ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter & Child of the Gods

    ลำดับตอนที่ #58 : Chapter : ความสับสน ของทุกความรู้สึก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 146
      1
      19 ต.ค. 58

    "อืม!ฉลาดหลักแหลม จิตใจอ่อนโยน รักผองเพื่อน รู้แล้วจะคัดไปไว้ไหนดี... กริฟฟินดอร์" เสียงปรบมือค่อยๆดังขึ้น เมื่อหญิงสาวดวงตาสีเขียวอ่อนในชุดคลุมสีดำกระโดดลงเจ้าเก้าอี้ พร้อมกับความดีใจ ความน่ารักของเธอทำให้หนุ่มๆ หลงไหลพร้อมกับรอยยิ้มที่ยิ้มอย่างจริงใจนั้นทำให้หัวใจของหนุ่มๆแทบละลายติดกับม้านั่ง
     
    หญิงสาวนั่งลงข้างๆกับเซเลน่าพรางฉีกยิ้มให้กับทุกคนในโต๊ะ
     
    "ยินดีต้อนรับนะเซลเฟียสน่า" ฟีอัสค่อยฉีกยิ้มออกมา พร้อมกับแนะนำตัวเซลเฟียสน่าให้กับทุกคนได้รู้จัก
     
    "เอวา เรเวียธาน" สายตาทุกคู่หันไปมองหญิงสาวผมสีดำขลิบนั้นด้วยความสนใจ ใบหน้าที่เรียวได้รูปนั้นมันช่างเข้ากับดวงตาสีฟ้าครามคู่นั้นอย่างบอกไม่ถูก เอวาค่อยๆขึ้นไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความตื่นเต้น 
     
    "หะ!  ความฉลาด ความกล้าหาญ และทนงตนในศักดิ์ศรี และความโอบอ้อมอารีที่หามิได้จากใครอื่น เธอช่างเป็นเด็กผู้หญิงที่มีเมตตาเหลือล้นจริงๆ รู้แล้วจะคัดไปไว้ไหนดี ...เรเวนคลอ" เสียงปรบมือจากหนุ่มๆ เรเวนคลอดังอย่างไม่ขาดสาย 
     
    ฮาเรนถึงกับหันไปมองที่โต๊ะเรเวนคลอด้วยความไม่สบอารมณ์นัก รังสีอัมหิตที่แผ่ออกมาจากฮาเรน ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่บริเวณนั้น ค่อยหยุดปรบมือ พรางทำหน้าเจือนๆลงทันที
     
    "ยัยเด็กนั่น...ก็งั้นๆแหละไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ ว่าไหม ฮาเรน?" หญิงสาวดวงตาสีฟ้าซีดคู่นั้นจดจ้องไปที่เอวา ก่อนที่จะเอื่อนเอ่ยออกมา พร้อมกับใบหน้าที่แสนจะเย็นชา
     
    "อย่าดูถูกเธอจะดีกว่า " ฮาเรนหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกันคำพูดถากถางด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยนั้น
     
    "นายสนใจยัยเด็กนั่นงั้นสินะ!" น้ำเสียงที่ฟังดูเย้ยหยั่นนั้นทำให้ฮาเรนเงียบไปชั่วครู่
     
    "มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ...อแมนด้า!!" ฮาเรนจ้องหน้าหญิงสาวด้วยความไม่พอใจมากนัก ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปมองที่หน้าห้องโถงแทน
     
    "เอลเทอร์ ลูซิเฟอ บาทอริค" (ไอร่เอลฟ์ชื่อยาวไปนะเอง) เอลเทอร์เดินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้พรางฉีกยิ้มให้กับสาวๆที่นั่งอยู่เบื้องหน้า และนั่นเรียกเสียงกรี๊ดได้เป็นอย่างดี
     
    "ลูกครึ่ง!ไม่เลวมีทักษะ มุ่งมั่น กล้าหาญ ทะเยอทะยาน รู้แล้วจะคัดไปไว้ที่ไหนดี ... ฮัฟเฟิลพัฟ!" เสียงกรี๊ดจากสาวๆบ้านฮัฟเฟิลพัฟดังอย่างไม่ขาดสาย เสียงโห่จากสาวๆบ้านอื่นก็เช่นเดียวกัน เอลเทอร์กระโดดลงจากเก้าอี้ พรางทำหน้าสลดก่อนจะเดินไปนั่งประจำโต๊ะฮัฟเฟิลพัฟ
     
