คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5 ความประทับใจแรกครั้งที่สอง
บทที่5 ความประทับใจแรกครั้งที่สอง
แซม
ผมพยายามจะทำใจให้โล่งก่อนจะพูดอีกครั้ง “อ่าฮะ แล้วจะให้ผมช่วยอะไร” ผมถามขณะไขกุญแจเข้าห้อง เธอไม่ได้เดินตามมา ผมหันกลับไปเจอเธอยืนมองผมอยู่หน้าประตู “อยากเข้ามามะ” ผมถาม
เธอยิ้มให้ผมอย่างไม่จริงใจเท่าไหร่ “หลังจากเมื่อเช้านี้ ฉันว่าไม่เข้าไปดีกว่า”
ผมยิ้มเยาะ ไม่ใช่ยิ้มเยาะแบบน่ากลัวนะ แต่แบบมีเสน่ห์น่ะ ช่าย...ยิ้มเยาะสามารถมีเสน่ห์ได้เหมือนกันถ้าผมจัดการน่ะนะ “ผมไม่ข่มขืนคุณหรอกน่า”
“ฉันก็ว่าคุณทำไม่ได้หรอก”
“โถ ที่รัก ผมไม่จำเป็นต้องลงมือข่มขืนจริงๆหรอก สาวๆเสนอมาเองทั้งนั้น”
เธอส่ายหน้าขณะหัวเราะ แปลกดีนะ เสียงหัวเราะของเธอไม่ได้ต่างจากคนอื่นที่ผมเคยได้ยิน แต่ผมกลับรู้สึกว่าต่าง ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย และพอเธอหัวเราะ ผมมองที่ฟันเธอ พวกมันสมบูรณ์แบบ ฟันบนสองซี่หน้าสุดใหญ่กว่าซี่อื่นๆ ซึ่งทำให้เธอมีรอยยิ้มที่น่ารักมาก และอยู่ๆผมก็อยากจูบปากเธอขึ้นมา ว้าว นี่ผมเป็นโรคจิตหรืออะไรไปแล้วเนี่ย
“ยังไงก็เถอะ”
ผมเดินเข้าไปใกล้เธอแต่ไม่ออกไปนอกห้อง เธอก้าวถอยไป “ผมจะไม่ช่วยอะไรคุณทั้งนั้นถ้าคุณยังยืนอยู่ข้างนอกนั่น มันหนาว! และผมก็อยากถอดเสื้อโค้ชนี่ออก บางทีคุณน่าจะกลับมาทีหลังตอนผมอารมณ์ดีกว่านี้”
เธอดูเหมือนคิดใคร่ครวญอยู่แต่สุดท้ายก็พยักหน้า “ก็ได้ๆ”
แล้วเธอก็เดินเข้ามาและนั่งลงบนเตียงยังกับว่าผมไม่มีเก้าอี้งั้นแหละ
ผมถอดเสื้อโค้ทออก ตามด้วยรองเท้า “อยากเห็นผมถอดกางเกงรึไง ไม่งั้นก็ช่วยหันหลังทีนะ”
สีชมพูสวยน่ารักระเรื่อขึ้นตามผิวขาวๆของเธอขณะที่เธอพึมพำขอโทษ และหันหลังไป
ผมถอดกางเกงยีนส์ออกแล้วเอาอีกตัวมาใส่ในสองสามนาที
“โอเค ทีนี้หันมาได้ละ”
เธอหันมา มองผมอย่างสับสนอยู่พักนึง เมื่อเธอไม่พูด ผมเอนตัวพิงกำแพงและเอามือกอดอก
“แล้ว ผมจะช่วยคุณได้ยังไง”
“คุณเรียนวิศวะใช่มั้ย” เธอเริ่ม
ผมพยักหน้า “ใช่”
“ฉันก็เหมือนกัน”
ผมเลิกคิ้ว เธอเป็นสาวน้อยตัวเล็กจิ๋วจริงๆนะ ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าจะสามารถถือเครื่องมืออะไรอยู่มือเล็กๆนุ่มๆของเธอได้ “คุณเนี่ยนะ”
เธอพยักหน้า “ใช่ ฉัน...ส่งงานไม่ทันเส้นตายไปโปรเจคนึงน่ะ และอาจารย์ก็เลยให้ฉันมาขอให้คุณช่วย”
อ่าฮ่า “เข้าใจละ คุณอยู่วิศวะภาคไหนล่ะ”
“เครื่องกล”
“จริงอ่ะ”
“อื้อ วิศวะยานยนต์น่ะ พ่อฉันมีอู่ซ่อมรถและฉันก็ไปช่วยเขาบ้าง จนกลายเป็นงานอดิเรก ต่อมาก็เป็นปริญญา หวังว่าน่ะนะ”
ผมพยายามไม่ให้อ้าปากค้าง โอเค ให้ผมสรุปหน่อยนะ หนูน้อยนี่ทำงานในอู่ซ่อมรถเป็นงานอดิเรก และตอนนี้กำลังเรียนเครื่องยนต์ ช่าย ธรรมด๊า!!
“เข้าใจละ แล้วคุณไปทำงานที่อู่บ่อยมั้ย”
“บ่อย บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย”
ผมพยักหน้า ผู้หญิงคนนี้จะหยุดทำให้ผมแปลกใจมั้ยเนี่ย ถ้าผมไม่รู้ว่าคาเดนอยากได้เธอและผมควรจะเป็นคนที่จีบเธอไปให้เขา ผมจะต้องปิ๊งเธอแน่ๆ ผมถอนหายใจอยากผิดหวัง จริงๆนะ เสียดายจริงๆ
“โอเค งั้น เราก็เรียนวิชาเดียวกันเทอมนี้ แล้วจะให้ผมช่วยยังไง” ผมถาม
เธอก้มมองพื้น เกือบจะดูเขินอาย “จริงๆแล้ว ฉันอยากให้คุณช่วยทำการบ้านชิ้นนึงมากๆ”
“ชิ้นล่าสุดน่ะนะ” ผมถามอีกครั้ง รู้สึกเหมือนกำลังสอบสวนเธอ
เธอพยักหน้า
ผมยิ้ม “ก็ แน่นอน ผมจะช่วยคุณนะ แค่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะทำงานจริงๆ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมไปห้องคุณได้มั้ย?”
