ซึงฮยอนพยายามนึกชื่อบุคคลที่สาม

    สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังขึ้น ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะลุกขึ้นทักทาย “ผมซู่เหลี่ยนเป็นตัวแทนของคุณเหลินครับ”

    สวัสดีครับ” เสียงหวานเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ 

    บริษัทเราอยากได้นายแบบมารวมงานเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ของฤดูหนาว ทางซีอีโอได้เลือกคุณอีทึกครับ”

    ดีจัง” ร่างบางฉีกยิ้ม

    คุณอีทึก ยินดีจะร่วมงานกับเราไหมครับ?”

    ยินดีครับ เราอยากร่วมงานกับคุณ” ร่างบางรีบตอบรับด้วยความตื่นเต้น ซู่เหลี่ยนยื่นนามบัตรให้

    ยังไงผมขอเบอร์ติดต่อของคุณโดยตรงได้ไหมครับ?”

    เออ...นี่ครับ โทรหาผมก็ได้ครับ” ซึงฮยอนส่งนามบัตรให้ ยังไงเรื่องงานก็ต้องผ่านเขาก่อนอยู่แล้ว

    แล้วเจอกันนะครับ” ซู่เหลี่ยนลุกขึ้น “ผมสั่งอาหารไว้ให้พวกคุณด้วย เชิญตามสบายเลยนะครับ ผมขอตัวกลับก่อน” 

    คะ...ครับ” ซึงฮยอนอึ้งค้างเมื่อได้ยิน ไม่นานอาหารจีนมากมายก็มาเสิร์ฟตรงหน้า ผู้จัดการหนุ่มเปิดเมนูดูภาพสลับกับอาหารตรงหน้า อีทึกนิ่งมองพลางกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้

    อ้วน อ้วน อ้วน” ปากบางพึมพำเบาๆ แต่มือเอื้อมไปหยิบปูชิ้นใหญ่ตรงหน้าซึงฮยอนเสียแล้ว ซึงฮยอนตกใจมองตามชิ้นปูเขายังไม่ทันได้แตะสักนิดพี่ชายก็แย่งไป

    พี่ นั่นมันทำให้พี่อ้วนได้นะ!"

    ทำไม? แกจะให้ฉันนั่งมองแกกินเรอะ ทุกอย่างตรงหน้ามันอ้วนทั้งนั้นแหละ” ซึงฮยอนยู่หน้าใส่ที่ห้ามพี่ชายไม่ได้ ก็อย่างว่าไม่ว่าใครก็อยากกินทั้งนั้นของแพงนี่นา

     

    ..

     

    อิ่มมมมม ลุกไม่ขึ้นแล้ว” ซึงฮยอนนอนกลิ้งกับพื้นลูบพุงตัวเองไปมา

    กินแล้วนอนเดี๋ยวก็อ้วนหรอก”

    ผมคนเบื้องหลัง เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกครับ”

    ไปดีกว่า”

    ไปไหน?”

    ไปเดินเล่น”

    อย่าลืมเอาแว่นดำไปด้วยนะ” ซึงฮยอนตะโกนบอกก่อนร่างบางจะออกจากห้อง

     

    ไปเดินเล่นไกลหน่อยไม่เป็นไรหรอกเนอะ” เสียงหวานพึมพำเบาๆกับตัวเอง “อยากนั่งรถเมย์มั่งจัง”

     

    อีทึกนึกคิดอยู่ครู่ก่อนจะเก็บกุญแจรถเข้ากระเป๋าเดินออกนอกคอนโดฯและหยุดที่ป้ายรถเมย์ ผู้คนบางตาอาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงเวลาที่คนยังไม่เลิกงานปากบางยิ้มนิดๆ รู้สึกโชคดีที่ออกมาถูกเวลา

     

     

    กระดาษโน๊ตใบเล็กจดเมโมรายการของที่ต้องซื้อ นางโจวยื่นให้ลูกชายคนเล็ก 

    ไปซื้อมา”

    ซื้อไม่เป็น”

    อยากทำเป็นก็ต้องหัดซื้อ ไปให้พี่ฮันช่วยโน้น” ผู้เป็นแม่ดุอย่างเอือมระอา แรกๆก็ดีใจอยู่หรอกที่ลูกชายอยากทำอาหารแต่พอรู้ว่ามันไปไม่รอดครัวเริ่มเละแทบจะทุกวันนางโจวเริ่มเหนื่อยใจที่จะสอนไอ้ลูกชายตัวแสบไม่เคยจำส่วนผสมและยังดันทุรังทำต่อ