    "ดีแล้ว!ที่ไอร่เอลฟ์บ้านั่นไม่ได้อยู่กริฟฟินดอร์" ฟินิกซ์ฉีกยิ้มอย่างดีใจ
     
    "แกนั่นแหละ!ที่ไม่สมควรอยู่บ้านนี้!" เซเลน่ารีบหันไปแขวะฟินิกซ์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ
     
    "เอาละทุกคน ฉันมีเรื่องที่จะประกาศให้ทราบ...เรามีนักเรียนใหม่เพิ่มมาอีกสองคน ซึ่งเค้าจะเข้ามาเรียนในชั้นปีที่หก และฉันหวังว่าพวกเธอคงให้การต้อนรับเค้าด้วยเช่นเดียวกัน" เมื่อดัมเบิลดอร์กล่าวจบ มักกอนากัลก็ขานชื่อทันที
     
    "ฮาเกรซ เฮล ทาทารัส" สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ชายหนุ่มผมยาวสีดำมันวาวนั้นด้วยความสนอกสนใจ ใบหน้าที่นิ่งเฉยนั้นมองทุกคนอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก ก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ 
     
    "อืม...ยากจริงๆ ความสามารถหยั่งลึก พลังที่ซ่อนเร้น กับความทะเยอทะยานที่จะมุ่งไปข้างหน้า สายเลือดอันบริสุทธิ์เช่นนี้เดายากจริงๆ "
     
    "นี่แกพร่ามอะไรอยู่? (ทำน้ำเสียงเย็นชา)" 
     
    "รู้แล้วจะคัดไปไว้ไหนดี...กริฟฟินดอร์" เสียงเฮดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดจากพวกสาวๆบ้านกริฟฟินดอร์ (ยังไม่รู้ว่าความหายนะเข้าไปเยือนพวกหล่อนแล้ว 555) ฮาเกรซนั่งลงข้างๆไอร่า พร้อมกับใบหน้าที่ยังคงเงียบขรึมวางมาดคุณชายเอาไว้
     
    "นี่!ถ้าจะนั่งตรงนี้ขอความกรุณา ทำหน้าที่คิดว่ามันมีความสุขจะได้ไหม? เห็นแล้วมันชวนให้ทานมื้อค่ำไม่ลงเข้าใจปะ?" ไอร่าเริ่มพูกถากถางฮาเกรซทันที เมื่อเค้าหย่อนก้นลงที่ม้านั่ง
     
    "เธอนี่น่ารำคาญจริงๆ...(กระตุกยิ้มที่มุมปาก)" ฮาเกรซจ้องไอร่าเขม่น 
     
    "ไอริส เซลาฟอล" หญิงสาวนัยตาสีม่วงอ่อนคู่นั้น เดินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ ความรู้สึกแรกที่ฟีอัสสัมผัสมันได้จากตัวของเธอ คือความอบอุ่นที่เค้าเคยได้รับจากใครคนนึง แววตาสีม่วงอ่อนคู่นั้นมองเค้าด้วยความห่วงใยเสมอ รอยยิ้มที่กำลังยิ้มอยู่นั้น มันช่างเหมือน ไอริณ แฟนสาวของเค้าที่จากไปเมื่อ3ปีก่อน อย่างไม่มีผิดเพี้ยน ฟีอัสได้แต่นั่งอึ้งกับคนที่อยู่ตรงหน้า
     
    "เหมือน...เหมือนมากจริงๆ!!" ฟีอัสพึมพำออกมา
     
    "เหมือน? เป็นอะไรรึป่าวฟีอัส" แฮรี่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
     
    "อ่อ ป่าว ๆ ไม่มีอะไร" ใบหน้าที่ซีดเผือกนั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตามองอย่างจับผิด
     
    "อืม!ฉลาดหลักแหลม มีความรู้เป็นเลิศ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รักพวกพ้อง...เรเวนคลอ" สิ้นสุดคำพูดของหมวกคัดสรร ทุกคนต่างปรบมือให้กับเธอ ดวงตาสีม่วงอ่อนคู่นั้นมองมาที่ฟีอัสอย่างไม่ลดละ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะของเรเวนคลอ
     
    "ธีน่า..ธีน่า เห้ย!" เอวาเขย่าตัวธีน่าเบาๆเพื่อเรียกสติ
     
    "เป็นอะไรของเธอ อยู่ๆก็เงียบไปซะงั้น?" เอวาทำหน้าขมวดคิ้ว
     
    "เธอเห็นผู้หญิงที่มาใหม่คนนั้นไหม...เธอเหมือนกับใครบางคนที่ฉันรู้จัก" ธีน่ามองเธอผู้นั้นอย่างพิจารณา
     
