ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวจอมจิ๊กขอกิ๊กหัวใจนายยากูซ่า

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 วางแผน.....(1)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 51


    ตอนที่ 1 วางแผน....

     

                        "กลับมาแล้วค่ะ...."

     

                        ฉันชื่อมิ้งค์ค่ะ  เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใกล้ ๆ บ้าน ครอบครัวของเรา อยู่กัน 4 คน มีพ่อ แม่ พี่ชาย และฉัน แล้วที่บ้านฉันยังเปิดสอนศิลปะป้องกันตัวเกือบทุกอย่างด้วย  เพราะว่าพ่อของฉัน เก่งเรื่องพวกนี้มากๆ เลยละค่ะ ไม่รู้ไปเรียนมาจากไหน ส่วนแม่ของฉันตอนนี้ก็เป็นแม่บ้านที่ดี แต่ก่อนแม่เคยเป็นครูสอนเต้นบัลเล่ย์ให้กับเด็กๆ ค่ะ แต่ตอนนี้เลิกสอนแล้ว   เพราะไม่ค่อยมีเวลา ไหนจะต้องทำงานบ้านไหนจะต้องดูแลลูกๆ อีก  เคยสงสัยค่ะ ว่าพ่อกับแม่มาเจอกันได้ไง  คนนึงออกจะห้าวๆ เพราะอยู่กับพวกหมัดๆ มวยๆ อีกคนนึงก็อ่อนหวานเรียบร้อยเป็นครูสอนบัลเล่ย์  เคยถามแล้วแต่พ่อกับแม่ก็บอกว่า พรมลิขิต  ก็เลยขี้เกียจถามต่อ ส่วนพี่ชายสุดเลิฟของฉัน เป็นอาจารย์สอนมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง   พี่แกเนี่ยเก่งมากๆ  ใช้เวลาเรียนไม่กี่ปีก็จบโทแล้วทั้งที่เราอายุห่างกันแค่ 5 ปีเอง เรียกได้ว่าเป็นเด็กอัจฉริยะเลยหละค่ะ

     

                        "กลับมาแล้วหรอลูก" เสียงแม่สุดสวยของฉันเองค่ะ สงสัยกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว

     

                        "ทำไรกินหรอแม่....หอมจัง" ฉันว่าพลางสูดกลิ่นอาหารเข้าเต็มปอด

     

                        "ก็แกงส้ม...ที่ลูกชอบไงหล่ะ...." แม่นี่น่ารักจัง....ไม่ให้อ้วนยังไงหละเนี่ย เล่นทำของโปรดให้กินทุกวัน เฮ้อ...... "แล้วพาใครมาด้วยหละ  ได้ยินเสียงคุยกัน แต่เห็นแค่เราคนเดียว"

     

                        "จะมีใครอีกหละแม่...นอกจากยัยเบล"  ฉันพูดพร้อมเคี้ยวแอปเปิ้ล ตุ้ยๆ ในปาก ซึ่งแม่มองแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆ ในความเป็นกุลสตรีของฉันซะเหลือเกิน ( -  -')

     

                        "สวัสดีค่ะ คุณป้า" ยัยเบลเพื่อนซี้ของฉันพูดพร้อมกับยกมือไหว้แม่ของฉัน  พูดปุ๊บมาปั๊บ ไม่รู้หายไปไหนมาทั้งๆ ที่เดินตามกันมาแท้ๆ

     

                        "ฉันไปเข้าห้องน้ำมาย่ะ....." เห้ย!! ฉันยังไม่ได้ถามแกเลยนะว่าแกไปไหนมา เห็นมั้ยหละค่ะว่าเราซี้กันขนาดไหน แค่มองหน้าก็รู้แล้วว่าคิดอะไร  เหอๆ....

     

                        ฉันกับยัยเบลสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ บ้านเราอยู่ใกล้กัน ถัดไปไม่กี่หลัง เป็นเพราะยัยเบลอยู่แต่กับพี่เลี้ยงคนเดียวไม่มีเพื่อนมันจึงชอบมาเล่นที่บ้านฉันเป็นประจำ  ส่วนพ่อกับแม่ของมันต้องไปทำงานที่บริษัทตัวเองซึ่งทำเกี่ยวกับอัญมณีอะไรนี่หละค่ะ  มันคงเหงาไม่มีเพื่อนจึงต้องแอบมาเล่นที่บ้านฉันทุกวัน แต่นิสัยอย่างนึงที่ฉันไม่ค่อยชอบเลยก็คือ มันชอบทำตัวเป็นแม่คนที่สอง บ่นนู่นบ่นนี่ เวลาที่ฉันทำอะไรไม่ตรงใจมัน แต่ถึงมันจะบ่นยังไง หากเจอลูกอ้อนของฉันเข้าไปมันก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายทุกที  โดยเฉพาะการบ้านวิชาคณิตฯ และวิชาที่ฉันทำไม่ได้อะ  อิอิ.... นี่ถ้าไม่ติดว่าเราเป็นผู้หญิงทั้งคู่ พ่อกับแม่ของพวกเราจะต้องจับแต่งงานกันแน่ๆ เลย....