    พี่ฮัน เดี๋ยวนี้กลับบ้านบ่อยนะ”

    ช่วงนี้ได้หยุดพักน่ะครับ”

    พี่ไปซื้อของให้หน่อย แม่สั่ง” น้องชายส่งกระดาษให้พี่ชายแล้วกลับไปนั่งดูทีวี

    ไปช่วยน้องซื้อของหน่อยซิ ตามในรายการนั่นเลย”

    นี่ยังคิดจะหัดทำอยู่อีกหรอ? หัดกินอย่างเดียวก็พอแล้วมั่งนายน่ะ” 

    จะหัดทำให้เมียกินต่างหาก” ฮันกยองพยักหน้ารับตามใจน้องชายไม่ห้าม

     

    เอาหัวไชเท้าไปเยอะๆ” คยูฮยอนหยิบหัวไชเท้าใส่รถ “เมนูอะไรใส่หัวไชเท้าบ้าง?”

    มันไม่มีในเมนูไม่ใช่หรอ?”

    ก็อีทึกชอบกินหัวไชเท้าอะ”

    ไอ้นี่...” ร่างสูงถอนหายใจออกเฮือกหนึ่งไม่รู้จะด่าน้องชายว่าอะไรดี เอาแต่ใจจริงๆ “เสร็จนี่แล้วกลับนะ”

    รีบหรอจ้ะ”

    เดี๋ยวเขกมะเหงกเลย!”

     

    เสียงเพลงดังเบาๆคยูฮยอนเคาะนิ้วกับเข่าตามจังหวะ พลางหันมองพี่ชายที่ขับรถไปใช้นิ้วเคาะพวงมาลัยตามจังหวะเพลงเช่นกัน

    เพลงใหม่ผม เพราะไหมล่ะ?”

    อืม”

    แต่งเองรึเปล่า?”

    แน่นอน” คยูฮยอนยืดอกภาคภูมิใจในฝีมือของตัวเอง “ใช้ความรู้สึกแต่งล้วนๆ อีทึกบอกว่าเพลงนี้ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งแน่ พี่ล่ะ?”

    “....”

    พี่!! เลี้ยว เลี้ยว” คยูฮยอนหันมองพี่ชายที่ตนคุยด้วยแต่งไม่มีเสียงตอบกลับก่อนจะสังเกตเส้นทาง ด้านหน้า ทางกลับบ้านเลี้ยวไปอีกทางแต่พี่ชายกลับขับตรงไปด้วยความเร็วรถมากขึ้นกว่าเดิม “ไปไหน?”

    “....”

    พี่ฮันกยอง จะไปไหนวะ?” น้องชายเริ่มหงุดหงิดถามแล้วไม่ตอบ “ขับตามรถเมย์? บ้าป่ะเนี่ย!”

     

    คยูฮยอนเพิ่งสังเกตได้ว่าพี่ชายขับตามรถโดยสารข้างหน้า เมื่อรถเมย์หยุดพี่ชายก็ชะลอความเร็วรถโดยสารข้างหน้าก็ขับด้วยความเร็วไม่แพ้กัน

    อีทึกอยู่บนนั้น”

    ห๊ะ!! เห็นหรอ? ไม่มีทาง อีทึกจะไปทำไรบนรถเมย์วะ” น้องชายขมวดคิ้วสงสัยก่ำกึ่งที่จะเชื่อพี่ชาย ฮันกยองไม่ตอบและเร่งความเร็วขับแซงรถเมย์ร่างสูงหันมองผ่านกระจกที่นั่งโดยสารร่างบางยังนั่งอยู่หลังรถเหมือนเดิม แว่นหรือหมวกก็ไม่ใส่มันทำให้เขาสังเกตเห็นได้ง่ายๆเลย 

     

    ทันทีที่รถเมย์จอดป้ายฮันกยองขับรถจอดขว้างหน้ารถทันที รีบลงจากรถวิ่งขึ้นรถเมย์ คยูฮยอนหันมองอย่างงงๆก่อนจะลงจากรถเช่นกัน

     

    ร่างสูงก้าวยาวๆตรงเข้าไปหาร่างบางที่ยังนั่งมองออกนอกหน้าต่างอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว จนร่างบางได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาจึงหันกลับมามอง ฮันกยองเดินเข้ามาคว้าข้อมือดึงร่างบางให้เดินตามตน อีทึกที่ยังตกใจและงงงวยเดินตามอย่างไม่ขัดขืน