    "แล้วมันแปลกตรงไหน?" เอวาขมวดคิ้วชนกันอีกครั้ง
     
    "แปลก!ตรงที่คนๆนั้นได้ตายไปแล้วยังไงละ...มันจะมีคนหน้าตาเหมือนกันขนาดนั้นเลยหรอ ถ้าไม่ใช่ฝาแฝด...(จ้อง) แต่เธอคนนั้นไม่มีฝาแฝดแน่นอนฉันคอนเฟิมร์ได้เลย" ธีน่าเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังสุดขีด
     
    "แล้วคนที่เธอพูดถึงเป็นใครกันละ? "
     
    "คนรักของพี่ชายฉันเอง...เธอเสียไปเมื่อ 3 ปีก่อนโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ " ธีน่าเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง
     
    "งั้นหรอ! อาจจะเป็นคนหน้าเหมือนก็ได้มั้ง" เอวาพูดตัดพ้อ
     
    "เอวา มันเหมือนกันมาก มากจนฉันคิดว่าเธอคือคนๆเดียวกัน ...ป่านนี้พี่ชายฉันคนช็อกไปแล้วละ" ธีน่าหันไปมองที่โต๊ะของกริฟฟินดอร์ สีหน้าไม่สู้ดีนักของฟีอัส ทำให้น้องสาวอย่างเธออดเป็นห่วงไม่ได้
     
      เมื่อดัมเบิลดอร์กล่าวต้อนรับ พร้อมกับแนะนำอาจารย์สอนวิชาปรุงยาคนใหม่เสร็จ งานเลี้ยงต้อนรับก็เริ่มต้นขึ้นทันที อาหารนับร้อยชนิดเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ดวงตาสีเขียวอ่อนคู่นั้นเปล่งประกายขึ้นมา
     
    "ของกิน!!!! น่ากินทั้งนั้นเลย" เซลเฟียสน่าไม่รอช้า เธอหยิบน่องไก่ขึ้นมาฉีกกินอย่างเอร็ดอร่อย เซเลน่าถึงกับชำเลืองมองเด็กหญิงร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ 
     
    "หวัดดี ฉันเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ยินดีที่ได้รู้จักนะ" เฮอร์ไมโอนี่กล่าวทักทาย พร้อมแนะนำตัวกับฮาเกรซ แต่ก็ได้ความเงียบกลับมาแทน
     
    "เฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่ต้องเสียเวลาไปคุยกับหมอนี่หรอก! พูดไปก็เหมือนหันหน้าคุยกับกำแพง " ไอร่าเริ่มพูดถากถางฮาเกรซอีกครั้ง ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ยิ้มเจือนๆ ก่อนจะหันไปคุยกับเซลเฟียสน่าแทน
     
    "นี่!(ยื่นมือเข้าไปจับที่หน้า) ยิ้มแบบนี้น่ะเป็นไหม?" ไอร่าเอามือดึงที่แก้มของฮาเกรซ
     
    "เธอจะทำอะไรน่ะ" ฮาเกรซสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนจะปัดมือของไอร่าออก
     
    "นายนี่เป็นพวกไม่มีมนุษย์สัมพันธ์เลยนะ!" ไอร่าเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะหยิบพายฟักทองเข้าปาก
     
    "มันเรื่องของฉัน" ใบหน้าที่แดงขึ้นเล็กน้อยนั้น เอื่อนเอ่ยด้วยความไม่พอใจ
     
    "หวัดดีฮะ! ทุกคน" วารันซ่าเดินเข้ามาทักทาย ก่อนจะหย่อนก้นลงข้างๆ จินนี่
     
    "หวัดดี วารันซ่าไม่เจอกันนาน...หน้านายนี่เปลี่ยนเป็นผู้หญิงขึ้นเยอะเลยนะ!" เซเลน่ามีแอบแขวะวารันซ่า ก่อนจะหัวเราะคิกคักในลำคอ
     
    "ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะฮะ! อย่ามาพูดจาแบบนี้กับผมเด็ดขาด" วารันซ่ารีบปฏิเสธเสียงแข็ง พรางทำหน้าไม่พอใจที่โดนล้อว่าเป็นสาวหน้าหวาน
     
    "เอาอีกแล้ว..คนพวกนี้!" แฮรี่พึมพำออกมา ก่อนจะเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดรอยเลือดที่จมูก 
     