     

                        "พี่แม็ค กลับมายังหละแม่..."

     

                        "มาแล้ว....เห็นกลับมาตั้งแต่ บ่าย 3 โมงแนะ"

     

                        "งั้นเดี๋ยวเราขึ้นไปข้างบนกันดีกว่า" ว่าพลางฉันก็หยิบแอปเปิ้ลสีแดง ส่งให้ยัยเบลหนึ่งลูกแก้หิว ก่อนจะพากันวิ่งขึ้นไปยังห้องของพี่ชายสุดเลิฟ....

     

                        กริ๊ก !!

     

                        "จ๊ะ....เอ๋...." ฉันพูดทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของพี่ชายสุดเลิฟ  พร้อมทำหน้าแอ๊บแบ๊วสุดขีดหวังว่าพี่ชายฉันจะตกใจ คิดว่าสาวน่ารักที่ไหนเข้ามาหา...(หลงตัวเองซะ...)

     

                        "....."  เงียบ  ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากพี่ชายสุดเลิฟของฉันแม้แต่น้อย มีเพียงสายแต่สายตาแบบเย็นชามองมายังฉัน พร้อมกับส่ายหน้าอย่างปลงๆ เหมือนกับว่า 'นี่ฉันมีน้องสาวติ๊งต๊องได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย' เฮ้อ!....กรรม

     

                        "แหะๆ    ไม่ตกใจหรอ ตัว...เอง..."  ฉันพูดพร้อมสะกิดแขนพี่ชายสุดเลิฟ  แต่ก็ยังไม่วายทำหน้าแอ๊บแบ๊วน่ารักต่อ....

     

                        "เสียงยังกะช้างวิ่งเป็นโขลง  ใครจะไม่รู้" พี่ชายฉันพูดทั้งๆ ที่พี่แกไม่หันมามองฉันเลยซักนิด แต่...โห!! ดูพี่ชายฉันเปรียบเทียบซิค่ะ  ทำยังกะเราตัวหนักนักนิ เอ...หรือว่าจะว่ายัยเบลนะ  เพราะช่วงนี้มันเริ่มจะบวมๆ ขึ้นนะ  ฉันคิดพลางหันหน้าไปมองหน้า ยัยเพื่อนซี้ของฉัน ที่ตอนนี้มันกำลังบิดซ้ายบิดขวา ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร หรือว่ามันปวดถ่ายหว่า  เมื่อกี้ตอนมามันก็รีบเข้าห้องน้ำทันที สงสัยยังไม่หมด....

     

                        "เป็นไงบ้างพี่.....มีข้อความมาบ้างมั้ย"  ฉันเดินเข้าไปนั่งข้างๆ กับพี่ชายสุดเลิฟเพื่อดูกล่องข้อความเข้าในอีเมล์

     

                        "อืม.....มีเยอะเลยแหละ" พี่ชายสุดเลิฟของฉันพูดอย่างเรียบๆ เย็นชา ไม่หันมามองฉันเลย  หรือว่าพี่แกจะกินชาเย็นมากไปหรือเปล่าหว่า  เลยทำให้เป็นคนเย็นชา (เกี่ยวมั้ยเนี่ย.... - - ')  แต่ช่างเหอะ.....

     

                        "งี้ กะงานเข้าอะดิ  เหอๆ... รับรองสนุกแน่ๆ เลยว่ามั้ย"  ฉันพูดแบบขอความเห็นจากคนทั้งสองคน แต่ไม่ยักกะมีใครจะตอบฉันซักคน  มองหน้าพี่ชายสุดเลิฟก็ทำหน้าชาเย็น สายตามองแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่วยยัยเบลเพื่อนซี้ก็กำลังมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนกัน (มั้ง) แต่ตัวมันดิ บิดไปบิดมายิ่งกว่าเดิมอีก หรือว่ามันทนไม่ไหวแล้วนะ  แต่แล้วทำไมมันไม่ไปเข้าห้องน้ำหว่า มายืนทำแป๊ะ อะไรอยู่เนี่ย  ดูๆ บิดใหญ่เลยค่ะ ยัยนี่ถ้าจะบ้า ปวดถ่ายแล้วไม่ไปห้องน้ำ 

     

                        "ยัยเบล  แกเป็นอะไร" ฉันชักจะทนอาการของมันไม่ไหวแล้วหละค่ะ เกิดมันปล่อยลมออกมาจะทำไงเนี่ย  ถึงมันจะหน้าตาดีก็เหอะ  แต่มาปล่อยลมกลางห้องคงไม่ดีแน่ๆ  ยึ้ย !! แค่คิดก็เหม็นแล้ว แหวะๆๆ (เกินไป)