     

    ปล่อย!” เมื่อหายตกใจเสียงหวานเริ่มเอ่ยปากขัดขืน “ปล่อย เจ็บมือ”

     

    ฮันกยองพาร่างบางมาหยุดข้างตรอกเล็กๆปลอดคน มือหนาบีบไหล่เล็กทั้งสองข้างแน่นใบหน้าดูไม่พอใจอย่างมาก ตาสวยช้อนมองอย่างไม่ใส่ใจ

    ออกมาแบบนี้ได้ยังไง? มันอันตรายนะรู้ไหม!”

    ฉันแค่ออกมาเดินเล่น ฉันอยากนั่งรถเมย์ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ?”

    คุณเป็นใคร อยู่ในฐานะอะไรลืมแล้วหรอ?”

    ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครจำฉันได้เลย นายจะมาหงุดหงิดใส่ฉันทำไม?!”

    เพราะเป็นห่วงคุณน่ะสิ” ร่างบางถอนหายใจออกอย่างหน่ายๆ

    ฉันจะกลับแล้ว” อีทึกสะบัดตัวเบาๆเพื่อให้พ้นมือหนา

    ผมจะไปส่ง”

    เราไม่ควรเจอกัน ไม่ควรใกล้กันหรือสนิทกันไปมากกว่านี้”

    เรื่องวันนั้นผมขอโทษ เพราะผมไม่ห้ามตัวเอง ผมผิดเอง”

    ไม่ใช่ความผิดนายคนเดียว” อีทึกหลุบตาลงพยายามไม่สบตาร่างสูง “เพราะฉันหลวมตัวเกินไป ฉันไม่มีทางที่จะรักนายได้ ฮันกยอง” 

    ทำไม?”  คิ้วหนาขมวดอย่างข้องใจ “เพราะลี ซองจุนหรอ? ทำไมต้องแคร์คนที่ตายจากไปแล้วด้วย ตอนนี้คุณอยู่กับปัจจุบันนะ ปัจจุบันที่ผมพร้อมจะรักคุณ ทำไมไม่เริ่มต้นใหม่ล่ะอีทึก?” ร่างบางปัดมือหนาที่เอื้อมมาสัมผัสตน

    ฉันไม่ต้องการใครมาแทนที่เขา ไม่ต้องการใครทั้งนั้น ต่อให้นายรักฉันมากแค่ไหน ฉันจะไม่มีทางแบ่งความรักนั้นให้นายเด็ดขาด!” ร่างบางเดินหนี

    คิดว่าเขาคนนั้นต้องการแบบนี้หรอ เขาอยากให้คุณเป็นแบบนี้จริงๆหรอ? เขาอยากเห็นคุณเสียใจ ร้องไห้อยู่อย่างไร้ความสุข!”

    หยุดพูดได้แล้ว นายไม่รู้อะไรเลยสักนิด!!” เสียงหวานตวาด

    ถ้าเขามองคุณอยู่ เขาคงเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้คุณต้องจมปลักความรักเพราะเขา”

     

    ผัวะ!

     

    หมัดเล็กๆกับแรงต่อยที่ทำให้ร่างสูงถึงกับหน้าหัน รอยแดงช้ำเริ่มปรากฏที่มุมปาก

    อย่ามาคิดแทนเขา นายไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนั้น! นายเองก็เหมือนคนพวกนั้นต้องการแค่ร่างกายฉันเพียงเท่านั้นใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมาทำดีกับฉัน!! ร่างบางตะโกนใส่พร้อมเสียงสะอื้นไห้ น้ำตาแห่งความโกรธปนเปความสับสน แค่คำพูดของร่างสูงทำไมถึงรู้สึกเสียใจจนร้องไห้ออกมา

    ขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบา รีบคว้าตัวร่างบางกำลังหันหลังหนีมาสวมกอด

    อย่ามาแตะฉัน!” ร่างบางผลักตัวออก “ฉะ...ฉันไม่อยากเกลียดนายนะ”

     

    คนสวยก้าวยาวก่อนจะวิ่งหนีหายไป ร่างสูงรีบวิ่งตามแต่เมื่อพ้นมุมตรอกนั้นก็ต้องชะงักเท้า ร่างสูงหนาดวงตากราดเกรียวจ้องฮันกยองเขม็ง ใบหน้าหล่อแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง 

    พี่ทำอีทึกร้องไห้!”