    "ว่าแต่!!หน้านายไปโดนอะไรมาแฮรี่?" ฟินิกซ์เอ่ยถามขึ้น ด้วยความสงสัย
     
    "พอดีหกล้มนะ..." แฮรี่คลี่ยิ้มออกมา สำหรับเค้าแล้วเป็นการแถที่ไม่เนียนเอาซะเลย
     
    "นายเนี่ยนะ!หกล้ม..เป็นไปได้" ฟินิกซ์ทำน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ
     
    "แล้วมันธุระอะไรของนาย...ฟินิกซ์" ออโรร่าพูดขัดขึ้น ก่อนจะนั่งลงข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ (แล้วนี่มันศูนย์รวมอะไรกันเนี่ย!!)
     
    "มันก็ไม่เกี่ยวหรอก ว่าแต่เธอเหอะมานั่งอะไรตรงนี้?" ฟินิกซ์หันไปแขวะออโรร่าแทน
     
    "ฉันอยากนั่งตรงไหน...มันไปทำร้ายจิตใจของใครไหมละ?" น้ำเสียงที่ฟังดูเมินเฉยนั้นทอดสายตาไปมองยังหน้าห้องโถง ก่อนจะเหลียวกลับมามองหน้าของฟินิกซ์
     
    "นี่!จะไฟว์กับฉันงั้นหรอ!!" ฟินิกซ์โต้กลับทันที พร้อมกับจ้องออโรร่าอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แต่กลับถูกออโรร่าเมินอย่างไร้เยื่อใย....
     
     ระหว่างที่ทุกคนนั่งทานมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อยนั้น ก็มีบางคนกำลังสับสนอยู่ในใจ พรางนั่งจ้องอาหารที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาสีเทาซีดคู่นั้นมองข้ามไปที่โต๊ะของเรเวนคลอ พร้อมกับกำหมัดไว้แน่น เค้าจ้องมองหญิงสาวร่างเล็กนั้นด้วยความคิดถึง 
     
    "ทานอะไรหน่อยไหม เดรโก!!" แพนซี่เอ่ยขึ้น ทำให้เค้าหันกลับไปมองยังต้นเสียง
     
    "ไม่!..." เค้าตอบเพียงแค่สั้นๆ ก่อนจะหันกลับไปมองที่โต๊ะเรเวนคลออีกครั้ง
     
    วิชาแรกที่พวกเค้าต้องเรียน คือวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ซึ่งแน่นอนว่ามันช่างเป็นวันที่เรียกว่าหายนะชัดๆ เมื่อตำแหน่งของอาจารย์ถูกสับเปลี่ยน
     
    "ทำไมถึงเป็นสเนปไปได้ ให้ตายสิ!งานนี้มีหวังโดนหักคะแนนบานตะไทแน่' รอนเอ่ยขึ้น พรางทำหน้ารับบ่ได้
     
    "เอาน่า อย่างน้อยก็ไม่ใช่วิชาปรุงยา" แฮรี่ตบไหล่รอนเบาๆ
     
    "ว่าแต่...นายสองคนเป็นอะไรเงียบมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ...เอ่อ ไม่ใช่นายนะทาทารัส ฉันหมายถึงฟีอัสน่ะ(ชำเลืองมอง)" เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วชนกัน เพราะปกติฟีอัสมักจะเป็นพวกพูดมากปากแฉะ แต่วันนี้กลับเงียบไม่ยอมแม้แต่จะพูดกับใคร
     
    "ป่าว!ไม่มีอะไร" เค้าแค่ยิ้มออกมาก่อนจะเดินนำหน้าทุกคนไป
     
    "หมอนี่ทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ...(ชำเลือง) เอ่อ...ทาทารัสนายรู้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า? (เอามือปาดเหงื่อ)" รอนทำสีหน้าเจือนๆ เมื่อคุยกับฮาเกรซ ใบหน้าที่ซีดเผือดนั้นถึงกับเหงื่อตก
     
    "ไม่รู้...." น้ำเสียงที่เยือกเย็นนั้นเล่นเอาคนฟังถึงกับสะดุ้งไปตามๆกัน ก่อนที่จะยิ้มเจือนๆรับฟังคำตอบ

    .....เมื่อพวกเค้าหย่อนก้นลงที่เก้าอี้ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับใบหน้าที่แสนจะอมทุกข์ของอาจารย์หัวเมือก อย่างสเนป ดวงตาสีดำขลิบคู่นั้นหันมาจ้องหน้าแฮรี่อย่างเอาเรื่อง ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมกับโบกไม้กายสิทธิ์ไปมา
     
