ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNNAME STORY อยากให้รักนี้ไม่มีชื่อเรื่อง (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 - เจอหน้า(แบบแปลกๆ)?

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 54





    เช้าของวันจันทร์ที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดสำหรับผม ตั้งแต่อยู่โรงเรียนนี้มา 6 ปี ผมยังไม่เคยเห็นอะไรเจริญหูเจริญตาขึ้นเลย นอกเหนือไปกว่ากิจกรรมที่พวกมันขยันทำอยู่ทุกวันอย่าง.. วิ่งหนีไม้เรียวอาจารย์ฝ่ายปกครอง แอบดูกางเกงในอาจารย์ผู้หญิงในคาบ แอบงีบ แอบหลับ แอบเล่น
    msn กระดาษ แอบดอดไปหลีหญิงโรงเรียนข้างเคียง และทุกๆวันมันก็มีแต่แบบนี้แหละครับ จนผมเบื่อและไม่รู้จะทำอะไรดี ไปโรงเรียน ก็ไปเท่านั้นแหละ เพราะผมสอบเทียบติดมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อยู่ ม.4 แล้ว (ใครจะหาว่ากูอัจฉริยะก็ช่างเถอะ) แต่เขาก็ยังไม่อนุญาตให้ผมย้ายเข้าไปเป็นนิสิต ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมยังเด็กเกินไป (ที่จริงเพราะพ่อแม่ผมต่างหาก เขาไม่อยากให้ผมเรียนต่อที่นั่น) ผมก็เลยต้องมาโรงเรียนชายล้วนนี่ทุกวันโดยที่แต่ละวันก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจาก นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนไปพลาง ลงไปเตะบอลกับเพื่อนบ้างถ้ามีโอกาส หรืออะไรทำนองนั้น.. มันจะมีอะไรทำให้ผมรู้สึกอยากมาโรงเรียนบ้างมั้ยเนี่ย...

                “เฮ้ย หลบ!!” เสียงตะโกนมาจากทางไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือตอนนี้ลูกบอลมัน…

    พลั่ก !!!

    มันพุ่งมาโดนหน้ากูเต็มๆ! ไอ้เหี้ย ถ้าพวกมึงจะเล่นกันแรงขนาดเตะลูกบอลออกมานอกสนามขนาดนี้มึงลงแข่งทีมชาติเหอะครับ! (ได้แค่คิดในใจเท่านั้นแหละครับ)

                “เฮ้ย เป็นไรป่าว?” เหมือนจะเป็นไอ้คนที่เตะมา วิ่งมาดูอาการคนเอาหน้ารับฟุตบอลอย่างผมครับ

                “เป็น” ผมตอบมันกลับไปก่อนจะยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเลือดที่ค่อยๆไหลออกมาทางจมูก

                “กูไม่ได้ตั้งใจว่ะ โทษที”

                “มึงเอาลูกบอลมึงไปเถอะไป” ผมพูดพลางลุกขึ้นเก็บหนังสือแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น เพราะตอนนี้รู้สึกว่าจมูกผมมันเบี้ยวๆพิกล = =

    ตึกๆๆ

    เสียงฝีเท้าวิ่งตามหลังผมมาก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างๆแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้

                “มึงเป็นตุ๊ดรึไง พกผ้าเช็ดหน้า?”

                “เปล่า กูไปยืมแก๊งนางฟ้ามาให้”

                “ไม่จำเป็น เลิกเดินตามกูซักทีสิวะ!” ยิ่งผมออกเดินมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเดินชิดผมมากเท่านั้น จนผมรำคาญหันไปตะคอก

                “ก็กูทำมึงเจ็บ กูก็ต้องรับผิดชอบเด่ะ” มันยิ้มครับ.. มันยิ้ม (กัดฟัน)

                “กูบอกว่าไม่ต้อง กูรับผิดชอบตัวเองได้ เลิกตามกูซักทีเหอะ”

                “อ้าว ห่า ก็กูอยากช่วยไง”

                “กวนตีน” ผมพูดพลางเอาผ้าเช็ดหน้า(ของใคร?) มาซับเลือดที่ไหลออก ทำไมผมถึกขนาดนี้วะ โดนซะเต็มแรงขนาดนั้นยังไม่รีบเป็นลมอีก ...กูเป็นตอนนี้ทันมั้ยเนี่ย? - -

                “มึงแหละกวนตีน กูแค่อยากช่วยเอง” มันยิ้มเผล่แบบสบายๆครับ - -

    ผมก็ได้แค่มองหน้ามันก่อนจะเดินไปที่ห้องพยาบาลเพื่อขอนอนพัก เพราะตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหน้ามืดแล้วละ(นี่มึงเพิ่งรู้ตัว???)