    นายอยู่ตรงนี้ตลอดเลยหรอ?”

    ได้ยินทุกอย่างตั้งแต่ตนจนจบเลยล่ะ!!” คยูฮยอนขบกร้ามแน่น ผลักพี่ชายไม่ให้ตามร่างบางแต่ตนกลับวิ่งตามไป ฮันกยองมองตามด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่าน ทั้งโมโหและไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจความรู้สึกของอีทึกเลยสักนิด

     

    ร่างบางพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอปาดน้ำตาที่เปรอะเต็มแก้ม ทว่ายิ่งพยายามกลับยิ่งสะอื้นหนักยากที่จะหยุดร้อง

    อีทึก” เสียงเรียกเบาๆทำให้ร่างบางสะดุ้งไม่กล้าหันกลับไปมองบุคคลนั้น แต่เมื่อเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาอีทึกรีบหมุนตัวหันไปหาบุคคลนั้นทันที

    อย่าเข้ามานะ!” ร่างบางดุห้าม เอียงหน้าหลบไม่มองหน้าตรงๆเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนร้องไห้ “ไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉัน”

    ทำไมล่ะ?”

    ฉันสั่งก็ทำตามไปเหอะ ไม่ต้องถามมากจะได้ไหม?” คนสวยพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นสะอื้น

    ถ้าไม่บอกเหตุผลผมไม่ยอมทำตามหรอก” เด็กดื้อตัวโตก้าวเข้ามาอีก ร่างบางรีบถอยห่างเช่นกัน

    อย่านะ ยะ...อย่าเข้ามา” เสียงหวานสั่นเครือสั่งห้ามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

    อีทึกของผมกำลังร้องไห้อยู่นะ จะให้ผมยื่นอยู่เฉยๆได้ยังไง!” 

    “....” ร่างบางเหล่มองร่างสูงในขณะที่น้ำตาละลอกใหม่ไหลทางหางตา จิตใจเขาตอนนี้ย่ำแย่และอ่อนแอไม่แปลกที่อยากได้คนปลอบใจ แต่คนๆนั้นต้องไม่ใช่โจว คยูฮยอน 

    ช่วยทำตามที่ฉันบอกจะได้ไหม?”

    เหตุผลล่ะ?”

    เพราะ...เพราะฉันไม่อยากให้นายเห็นมัน!” ร่างบางกลั่นสะอื้นจนตัวเริ่มสั่น "ไม่อยากให้นายเห็นว่าฉันอ่อนแอ" 

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลมองร่างบางด้วยแววตาที่อ่อนโยนกว่าเดิม จากที่ขุ่นมัวเพราะไม่รู้เหตุผล เพราะอีทึกที่เป็นคนเข้มแข็งตลอดเวลาการแสดงความอ่อนแอต่อหน้าใครสักคนเป็นเรื่องที่น่าอาย ร่างสูงก้าวยาวๆเข้าไปหาไม่สนใจว่าเสียงห้ามนั้นอีกแล้ว แขนยาวดึงร่างบางเข้ามาอยู่ในอกอุ่นวงแขนกอดแน่น

    แบบนั้นผมยิ่งอยู่เฉยไม่ได้” ปากกระจับจูบลงขมับสวย “ผมสัญญา ผมจะไม่บอกใครว่าคุณร้องไห้ ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแต่ตอนนี้ถ้าคุณอยากร้องไห้ใช้เสื้อผมเช็ดน้ำตาผมก็ไม่ว่า ร้องออกมาเถอะ”

    ฮึก!!!” เสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นหลังจากสิ้นเสียงของคยูฮยอน แขนเล็กกอดเอวหนายึดไว้ในขณะที่ตนปล่อยโฮชุดใหญ่ ใบหน้าสวยซุกกับอกหนาก้มหน้าร้องไห้อย่างสุดกลั้น

     

    คยูฮยอนก้มมองเสื้อยืดที่เปียกเป็นดวงก่อนจะระบายยิ้มออกมามองร่างบางที่ยังซบอกเขาอยู่ แต่เสียงสะอื้นนั้นหายไปแล้วมือหนาบีบไหล่เล็กเบาๆเมื่ออีทึกหยุดร้องไห้ได้ สักพัก

    อยากดื่มน้ำไหม?”

