ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNNAME STORY อยากให้รักนี้ไม่มีชื่อเรื่อง (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 - ก็แค่สนใจน่ะ : ) (แก้ไขเพิ่มเติม)

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 54


    +++++++

     

    ขณะที่นั่งอยู่ในรถ เพื่อนๆผมก็ร้องรำทำเพลงกันสนุกสนานน่ะครับ ก็ใช่สิ... พวกมึงก็หาที่เรียนกันได้แล้วนี่นะ (มันอพยพไปเข้ามหาลัยเอกชนกันยกฝูงครับ) ส่วนผมน่ะอยากเข้าศิลปากรครับ ผมชอบวาดรูปและอยากเป็นจิตกร...แต่ทางบ้านเขาเป็นนักธุรกิจเลยอยากจะให้ผมสานต่อเจตนารมณ์ ซึ่งผมไม่ชอบการทำงานแบบนี้เลย เอาแต่ทำงาน ไม่อยู่บ้าน มีข่าวนู่นนี่นั่น น่ารำคาญสุดๆ... เราโยงมาถึงเรื่องนี้กันทำไมครับ??? - -


                “เฮ้ย ไอ้ฟรองค์ มึงก็ร้องเพลงหน่อยดิ๊” ไอ้ลมยื่นไมค์มาให้ผม ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆหันมามองแบบลุ้นๆ? อย่าลุ้น ...ถ้ายังมีไอ้นั่นนั่งอยู่ในรถนี้กูก็ไม่ร้องเว้ย ที่สำคัญไม่ได้นั่งไกลไปจากผมเลย... ข้างๆเนี่ย !? มึงมานั่งอะไรตรงนี้! นี่แหละสาเหตุที่ทำให้หน้าผมเป็นตูดอยู่ แม่ง แล้วยังหันมาถามผมทุกๆ 5นาที ไม่ว่าจะเป็น กินอะไรมั้ย ? มึงยังเจ็บจมูกอยู่รึเปล่า?(และนี่ก็เป็นเรื่องโจ๊กให้เพื่อนผมทั้งรถได้ฮาอีก) โกรธกูเรอะ? ง่วงปะวะ? ฯลฯ

    บอกตรงๆ... รำคาญว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!

                “ไม่ว่ะ พวกมึงร้องไปเถอะ” ผมดันไมค์ออก หลังจากนั้นไอ้กานต์มันก็จับไมค์ไปร้องเองซะงั้น

    เออ จะร้องก็ร้องไป แต่มึงจะหันมามองหน้ากูทำไมวะ..โว๊ะ! หงุดหงิดเว้ย


    ทำไมบางคนที่เกิดมาจึงมีวัน เวลาดีดี
    และทำไมบางคนยังคงวนเวียนหาทางไม่เจอสักที
    ในเมื่อโลกมันเป็นแบบนี้
    เมื่อมีคนได้ในสิ่งหนึ่ง ก็ต้องมีคนเสีย อีกสิ่งหนึ่ง
    ไม่มีคนไหน ที่ไม่เคยเสียอะไรเลยสักที
    เหตุผลที่คนควรอยู่ด้วยกัน
    ก็เป็นเพราะไม่มีใครจะดีพร้อมได้ดังฝันไปทุกที่
    เหตุผลที่เธอควรจับมือฉัน
    เพื่อแบ่งสุขทุกข์ เหล่านั้นที่เรามี
    เหตุผลที่ทุกหัวใจ ควรเปิดใจให้กันวันนี้
    เพราะวันพรุ่งนี้ที่ดี มีจริงๆ
    ความจริงคนเราเกิดมาเพื่อจะแบ่งวันเวลาร่วมกัน
    ความจริงคนเรานั้น เกี่ยวพันแม้ไม่เคยพบเจอ
    ไม่ต่างกับฉันและเธอ

    เหตุผลที่คนควรอยู่ด้วยกัน
    ก็เป็นเพราะไม่มีใครจะดีพร้อมได้ดังฝันไปทุกที่
    เหตุผลที่เธอควรจับมือฉัน
    เพื่อแบ่งสุขทุกข์ เหล่านั้นที่เรามี
    เหตุผลที่ทุกหัวใจ ควรเปิดใจให้กันวันนี้
    เพราะวันพรุ่งนี้ที่ดี มีจริงๆ

     

    แล้วมันก็ร้องเพลงนี้ไปสองรอบ โดยหันมามองผมเป็นพักๆในขณะที่ผมนั่งเล่นไอแพดของผม แทบอยากจะเอาไอแพดปาหัวถ้าไม่ติดว่ามันแพง... รำคาญเว้ย!