     

                        "...." เงียบค่ะ มันไม่ตอบ  มันลืมเอาหูมารึป่าวหว่า

     

                        "ยัยเบล !!!"  ทีนี้ฉันตะโกนใส่หูมันเลยค่ะ  ดูสิ มันจะได้ยินมั้ย แต่ได้ผลค่ะ มันหันมามองหน้าฉันแล้ว แต่สายตามันสิค่ะ  ดุสุดๆ สงสัยมันจะอั้นไม่ไหวแล้วแน่ๆ เลย

     

                        "แกปวดขี้  หรอว่ะ  บิดไปบิดมาอยู่ได้ เดี๋ยวไหลออกตรงนี้นะเว้ย"

     

                        "ห๊า!!   กะ...แก นั่นแระปวดขี้" ยัยเบลพูดตะกุกตะกัก  หน้าแดงไปถึงหู สงสัยมันสุดจะทนแล้วหละมั้งเนี่ย   มันหันมามองหน้าฉันที พี่ชายฉันที สลับไปมา สงสัยจะขออนุญาตไปห้องน้ำละมั้ง...

     

                        "ฉันไม่ปวดเว้ย   แกนั่นแหล่ะ จะไปก็ไปดิ ฉันไม่ว่าหรอก อั้นไว้ไม่ดีนะแก รีบๆ ไปเหอะ เดี๋ยวไหล คิดแล้วสยองว่ะ ฮ่ะฮ่ะ"

     

                        "ไอ้มิ้งค์บ้า....ฉันไม่ได้ปวดเว้ย...." ยัยเบลโพล่งขึ้นมาสุดจะทน ที่ฉันคิดว่ามันปวดถ่าย

     

                        "อ้าว.... แกไม่ได้ปวดขี้  แล้วแกเป็นอะไรว่ะ บิดไปบิดมาอยู่ได้ กะคิดว่าแกปวด แต่ไม่กล้าไปซะอีก..." ฉันพูดอย่างไม่ยอมแพ้  ก็ถ้ามันไม่ปวดมันจะบิดไปบิดมาทำไมละ  อืม...

     

                        "ฉัน ไม่  ได้ ปวด แก เข้า ใจ ที่ ฉัน พูด มั้ย" ทีนี้ยัยเบลพูดแบบชัดๆ เน้นๆ ทุกคำ หน้าตามันตอนนนี้ยังกะแม่มดในนิทานที่กำลังจะกินเลือดกินเนื้อเด็ก ๆ ยังไงยังงั้น (นิทานเรื่องไรหว่า แม่มดจะกินเด็ก เฮ้อ!! กรรม)

     

                        "แหะๆ  ไม่ปวดก็ไม่ปวดจ๊า...." ฉันพูดพลางเอามือลูบหัว เพราะกลัวยังเบลเพื่อนซี้ของฉันมันจะขย้ำฉันตายซะก่อน "แน่ใจนะ ว่าไม่ไปห้องน้ำจริงๆ" แต่ยังไม่วายถามมันอีกรอบ  ก็คนมันเป็นห่วงนี่นา  ตัวเอง.....

     

                        "ยั้ยมิ้งค์!!!!"  ยัยเบลคงสุดจะทนฉันจริงๆ แล้วหละ เพราะมันทำหน้าตาดุร้ายมากๆ แถมยังตะโกนเสียงดังลั่นห้อง  แสดงเจตนาเป็นนัยๆ ว่าถ้าแกยังไม่หุบปากพูด แกตายแน่ๆ ฮื่ม !!

     

                        "ขอโทษ...คร๊าบบบ....." ทีนี้ฉันต้องยอมหยุดล้อมันจริงๆ แล้วหละ ไม่งั้นมันโกรธไม่ยอมให้ลอกการบ้านแน่ๆ  คิดพลางฉันก็หันหน้าขอความช่วยเหลือจากพี่ชายสุดเลิฟ สุดหล่อของฉัน แต่ทว่าพี่แกยังทำหน้าชาเย็นเหมือนเดิม ถ้าฉันสังเกตไม่ผิดนะก่อนหน้านั้นพี่แกแอบขำตลอดเวลาที่ฉันกับยัยเบลคุยกัน  แต่พอจะขอความช่วยเหลือหน่อย กลับทำหน้าเย็นชาไม่รับรู้อะไร  พี่ชายบ้า ชิ!!!

     

                        "เอาหละๆ พี่ว่าเรามาช่วยกันเลือกงาน และก็เตรียมวางแผนกันดีกว่า" สงสัยพี่ชายฉันคงขี้เกียจเห็นหน้ายัยเบลที่ตอนนี้ทำหน้าเป็นแม่มดใจร้าย จ้องจะกินเลือดกินเนื้อฉันอยู่แล้ว  สงสัยมันจะหิว.....