    อือ” ร่างบางดึงเสื้อร่างสูงเช็ดน้ำตา 

    คุณอย่าเกลียดพี่ฮันกยองเลยนะ” 

    ฉันไม่เกลียดฮันกยองหรอก ที่เขาพูดมันถูกทุกอย่างฉันจมปลักอยู่กับอดีต”

    ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่อย่าให้อดีตทำร้ายปัจจุบันสิ” ร่างสูงพูดในสิ่งที่ตนพอจะจับใจความได้ว่าอีทึกทะเลาะกับพี่ชายเรื่องอะไร เริ่มต้นใหม่ เก็บอดีตไว้ในความทรงจำที่ดี จดจำความสุขที่ผ่านมา”

    นายโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วหรอ?” อีทึกดันตัวออกเงยหน้ามองร่างสูงคำพูดของเด็กดื้อเอาแต่ใจเปลี่ยนไปจนน่าสงสัย

    ผมโตพอจนมีเมียและกำลังจะมีลูกได้แล้วนะ” สุดท้ายคยูฮยอนก็ยังเป็นคยูฮยอนอยู่ไม่เปลี่ยน คำพูดทะเล้นนั้นทำให้ร่างบางหมั่นไส้บีบแก้มร่างสูงแรงๆ เดี๋ยวไปซื้อน้ำมาให้นะ”

    อืม”

    คุณ ขอตังค์หน่อย” คยูฮยอนหันหลังกลับมาหลังจากเดินออกไปไม่ถึงสามก้าว

    เด็กบ้า นายออกจากบ้านมาโดยไม่มีเงินติดตัวเนี่ยนะ!”

    กระเป๋าผมอยู่ในรถพี่ฮันกยองหมดเลยอะ”

    เด็กไม่ยอมโต” อีทึกว่า

    ถึงเป็นเด็กแต่ก็จูบเป็นแล้วนะครับ” คยูฮยอนทำปากจู๋ใส่ ร่างบางเอื้อมมือเข้าไปจะฟาดแขนหนาแต่คยูฮยอนวิ่งหนีไปเสียก่อน ปากบางอมยิ้มขำกับความทะเล้นของร่างสูง

     

     

    Rrrrrr!

     

    คยูฮยอนก้มหน้ามองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัว  อีทึกหยิบมันขึ้นดูหน้าจอเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นเบอร์ไม่คุ้นก่อนกดรับสาย

    จากใบหน้าสงสัยในตอนแรกเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม ร่างสูงนั่งฟังอยู่ข้างๆซึ่งอีทึกเองก็ไม่อึดอัดอะไรที่ต้องนั่งคุยโทรศัพท์กับบุคคลที่สามโดยมีร่างสูงนั่งอยู่ข้างๆ

    คุณมีเพื่อนเป็นคนจีนด้วยหรอ?” คยูฮยอนถามหลังจากร่างบางคุยเสร็จ

    ไม่ใช่เพื่อนหรอก เขาเป็นตัวแทนของนิตยาสารจีน”

    คุยกันเรื่องงานหรอ?” ร่างสูงเม้มปากนึกคิด “ทำไมไม่คุยผ่านผู้จัดการล่ะ โทรคุยกันตรงๆแบบนี้ได้ด้วยหรอ?”

    ฉันก็สงสัยอยู่ว่าเขาเอาเบอร์ฉันมาจากไหน ซึงฮยอนคงให้ไปล่ะมั่ง” คนสวยคิดเองเออเองอย่างไม่ใส่ใจนัก

    ผมว่าผู้จัดการคุณเป็นรอบคอบนะ”

    ไม่มีอะไรหรอก เขาเป็นถึงซีอีโอบริษัทใหญ่เชียวนะ”

    ผมจะรอซื้อหนังสือเล่มนั้นแล้วกันนะ ถ่ายแนวไหน นู้ดรึเปล่า? ผมจะเตรียมเหมายกแผงเลย” อีทึกหันขวับฟาดต้นแขนหนาแรงๆทีหนึ่ง

    ในหัวนายไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลยรึไง?!”