    "เปิดหนังสือไปที่หน้าหนึ่งร้อยห้า ว่าด้วยเรื่องของแวมไพร์" สายตาทุกคู่หันไปมองยังหน้าชั้นเรียน ก่อนจะเปิดหนังสือขึ้น
     
    "คุณทาทารัส(จ้อง) ฉันคิดว่าเธอเข้าใจความหมายของคำว่า 'เปิดหนังสือ' สายตาที่มองเด็กกริฟฟินดอร์นั้นมันช่างเป็นสายตาที่เหยียดหยามเสียจริงๆ 
     
    "ผม..เข้าใจดี แต่สำหรับผมเรื่องพวกนี้ ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องศึกษา (ทำน้ำเสียงเยือกเย็น)" ฮาเกรซมองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาที่เมินเฉย ก่อนจะวางมาดคุณชายด้วยการเอามือขึ้นกอดอก
     
    "แต่ฉันเป็นอาจารย์...ส่วนเธอมีหน้าที่เรียน ก็ควรจะทำตามที่ฉันบอก!" ฮาเกรซกลับทำหน้าเมินเฉยในสิ่งที่สเนปพูด พร้อมกับกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย
     
    "หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแนน สำหรับนักเรียนอวดดีอย่างเธอ" เริ่มเรียนยังไม่ถึงห้านาที การหักคะแนนก็เริ่มขึ้น แถมยังเริ่มแบบไม่สวยอีกต่างหาก
     
    "หักคะแนน? (ทำหน้านิ่ง) นี่ผมเรียนอยู่ในยุคไหนกัน? ? " ฮาเกรซจ้องหน้าอาจารย์หัวเมือกด้วยความสงสัย ก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปาก
     
    "เธอกล้าตั้งคำถามกับฉัน หักอีก5คะแนนสำหรับกริฟฟินดอร์" สเนปพูดด้วยน้ำเสียงเริ่มฉุน แต่ก็ยังคงวาดมาดอาจารย์ผู้เงียบขรึมเอาไว้
     
    "ครับ!เชิญคุณหักตามสบาย...เพราะผมไม่ใส่ใจกับมันอยู่แล้ว" ใบหน้าที่เคยวางมาดคุณชายไว้นั้น บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ทุกคนคิดว่ามันกวน บาทาซะเหลือเกิน
     
    "เอาแล้วไง!โดนหักคะแนนบานตะไทแน่เลยงานนี้" รอนหันไปกระซิบข้างหูของแฮรี่ 
     
    "ผมคิดว่าอาจารย์น่าจะอยู่เฉยๆ นั่งเงียบๆแล้วสอนไปจะดีกว่านะครับ" ฮาเกรซแสยะยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มพูดถากถางสเนป
     
    "หักกริฟฟินดอร์อีก 20 คะแนน"น้ำเสียงที่กำลังฉุนได้ที่นั้น จ้องมองฮาเกรซอย่างไม่พอใจ บวกกับสายตาที่เย้ยหยั่นนั้นทำให้ฮาเกรซไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
     
    "อย่ามองผมด้วยสายตา...ที่น่ารังเกียจแบบนั้นจะดีกว่า" ฮาเกรซจ้องหน้ากลับทันที
     
    "เธอคิดว่าตัวเองใหญ่โตมาจากไหน? (เดะอาจารย์ก็ได้ไปเฝ้ายมโลกซะหรอก)อย่ามาทำปากดีกับฉัน!" สเนปยังคงมองฮาเกรซด้วยสายตาดูถูก พร้อมกับคำพูดเหยียดหยาม
     
    "ผม..ไม่จำเป็นต้องบอกคนอย่างคุณ!" เมื่อฮาเกรซพูดจบ เค้าก็ลุกออกไปจากห้องเรียนทันที (ไม่แคร์สายตาท่านผู้ชมที่มองอยู่เลยซักนิด)
     
    "ถ้าเธอก้าวเท้าออกจากประตูไป ...ฉันจะหักคะแนนบ้านของเธอ 50 คะแนน" สเนปพูดขู่ทาทารัสขึ้นมาทันที พร้อมกับสบัดผ้าคลุมกลับไปนั่งที่โต๊ะ
     