     

                        "เอาสิ  มาๆ ยัยเบลมานั่งตรงนี้" ฉันทำท่าทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ดึงยัยเบลมานั่งล้อมกันที่โต๊ะไม้ขนาดกลางที่วางอยู่ กลางห้องทำงานของพี่ชายสุดเลิฟ  ซึ่งคงจะมีมุมนี้หละที่จะมีที่นั่งให้เรานั่งครบคนได้เพราะตรงอื่นๆ ก็รกไปด้วยอุปกรณ์ ที่พี่ชายของฉันประดิษฐ์ขึ้นมาเยอะแยะมากมายไปหมด พวกเราเลยใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงานของพวกเราในตัว

     

                        ตอนนี้เรา 3 คนนั่งหันหน้าเข้าหากันเพื่อที่จะเริ่มช่วยกันเลือกงานที่เข้ามาอย่างมากมาย จากพวกแฟนคลับที่กรี๊ดกร๊าดดารานักร้องสุดโปรด ของพวกเธอ และแน่นอนว่าส่วนมากมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น  ถ้าจะมีผู้ชายก็จะเป็นประเภทที่ 2 แหละ  เอกสารที่ถูกปริ๊นจากคอมฯ ได้แจกจ่ายให้ครบคน ต่างคนก็ต่างช่วยกันเลือกงานที่คิดว่าจะทำได้ง่ายๆ และไม่เป็นสิ่งของที่มีค่าจนเกินไป เพราะหากเป็นของมีค่ามากๆ มันจะต้องยากและเป็นที่ผิดสังเกตได้และต้องไม่ให้ซ้ำกันด้วย  ไม่งั้นเจ้าพวกดารา นักร้องนั่น ต้องหมดตัวกันแน่ๆ เพราะที่ส่งข้อความเข้ามานั้นส่วนมากก็จะเป็นดารานักร้องคนเดียวกันทั้งนั้น  แต่ละครั้งที่เราเลือกจะต้องไม่เกิน 20 รายต่อหนึ่งเดือนเพื่อที่มันจะไม่ถี่จนเกินไป และอีกอย่างฉันกะยัยเบลต้องไปเรียนด้วยหากรับเยอะกว่านี้ มีหวังซ่อมทุกวิชาแน่ๆ เหอๆ....

     

                        "สรุปว่า 20 รายนี้นะ ไม่มีเปลี่ยนแปลง"  ฉันหันไปถามสมาชิกอีก 2 คน

     

                        "อืม...." ยัยเบลเพื่อนซี้ของฉัน ตอบรับอย่างมั่นใจ พร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมายืนยัน   แต่พี่ชายเย็นชาของฉันได้แต่พยักหน้ารับเฉยๆ  ทีนีคงต้องให้พี่ชายสุดเลิฟของฉันเลิกกินชาเย็นดีกว่า  จะได้ไม่ต้องเย็นชาอีก

     

                        "ว่าแต่แก...จะเอาจริงหรอมิ้งค์" ทีนี้ยัยเบลทำหน้าแหยๆ "นี่ถ้าเราพลาด   ฮ่องกรงเลยนะแก"  หน้ามันเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าเราจะทำได้  แล้วไอ้ที่ทำท่ามั่นใจเมื่อตะกี้นี้มันหายไปไหนว่ะ

     

                        "เอาน่า....ทำยังกะเราไม่เคยทำมาก่อนงั้นแระ" ฉันว่าพลางคิดถึงเมื่อสองเดือนก่อน ที่เราเคยไปจิ๊กของๆ ดารานักร้องที่คลั่งไคล้  มาเก็บสะสมไว้เป็นคอลเล็คชั่นอวดเพื่อนๆ    ตอนนั้นเราไม่ได้ทำแบบเป็นกิจจะลักษณะแบบนี้ และที่แน่ๆ เรารู้กันอยู่ แค่ 3 คนโดยไม่มีบุคคลอื่นรับรู้เลย แม้กระทั่งพ่อกับแม่  แต่ว่าเราก็ไม่เคยถูกจับได้เลยซักครั้ง  อาจเป็นเพราะของพวกนั้นไม่มีค่ามากพอที่จะให้พวกนั้นต้องแจ้งความ

     

                        "แต่ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เรา 3 คนนะ  ยังมีคนที่ สามเข้ามาด้วย  แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่าคนๆ นั้นจะเป็นยังไง" ยัยเบลยังคงถามไม่เลิก ซึ่งก็ทำให้ฉันรู้สึกกังวลเหมือนกัน

     

                        "แต่พี่มีวิธี" 

     

                       

                       

     

     

     

                                     

                       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×