    ในหัวผมคิดสองเรื่อง เรื่องแรกผมรักคุณ เรื่องที่สองคุณจะต้องรักผม”

    ฉันจะกลับบ้านแล้ว” ร่างบางรีบทะลึ่งตัวลุกพลางดูนาฬิกาที่ข้อมือ “ฉันหนีออกมานานแล้ว”

    ไปส่งผมที่บ้านหน่อยสิ ไม่ไกลจากที่นี่หรอก ผมไม่มีเงินอะครับ” คยูฮยอนทำตาวิ้งๆอ้อนเหมือนเด็กๆ

    เอาตังค์ค่าแท็กซี่ไป แล้วกลับเองนะเด็กโข่ง” ร่างบางลูบหัวหนาเล่น

    มันอันตรายนะคุณ ให้ผมไปส่งเถอะ”

    ฉันมาเองได้ ฉันก็กลับเองได้ ไม่ต้องห่วงหรอก” ร่างบางส่งยิ้มให้ก่อนเดินห่างออกไป 

     

    ..

     

    ...

     

     

    ร่างสูงพลิกอ่านการ์ดเชิญในมือตรวจดูที่อยู่ให้แน่ใจเมื่อเห็นทีมงานกำลังเซ็ตสถานที่ก็ถอนหายใจออกหนักๆทีหนึ่งก่อนจะอัดบุหรี่ที่สูบไปจนเกือบหมดม้วนเข้าปอดและขยี้มันกับที่เขี่ยบุหรี่สาธารณะ

    ฮันกยอง” เสียงเรียกชื่อให้เจ้าของชื่อหันไปมอง ร่างสูงรีบเก็บการ์ดเชิญก้าวยาวๆเดินหนี

    เดี๋ยวสิ คุยกับฉันก่อน” เสียงหวานเอ่ยรั้งวิ่งไปดักหน้า “นายโกรธฉันใช่ไหม?”

    เปล่า” ฮันกยองตอบปฏิเสธและหันหน้าหนี ใครจะโกรธคนที่ตัวเองรักได้ลงกันล่ะ

    ไม่สบตาไม่มองหน้า แสดงว่าโกรธ”

    บอกว่าเปล่าไง!” ร่างสูงขึ้นเสียงและเดินหนี อีทึกรีบรั้งดึงแขนหนาไว้

    ฉันขอโทษ ฉันเอาแต่ใจตัวเองเกินไป”

     

    ฮันกยองหลุบตาลงหันกลับมามองใบหน้าสวย เขายืนนิ่งถอนหายใจออกเบาๆเฮือกหนึ่ง และดึงร่างบางเขามาสวมกอดกดจมูกบนไหล่เล็ก

    ไม่มีสักครั้งที่ผมจะโกรธคุณ ผมทำไม่ได้หรอก”

    ถ้านายโกรธก็บอกมาตรงๆสิ ไม่ต้องพูดแบบนี้”

    ผมแค่ไม่เข้าใจว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆน่ะหรอ? ในขณะที่ผมแสดงออกอย่างชัดเจนแต่คุณกลับยังเย็นชา รู้ไหมมันเจ็บปวดมากนะ”

     

    ร่างบางกัดปากตัวเองเบาๆหลุบตาลง เสียงเต้นของหัวใจดังตึกตักอยู่ในอกจนตนได้ยิ่งเสียงนั้นชัดเจน เขาจะทำอย่างไงดี?

     

    ไม่รู้สึกหรอ อีทึก?’

     

    รู้สึก? รู้สึกสิ ทำไมจะไม่รู้กันล่ะ ตอนนี้...

     

    หัวใจฉันมันเต้นดังเกินไปแล้ว ทำอย่างไรดี?’

     

    ฮันกยองจะได้ยินรึเปล่า? หัวใจฉันเต้นเพราะฮันกยอง

     

    แล้วคยูฮยอนล่ะ?’

     

    ความคิดสับสนปนเปจนยากที่จะเข้าใจในหัวเริ่มตันคิดอะไรไม่ออกได้ยินแต่เสียงเต้นโครมครามของหัวใจตัวเองภายในโสตประสาท ร่างบางผลักตัวออกจากอ้อมกอดช้าๆ ฮันกยองก้มลงจูบปากบางฉวยโอกาสตอนที่ร่างบางไม่ทันตั้งตัวอีทึกรีบดันตัวออกยู่หน้าใส่

    “เหม็นบุหรี่”

    “ลืมไป”

    ฉันต้องไปเตรียมตัวแล้ว” ใบหน้าสวยเสหน้ามองไปทางอื่นไม่มองร่างสูงตรงๆกลัวจะถูกจับได้ว่าแววตาตนตอนนี้วูบไหวแค่ไหน 

     