    "ทำอะไรสักอย่างสิฟีอัส!" เฮอร์ไมโอนี่เขย่าแขนของฟีอัสเบาๆ 
     
    "จะให้ฉันทำอะไร? ขืนเข้าไปรั้งมันไว้ก็มีแต่จะต้องเจ็บตัวกันเปล่าๆ...หมอนั่นมันฟังใครที่ไหน" ฟีอัสพูดตัดพ้อ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา
     
    ฮาเกรซหันไปมองยังหน้าชั้นเรียน พร้อมกับสายตาอันเมินเฉยนั้น ก่อนที่จะก้าวเท้าเดินออกไป....(50 คะแนน หายไปในพริบตา)
     
    "ตายๆ! แปดสิบคะแนนหายไปในพริบตา~" เฮอร์ไมโอนี่เอามือขึ้นกุมขมับทันที พร้องกับสีหน้าอันสลดที่ต้องเสียคะแนนบ้านแบบฟรีๆ 
    "หมอนี่มันสุดๆไปเลยแหะ! ฉันว่าขืนเป็นแบบนี่ กริฟฟินดอร์ได้ชวดรางวัลถ้วยดีเด่นอีกแน่" รอนทำหน้าเจือนๆ ก่อนจะหันไปสนใจภาพสไลด์ตรงหน้า
     
    "แต่อย่างน้อยก็ทำให้สเนปหัวเสียได้" แฮรี่ขยิบตาส่งซิกให้กับรอน พร้อมใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสะใจ
     
    ฮาเกรซเดินออกมาจากห้องป้องกันตัว พร้อมกับใบหน้าที่นิ่งเฉย เค้าเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย เค้าเบื่อกับการใช้ชีวิตที่อยู่ในกฏเกณฑ์ และอยู่ภายใต้ข้อบังคับของใคร การที่เค้าอยู่ที่ยมโลกมาตั้งแต่เล็กๆนั้นทำให้เค้าปิดกั้นตัวเองจากทุกอย่าง เค้าอยู่อย่างสุขสบายก็จริง แต่บางครั้ง เค้าก็ไม่ได้มีความสุขไปตลอด การที่เค้าเป็นคนไม่ชอบสุงสิงกับใคร อาจเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่ให้เค้าคลุกตัวอยู่แต่ในยมโลก ทำให้นิสัยของเค้าถูกบ่มเพาะ เลยกลายเป็นผู้ชายที่เงียบขรึม เจ้าอารมณ์ และโมโหร้าย แต่ในทางกลับกัน ฮาเกรซกลับเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน และอ่อนไหวง่าย ถึงแม้เค้าจะไม่แสดงออกมาให้ใครเห็นก็ตาม เค้าเดินเอื่อยเฉื่อยไปตามระเบียงทางเดินหน้าหอนาฬิกา ก่อนจะถูกขัดด้วยเสียงอันกวนประสาทของใครบางคนเข้า
     
    "เอ๊! ไม่ยักรู้ว่าคุณชายผู้เงียบขรึมจะโดดเรียนออกมาเดินเตรดเตร่อยู่แถวนี้" หญิงสาวเรือนผมสีแดงสดนั้นกำลังทำหน้าขมวดคิ้วชนกัน ด้วยความแปลกใจ
     
    "เฮ้อ~" ฮาเกรซถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย  ก่อนจะจ้องหน้าผู้เอ่ยถามด้วยความไม่สบอารมณ์มากนัก
     
    "ถอนหายใจแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง?" ไอร่าวีนใส่ฮาเกรซทันที เธอแค่อยากจะกวนประสาทหมอนี่เล่นๆ แต่กลับถูกอีกฝ่ายยั่วโมโหด้วยความเงียบ จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
     
    "เธอต้องการอะไร?" ฮาเกรซมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย (ใบหน้าก็ยังนิ่งเฉยอยู่ดี) ว่าเค้าทำอะไรผิดไป เธอถึงได้วีนใส่เค้า 
     
    "ก็หน้านายมันชวนให้ฉันหงุดหงิดไงละ!! หัดยิ้มซะบ้างสิ ทำอย่างกับโลกกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆในวันสองวันนี้แบบนั้นแหละ" ไอร่าเริ่มวีนใส่ฮาเกรซอีกครั้ง เธอก็ยังคงไม่เข้าใจตัวเองอยู่ดี ว่าทำไมเวลาเห็นหน้าของเค้าทีไร ความรู้สึกโมโหมันก็ปะทุขึ้นมาทุกครั้ง
     
    "ยิ้ม? ให้กับโลกอันน่าเบื่อแบบนี้น่ะหรอ?" สายตาอันเย็นชานั้น มองทอดไปยังสนามหญ้าที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอื่อนเอ่ยออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
     
    "ใช่!ถึงโลกนี้มันจะน่าเบื่อ...แต่การที่นายยิ้มมันอาจจะทำให้โลกนี้มันน่าอยู่มากขึ้นก็ได้(นี่นู๋ชม หรือ ด่ากันแน่?)" ไอร่ามองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ 
     
    "ฉันจะเก็บเอาไปคิดก็แล้วกัน!" ฮาเกรซเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่แดงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินผ่านไป 
     
    "อะไรของเค้า!"
     