เธอส่ายหน้า “ฉันไม่ได้อยู่หอ”
ผมเลิกคิ้ว คืออย่างบ้านผมอยู่ห่างไปแค่ครึ่งชั่วโมงแต่ผมก็ยังมาอยู่หอ มหาวิทยาลัยเชียร์ริ่งอยู่ในระดับสูงมากๆ และใครๆก็อยากเข้า เพราะงั้นถึงผมจะอยู่ในเมืองมาตลอดชีวิตก็ไม่ได้แปลว่าผมจะโง่จนยอมพลาดโอกาสจะเข้ามาหรอกนะ
“ฉันอยู่กับพ่อน่ะ” เธอบอก
“อ้อ” ผมว่า ก็นะ นั่นก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยแบบนี้เธอจะได้ปลอดภัยจากผม และผมจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับคาเดน ช่าย...เพิ่มพ่อเธอเข้ามาในสมการด้วยเป็นเรื่องดี
“ใช่...แต่ คุณไปที่บ้านฉันได้ตลอดแหละ หรือจะให้ฉันมาที่นี่”
ผมมองไปรอบห้องรกๆแล้วก็ส่ายหน้า “ส่วนใหญ่ผมไปทำงานที่ห้องสมุดมากกว่าน่ะ ห้องนี้ไม่เหมาะจะใช้เรียนอะไรหรอก”
เธอมองไปรอบๆห้องเป็นครั้งแรกแล้วหัวเราะคิกคัก “ฉันเห็นละว่าคุณหมายถึงอะไร”
“โอเค งั้นคาบแรกของเราเป็นที่บ้านคุณพรุ่งนี้ละกัน บอกทางผมมาสิ”
เธอบอกทาง และมันอยู่ห่างออกไปแค่ขับรถสิบนาทีเท่านั้น ผมก็เลยเข้าใจว่าทำไมเธอถึงอยู่บ้าน
“โอเค พรุ่งนี้เช้าเรามีเรียนด้วย งั้นผมขับรถมาส่งคุณที่มหาลัยด้วยละกัน”
เธอส่ายหน้า “อ่า ฉันมีรถน่ะ นั่นไม่จำเป็นหรอก”
ผมมองเธออยู่สองสามวินาที ไม่พูดอะไร ผมไม่เห็นเธอมาก่อนได้ยังไงนะ หน้าขาวๆเหมือนภูตจิ๋ว ดวงตากลมโตสีเขียวเหมือนนางฟ้า ซึ่งไม่ว่าเธอจะแอ๊บรึเปล่าน่ะนะ ตาเธอดูใส่ซื่อบริสุทธิ์อย่างที่ผมไม่ได้เห็นบ่อย
ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มให้เธอ ผมไม่ทำหน้าจริงจังนักจะดีกว่า ก็ อย่างน้อยก็จนกว่าผมจะรู้ว่าเธอเป็นใคร และจะทำยังไงต่อดี
--------------------------------------
!!ภาษาอังกฤษวันล่ะคำกับแซม!!
ตอนนี้จะมาว่ากันด้วยนางฟ้าค่ะ!!
จากตอนที่แซมบรรยายหน้าตาของนางเอก ประโยคนี้ค่ะ
"Her pixie-like face pale, and her big fairy-like green eyes which, no matter how hard, had innocence in them that I didn't see often."
ประโยคนี้แปลว่า "ใบหน้าขาวเหมือนภูตของเธอ และตาโตสีเขียวเหมือนนางฟ้าของเธอ ซึ่งไม่ว่าจะต้องความพยายามทำขนาดไหน ความใสซื่อในนั้นผมไม่ได้เห็นบ่อยนัก"
ศัพท์ที่ขอหยิบมานำเสนอคือศัพท์ที่แปลว่านางฟ้าทั้งหลายค่ะ
PIXIE คือ ภูตจิ๋ว อยู่ตามต้นไม้ดอกไม้ นึกถึงทิงกาเบลน่ะค่ะ
FAIRY คือนางฟ้าค่ะ แต่กึ่งๆนางไม้ด้วย นึกถึงนางฟ้าแบบที่มีปีกผีเสื้อ อยู่ตามป่าอะไรยังงี้
แถมคำอื่นๆด้วยค่ะ
ANGEL คือนางฟ้าเหมือนกัน แต่เป็นแบบนางฟ้าบนสวรรค์น่ะค่ะ มีปีกแบบปีกนกอ่ะ เป็นแบบพวกเทพธิดาแล้วอะ
FAY คือภูติโดยทั่วไปค่ะ รวมๆ
GODDESS คือเทวีค่ะ นึกถึงGODที่เป็นผู้หญิงน่ะ ยศสูงกว่านางฟ้าอะไรงี้
ELF โดยทั่วไปแล้วให้นึกถึงเอลฟ์ที่อยู่กับแซนต้าคลอสน่ะค่ะ คือคนแคระใส่ชุดเขียวๆมีหูแหลมๆ
---------------------------------
แหะๆ
คราวนี้ศัพท์ซะยาวเลย
^_^
ยังไงก็
ขอบคุณที่ติดตามน้าค้า
ถ้าช่วยเม้นจะดีมากๆเลยน้า
จุ๊บๆ
ความคิดเห็น