    อุปกรณ์ทำครัวมากมายวางเรียงรายพร้อมเศษอาหารเกลื่อนเต็มเคาเตอร์ทำครัว คยูฮยอนหั่นผักตามที่แม่สอน ร่างบางยืนดูขั้นตอนและทักษะการทำอาหารอยู่ข้างๆ อาหารชุดแรกของงานขึ้นบ้านใหม่

    นายทำอาหารเป็นด้วยหรอ? ดีจัง” 

    คุณรอชิมฝีมือผมได้เลยที่รัก” พูดเสร็จก็เริ่มหยิบเนื้อขึ้นมาหั่น

    ชิ้นมันไม่ใหญ่เกินไปหรอ?” อีทึกจิ้มเนื้อชิ้นหนาที่ผ่านการหั่นจากร่างสูงเรียบร้อย

    มันต้องชิ้นใหญ่แบบนั้นแหละ” ร่างสูงใส่เครื่องปรุงและส่วนผสมใส่ในหม้อซุป “อะ ชิมดู อร่อยแน่”

     

    ร่างบางชิมน้ำซุปที่ร่างสูงส่งให้ ใบหน้าหวานนิ่งพยายามชิมให้ถึงรสชาติ คยูฮยอนเลิกคิ้วสูงรอคำตอบ

    รสชาติมันเหมือน...น้ำเปล่า” เสียงหวานตอบ “จืดสนิท”

     

     

    กริ่งก่อง!!!!!!

     

     

    ทั้งคู่หันไปตามเสียงก่อนจะมองหน้ากัน อีทึกเดินไปเปิดประตูรับแขก ในขณะที่ร่างสูงรีบเก็บเศษอาหารที่เกลื่อนครัวทิ้ง หยิบขวดเกลือเทใส่ซุปหมดขวดแก้รสจืดก่อนหน้า ยกลงพร้อมเสิร์ฟ

    เสร็จแล้ว”

     

    พี่นายมา” ร่างบางเดินนำแขกเข้าห้อง เจ้าบ่าวโผล่หน้าออกมาจากครัวส่งยิ้มแป้นให้พี่ชาย “คุณสามีทำอาหารเสร็จพอดี”

    คยูฮยอนทำอาหารหรอ?”

    อืม ลองชิมดูนะ รสชาติก็...คงจะโอเคอยู่ล่ะ” อีทึกตอบตามความคิดของตัวเอง

    คงจะโอเค?” ฮันกยองพึมพำเริ่มไม่มั่นใจ

    พี่ครับ เรือนหอผมเป็นไง?”

    กว้างดีนะ...ห้องนอนล่ะอยู่ไหน?” พี่ชายเริ่มเดินสำรวจเรือนหอ น้องชายรีบพาตรงไปอวดห้องนอน "เตียงอะไรเนี่ย? เตียงเด็กหรอ นอนคนเดียวก็เต็มเตียงแล้ว"

     

    ฮันกยองโวยวายพลางทิ้งตัวลงนอน ที่ว่างข้างๆเหลือเพียงนิดเดียวถ้านอนสองคนคงจะเบียดกันเป็นปลากระป๋องแน่

    ไม่นะ เรานอนได้สบายเลย ดูนะพี่” คยูฮยอนดึงมือร่างบางให้นอนบนเตียงพร้อมตน ร่างบางก็ว่าง่าย คุณสามีว่ายังไงทำอะไรก็ทำตามอย่างไม่ขัด คยูฮยอนนอนตะแคงหันหน้าชนกัน อีทึกก้มหน้าหลบริมฝีปากหนาที่แทบจะจูบปลายจมูกตนอย่างเนียนๆ 

    ถ้ากลัวจะตกเตียงก็ทำแบบนี้” คยูฮยอนวาดแขนกอดเอวบางยึดไว้ อีทึกค่อยๆผลักตัวออกไม่ปล่อยให้กอดนานไปกว่านี้

    ไปกินข้าวกันเถอะ” ร่างบางลุกเดินนำออกจากห้อง ในขณะที่กล้องตามร่างบาง แขกผู้มาเยือนก็เปลี่ยนสีหน้า คยูฮยอนมองพี่ชายด้วยสายตาเย็นชา

    ในที่นี้อีทึกเป็นของผม” น้องชายกระซิบบอกก่อนเดินออกจากห้อง น้ำเสียงเย็นจากน้องชายร่างสูงรู้ได้ทันทีว่าคยูฮยอนอยู่ในอารมณ์ไหน