                “ฮิ้ววว มึงจะจีบเพื่อนกูเหรอไอ้กานต์!” ไอ้ซอย! มึงไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะ ไอ้ห่า

                “บ๊ะบ๊ะบ๊ะ เบ้ย เดี๋ยวหมู่กูกำลังจะขายออกแล้วเว้ยยย” ไอ้เหี้ยนี่ก็อีกคน น่าเอาตีนถวายมันอีกซักรอบ

                “ฮ่าๆๆๆ กูแค่สนใจเท่านั้นเองว่ะ” มันหัวเราะและ..ยิ้ม? = = กูสยองว่ะเหี้ย

    ผมแทบจะเขยิบตูดไปอีกทางนึงแทบไม่ทัน ตอนที่มันทิ้งตัวกลับมานั่งข้างๆผมอีกรอบ ทั้งๆที่ในรถตู้เนี่ยมันก็มีกันอยู่ 5 – 6 คน !? อ้ากกกกกกกก กูไม่พิศวาสผู้ชาย! มันมองผมยิ้มๆก่อนนิดนึงแล้วหันไปเล่นกับเพื่อนต่อ

                “กูไม่เล่นด้วย...” ผมพูดเสียงแข็ง ก่อนจะกลับเข้าสู่ห้วงของอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

     

    +++++++



    และหลังจากเหตุการณ์นั้นสงบลง เพื่อนผมทั้งหลายก็กะเกณฑ์กันเข้าร้องเพลง เล่นกีตาร์อะไรกันสนั่นหวั่นไหวทำเอารถตู้ขย่ม(?) ผมแทบอ้วกอะครับ ในที่สุดเราก็มาถึงสถานีปลายทาง - - ผมแทบจะวิ่งลงมาถ้าไม่ติดว่าไอ้ไม้ เพื่อนผมอีกคนวิ่งถลาออกจากรถไปโก่งคออ้วกข้างถนนก่อนผมซะอีก...

                “อะไรวะ เมื่อกี้มึงยังสนุกกับกูอยู่เลยนะสัด” ไอ้บอลเดินไปตบหลังไม้เบาๆเป็นการช่วยก่อนจะยื่นน้ำให้

                “เหี้ยไง พวกมึงเล่นกระโดดซะจนโชคอัพแทบหัก เหมือนคลื่นทะเลเลยแม่ง”

                “มึงก็กระโดด อย่ามาโทษแต่พวกกูสัด”

                “ห่า กูไม่ได้กระโดดเยอะขนาดนั้น”

                “เชื่อเหอะ กูเห็นแต่ไอ้ฟรองค์ว่ะที่ไม่ร่วมอะไร” ว่าแล้วมันก็ตบหัวกันไปมาสองคน ...แต่พวกมึงๆช่วยอย่าลากกูเข้าไปร่วมการสนทนาด้วยได้มั้ย - -

     

                “อ่ะ น้ำ” มือๆนึงยื่นน้ำมาตรงหน้าผม

                “ขอบใจ” ผมกำลังจะเอื้อมไปหยิบก่อนจะกรอกน้ำใส่ปาก รู้แหละครับไอ้วุ่นวายแบบนี้มีมันอยู่คนเดียว แต่ผมก็ขี้เกียจจะทำศึกกับมันละ เหนื่อย..แถมอีกอย่างวันนี้ผมโดนหลายอย่างมากครับ ทั้งลูกบอลอัดหน้า ทั้งโดนผู้ชายบอกสนใจ ทั้งถูกเพื่อนลากมาเล่นน้ำตก ทั้งเมารถ นู่นนี่นั่น เฮ้อ.. เยอะเกินไปละชีวิตกู - -

                “มึงยอมสงบศึกกับกูแล้ว?” กานต์นั่งลงข้างๆผม

                “ถ้าไม่ยุ่งกับกูมากเกินไป... ก็ถือว่ามึงเป็นเพื่อนไอ้เงิน”

                “แต่กูอยากเป็นเพื่อนมึงด้วยไง”

                “ถ้ามึงเลิกเซ้าซี้กู กูจะถือว่ากูรู้จักมึง”

                “ก็กูอยากเป็นเพื่อนมึงอ่ะ”

                “...เฮ้อ” ผมถอนหายใจให้กับความเซ้าซี้ของมัน มันน่ารำคาญมากครับ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ...