    ช่วงเที่ยงเป็นเวลาพัก และเป็นเวลารวมตัวของแก๊งเม้ามอยต่างๆของแต่ละบ้าน การจับกลุ่มคุยกันจึงถือเป็นเรื่องที่ปกติสำหรับนักเรียนฮอกวอสต์ หญิงสาวนัยตาสีม่วงอ่อนคู่นั้นนั่งทานมื้อเที่ยงอยู่ที่โต๊ะของสลิธีรินอย่างเงียบๆ พร้อมกับเสียงอันน่ารำคาญของแพนซี ที่ดังเข้ามาในโซนประสาทของเธอเป็นระยะ
     
    "คนพวกนี้..น่ารำคาญจริงๆ" ออโรร่ามองแพนซีด้วยความเบื่อหน่าย วันๆยัยนี่ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากโอ้อวดฐานะของตัวเองไปวันๆ ออโรร่ามองคนเหล่านั้นด้วยความเหลืออด ก่อนจะลุกออกไปจากห้องโถงใหญ่ด้วยความรำคาญ
     
    ตุ๊บ~ ระหว่างทางที่เธอเดินออกไปจากห้องโถงนั้น เธอเดินชนเข้ากับใครบ้างคน ออโรร่าเซถลาล้มลงกับพื้น แต่ผู้ที่ถูกชนกลับยืนนิ่งเป็นเสาหินอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะรีบเข้าไปพยุงตัวของออโรร่าขึ้นพร้อมกับคำขอโทษ
     
    "ขอโทษครับ! พอดีผมรีบเดินไปหน่อย ขอโทษจริงๆครับ" ชายหนุ่มในชุดนักเรียฮัพเฟิลพัฟ  นัยตาสีเขียวอ่อนนั้นจ้องมองใบหน้าของออโรร่าด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ พร้อมกับพูดขอโทษยกใหญ่
     
    "ไม่เป็นไร..." เธอเพียงแค่ตอบสั้นๆ พร้อมกับน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย ก่อนจะลุกขึ้นปัดกระโปรงของเธอ
     
    "เอ่อ..ผมซีโร่  เฮฟเว่น อยู่ปีห้า ฮัฟเฟิลพัฟครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัวเอง ก่อนจะฉีกยิ้มออกมา ใบหน้าที่ดูหวานหยาดเยิ้มคล้ายผู้หญิงนั้น ทำให้ออโรร่านึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ เธอยิ้มอย่างเจือนๆ ให้กับชายหนุ่ม ก่อนจะขอตัวเดินออกมา
     
    "นี่!เธอยังไม่บอกชื่อของเธอเลยนะ!!!" ชายหนุ่มตะโกนตามหลัง พร้อมกับยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความงุนงง แต่ออโรร่ากลับทำเมินเป็นหูทวนลม เธอมักจะชอบอยู่คนเดียวมากกว่า และไม่ชอบพูดคุยกับคนที่ไม่สนิทด้วย เธอจึงเลือกที่จะเดินหนีอีกฝ่ายโดยไม่สนใจ...
     
    ทางด้านธีน่าก็ยังคงใช้เวลาว่าง คลุกตัวอยู่ในห้องสมุด เธอเลือกหนังสือที่เธออยากอ่านมาสองสามเล่ม ก่อนจะหย่อนก้นลงที่ม้านั่ง 
     
    "ฉันขอคุยด้วยหน่อย...อะธีน่า" น้ำเสียงที่ฟังดูไม่คุ้นหูนั่นเอ่ยขึ้น พร้อมกับคว้าแขนของธีน่าเอาไว้
     
    "ปล่อยฉันนะ! อย่ามายุ่งกับฉัน...ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย มัลฟอย" ธีน่าสะบัดมือของเดรโกออก 
     