     

     

    ถ้วยข้าวและกับข้าวที่เพิ่งยกลงร้อนๆถูกวางเสิร์ฟตรงหน้าพี่ชายและภรรยาคนสวย คยูฮยอนยืดอกอย่างภาคภูมิเหล่ตามองร่างบางพลางยิ้มกริ่มอวดว่าตนก็สามารถทำอาหารได้

     

    ชิมเลย” อีทึกบอกฮันกยอง ยังไงแขกก็ต้องทานก่อนอยู่แล้ว ร่างสูงคนซุปสีสันสดใสส่งกลิ่นหอมก่อนตักเข้าปากแตะชิมแค่ปลายลิ้น 

     

    อืม...” ฮันกยองหันมองน้องชายพลางกลืนน้ำลายลงคอและวางช้อน คยูฮยอนเลิกคิ้วสูงส่งคำถามให้พี่ชายถึงรสชาติอาหารที่ตนทำ

    อร่อยใช่ไหม?” ปากบางยิ้มพูดจบก็ตักซุปเข้าปากอย่างไม่ลังเล ก่อนจะคายทิ้งกลับถ้วยซุปใบหน้าสวยเหยเก ความเค็มแผ่ซ่านทั่วปากจนแสบร้อนไปทั่วลิ้น คยูฮยอนเอียงคอมองรีบส่งน้ำให้ 

    นายทำอะไรกับซุปเนี่ย?!” อีทึกถาม คยูฮยอนค่อยๆตักซุปชิมบ้างสีหน้าหลังชิมไม่ต่างจากร่างบางก่อนหน้า

    ก็ตอนแรกคุณบอกรสชาติเหมือนน้ำเปล่าอะ ผมเลยใส่เกลือเติม”

    ใส่แล้วไม่ได้ชิมเรอะ!”

    ลืม”

    กินเองคนเดียวให้หมดเลยนะ!” ภรรยาคนสวยสั่ง

    ไม่เอาอะ มันเค็ม”

    แล้วใครทำ!”

    พี่ฮันกยอง” เจ้าของชื่อเลิกคิ้วสูงว่าเกี่ยวอะไรกับตน เจ้าน้องชายตัวแสบโทษเขาเสียดื้อๆ

    งั้นทำใหม่ก็ได้นิ” ร่างสูงพูดขึ้นเมื่อเห็นคนเขียนสคริปเขียนบอกให้ทำเมนูใหม่เพราะไม่อย่างนั้นข้อโต้เถียงของคู่สามีภรรยาคงไม่จบง่ายๆ

     

    ฮันกยองเดินเข้าครัวดูว่าพอมีอะไรเหลือพอจะทำอาหารได้บ้าง อีทึกหยิบกระดาษทิชชู่ขย่ำแล้วปาใส่เจ้าเด็กไม่ได้เรื่องส่งสายตาดุบังคับให้กินซุปให้หมด

    กินให้หมดเลยนะคุณสามี” ร่างบางส่งยิ้มหวานให้ก่อนเดินตามฮันกยองเข้าครัว

     

    อีทึกค่อยเป็นลูกมือหยิบนั่นหยิบนี่ให้ ดูร่างสูงทำอาหารจากผักที่เหลืออย่างสนอกสนใจ คยูฮยอนนั่งมองทั้งคู่อย่างเงียบๆ ในขณะที่กล้องจับสองคนในครัวเจ้าบ่าวก็หันมาพูดกับพีดีด้วยใบหน้านิ่งเรียบ

    คุณควรจะเปลี่ยนเจ้าบ่าวนะ” น้ำเสียงทุ้มเย็นเอ่ยคำพูดน้อยใจ โปรดิวเซอร์ได้ยินแล้วแอบตกใจนิดๆ

     

     

    กริ่งก่อง!!!! 

     

     

    คยูฮยอนหันตามเสียงก่อนหันมาหาทีมงานเลิกคิ้วส่งคำถามไปให้ยังมีใครมาหาอีก เขาเชิญแค่ฮันกยองคนเดียว

    แขกหรอ?” คยูฮยอนถามเบาๆ ทีมงานพยักหน้ารับ ร่างบางเดินออกมาจากครัว เดินไปเปิดประตูพร้อมร่างสูงหนาใบหน้าเรียวเล็กส่งยิ้มให้เจ้าของบ้าน




     

    จีอา!”

     

     


     

     

     เม้มให้หน่อยจิ




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×