    +++++++

     

     

    ผมเดินเข้าไปเก็บของภายในรีสอร์ทของบ้านไอ้เงิน เป็นธุรกิจย่อยๆของมัน ก่อนที่ผมจะสังเกตว่า.. ห้องนึงมันนอนได้ 2 คน? แล้วที่มานี่ก็มีผม..ไอ้ลม..ไอ้ซอย..ไอ้บอล..ไอ้เงิน..ไอ้ไม้แล้วก็ไอ้กานต์ เออ ดี ผมจะนอนคนเดียว (แสยะยิ้ม) อย่าถามนะครับว่าทำไมไม่นอนกับลม ก็มันมีซัมธิงกับไอ้เงินอยู่ไง -_- ผมจะไปขัดมันทำไมละ ขี้เกียจจะไปนอนฟังมันสยิวกิ้วกัน (ก็พูดเวอร์ไป แค่ชอบกันเฉยๆ) = = ส่วนไอ้บอลก็คงนอนกับไอ้ซอย ไม่ก็ไอ้ไม้เห็นมันสนิทกันพอดู

                “เฮ้ย มึงนอนหลังนั้นดิวะฟรองค์” เงินโผล่หน้าออกมาตะโกน บอกผมแล้วชี้ไปอีกที่นึง ห่างจากที่ๆผมเล็งไว้

                “ทำไมกูนอนหลังนั้นไม่ได้?” นั้น กับ นั้น ฟังแล้วงงนะครับ แต่ที่ผมหมายถึงก็คือ ที่ๆผมเล็งไว้ตรงหลังสุดของรีสอร์ท ที่มันห่างไกลจากชาวบ้านเขาสุดๆ - - มันอิงธรรมชาติมากไงครับ

                “เอ้า เหี้ยกูไม่ได้บอกให้แม่บ้านไปทำความสะอาดหลังนั้น!

                “ช่างดิ ก็กูจะอยู่” ผมสะพายกระเป๋า (ใบเดียวตั้งแต่เช้า) เดินดุ่มๆเข้าไปที่บ้านหลังนั้นคนเดียว ก่อนจะนึกได้หันมาตะโกนบอกคนอื่น

                “กูจะนอนคนเดียว!!!” แล้วก็ปิดประตู หายเข้าไปในห้อง ณ เวลาโพล้เพล้ (?)  - -

     

     

    หลังจากนั้นไม่นาน ไอ้ลมก็มาเคาะประตูห้องผม เมื่อเปิดประตูออกมาก็เห็นมันยืนยิ้มแป้นแล้นน่าถีบอยู่หน้าประตูพร้อมกับชุดพร้อมรบของมันคือชุดวันเกิด - - ผมล้อเล่น มันไม่ได้ใส่เสื้อครับ ใส่แต่กางเกงขาสั้นสีดำของมัน ผมก็เลยต้องเปลี่ยนจากชุดนักเรียน (ก็แค่ถอดเสื้อออก) เป็นเสื้อกล้ามกับกางเกงนักเรียนสีดำของผม แล้วก็รองเท้าแตะหน้าห้องน้ำของรีสอร์ท... ของใครไม่รู้ละ ขอยืมหน่อยแล้วกัน - -

              “น้ำตกที่ว่าเนี่ย มันอยู่ไกลมั้ยวะ?” ไอ้บอลพูดก่อนจะเดินกอดคอไอ้ไม้มาสมทบ

                “ไม่ว่ะ ใกล้ๆนี่แหละประมาณไม่ถึงกิโล” หลังจากไอ้เงินพูดจบ ทุกคนก็ออกมากันครบ แล้วก็พากันเดินไปที่น้ำตกที่ไอ้เงินแนะนำว่ามันสวยนักหนา อะไรน่ะแหละ

                “เฮ้ย ถึงแล้วๆกูได้ยินเสียงน้ำตกแล้วเว้ย!” ไอ้ซอยวิ่งไปข้างหน้าพลางตะโกนลั่น ทำเอานกแถวๆนั้นบินหนีกันให้พรึ่บ

                “โห่ ไอ้ห่า มึงจะตะโกนทำ_ไรวะ” บอลเดินไปตบหัวไอ้ซอยที่ตะโกนโหวกเหวก

    ผมว่าแถวนี้มันสวยก็จริงนะครับ แต่มันก็น่ากลัวแปลกๆดูอย่างทางที่พวกผมเดินมาที่น้ำตกนี่สิ มันเป็นทางเส้นเดียวที่ไม่มีหญ้าขึ้น ไม่มีต้นไม้ขึ้นรกมากคงเพราะทางรีสอร์ทมาถางออกให้เป็นทางเดิน แต่พอมองไปรอบๆ มันก็ยังดูวังเวงอยู่ดี โดยเฉพาะยิ่งตอนจะเดินไปถึงน้ำตก ผมว่าผมเห็นอะไรบางอย่างแวบไปแวบมาแต่ก็ไม่ได้สังเกตุดูจริงจังก่อนจะตัดสินใจเลิกสนใจมันเพราะก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเหมือนผม

                “วิ้ววววววววว” ไอ้พวกลิงโลดนั่น พอเห็นน้ำตกก็พากันกระโดดลงไปเล่นทันที ส่วนผมขอตัวนั่งตรงนี้แล้วกันครับ ไม่อยากเปียกขี้เกียจหนาว

                “มึงไม่มาเล่นด้วยกันเรอะ?” ไอ้ลมว่ายน้ำมาเกาะแถวๆที่ผมนั่งครับ

                “มึงเป็นเล่นกับสุดที่รักมึงเถอะว่ะ กูขอบาย” ดูครับ พูดแค่น้ำทำเขิน - -

    ไม่นานผมก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมองผมอยู่จริงๆ และขณะที่กำลังจะหันไปดู กลับมีไอ้กานต์เดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผมอย่างถือวิสาสะ

                “มีอะไร ?”

                “นั่งด้วยไม่ได้รึไงวะ โห่ มาถึงก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่เลยนะ”

                “เออสิ กูชอบอยู่คนเดียว”

                “กูว่าไม่จริงหรอก : )

                “มึงจะรู้จักกู ไปดีกว่ากูเองได้ยังไง” ...ขณะที่คุยกับไอ้กานต์ ผมกลับรู้สึกว่าเสียวสันหลังแบบแปลกๆ จะว่าหนาวก็ไม่ใช่ อืม.. อะไรกันนะ

                “ฮ่ะๆ ช่างเถอะ กูว่าจะมาคุยกับมึงเล่นๆ แล้วก็นะ... ที่น้ำตกเนี่ย กูไปถามป้าแม่บ้านมาเขาบอกว่าเคยมีข่าวคนหายสาญสูญไปด้วยนะ”  อะ... ไอ้เหี้ย พูดทำไม!?

                “ม.. มึงจะพูดทำห่าอะไรวะ” มองเบนสายตาจากป่าตรงข้ามกลับไปมองพวกเพื่อนผมที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่ ตอนนี้หัวไอ้ซอยถูกกดลงไปในน้ำด้วยการร่วมมือกันของเพื่อนผมทั้ง 4 คน เออ.. กูสงสารมึงอะนะซอย แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมว่ะเพื่อน

                “เปล่านี่ กูแค่อยากเล่าให้ฟังเผื่อมึงจะสนใจอยากเปลี่ยนห้องหรืออยากมีคนไปนอนเป็นเพื่อน”

                “เรื่องอะไร กูชอบอยู่คนเดียว”

                “ก็... ห้องมึงน่ะเป็นห้องที่อยู่ใกล้กับป่านี้มากที่สุดแล้ว เผื่อว่า...”

                “ไอ้เหี้ย! มึงหุบปากไปเลยนะเว้ย ถ้าแม่งยังไม่อยากเจอตีน” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะชี้หน้ามัน

                “อะไรวะ ก็แค่เล่า เป็นห่วงนะเนี่ยกลัวนอนไม่หลับเพราะเสียงรบกวนข้างนอกอะไรแบบ....ตูม!!

    ไม่ทันที่มันจะพูดจบ ผมก็ประเคนแรงถีบไปเต็มฝ่าเท้าผมละครับ แม่ง ปากหมา... - - ยิ่งเสียวสันหลังอยู่ด้วย คืนนี้จะย้ายไปนอนกับไอ้ลมดีมั้ยวะ... เหี้ยย มึงนะมึง !

    +++++++











    ความคิดเห็นของคุณ nao
    ขอบคุณมากครับ สำหรับคอมเม้นต์
    แต่ต้องชี้แจงกันก่อนว่า เรื่อง STOP SHIT นั้นผมไม่ได้แต่งนะครับ...
    เป็นนิยายของเพื่อนผม ( Zas ) ที่นานๆจะว่างมาแต่งครั้งนึง
    - ส่วนเรื่องที่ไปกุ๊กกิ๊กหลังม่านน้ำตกเนี่ย
    รอให้พวกเขาคุยกันดีๆให้ได้ก่อนเถอะครับ 555+

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×