    "แต่เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เดรโกคว้าแขนของธีน่าไว้อีกครั้ง ก่อนจะใช้แรงลากตัวของธีน่าออกมาจากห้องสมุด
     
    "นายเป็นบ้าอะไรของนาย! ปล่อยแขนฉันสักทีได้ไหม ..มันเจ็บ" เมื่อเดรโกได้ยินแบบนั้น เค้าจึงปล่อยแขนของธีน่าให้เป็นอิสระ
     
    "ฉัน...ขอโทษ" น้ำเสียงที่ฟังดูทุกข์ใจนั้นเอื่อนเอ่ยออกมา พร้อมกับแววตาที่เริ่มสั่นคลอ ทำให้ธีน่าเงียบไปชั่วครู่
     
    "นายมีเรื่องอะไรที่จะคุยกับฉัน?" ธีน่าปรับเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองทันที ดวงตาสีเขียวเข้มคู่นั้นมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย
     
    "คือ...(เงียบ)...ฉันแค่อยากเป็นคนสำคัญของเธอบ้างจะได้ไหม?" เดรโกรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป ดวงตาสีเทาซีดคู่นั้นเงยหน้าขึ้นมองธีน่าด้วยความสับสน และว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก และนั่นเรียกสีหน้าสุดเหวอของธีน่าได้เป็นอย่างดี
     
    "ประสาทกลับรึไง? ถ้าจะเรียกฉันมาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ ไม่ต้อง" ธีน่าพูดด้วยความไม่ใส่ใจ น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชานั้นทำให้ใจของเดรโกหยุดเต้นอย่างเฉียบพลัน 
     
    "แต่ฉันไม่เคยคิดว่ามันไร้สาระ!...ที่ฉันพูดเพราะฉันจริงจัง...ฉันไม่อยากเห็นเธอเดินจับมือกับใคร ที่ไม่ใช่ฉัน ... ฉันไม่ชอบให้ผู้ชายคนไหนเข้ามายืนคุยกับเธอ ...ฉันไม่ชอบเห็นเธอเดินไปไหนมาไหนกับใคร แล้วฉันก็ไม่ชอบให้เธอเกลียดฉันด้วย" เดรโกพูดทุกอย่างที่อยู่ในใจของเค้ามาตลอด ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกับธีน่า ที่งานควิชดิชเวอร์คัพ เธอทำให้หัวใจของคุณชายจอมหยิ่งยโสคนนี้ เต้นรัวขึ้นอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มที่จริงใจของเธอ รอยยิ้มที่ไม่เคยเสแสร้งแกล้งทำ รอยยิ้มที่เค้าค้นหามันมาตลอดทั้งชีวิต ครั้งแรกที่เค้าพบกับเธอมันอาจจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เค้าอยากที่จะเค้าไปพูดคุย หรือทักทายเธอ แต่กลับทำได้แค่ยืนมองอยู่ห่างๆ 
     
    "นายจริงจัง? งั้นก็พิสูจน์ให้เห็นสิ!" เมื่อเธอพูดจบก็เดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องสมุด พร้อมกับรอยยิ้ม (นี่เธอชอบไอ้หัวทองนี่จริงๆหรอเนี่ย??)
     
    #ไรท์แม่งหักมุมมันทุกตอนเลย!!  รักสามเศร้าพอจะเดาออกแล้วใช่ไหมว่าเป็นของใคร!!
     
    #นู๋ออโรร่านู๋เป็นโรคกลัวผู้ชายหน้าหวานรึไง 
     
    #ไอร่าอย่า วีน เหวี่ยงแบบนั้น เกรซคุงเค้าจะสับสนเอา
     
    #แล้วพวกที่เหลือมันหายไปไหนกันหมด!!
     
    #สุดท้ายละ ใครอยากลงสมัครทีมควิชดิชบ้าง 
     
      -ชื่อ
      -ตำแหน่งผู้เล่น
      -บ้าน
     
    (ตำแหน่งของแฮรี่ กับ รอน ยังคงอยู่นะคับ นอกนั้นเลือกเอา ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน)




    อแมนดร้า เลอกรู

    (หญิงสาวที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แถมยังมีศักดิ์เป็นหลานสาวของเพอร์ซิโฟเน่อีกด้วย)








    ซีโร่ เฮฟเว่น

    (ชายหนุ่มหน้าหวานที่คิดว่า ออโรร่าคือคนที่ใช่สำหรับเค้า)


     
    #เม้นเหอะครับ...ผมชอบอ่านคอมเม้นมากว่ายอดเข้าชม^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×