     

    ++++++++++

     

                “ขออนุญาตครับ” ผมเปิดประตูเดินเข้าห้องพยาบาล ในขณะที่มีอีกคนเดินตามผมมาแบบหน้ายิ้มๆ ? มันจะยิ้มหา... - -

    ผมเดินเข้าไปนอนบนเตียงของห้องพยาบาล เตียงหนึ่งซึ่งมันมีอยู่ทั้งหมดสี่เตียง ก่อนจะหลับตาลงผมเห็นไอ้หมอนั่น(ตั้งแต่เจอกันยังไม่รู้จักชื่อ) เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ

                 “กูถึงห้องพยาบาลโดยสวัสดิภาพแล้ว ก็ขออัญเชิญมึงออกไปเถอะ” ผมพูดก่อนจะหลับตาลงเพราะตอนนี้ ผมเริ่มรู้สึกจะหน้ามืดเต็มที

                “โอเคน่า กูนอนเฝ้ามึงก็ได้”

    หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรบ้าง เพราะผมเผลอหลับไปเลย(ทั้งๆที่เลือดมันยังกรังจมูกนั่นแหละ) ก็ผมลืมตาไม่ไหวแล้วนี่ครับ..





    ออดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    เสียงออดโรงเรียนดังขึ้น เป็นการบอกว่าเลิกเรียนแล้ว

                รับโทรศัพท์หน่อยค้าบบบบบบบบบบ เพื่อนมึงโทรมาค้าบบบบบบบเสียงริงโทนห่วยๆอัดเสียงเองโดยเพื่อนสนิทของผมเองครับ ไอ้ลม

                “ว่าไง” ผมกดรับทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ มันลืมไม่ได้ครับ ยังสำออยไม่หาย - -

                มึงอยู่ไหนวะ? พวกกูจะไปเที่ยวน้ำตกกัน มึงไปมั้ย?

              “น้ำตก? ห่า กูง่วง กูจะนอน ไม่ไปนะ” ผมกำลังจะกดวางสายแต่ก็ได้ยินเสียงของโทรศัพท์อีกเครื่องดังขึ้นมา ...นี่มึงยังไม่ไปอีกเหรอเนี่ย?

                “ว่าไง” นั่น ลอกคำพูดกูอีก

                “หะ.. เออ โอเค กูยังไงก็ได้อยู่ละ ..เออๆ ได้... เจอกัน” มันกดวางสายก่อนจะหันหน้ามามองผมนิดนึงแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียงพลางบิดขี้เกียจ

                “กูคงต้องขอตัวก่อนละวะ”

                “อยากไปก็ไป กูเคยขอให้มึงอยู่เรอะ” ผมพูดแล้วพลิกตัวไปอีกทาง

     

    ปัง !

    เสียงเปิดประตูห้องพยาบาล ที่โผล่มาพร้อมกับหน้าไอ้แป๊ะยิ้มของไอ้ลม

                “ฮัลโหล หมู่รัก” ^____________^

    ผมกำลังจะหันไปถามมันว่า หาผมเจอได้ยังไง แต่ก็ลืมไปว่ามันมีโทรศัพท์ที่ติดตามสัญญาณได้ว่าปลายสายจะอยู่ที่ไหน (หมู่ เป็นภาษาอีสาน คือเพื่อน หรือพวกพ้อง) มันชอบกระแดะพูดอีสานครับ มันบอกว่าสนุกแล้วก็เท่ดี

                “มึงต้องไปกับกู~ ไม่งั้นกูไม่ยอมว่ะ” มันเดินมานั่งข้างเตียงผม

                “ทำไมกูต้องไป กูขอเหตุผลที่ฟังขึ้นซักสามข้อ”

                “หนึ่ง เพราะกูอยากให้ไป”

                “สอง?” ผมเหล่ตามองไอ้หมอนั่น มันก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมเหมือนรอคำตอบด้วย?

                “เห็นมึงบอกไม่อยากกลับบ้าน กูก็เลยหาเรื่องให้มึงไปเที่ยวกัน”

                “และสาม”

                “เพราะมึงเป็นเพื่อนกู ^__________^” ไอ้แป๊ะยิ้ม ยิ้มกว้างก่อนจะตอบข้อสุดท้ายแบบฉบับของมันที่ทำเอาผมต้องถอนหายใจ

                “ลา? รึไง” ผมถามมันก่อนที่มันจะพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนที่ผมจะถอนหายใจแล้วตัดสินใจว่าไปก็ได้ ก็ดีกว่าได้กลับบ้านละนะ...

    ผมลุกไปล้างหน้าที่ห้องน้ำของห้องพยาบาลก่อนจะเดินออกมา ก็เห็นว่าไอ้หมอนั่นกับเพื่อนผมคุยกันเฮฮาอยู่สองคน

                “พวกมึงรู้จักกันไง?” ไม่ได้อยากรู้หรอกนะ แต่กูแค่อยากถาม(?)

                “เออดิ ก็เนี่ยไอ้กานต์ เคยทำงานช่วยพวกเราตอนทำแคมป์ไงมึง” กานต์ไหนวะ กูไม่รู้จัก

                “เหรอ” ผมพูดก่อนจะสะพายกระเป๋าใบเดิม เดินออกจากห้อง

                “กูดีใจว่ะ ที่มึงก็ไปด้วยอยากคุยกับมึงมานานแล้วแม่ง อยากขอเคล็ดลับสูตรหน้าใสกิ๊งกับหุ่นฟิตเปรี๊ยะแบบนี้มั่งว่ะ” ไอ้ลมเริ่มพล่ามตามประสามัน

                “อ้อ.. ก็ไม่มีอะไรมากนี่ กูก็ไม่ได้ทำไรเลย เกิดมาหล่อเอง” ถุย..

    ...แต่เดี๋ยวนะ

                “อะไรไปด้วย?” ผมหันหลังมาถามพวกมันที่เดินตามหลังผมอยู่สองคน ไอ้กานต์ยืนล้วงกระเป๋ายิ้มๆก่อนไอ้ลมจะตอบผมว่า

                “เอ้า ก็ไอ้กานต์มันก็เป็นเพื่อนของไอ้เงินไงมึง มันก็ต้องได้ไปดิ ก็ไอ้เงินเป็นเจ้าของทริปนี้นะเว้ย”

                “ไอ้สัด แล้วไม่บอกกู! กูไม่ไป !” ผมพูดก่อนจะเดินหนี ไม่รู้ครับ มันไม่ได้ทำอะไรให้ผมหรอก แต่มันกวนประสาท ผมเป็นคนชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียวและไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผมมากไปนอกจากเพื่อนสนิทผม อย่างไอ้ลมเท่านั้น

                “แต่มึงบอกว่าจะไปแล้วนะเว้ย” ลมเดินมาตบหัวผม

                “ก็ตอนนี้กูกลับคำไง พอดีที่บ้านมีธุระ”

                “ส้นตีน ถ้าที่บ้านมึงมีธุระ กูต้องรู้ก่อนมึงดิ!

                “พ่อง ! มึงจะมารู้ก่อนกูได้ไง ไม่ใช่พ่อแม่กูซักหน่อย”

                “ก็วิทย์อะ ชอบโทรมาบอกพ่อกูไง” เฮ้ยๆ.. วิทย์อะชื่อพ่อกู - -

                “ควาย พ่อกูไม่ใช่เพื่อนมึง” ว่าแล้วก็ประเคนตีนให้มันซักทีเถอะครับ กวนตีนดีจริงๆ

                “ไม่รู้เว้ย ยังไงมึงก็ต้องไป”

                “ไม่ไป”

                “ไม่กล้าละสิ” เสียงที่สามแทรกขึ้นมา ก่อนที่ผมจะตวัดสายตาหันไปมอง

                “ใช้อะไรคิด?” ผมพูดเสียงเย็น มันกลับยักไหล่สบายๆกลับมาให้ผม ไม่สบอารมณ์จริงๆ

                “ก็ปอดไง เขาบอกมาแบบนี้อะ” ไอ้ลมนี่ก็ปากหมาเข้าทุกวันแล้วไอ้ห่า

                “เออ! กูไปก็ได้วะ!

    พูดแค่นั้นแหละครับ ไอ้ลมถึงกับยิ้มแก้มปริก่อนจะหันไปยักคิ้วยกนิ้วโป้งให้ไอ้กานต์ ประมาณว่าป่วนประสาทผมสำเร็จ เออ... ให้มันได้แบบนี้สิเพื่อนกู ผม ไอ้ลม แล้วก็...ไอ้กานต์อะไรนั่นเดินลงมาจากตึกเรียนที่หนึ่ง แต่ก่อนที่ผมจะเดินไปที่รถ ที่พวกมันเตรียมไว้ให้ ไอ้กานต์ก็เดินมาดักหน้า แล้วยื่นกระดาษโพสอิทมาให้ผม สงบศึกเหอะ... ใครไปมีศึกกับมึง? (ได้ข่าวว่ามึงนะ = =) ผมขย้ำกระดาษนั้นทิ้งก่อนจะเดินขึ้นรถ (งอนเป็นตุ๊ดเชียว) ใครด่าผมตุ๊ด!? ...เดี๋ยวเหอะ...




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×